วิธีทำ “สปาเกตตีเพสโต้ซอส” เมนูเส้นสไตล์อิตาเลียน ทำง่ายแบบไม่ง้อเชฟ!

Home » วิธีทำ “สปาเกตตีเพสโต้ซอส” เมนูเส้นสไตล์อิตาเลียน ทำง่ายแบบไม่ง้อเชฟ!
เส้นสปาเกตตีเหนียวนุ่มคลุกเคล้าซอสโหระพาสีเขียวสดใส กับเมนู “สปาเกตตีเพสโต้ซอส” เห็นเป็นเมนูตามร้านอิตาเลียนแบบนี้ แต่ที่จริงแล้วทำไม่ยาก ตามมาดูกัน!

เวลาเตรียม
10 นาที
เวลาปรุง
30 นาที
สำหรับ
2 เสิร์ฟ

         เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยไปกินอาหารตามร้านอาหารอิตาเลียน แล้วเจอกับเมนูพาสต้าสีเขียวสดใส แต่ก็ไม่เคยรู้สักทีว่าทำไมซอสนี้ถึงมีสีเขียว และใช้อะไรทำให้เป็นสีเขียว วันนี้เรามีคำตอบ! เพราะเราจะมาสอนทุกท่านทำ “สปาเกตตีเพสโต้ซอส” ถ้าอยากรู้วัตถุดิบลับกันแล้ว ก็ตามเข้าครัวมาเลย!

วัตถุดิบสปาเกตตีเพสโต้ซอส
วัตถุดิบสปาเกตตีเพสโต้ซอส

วัตถุดิบ

– เส้นสปาเกตตี 80 กรัม

– ใบโหระพา 3 ถ้วย

– เมล็ดสนคั่ว 1½ ถ้วย

– กระเทียม 4 กลีบ

– ชีสพาร์เมซาน ¼ ถ้วย

– น้ำมันมะกอก 1 ถ้วย

– เกลือ 1 ช้อนชา

– พริกไทย 1 ช้อนชา

– มะเขือเทศเชอร์รี 4 ลูก

– พาร์มาแฮม 2 แผ่น

วิธีทำ

– นำใบโหระพา เมล็ดสนคั่ว กระเทียม ชีสพาร์เมซาน น้ำมันมะกอก เกลือ และพริกไทยลงไปปั่นในเครื่องปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วพักไว้

– ต้มเส้นสปาเกตตี โดยตั้งหม้อใส่น้ำประมาณครึ่งหนึ่ง ใส่เกลือเล็กน้อย รอจนน้ำเดือด แล้วใส่เส้นสปาเกตตีลงไปต้ม ประมาณ 6 นาที แล้วคีบขึ้นใส่ชามผสม

– ตักซอสที่ทำเตรียมไว้ตอนแรกลงไปคลุกให้ทั่ว แล้วตามด้วยมะเขือเทศเชอร์รีหั่นครึ่ง คลุกให้เข้ากันอีกทีแล้วจัดเสิร์ฟ พร้อมโรยพาร์มาแฮม และชีสพาร์เมซาน

       เพียงเท่านี้ก็จะได้ลิ้มรสอิตาเลียนแท้ ๆ กับเมนู “สปาเกตตีเพสโต้ซอส” รับรองอร่อยถูกใจคนรักพาสต้า แต่ถ้าใครที่ยังไม่เคยกินก็อยากให้ลองทำดูสักครั้ง รับรองจะติดใจ!

แหล่งที่มา www.wongnai.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง

"เคล็ดไม่ลับคู่ครัว"

วิธีแก้กลิ่นคาวในน้ำมันทอดปลา หลังทอดปลาเสร็จ ให้เอามันฝรั้งฝานบางๆ หรือหอมใหญ่ฝาน หรือหอมแดงบุบ ก็ได้ค่ะ แล้วแต่จะมี ใส่ลงไปทอดสักครู่ จะช่วยลดกลิ่นคาวปลาในน้ำมันลงได้ค่ะ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดนะคะ ถ้าเรารู้ว่า ปลาชนิดนั้นๆ ทอดแล้วจะมีกลิ่นคาว หรือน้ำมันจะเสีย ก็ให้ใช้น้ำมันที่เคยผ่าน การใช้มาแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ใช้ครั้งแรก ทำกุ้งชุบแป้งทอด น้ำมันที่เหลือยังใช้ได้อยู่ เอามาใช้ทอดปลา พอใช้ทอดปลาเสร็จ ก็จะได้ทิ้งไป ไม่เสียดายมากค่ะ (อย่าเอามาทอดซ้ำๆกันมากเกินไป จนน้ำมันดำ ไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ)

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ