วิธีทำ “ทอฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง” เมนูเค้กเนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำเต็มรสน้ำผึ้ง เมนูอาหารว่าง

Home » วิธีทำ “ทอฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง” เมนูเค้กเนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำเต็มรสน้ำผึ้ง เมนูอาหารว่าง
หวานฉ่ำเต็มรสน้ำผึ้ง กับเมนู “ทอฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง” เมนูเค้กเนื้อนุ่ม มาพร้อมกับหน้าเค้กที่อัดแน่นไปด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบเต็ม ๆ หอมหวานรสน้ำผึ้ง มาดูวิธีทำกัน!

เวลาเตรียม
10 นาที
เวลาปรุง
60 นาที
แคลอรี่
300 Kcal/เสิร์ฟ
สำหรับ
9 เสิร์ฟ

น้ำผึ้งเวชพงศ์
Video at https://business.facebook.com/WongnaiCooking/videos/1142040412853204/

ลืมทอฟฟี่เค้กรสชาติเดิม ๆ ไปได้เลย! เพราะวันนี้ Wongnai จะพาเพื่อน ๆ เข้าครัวทำ “ทอฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง” ความพิเศษในครั้งนี้อยู่ที่เราจะเปลี่ยนจากน้ำตาลที่ใส่ในหน้าเค้กมาเป็นน้ำผึ้งธรรมชาติแท้ 100% อย่าง น้ำผึ้งเวชพงศ์ แทน เป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าทำที่บ้าน และห้ามพลาดเลยทีเดียวเพราะเป็นการจับคู่ที่ลงตัวระหว่างตัวเค้กนุ่มฟู กับหน้าเค้กคาราเมลน้ำผึ้งที่อัดแน่นไปด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์แน่น ๆ กรุบกรอบ แถมเพิ่มความหอมหวานกลิ่นน้ำผึ้งเข้าไปอีก เป็นใครก็ยากจะอดใจไหว! เห็นหน้าตาน่ากินไม่แพ้มืออาชีพขนาดนี้ บอกเลยว่าวิธีทำไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ มาลองทำไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า!

วัตถุดิบเค้ก
วัตถุดิบเค้ก

วัตถุดิบทำเค้ก

  1. แป้งเค้ก 100 กรัม 
  2. เนยจืด 80 กรัม 
  3. นมข้นจืด 80 กรัม 
  4. น้ำตาลป่น 100 กรัม 
  5. ผงกาแฟ 1½ ช้อนโต๊ะ 
  6. ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ 
  7. ผงฟู ½ ช้อนชา 
  8. เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา 
  9. เกลือ ¼ ช้อนชา 
  10. ไข่ไก่ 3 ฟอง 
  11. เอสพี 10 กรัม
วัตถุดิบหน้าเค้ก
วัตถุดิบหน้าเค้ก

วัตถุดิบทำหน้าเค้ก

  1. เนยเค็ม 140 กรัม 
  2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2½ ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำผึ้งเวชพงศ์ 100 กรัม 
  4. นมข้นจืด 100 กรัม 
  5. กาแฟผง 1½ ช้อนชา
  6. เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 180 กรัม 

วิธีทำ
STEP 1 : ทำเค้ก

  • นำผงกาแฟ และผงโกโก้ไปชงในนมข้นจืด คนให้ละลายเข้ากัน พักไว้
  • ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดารวมกัน ใส่น้ำตาล เกลือ นมที่ชงกับกาแฟโกโก้ และไข่ เทรวมกัน ตีด้วยความเร็วต่ำจนเข้ากัน
  • ป้ายเอสพีที่หัวตะกร้อตีด้วยความเร็วสูงเป็นเวลา 8 นาที เมื่อเอสพีเข้ากับส่วนผสมดีแล้ว ค่อย ๆ ใส่เนยจืดละลายลงไป ตีให้เข้ากันอีกครั้ง
  • เทใส่ถาด นำเข้าอบด้วยไฟบน-ล่างด้วย 175 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25 นาที
  • เมื่อเค้กสุก นำออกจากเตาพักไว้ 

    Tips : เช็คความสุกของเค้กได้ ด้วยการใช้ไม้เสียบลูกชิ้นหรือไม้จิ้มฟันจิ้มตรงกลาง ถ้ายังมีส่วนผสมติดไปขึ้นมาในลักษณะเปียก แสดงว่ายังไม่สุกดี แต่ถ้าไม่มีอะไรติดไม้ขึ้นมาแสดงว่าสุกดีแล้ว

วิธีทำ ท๊อฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง
เทส่วนผสมลงในชามผสม
วิธีทำ ท๊อฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง
ตีให้ขึ้นฟูเข้ากัน

STEP 2 : ทำหน้าเค้ก

  • ตั้งหม้อใช้ไฟอ่อน ใส่เนยเค็มลงไป รอจนเนยละลาย
  • ใส่นมข้นจืด ตามด้วยน้ำผึ้งเวชพงศ์ แป้งสาลี และกาแฟผง คนจนข้นเหนียว จากนั้นใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบลงไป คนให้เข้ากัน แล้วปิดไฟ
วิธีทำ ท๊อฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง
ใส่ น้ำผึ้งเวชพงศ์ สำหรับทำหน้าเค้ก
วิธีทำ ท๊อฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง
ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบลงไป คนให้เข้ากัน 

STEP 3 : ประกอบร่าง

  • ราดหน้าเค้กลงบนเค้กที่อบไว้ เกลี่ยให้ทั่วและสม่ำเสมอกัน 
  • นำเข้าเตาอบ ไฟบน 250 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 8-10 นาที
  • เมื่อหน้าเค้กเริ่มเปลี่ยนสีเป็นคาราเมล นำออก พักไว้ให้เย็น
  • ตัดเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟและรับประทาน
วิธีทำ ท๊อฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง
ราดหน้าเค้กลงบนเค้กที่อบไว้ เกลี่ยให้ทั่วและสม่ำเสมอกัน 
วิธีทำ ท๊อฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง
ตัดเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟและรับประทาน

เมนูเค้กที่ใคร ๆ ก็รู้จักอย่างทอฟฟี่เค้ก กลายมาเป็น “ทอฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง” แบบนี้ ไม่ลองทำไม่ได้แล้วล่ะ! เนื้อเค้กนุ่มฟู กินคู่กับหน้าคาราเมลที่ผสมด้วยน้ำผึ้ง ผสานความกรุบกรอบเคี้ยวเพลินกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบเน้น ๆ รสชาติหวานกลมกล่อมลงตัวสุด ๆ ไฮไลต์ของเมนูนี้อยู่ที่กลิ่นหอมจากน้ำผึ้งที่ชวนรับประทาน โดยเราเลือกใช้เป็นน้ำผึ้งธรรมชาติแท้ 100% อย่าง น้ำผึ้งเวชพงศ์ เพราะมีความหวานที่กำลังดีทำให้เมนู “ทอฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง” ของเรามีความพิเศษด้านรสชาติและกลิ่นหอมที่ละมุนมากยิ่งขึ้น ถ้าใครสนใจ น้ำผึ้งเวชพงศ์ สามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เกต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปได้เลย หรือถ้าใครอยากสั่งซื้อออนไลน์ก็สามารถสั่งชื้อได้ตามช่องทางด้างล่างนี้ได้เลย แล้วอย่าลืมลองทำ “ทอฟฟี่เค้กน้ำผึ้ง” มาอวดกันบ้างล่ะ!

Facebook : Vejponghoney

Line@ : @vejponghoney

Shopee : Vejponghoney 

น้ำผึ้งเวชพงศ์
น้ำผึ้งเวชพงศ์
น้ำผึ้งเวชพงศ์
น้ำผึ้งเวชพงศ์
แหล่งที่มา www.wongnai.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง

"เคล็ดไม่ลับคู่ครัว"

วิธีแก้กลิ่นคาวในน้ำมันทอดปลา หลังทอดปลาเสร็จ ให้เอามันฝรั้งฝานบางๆ หรือหอมใหญ่ฝาน หรือหอมแดงบุบ ก็ได้ค่ะ แล้วแต่จะมี ใส่ลงไปทอดสักครู่ จะช่วยลดกลิ่นคาวปลาในน้ำมันลงได้ค่ะ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดนะคะ ถ้าเรารู้ว่า ปลาชนิดนั้นๆ ทอดแล้วจะมีกลิ่นคาว หรือน้ำมันจะเสีย ก็ให้ใช้น้ำมันที่เคยผ่าน การใช้มาแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ใช้ครั้งแรก ทำกุ้งชุบแป้งทอด น้ำมันที่เหลือยังใช้ได้อยู่ เอามาใช้ทอดปลา พอใช้ทอดปลาเสร็จ ก็จะได้ทิ้งไป ไม่เสียดายมากค่ะ (อย่าเอามาทอดซ้ำๆกันมากเกินไป จนน้ำมันดำ ไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ)

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ