#วงในบอกมา
- หลังจากนึ่งเผือก แล้วนำมาบด เติมน้ำเปล่าเล็กน้อยจะช่วยให้บดเผือกได้ง่ายขึ้น
- กวนไส้เผือกมะพร้าวด้วยไฟกลาง ช่วยป้องกันการไหม้และทำให้ไส้เผือกมะพร้าวเหนียวง่ายขึ้น
- ใช้แป้งนวลที่คั่วจนสุก มาโรยเพื่อป้องกันการติดมือ
ขนมโก๋อ่อน เกียดหล่องเตี่ยว หรือ ไข่คนเฒ่า คือขนมพื้นเมืองประจำจังหวัดภูเก็ต ที่เราทราบกันดีว่า จังหวังนี้ได้รับอิิทธิพลวัฒนธรรมจากประเทศจีน เนื่องจากยุคสมัยก่อน ชาวจีนตอนใต้ได้อพยพหนีภัยธรรมชาติและสงครามกลางเมือง ดังนั้นจังหวัดภูเก็ตจึงมีของกิน ทั้งเมนูของคาวและเมนูของหวานที่แปลกตาแปลกชื่อมากมาย หนึ่งในนั้นคือ ขนมโก๋อ่อน นั่นเอง ประวัติความเป็นมายาวขนาดนี้รับรองต้องอร่อยเด็ดแน่ ๆ อยากรู้ว่า ”ขนมโก๋อ่อนไส้เผือกมะพร้าว” เป็นอย่างไร ตามมาเข้าครัวกันค่ะ
วัตถุดิบ
วัตถุดิบสำหรับไส้เผือกมะพร้าว
- เผือก 400 กรัม
- กะทิ 200 กรัม
- น้ำมะพร้าว 80 กรัม
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- เนื้อมะพร้าว 80 กรัม
วัตถุิบสำหรับโก๋อ่อน
- แป้งข้าวเหนียว 1 ½ ถ้วยตวง
- แป้งข้าวเหนียวสำหรับแป้งนวล ½ ถ้วยตวง
- แป้งข้าวเจ้า 1½ ถ้วยตวง
- แป้งเอนกประสงค์ 8 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลไอซิ่ง 75 กรัม
- น้ำอุ่น 1½ ถ้วยตวง
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
STEP 1 : ทำไส้เผือกมะพร้าาวอ่อน
- นึ่งเผือก 20 นาที จนเผือกสุก แล้วบดเผือกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
- เทกะทิ น้ำมะพร้าว น้ำตาลทราย และเกลือ ลงไปในกระทะ เปิดไฟ คนจนเข้ากัน
- ใส่เผือกที่บดแล้ว คนจนเผือกและน้ำกะทิรวมเป็นเนื้อเดียวกัน กวนด้วยไฟอ่อน 15 นาที
- จากนั้นใส่เนื้อมะพร้าวแล้วคนให้เข้ากันดี แล้วยกลงจากเตา
STEP 2 : ทำแป้งขนมโก๋
- นำแป้งข้าวเหนียวสำหรับแป้งนวล เทใส่กระทะแล้วคั่วโดยใช้ไฟอ่อน จนมีสีเหลือง ตักขึ้นแยกไว้ใช้สำหรับห่อไส้
- ร่อนแป้งข้าวเหนียว ข้าวเจ้า แล้วผสมน้ำตาลทราย ตามด้วยน้ำอุ่น คนให้เข้ากัน
- ใส่น้ำมันพืช กลิ่นนมแมว คนให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะ เทส่วนผสมแล้วกวนให้เป็นเนื้อเดียวกันด้วยไฟอ่อน
STEP 3 : ห่อไส้
- นำแป้งที่กวนเสร็จแล้วคลึงให้กลม
- จากนั้นรีดให้เป็นแผ่นยาว
- ใส่ไส้เผือกมะพร้าวที่กวนไว้แล้วม้วนให้เท่ากัน หั่นเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟ
TIP : ใช้แป้งนวลที่คั่วจนสุก โรยเพื่อช่วยให้รีดแป้งได้ง่ายขึ้น
เรียบร้อยแลัวกับ “ขนมโก๋อ่อนไส้เผือกมะพร้าว” เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ? เป็นขนมที่ต้องชื่นชมคนสมัยก่อนเลยนะคะ จากวัตถุดิบเพียงไม่กี่ชนิดก็สามารถนำมาสรรค์สร้างเป็นเมนูของหวานที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเราจนมาถึงทุกวันนี้ ถ้าเพื่อน ๆ ยังไม่จุใจอยากทำเมนูของหวานชนิดอื่น ๆ ก็สามารถกดที่นี่ เข้าไปดูเพิ่มเติมได้เลยจ้า สำหรับวันนี้วาวาขอลาไปก่อน พบกันใหม่ในเมนูหน้า สวัสดีค่ะ