ค้างคาวเผือก (Step by Step)

Home » ค้างคาวเผือก (Step by Step)
ค้างคาวเผือก อาหารว่างไทยโบราณ ที่หากินได้ยากในปัจจุบัน และแทบจะไม่มีใครรู้จัก เดิมทีเป็นอาหารว่างที่ชาววังนิยมกินกัน เรียกว่าขนมค้างคาว โดยที่มาของชื่อนั้นมาจากลักษณะขนมที่เป็นสามเหลี่ยม คล้ายกับค้างคาวเวลาหุบปีกห้อยหัวนั่นเอง ใครที่อยากลองฝึกทำอาหารว่างโบราณ ก็จดสูตรแล้วไปทำกันเลย

ส่วนผสม

กุ้งสับละเอียด 100 กรัม
เผือกนึ่งสุกบดละเอียด 300 กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/4 ถ้วยตวง
พริกไทยป่น 1/2 ถ้วยตวง
กระเทียม 5 กลีบ
รากผักชีซอย 3 ราก
ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวขูดขาว 1/2 ถ้วยตวง
เกลือป่นหยาบ 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
สีผสมอาหารสีส้มแดงชนิดผงเล็กน้อย  
น้ำมันพืชสำหรับทอด  

วิธีทำ

 

1. ผสมกุ้งสับ มะพร้าวขูดขาว และสีผสมอาหารพอเข้ากัน

 

2. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด ใส่ลงผัดในน้ำมันพืชร้อนไฟปานกลางจนหอม

 

3. ใส่ส่วนผสมในข้อที่ 1 ผัดพอกุ้งสุก

 

4. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย และเกลือป่น ผัดให้เข้ากันและส่วนผสมแห้งโรยใบมะกรูดยกลงพักไว้

 

5. ผสมเผือกนึ่งสุกกับแป้งสาลีนวดพอเข้ากัน แบ่งเป็นก้อนกลมเท่า ๆ กัน

 

6. แผ่ส่วนผสมเผือกให้บางเล็กน้อย ตักไส้ใส่ตรงกลาง

 

7. ห่อให้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม นำลงทอดในน้ำมันพืชร้อนจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิร์ฟ

www.maeban.co.th

แท็กที่เกี่ยวข้อง

"เคล็ดไม่ลับคู่ครัว"

ทำอย่างไรผักแช่เย็นจะดูสดใหม่ การเก็บผักไว้ในตู้เย็น อาจทำให้ผักดูไม่สด ไม่น่ารับประทาน วิธีง่ายๆ ที่จะคืนความสดให้กับผัก ทำได้โดยการเตรียมภาชนะใส่น้ำ ให้มีขนาดพอเหมาะที่จะแช่ผัก จากนั้นตัดก้านผักออกบางส่วน โดยต้องตัดใต้ผิวน้ำ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปอุดตันทางเดินของน้ำ จากนั้นแช่ผักทิ้งไว้ในน้ำเย็นสักพัก ผักจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง น่ารับประทาน

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ