โคร็อกเกะ (Korokke)

Home » โคร็อกเกะ (Korokke)
โคร็อกเกะ (Korokke)

โคร็อกเกะคือ มันบดผสมเนื้อวัวบดผัดกับหัวหอมใหญ่ ปั้นเป็นรูปวงรี ชุบเกล็ดขนมปัง นำไปทอดจนกรอบและเป็นสีน้ำตาลทอง เมนูนี้เริ่มแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นช่วงปลายยุคปี 1,800 เป็นมันบดใส่ไส้แทนครอแก็ตของฝรั่งเศสที่ใช้ครีมแบบเดิม เนื่องจากญี่ปุ่นขาดแคลนผลิตภัณฑ์นม

ส่วนผสม

สำหรับ 16 ชิ้น
  • มันฝรั่ง2 ปอนด์ (900 กรัม, ประมาณ 4 หัว)
  • หัวหอมใหญ่1 หัว (272 กรัม)
  • น้ำมันที่มีรสชาติเป็นกลาง เช่น น้ำมันพืช, คาโนล่า และ อื่นๆ1 ช้อนชา
  • เนื้อวัวบด (เนื้อล้วนไม่มีมัน 85%)1 ปอนด์ (454 กรัม)
  • เกลือโคเชอร์ หรือ เกลือทะเล (ถ้าใช้เกลือแกงให้ใช้ครึ่งเดียว), (สำหรับเนื้อ)½ ช้อนชา
  • พริกไทยดำป่นสดๆ (สำหรับเนื้อ)¼ ช้อนชา
  • เนยรสจืด (สำหรับมันฝรั่ง)1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือโคเชอร์ หรือ เกลือทะเล (ถ้าใช้เกลือแกงให้ใช้ครึ่งเดียว), (สำหรับมันฝรั่ง)1 ช้อนชา
  • พริกไทยดำป่นสดๆ (สำหรับมันฝรั่ง)¼ ชัอนชา
  • สำหรับเกล็ดขนมปังเอาไว้ชุบ
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์½ ถ้วย (60 กรัม)
  • ไข่ไก่ใบใหญ่3 ฟอง (ฟองละ 50 กรัม)
  • เกล็ดขนมปังญี่ปุ่น (Panko)2 ถ้วย (120 กรัม)
  • น้ำมันที่มีรสชาติเป็นกลาง เช่น น้ำมันพืช, คาโนล่า และ อื่นๆ (สำหรับทอด)4 ถ้วย (950 มิลลิลิตร)
  • ซอสทงคัตสึ (สำหรับเสิร์ฟ)

วิธีทำ

เวลาเตรียมส่วนผสม: 30 นาที
เวลาปรุงอาหาร: 1 ชั่วโมง
    1
  1. รวบรวมวัตถุดิบทั้งหมด

  2. 2
  3. วิธีเตรียมมันฝรั่งและเนื้อ: ล้างมันฝรั่งให้สะอาดด้วยน้ำไหลผ่าน ปอกเปลือกมันฝรั่งด้วยที่ปอกเปลือกและเอาตามันฝรั่งออก

  4. 3
  5. หั่นมันฝรั่งแต่ละหัวออกเป็น 4 ชิ้นเท่าๆกัน
  6. การหั่นมันฝรั่งขนาดเท่าๆกันนั้นสำคัญมาก เพื่อให้มันฝรั่งสุกพร้อมๆกัน

    4
  7. ใส่น้ำและมันฝรั่งลงในหม้อขนาดใหญ่ และ ปิดฝา ต้มให้เดือด แง้มฝาเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้น นี่จะใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการต้ม ต้มมันฝรั่งจนกระทั่งสามารถเอาไม้เสียบลูกชิ้นเสียบทะลุได้อย่างง่ายดายประมาณ 15 – 20 นาที

  8. 5
  9. ในขณะเดียวกัน (คุณมีเวลา 30 นาทีจนกว่ามันฝรั่งจะสุก) ก็สับหัวหอมใหญ่ให้ละเอียด

  10. 6
  11. ใส่น้ำมันลงในกระทะและตั้งไฟกลาง แล้วใส่หัวหอมใหญ่สับลงไป

  12. 7
  13. ผัดหัวหอมใหญ่ประมาณ 10 นาทีจนกระทั่งใสและนุ่ม
  14. มันสำคัญมากที่จะเอาความชื้นออกจากตัวหัวหอมเพื่อให้ตัวส่วนผสมโคร็อกเกะนั้นไม่เหลว ในระหว่างผัดควรปล่อยหัวหอมทิ้งเอาไว้นานๆเพื่อให้หัวหอมสัมผัสกับความร้อนโดยตรง จะทำให้หัวหอมสุกเร็วขึ้นและมีสีสวย

    8
  15. ใส่เนื้อลงไปผัด และ ใช้ไม้พายบี้เนื้อให้แตกออกจากกัน

  16. 9
  17. ปรุงรสส่วนผสมด้วยเกลือและพริกไทย

  18. 10
  19. ผัดให้เข้ากัน เมื่อผัดจนเนื้อไม่มีสีชมพูแล้วก็ปิดไฟ และ ยกออกจากเตาเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย

  20. 11
  21. บางครั้งคุณก็ต้องเช็คว่ามันฝรั่งที่คุณต้มนั้นสุกหรือยัง โดยการเอาไม้เสียบลูกชิ้นเสียบลงไปในมันฝรั่งชิ้นใหญ่ และ ถ้ามันเสียบทะลุอย่างง่ายดายแสดงว่ามันสุกแล้ว ยกมันฝรั่งออกจากเตา และ เทน้ำทิ้งออกให้หมด เวลาคุณเทน้ำทิ้งให้ใช้ฝาปิดปากหม้อเพื่อกันไม่ให้มันฝรั่งหกออกมา

  22. 12
  23. ย้ายหม้อกลับไปไว้ที่เตา ตั้งไฟอ่อน และ เขย่าหม้อเพื่อให้ความชื้นที่เหลืออยู่ระเหยไปให้หมด (แต่อย่าให้มันฝรั่งไหม้) ประมาณ 2 – 3 นาที แล้วย้ายมันฝรั่งไปใส่ในชามใบใหญ่

  24. 13
  25. ใช้ที่บดมันฝรั่ง บดมันฝรั่งในขณะที่ยังร้อน และ ปล่อยให้ไอน้ำลอยขึ้นมา ใส่เนยลงไป
  26. เก็บมันฝรั่งก้อนเล็กไว้เล็กน้อยเพื่อสร้างเนื้อสัมผัสเวลาเคี้ยว

    14
  27. ใส่เกลือและพริกไทยลงไป และ ผสมให้เข้ากัน

  28. 15
  29. หลีกเลี่ยงการใส่ของเหลวที่ได้จากการผัดเนื้อลงในมันบด วิธีคือเอาเนื้อที่ผัดไว้ไปกองไว้ที่ด้านหนึ่งของกระทะ แล้วก็เอียงกระทะ ค่อยๆบีบเนื้อให้ของเหลวไหลออกมาจากตัวเนื้อลงไปสู่อีกด้านหนึ่งของกระทะ

  30. 16
  31. ใส่เนื้อที่ผัดไว้ลงไปในมันบดที่อยู่ชาม และ ผสมให้เข้ากัน

  32. 17
  33. ในขณะที่ส่วนผสมยังอุ่นๆ แต่ไม่ร้อน ให้เริ่มปั้นตัวโคร็อกเกะเป็นก้อน (ตามฉบับดั้งเดิมจะปั้นเป็นรูปวงรียาวคร่าวๆ 3 นิ้ว) ห้ามมีช่องอากาศอยู่ด้านใน

  34. 18
  35. ใช้ฟิล์มถนอมอาหารห่อตัวโคร็อกเกะไว้ และ พักไว้ในตู้เย็นเป็นเวลา 15 – 30 นาที (ขั้นตอนนี้ห้ามข้ามเด็ดขาด!!!)
  36. การพักและทำให้โคร็อกเกะเย็นลงจะเป็นการป้องกันไม่ให้โคร็อกเกะระเบิดในขณะที่ทอด เมื่อทอดโคร็อกเกะเย็นๆในน้ำมันร้อนๆ มันจะไม่ปล่อยไอน้ำออกมา ดังนั้นโคร็อกเกะจะไม่ระเบิดในน้ำมัน ถ้าคุณข้ามขั้นตอนนี้ และ โคร็อกเกะยังอุ่นๆ อุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นและเริ่มปล่อยไอน้ำออกมาก ซึ่งมันจะเจาะรูที่เป็นชั้นเคลือบเกล็ดขนมปังไว้ และ ระเบิดออก

    19
  37. เตรียมถาดสำหรับใส่แป้งสาลี และ เกล็ดขนมปัง Panko ไว้แยกจากกัน แล้วตอกไข่ใส่ลงในชามและตีให้เข้ากัน

  38. 20
  39. นำโคร็อกเกะไปชุบแป้งสาลี และ เขย่าเบาๆเพื่อเอาแป้งส่วนเกินออก

  40. 21
  41. ชุบไข่ และ ตามด้วยชุบเกล็ดขนมปัง Panko

  42. 22
  43. เมื่อคุณนำโคร็อกเกะไปชุบเกล็ดขนมปังหมดแล้ว ให้ใส่น้ำมันลงในหม้อ ทำให้แน่ใจว่าน้ำมันนั้นสูงอย่างน้อย 2 นิ้วเพื่อให้โคร็อกเกะจมอยู่ในน้ำมันทั้งชิ้น

  44. 23
  45. อุ่นน้ำมันให้ร้อนถึง 340 – 350 องศาฟาเรนไฮน์ (171 – 178 องศาเซลเซียส) ด้วยไฟกลาง ใช้ที่วัดอุณหภูมิเพื่อเช็คอุณหภูมิของน้ำมัน (ห้ามเดาเด็ดขาด!!!) เมื่อคุณชินกับมันแล้ว คุณสามารถใช้ทริคตะเกียบหรือทริคเกล็ดขนมปังเพื่อกำหนดอุณหภูมิของน้ำมันได้
  46. ทริควิธีเช็คอุณหภูมิน้ำมัน แบ่งออกเป็น 2 แบบดังนี้
    1. แบบใช้ตะเกียบ: เอาตะเกียบจุ่มลงไปในน้ำมัน และถ้าคุณเห็นฟองปรากฏขึ้นมารอบๆตะเกียบ แสดงว่าน้ำมันพร้อมที่จะทอดแล้ว
    2. แบบใช้เกล็ดขนมปังหรือแป้งทอดกรอบที่ละลายน้ำแล้ว: เอาเกล็ดขนมปังหรือแป้งทอดกรอบที่ละลายน้ำแล้ว ใส่ลงในน้ำมันเล็กน้อย
    – ถ้าอุณหภูมิน้อยกว่า 320 องศาฟาเรนไฮน์ (160 องศาเซลเซียส): เกล็ดขนมปังหรือแป้งทอดกรอบที่ละลายน้ำแล้ว จะจมอยู่ด้านล่างของน้ำมัน ก่อนที่จะลอยขึ้นมาอย่างช้าๆ
    – ถ้าอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 340 – 350 องศาฟาเรนไฮน์ (171 – 176 องศาเซลเซียส), (อุณหภูมิที่ดีที่สุดสำหรับทอด): เกล็ดขนมปังหรือแป้งทอดกรอบที่ละลายน้ำแล้ว จะจมลงอยู่ชั้นกลางของน้ำมัน และ ลอยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
    – ถ้าอุณหภูมิมากกว่า 370 องศาฟาเรนไฮน์ (187 องศาเซลเซียส): เกล็ดขนมปังหรือแป้งทอดกรอบที่ละลายน้ำแล้ว จะลอยอยู่บนผิวน้ำมัน

    24
  47. ทอดโคร็อกเกะครั้งละ 2 – 3 ชิ้น จนกระทั่งเป็นสีน้ำตาลทองประมาณ 2 – 3 นาที
  48. ห้ามแตะต้องโคร็อกเกะจนกว่าด้านหนึ่งจะเป็นสีน้ำตาลทอง ด้านในของโคร็อกเกะนั้นสุกอยู่แล้ว ดังนั้นที่คุณต้องทำก็แค่ทอดจนเป็นสีน้ำตาลทองก็พอ

    25
  49. ย้ายโคร็อกเกะไปยังตะแกรงหรือกระดาษอเนกประสงค์ เพื่อซับหรือสะเด็ดน้ำมัน

  50. 26
  51. วิธีเสิร์ฟ: เสิร์ฟโคร็อกเกะคู่กับซอสทงคัตสึ โดยปกติแล้ว ในประเทศญี่ปุ่นมักจะเสิร์ฟของทอดคู่กับกะหล่ำปลีซอย

  52. 27
  53. วิธีเก็บ: คูณสามารถเก็บโคร็อกเกะที่ทอดแล้วไว้ในกล่องสูญญากาศ (Airtight Container) และแช่แข็งได้ถึง 1 เดือน
    วิธีอุ่น: นำโคร็อกเกะที่ละลายน้ำแข็งแล้วหรือยังไม่ละลายวางบนถาดอบที่ปูด้วยอลูมิเนียมฟอยล์หรือกระดาษพาร์ชเมนต์ อบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮน์ (180 องศาเซลเซียส) เป็นเวลา 15 – 20 นาทีสำหรับอันที่ละลายน้ำแข็งแล้ว หรือ 45 นาทีสำหรับอันที่ยังไม่ได้ละลายน้ำแข็ง เช็คก่อนเสิร์ฟว่าข้างในอุ่นหรือเปล่า

photo
Rainy Kung
แหล่งที่มา www.wongnai.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง

"เคล็ดไม่ลับคู่ครัว"

วิธีการทอดปลาสด การทอดปลาทั้งตัวหรือปลาเป็นชิ้น เวลาทอดปลาสดๆ ถ้าเป็นปลาที่แล่เอาก้างออกแล้ว เวลาทอดให้เอาด้านที่เป็นหนังปลาลงก่อน ให้ตะหลิวกดชิ้นปลาไว้จนกว่าจะหยุดหดตัวปลาจะได้ไม่งอ จากนั้นค่อยกลับเอาทางเนื้อลงทอดจนเหลืองกรอบ แต่ถ้าทอดปลาทั้งตัว แล้วเป็นปลาตัวใหญ่ เนื้อหนา ก็อย่าลืมบั้งปลาซะก่อน จะได้สุกง่ายขึ้น

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ