แชร์เมนูอาหาร ช่วงที่ต้องรับบทเป็นคนทำอาหารส่งผู้ป่วยที่ Home Isolation pantip

แชร์เมนูอาหาร ช่วงที่ต้องรับบทเป็นคนทำอาหารส่งผู้ป่วยที่ Home Isolation

เริ่มต้นจาก จขกท. เป็นคนชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ

แล้วบังเอิญไปเจอโพสต์ที่กำลังเปิดรับคนทำอาหารส่งผู้ป่วยที่อยู่ Home Isolation

โดยที่ผู้ว่าจ้างไม่ได้บอกนะคะว่าเป็นของหน่วยงานไหน

ก็เลยสมัครไป ตอนแรกคิดว่าค่อนข้างง่าย เพราะช่วงนั้นว่างงานพอดี

แต่เอาจริงๆ แล้ว ไม่ได้ง่ายเลยค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง

จขกท. ได้พื้นที่มีนบุรี-หนองจอก-รามอินทรา ซึ่งค่อนข้างกว้างมาก ส่วนเงื่อนไขมีดังนี้ค่ะ

1. มื้อละ 60 บาท (รวมค่าขนส่งด้วย) ซึ่งเริ่มต้นจาก 240 กล่อง/ วัน จนสิ้นสุดวันสุดท้ายที่ 3 กล่อง

หลายๆ คนคงคิดว่า 60 บาท ค่อนข้างเยอะ แต่จริงๆ แล้ว ค่าขนส่งก็เยอะเช่นเดียวกัน

เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นพื้นที่ที่ใกล้ๆ กัน บ้านใกล้ๆ กัน แต่เอาเข้าจริงๆ อยู่คนละฝั่ง คนละเขต

อย่างฝั่งหนองจอกที่ๆ ได้ก็เกือบติดฉะเชิงเทรา ฝั่งมีนบุรีก็เกือบไปถึงรังสิต

ถ้ารถกระบะ ก็เติมน้ำมันวันละ 500 บาท ส่วนมอเตอร์ไซค์คิดเหมาไปค่ะ

2. ต้องส่งอาหารวันละ 2 รอบ รอบเช้า และรอบบ่าย โดยรอบเช้าให้รวมเที่ยงไปด้วย

โดยรอบเช้าต้องส่งให้เสร็จก่อน 10.00 น. และรอบบ่ายต้องส่งก่อน 16.00 น.

3. กับข้าวบังคับ 2 อย่างต่อมื้อ ห้ามใช้หมู เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นอิสลาม

4. ห้ามเป็นแกงกะทิ ห้ามอาหารรสจัด ห้ามของหมักดอง

5.แพ็คอาหารใส่ถุงหิ้ว แล้วไปวางไว้ยังจุดที่เจ้าของบ้านได้แจ้งไว้

6. ต้องส่งรูปอาหารที่ทำส่งรายงานต่อผู้ว่าจ้างทุกครั้ง

7. ต้องถ่ายรูปการวางอาหารหน้าบ้านทุกบ้านส่งผู้ว่าจ้างทุกครั้ง

8. รายงานคนหายป่วย และสรุปยอดทุกวัน ก่อนเวลา 20.00 น.

มาดูกันค่ะ ว่าแต่ละวันเริ่มต้นอย่างไรบ้าง

03.00 น. : ตื่นนอน แล้วเริ่มทำอาหาร มื้อเช้า/เที่ยง มีผู้ช่วย 2 คนอยู่แผนกทอด และแพ็ค

06.00 น. : รถกระบะมารับ เพื่อนำไปส่งต่อมอเตอร์ไซค์ 2 คัน (พื้นที่อยู่ในซอยเล็กๆ) แต่ถ้าไกลหน่อยก็ใช้กระบะ

ต้องใช้รถแจกจ่ายอาหารถึง 3 คัน และใช้เวลาในการแจกอาหารคันละ 2 ชม.

08.00 น. : ไปตลาดเตรียมจ่ายของสำหรับทำวันถัดไป (โดยซื้อของวันต่อวัน)

12.00 น. : เตรียมมื้อเที่ยง มีผู้ช่วย 2 คนอยู่แผนกทอด และแพ็ค

14.00 น. ส่งอาหารต่อมื้อเย็น โดยใช้เส้นทางเดิม และใช้รถวิ่งคันเดิม

ส่วนอาหารที่ทำ จขกท. จะพยายามไม่ให้คนป่วยรู้สึกเบื่อ อยากให้ได้ทานอาหารที่หลากหลาย

อย่างเช่นมื้อเช้าก็จะเป็น ขนมจีบ-ซาลาเปา (ซาลาเปาสั่งค่ะ), แซนด์วิช, ข้าวต้ม

วันไหนที่ทำข้าวต้มก็จะแยกน้ำไปค่ะ และเพิ่มขนมไปอีก 1 ชิ้น

เนื่องจากกฎบอกไว้ว่าต้องมี 2 อย่าง ส่วนมื้อเที่ยงบางวันก็ทำเป็นผัดและทอด บางวันก็เป็นอาหารจานเดียว

เช่น บะหมี่ไก่แดง, มาม่าผัดขี้เมา, ข้าวไก่แดง, ข้าวหน้าไก่

โดยก็จะคิดว่าทำอย่างไรไม่ให้ผู้ป่วยรู้สึกเบื่ออาหาร

ส่วนมื้อเย็นก็จะเป็นพวกต้ม ผัด แกง ทอด สลับกันไปในแต่ละวัน

จะบอกว่า จขกท. ทำอาหารส่งเกือบ 2 เดือน สิ่งที่วุ่นวายแต่มีความสุขที่สุดคือการหาเมนูอาหาร

ส่วนหน้าตาของอาหารที่จัดส่งก็จะแพ็คใส่ถุงแบบนี้ และเอาไปวางหรือแขวนไว้ตามหน้าบ้านค่ะ

โดยทุกครั้งที่แขวนก็จะต้องตะโกนเรียกให้ออกมาเอาด้วยนะคะ ซึ่งเราก็ยืนดูอยู่ห่างๆ ให้แน่ใจว่าได้หยิบไปแล้ว

แต่เราก็มีเบอร์โทรศัพท์ของคนไข้ทุกคน และคนไข้ทุกคนก็มีเบอร์เราค่ะ

จะบอกว่าถือเป็นประสบการณ์ที่เหนื่อย สนุก และมีความสุขมากๆ ค่ะ

จากเดิมที่คิดว่าตอนลาออกจากงานจะนั่งเล่น จะไปเที่ยวนั่นโน่นนี่ สุดท้ายก็ไม่ได้พักอยู่ดี

แต่ก็มีรายได้ให้ทั้งคนช่วยทอด ช่วยแพ็ค ช่วยส่ง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ว่างงานพร้อมๆ กัน

ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ

แม่มณีมีของกิน
18 เมษายน เวลา 15:10 น.

ความคิดเห็นที่ 1

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

เราเคยเป็นผู้ป่วยถูกกักตัวที่ Hospitel เป็นอพาร์ทเม้นท์ที่ใกล้เจ๊งแล้วรพ.เอามาปรับเป็นสถานที่กักตัว เข้าไปพักเมื่อปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา อาหารที่ได้แต่ละวันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บางวันได้เป็นแซนด์วิชที่ขายตามตลาดนัดอันละ 25 บาท และน้ำส้มขวด 200 มล. 1 ขวดเป้นมื้อเช้า ก็งงเหมือนกันว่ามันจะกินอิ่มเป็นมื้อเช้าได้ยังไง สุดท้ายก็ต้องสั่งแกร็บมากินเอง เพราะอาหารที่รพ.ว่าจ้างมามันน้อย และซ้ำ ๆ ของทางคุณดูน่ากินกว่า แต่ถ้าเราเจอมื้อเช้าเป็นซาลาเปาขนมจีบเราก็คงจะบ่นนิดนึง เป็นคนถนัดกินข้าวเช้ามากกว่ากินพวกอย่างอื่นกลัวไม่อยู่ท้องจนถึงเที่ยงค่ะ