เมนูอาหารไทย “
ยำปลาดุกฟู
” รับประกันความอร่อยจนต้องบอกต่อ เนื้อปลาดุกทอดจนเหลืองกรอบ คลุกเคล้าด้วยน้ำยำมะม่วงสับรสจัดจ้าน ผสานกับความหอมมันของถั่วลิสงทอดอย่างลงตัว จึงเป็นที่ถูกใจของหลายคนที่ชอบอาหารรสแซ่บจัดจ้าน วันนี้ครัว zabwer.com ขอแนะนำยำปลาดุกฟู 2 สูตรรสเด็ด อร่อยทั้ง 2 สูตร ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ทำทานที่บ้านหรือสามารถนำไปทำขายได้เลย….
ยำปลาดุกฟู สูตรที่ 1
สูตรนี้ครัว
zabwer.com
ขอนำเสนอ เป็นอีกสูตรที่ทำง่าย และอร่อยแซ่บจัดจ้าน
ส่วนผสม
- ปลาดุกย่างตัวขนาดกลาง (ตัวขนาดประมาณ 500 กรัม) แกะเอาแต่เนื้อ 1 ตัว
- เกล็ดขนมปัง ½ ถ้วย
- หอมแดง ซอย ¼ ถ้วย (ซอย)
- มะม่วงดิบเปรี้ยว สับและฝาน 1 ลูก หรือ 1 ถ้วยตวง
- ผักขึ้นฉ่าย หั่นท่อน ½ ถ้วยตวง
- ถั่วลิสง หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ¼ ถ้วยตวง
- แครอท ซอยเป็นเส้นๆ (ใส่ หรือไม่ใส่ก็ได้)
- ผักกาดหอม สำหรับรองจาน
- น้ำมันพืช สำหรับทอด
ส่วนผสมน้ำยำปลาดุกฟู
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสวน บุบพอประมาณ 10 เม็ด
วิธีทำ
- นำปลาดุกไปย่างให้สุก จะย่างเองหรือซื้อมาก็ได้…แกะเอาแต่เนื้อปลา และที่สำคัญนำเนื้อปลามาสับให้ละเอียด
- นำเนื้อปลาสับมาผสมกับเกล็ดขนมปังให้เข้ากัน แล้วสับให้ละเอียดอีกที
- ใส่น้ำมันพืชในกระทะ (ใช้น้ำมันมาก) ตั้งไฟพอร้อนจัดให้นำปลาดุกที่ผสมไว้ทอดให้เหลืองฟู ล้างผักกาดหอมลอกเป็นกาบ ทอดถั่วลิสงจนสุก เด็ดผักชีเป็นใบ
- ผสมน้ำยำ คือน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลทราย และพริกขี้หนูสวน คนให้เข้ากัน และใส่มะม่วงดิบ หอมแดงซอย และผักขึ้นฉ่ายหั่นท่อน ผสมลงไป ชิมรสตามชอบ
- จัดปลาดุกฟูใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม โรยถั่วลิสงคั่ว เสิร์ฟคู่กับน้ำยำที่ใส่ถ้วย (ในข้อที่ 4) หรือจะราดน้ำยำลงบนเนื้อปลาดุกฟูทอดเลยก็ได้
ยำปลาดุกฟู สูตรที่ 2
สูตรนี้
คุณ MONROVIA
สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้นำมาโพสท์แบ่งปันเอาไว้ แนะวิธีทำไว้ค่อนข้างละเอียด แถมรสชาติที่ได้ก็อร่อยอีกต่างหาก ลองไปดูวิธีทำกัน
ส่วนผสม
- ปลาดุก 1 กิโลกรัม
- น้ำมันพืช สำหรับทอด
- ถ่าน สำหรับย่าง
ส่วนผสมน้ำยำ
- มะนาวลูกใหญ่ 10 ลูก
- น้ำปลาทิพรส
- น้ำตาลปี๊บเคี่ยว 1 กิโลกรัม
- พริกขี้หนู 2 ขีด
ผักที่ใช้
- ขึ้นฉ่าย
- หอมแขก
- มะม่วงน้ำดอกไม้ (มะม่วงเปรี้ยว)
- ผักกาดหอม สำหรับรองจาน
วิธีทำยำปลาดุกฟู
2. พอปลาสุกแล้วก็รอให้เย็น
3. แกะเนื้อปลา แยกหนังแยกเนื้อ ก็จะได้เนื้อแบบในรูปที่ 3
4. แล้วก็สับเนื้อปลาให้ละเอียด ถ้าปลายังแฉะๆ อยู่ก็ผึ่งให้แห้งซะหน่อย …เมื่อปลาแห้งพอสมควรแล้ว ก็ซุยๆ เตรียมไว้ (ไม่ต้องผสมอะไรทั้งสิ้น)
5. ตั้งกะทะใส่น้ำมันประมาณ 1 ลิตรครึ่ง ให้น้ำมันร้อนพอสมควร สังเกตุจากลองโรยเนื้อปลาลงไปนิดนึงถ้าจมแล้วลอยปั๊บแสดงว่าเอาปลาทอดได้ ให้ใส่ปลาลงไป 1 กำมือ
6. ลงไปแล้วมันก็จะซ่าสักพัก …เดี๋ยวเสียงซ่านั้นหมดก็เตรียมพลิกกัน
7. พอได้แบบนี้แล้ว เตรียมพลิกได้เลย
8. เริ่มจากพลิกขวา พลิกซ้าย ทบหัว และทบหาง นำขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ตักขึ้นพักบนกระดาษซับน้ำมัน
9. ส่วนน้ำมันก็เบาไฟอ่อนๆ นำถั่วลิสงลงทอดต่อได้เลย ก็จะได้ถั่วคั่วสุกหอมๆ แล้ว
จัดปลาดุกฟูใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม โรยถั่วลิสงคั่ว ใส่หอมแดง มะม่วงสับ และผักขึ้นฉ่าย ลงไปตกแต่งให้สวยงาม เสิร์ฟคู่กับน้ำยำปลาดุกฟูที่ใส่ถ้วย
วิธีทำน้ำยำปลาดุกฟู
ทำน้ำยำโดยผสมน้ำตาลปี๊บเคี่ยว น้ำปลา และน้ำมะนาว โดยอัตราส่วน 2:1:1 เข้าด้วยกันในถ้วย และใส่พริกขี้หนูลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน ชิมรสตามชอบ
เคล็ดลับความอร่อยวิธีทำยำปลาดุกฟู ให้กรอบฟู อร่อย
- ปลาดุกย่าง …ถ้าย่างเองก็นำปลาดุกมาล้างให้สะอาดและนำไปย่าง …หรือจะย่างในเตาอบด้วยอุณหภูมิประมาณ 230 องศาเซลเซียส จนสุกทั่วกันก็ได้
- ทำให้ปลาดุกฟูและไม่อมนำ้มัน: ปลาดุกที่ย่างสุกแล้ว เอามาแร่เอาแต่เนื้อหัวและหางเก็บไว้จัดจานให้สวยงาม แร่เนื้อมาสับให้ละเอียดแล้วก็นำมาตำอีกทีเพื่อให้มันฟู เมื่อตำแล้วก่อนจะทอดปลาที่ตำแล้ว ควรผึ่งปลาให้แห้งก่อนสักนิด เพราะถ้าไม่ผึ่งเนื้อปลาที่ทอดออกมาจะอมน้ำมันมากแล้วก็ไม่ฟู
- น้ำมันที่ใช้ทอดต้องเยอะและร้อนจัดบนไฟกลาง แล้วจึงใส่เนื้อปลา (หรือเนื้อปลาดุกผสมเกล็ดขนมปัง) ลงทอด ทอดให้ฟูเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักบนกระดาษซับน้ำมัน
- ถ้าทำขาย ก็ต้องลองดูว่าจะผสมเกร็ดขนมปังมากน้อยแค่ไหนถึงจะอร่อย คุ้มทุน และลูกค้าติดใจ เช่น ปลาดุกหนึ่งตัวสามารถทอดได้ 3 ครั้ง แบ่งดังนี้ เนื้อปลาที่ตำประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ กับเกร็ดขนมปัง 5 ช้อนโต๊ะ คลุกให้เข้ากัน หยอดน้ำมันพืชลงไปในถ้วยที่มีปลาดุกกับเกร็ดขนมปังนิดหน่อย เพื่อให้มันติดกันและฟูมากขึ้น
- น้ำจิ้มหรือน้ำราดที่กินกับปลาดุกฟู ก็คือยำมะม่วงนั้นเอง หรือแล้วแต่ละคนจะไปดัดแปลง วิธีทำยำมะม่วงก็คือ มะม่วงสับหยาบหรือละเอียดแล้วแต่ชอบ พริกขี้หนูซอยละเอียด หอมแดงซอย น้ำปลา น้ำเชื่อม กุ้งแห้ง และโรยหน้าด้วยถั่วลิสง
- มะม่วงที่นำมาใช้ ถ้าเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ รสเปรี้ยวมาก…ให้ลดมะนาวลง