[SR] เข้าครัวรัวๆ กับน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก!!
ฮัลโหลวววววววววว!! สวัสดีค๊าาาาาทู้กกกกโค้นนนนนนน!!
เนื่องจากเรา “เป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลจากกิจกรรมพันทิป”
วันนี้เราจะชวนเพื่อนๆทุกคนมาเข้าครัวกับ “พี่หมึก” ด้วยความที่ช่วงนี้กักตัวอยู่แต่บ้าน
แล้วสายกินอย่างเรามีหรือจะไม่เดินไปที่ห้องครัวทุกชั่วโมง 55555555
จากที่เดินเข้าไปหาแต่ของกิน จนวันนั้นเราพัฒนามาเป็นเชฟย่อมๆแล้วค่ะ
วันนี้เราจะชวนเพื่อนๆทุกคนมาเข้าครัวกับ “พี่หมึก” ด้วยความที่ช่วงนี้กักตัวอยู่แต่บ้าน
แล้วสายกินอย่างเรามีหรือจะไม่เดินไปที่ห้องครัวทุกชั่วโมง 55555555
จากที่เดินเข้าไปหาแต่ของกิน จนวันนั้นเราพัฒนามาเป็นเชฟย่อมๆแล้วค่ะ
ด้วยความที่ Cooking อยู่บ้านมานาน เลยมีสูตรอาหารอร่อยๆมาแบ่งปันเพื่อนๆทุกๆคน
โดยวันนี้เราจะมีตัวช่วยหลัก ที่จะมาเนรมิตอาหารทุกจานของเราให้อร่อยได้ในทุกคำ!
ไม่ว่าจะมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นลงเข้าครัว ก็อร่อยจนต้องเติมข้าวรัวๆอย่างแน่นอนค๊าาา
โดยวันนี้เราจะมีตัวช่วยหลัก ที่จะมาเนรมิตอาหารทุกจานของเราให้อร่อยได้ในทุกคำ!
ไม่ว่าจะมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นลงเข้าครัว ก็อร่อยจนต้องเติมข้าวรัวๆอย่างแน่นอนค๊าาา
และวันนี้เราก็เลยอยากจะชวนทุกๆคน ไปเข้าครัวกับพี่หมึกไปด้วยกัน!
กับ ผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก”
สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว และ สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง นั่นเองค๊าาาา
กับ ผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก”
สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว และ สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง นั่นเองค๊าาาา
กระทู้นี้อาจจะยาวหน่อยนะค๊าาา เพราะอยากนำเสนอว่า “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก” นี้
สารมารถทำเมนูได้หลากหลายทั้ง ต้ม ผัด ทอด ยำ ดอง ฯลฯ คาว หวาน ได้หมดจริงๆ
เพราะว่าเมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บนัวจริงๆค่ะ
สารมารถทำเมนูได้หลากหลายทั้ง ต้ม ผัด ทอด ยำ ดอง ฯลฯ คาว หวาน ได้หมดจริงๆ
เพราะว่าเมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บนัวจริงๆค่ะ
และนี่คือโฉมหน้าผู้ช่วยปรุงของครัวเรา ผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก”
สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกนี้นะคะ ใช้วิธีการหมักจากปลาไส้ตันอย่างดี
ด้วยกรรมวิธีที่พิถีพิถัน ถูกหมักออกมาจนเป็นน้ำปลารสเลิศ ที่เนรมิตอาหารทุกจานให้อร่อยได้ในทุกคำเลยจริงๆค่ะ
ซึ่งน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทั้ง 2 สูตรที่เราจะนำมาทำอาหารนั้น
เป็นเคล็ดลับความหอม อร่อย ของจานอาหารเราได้ยังไง จะพาเพื่อนๆทุกคนตามไปดูกันเลยค่าาาา
ด้วยกรรมวิธีที่พิถีพิถัน ถูกหมักออกมาจนเป็นน้ำปลารสเลิศ ที่เนรมิตอาหารทุกจานให้อร่อยได้ในทุกคำเลยจริงๆค่ะ
ซึ่งน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทั้ง 2 สูตรที่เราจะนำมาทำอาหารนั้น
เป็นเคล็ดลับความหอม อร่อย ของจานอาหารเราได้ยังไง จะพาเพื่อนๆทุกคนตามไปดูกันเลยค่าาาา
ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว
มาเริ่มต้นกันที่สูตรแรก เป็นสูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว ความจัดจ้านนั้นยืนหนึ่ง
รสชาติเข้มข้นจากการหมักนานถึง 18 เดือน มีส่วนประกอบหลักเป็นปลาไส้ตัน 70%
เหมาะกับการนำไปปรุงอาหาร ไม่ว่าจะขั้นตอนการหมัก หรือขั้นตอนการปรุงรสอาหารต่าง ๆ
ได้ทุกประเภท อีกทั้งฝาเขียวยังมีส่วนประกอบของน้ำตาล
ทำให้รสชาติของน้ำปลานั้นอร่อยกลมกล่อมสุดๆเลยละค๊า
รสชาติเข้มข้นจากการหมักนานถึง 18 เดือน มีส่วนประกอบหลักเป็นปลาไส้ตัน 70%
เหมาะกับการนำไปปรุงอาหาร ไม่ว่าจะขั้นตอนการหมัก หรือขั้นตอนการปรุงรสอาหารต่าง ๆ
ได้ทุกประเภท อีกทั้งฝาเขียวยังมีส่วนประกอบของน้ำตาล
ทำให้รสชาติของน้ำปลานั้นอร่อยกลมกล่อมสุดๆเลยละค๊า
ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง
และสูตรที่สองคือสูตร กลมกล่อม ฉลากเหลือง หมักเพียง 12 เดือน รสชาตินัว
ความเค็มกำลังดี เพราะมีส่วนประกอบหลักเป็นปลาไส้ตัน 65%
เหมาะกับการน้ำไปปรุงรสอาหารที่เสร็จแล้ว หรือจะนำไปจิ้ม เหยาะ ก็เข้ารสสุดๆ
และที่สำคัญเลยคือเหมาะกับคนที่รักสุขภาพ หรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย
เพราะน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกฝาเหลืองขวดนี้นั้น ใช้สารสกัดจาก “หญ้าหวาน” ที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลนั่นเองค่า
ความเค็มกำลังดี เพราะมีส่วนประกอบหลักเป็นปลาไส้ตัน 65%
เหมาะกับการน้ำไปปรุงรสอาหารที่เสร็จแล้ว หรือจะนำไปจิ้ม เหยาะ ก็เข้ารสสุดๆ
และที่สำคัญเลยคือเหมาะกับคนที่รักสุขภาพ หรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย
เพราะน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกฝาเหลืองขวดนี้นั้น ใช้สารสกัดจาก “หญ้าหวาน” ที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลนั่นเองค่า
ถึงจะเป็นน้ำปลาเหมือนกัน.. แต่ทั้ง 2 สูตรก็ยังมีความแตกต่างกันนะคะ
ทั้งวิธีการใช้ปรุง ทั้งรสชาติ และส่วนผสม แต่พี่หมึกขอบอกเลยว่าทั้ง 2 สูตร
หอม อร่อย ไม่คาวเลย ชอบที่เป็นน้ำปลาอย่างดี ใช้ทำอาหารก็อร่อยสุดๆค่ะ
ทั้งวิธีการใช้ปรุง ทั้งรสชาติ และส่วนผสม แต่พี่หมึกขอบอกเลยว่าทั้ง 2 สูตร
หอม อร่อย ไม่คาวเลย ชอบที่เป็นน้ำปลาอย่างดี ใช้ทำอาหารก็อร่อยสุดๆค่ะ
รู้เคล็ดลับดีๆในห้องครัวของพี่หมึกแล้ว
พร้อมหรือย๊างงงงงง!!! ที่จะพาทุกคนไปบุกห้องครัว
ทำเมนูอาหารหลากหลายแบบรัวๆไปด้วยกันเลย
โดยทุกเมนู เราจะใช้ “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก” ในทุกเมนู
เพื่อการันตีความอร่อยเลยจริงๆค๊าาา จะมีเมนูอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยค๊าาา!!!
พร้อมหรือย๊างงงงงง!!! ที่จะพาทุกคนไปบุกห้องครัว
ทำเมนูอาหารหลากหลายแบบรัวๆไปด้วยกันเลย
โดยทุกเมนู เราจะใช้ “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก” ในทุกเมนู
เพื่อการันตีความอร่อยเลยจริงๆค๊าาา จะมีเมนูอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยค๊าาา!!!
ชื่อสินค้า: น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก
คะแนน:
0.5
1.0
1.5
2.0
2.5
3.0
3.5
4.0
4.5
5.0
SR – Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
- – ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
- – ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง
Chnun_Stellar
27 กรกฎาคม 2564 เวลา 21:16 น.
27 กรกฎาคม 2564 เวลา 21:16 น.
แหล่งที่มา pantip.com
เมนูที่ 1 : หมูต้มเค็มชาววัง
สำหรับเมนูหมูต้มเค็มชาววังนี้ เป็นเมนูโบราณที่รสชาติอร่อย กลมกล่ม ทานได้ทุกเพศทุกวัย
ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าเป็นเมนู “ต้มเค็ม” และรสชาติเค็มเป็นองค์ประกอบสำคัญในเมนูนี้
เราจึงต้องเลือกใช้น้ำปลาแท้ที่ดี และมีคุณภาพ ถึงจะทำให้เราได้รสชาติที่หอม อร่อย
เค็ม นัว กำลังดีค่ะ โดยเราเลือกใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว มาเป็นเครื่องปรุงหลักในวันนี้ค่ะ
และวัตถุดิบและส่วนผสมของหมูต้มเค็มชาววังนี้ ก็มีดังต่อไปนี้เลยค่ะ
วัตถุดิบและส่วนผสม “หมูต้มเค็มชาววัง”
1.น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิมฉลากเขียว 4 ช้อนโต๊ะ
2.สันในหมู 300 กรัม
3.ไข่ไก่ต้มปลอกเปลือก 3-5ฟอง
4.ซุปก้อนรสไก่ 1 ก้อน
5.เกลือ 1/2 ช้อนชา
6.กระเทียม 5 กลีบ
7.น้ำเปล่า 1 ถ้วย
8.รากผักชี 5 ต้น
9.น้ำตาลปิ๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
10.พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
11.ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
12.น้ำมันพืชสำหรับผัด
เตรียมวัตถุดิบกันครบแล้ว ตามมาดูวิธีทำกันนะค๊าาาา : ))))
1.โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย เข้าด้วยกันให้พอหยาบ
2.ผสมน้ำ 1/2 ถ้วยกับส่วนผสมเครื่องเทศที่โขลกไว้
เติมเกลือ น้ำตาลปิ๊บ ซีอิ๊วดำ และน้ำปลาตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิมฉลากเขียวลงไป
คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
เคล็ดลับของเรา คือใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรดั้งเดิมฉลากเขียว ที่หอม กลมกล่อม ครบรส
ช่วยให้ทำเมนูหมูต้มเค็มชามนี้นั้น อร่อยสุดๆเลยค่ะ
3.ใส่เนื้อหมูลงไปในชามผสม หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที
4.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไป เทเนื้อหมูที่หมักไว้ลงไปผัดในกระทะ
ผัดให้เข้ากันจนหมูพอสะดุ้ง หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็นไฟกลาง เติมน้ำเปล่าที่เหลือลงไป
ตามด้วยซุปก้อนรสไก่ ตั้งจนเดือดอีกครั้ง
5.ใส่ไข่ไก่ต้มสุกที่ปลอกเปลือกแล้วลงไปในหม้อ
เคี่ยวต่ออีกประมาณ 30-45 นาที จนกว่าเนื้อหมูจะเปื่อยนุ่มและไข่เริ่มเปลี่ยนสี
6.ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟ
บอกเลยว่าซุปหอมมมมม เข้มข้น กลมกล่อมสุดๆ
เนื้อเปื่อยนุ่ม ฉ่ำน้ำ จุ้ยซี่มากๆค่าาาาา พูดละหิววววววว
สำหรับเมนูต้มเมนูนี้นะคะ ขอบอกเลยว่าอร่อยมากกกกกกกก เราเป็นคนที่ชอบกินหมูต้มเค็มมาตั้งแต่เด็กๆ
แต่กินที่ไหนก็ไม่ถูกใจเท่ารสมือแม่ จนวันนี้ได้สูตรต่อมาจากคุณแม่ เลยเอามาแบ่งปันนะค๊าาาา อยากให้ลองทำทานดูกันจริงๆ
รับรองว่าใครได้ซดเป็นต้องติดใจจริงๆเลยละค่า
ผ่านไปแล้วกับเมนูต้มๆแกงๆเมนูแรก
และเมนูต่อไปพี่หมึกจะพาไปทำเมนูอะไรนั้น
ตามไปดูกันเลยค่า
มาถึงคิวของสาย “ดอง” กันบ้างแล้วววววววว!!!
บอกเลยว่ากระแสดองนี้ฟีเวอร์มากๆเลยค่ะ เราก็เป็นคนนึง
ที่ติดหนึบกับของดองมากๆ เพราะมันอร่อย เข้าเนื้อ มันฟินในทุกคำที่กัดจริงๆ
วันนี้เราเลยมีเมนูดองๆมาฝากสาวกที่ชอบกินของดองเลย
บอกเลยว่าเป็นเมนูที่ทุกคนต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน ตามไปดูกันเลยค่าาาาา
เมนูที่ 2 ไข่ดองน้ำปลา 3 รส
สำหรับเมนูนี้พี่หมึกบอกเลยว่าเป็นเมนูฮิตของหลายๆบ้านเลยค่ะ
ไข่ดองน้ำปลานัวๆ หนึบๆ มาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ! กินบนข้าวสวยร้อนๆ
คือตายไปเลยยยยยยย!!!! มาดูสูตรดองน้ำปลาของบ้านนนี้กันนะคะ รับรองว่าหอม อร่อย ถูกใจแน่นอนค่าาาา
วัตถุดิบและส่วนผสม “ไข่ดองน้ำปลา”
1.น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิมฉลากเขียว 5 ช้อนโต๊ะ
2.ไข่แดงดิบแยกไข่ขาว 3 ฟอง หรือปริมาณตามที่ต้องการอยากทานเลยค่ะ
3.น้ำสะอาดต้มสุก 1/2 ถ้วย
4.น้ำตาลปิ๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
5.พริก กระเทียม ตามใจชอบเลยค่าาาา
เตรียมวัตถุดิบกันให้พร้อมมมมม และตามไปดูวิธีทำกันเลยค่ะ!!!
ตั้งหม้อให้ร้อน ใส่น้ำเปล่าลงไป ตามด้วยน้ำตาลปิ๊บ และน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิม ฉลากเขียวค่ะ
หลังจากนั้นต้มให้ส่วนผสมเดือด และน้ำตาลละลายเข้ากันดี พักให้เย็น
และสำหรับใครที่เป็นสายแซ่บรสจัด ก็สามารถหั่นพริก กระเทียมเตรี่ยมใส่เพิ่มลงไปได้นะคะ
หลังจากนั้นนำไข่แดงดิบที่เราแยกไข่ขาวออกหมดแล้วใส่ชามไว้ เทน้ำปลาสำหรับดองที่เราเตรียมไว้ใส่ลงไป
เสร็จแล้วปิดชามด้วยพลาสติกแรป ใส่ตู้เย็นช่องธรรมดา ทิ้งไว้ 1 คืน ก็เป็นอันเสร็จแล้วค่ะ!!
ไข่ดองนอนรออยู่ในตู้เย็นแล้ว ของแบบนี้มันต้องกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดเท่านั้น!!
ไปค่ะ อย่าหยุด!! เข้าครัวแล้วต้องเอาให้ครบสำรับเซ็ตใหญ่จุกๆกันไปเลยค่ะ!!
วัตถุดิบและส่วนผสม “น้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บ”
1.น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
2.รากผักชี 2 ต้น
3.พริกขี้หนู 15 เม็ด
4.น้ำตาลปิ๊บ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
5.กระเทียม 6 กลีบ
6.น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู๊ดง่ายมกาๆเลยค่ะ เริ่มต้นด้วยการใส่พริก ตามด้วยกระเทียม น้ำตาลปิ๊บ รากผักชี น้ำมะนาว
และ น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง ปั้นทุกอย่างให้พอหยาบเข้าด้วยกัน
ชิมจนได้รสชาติที่ถูกใจ! ง่ายเหมือนดีดนิ้ว! รับรองว่าอร่อยแซ่บได้เลยค่ะ
เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยไว้นะคะ เอาไว้กินคู่กับไข่ดองค๊าาาา
ทาด๊าาา!!! เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ เอามายั่วน้ำลายรัวๆ
บอกเลยเมนูนี้ ข้าวหมดหม้อค่ะ!!!
ใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทั้ง 2 สูตรในการทำนะคะ จะเห็นว่าวิธีการใช้ต่างกัน
นี่แหละคือเคล็ดลับความอร่อยเลยค่ะ!!
สำหรับเมนูไข่ดองน้ำปลาและน้ำจิ้มซีฟู๊ดจานนี้นะคะ พี่หมึกขอเติมความสวยร้อนๆรัวๆเลยค่ะ
เพราะอร่อยมากกไข่แดงดองน้ำปลาหอมสุดๆ แถมน้ำจิ้มซีฟู้ดก็แซ่บนัว บอกเลยว่ากินรัวๆ หยุดไม่ได้เลยจริงๆค่ะ
และสำหรับเมนูที่ 3 จะเป็นเมนูอะไรนั้น ตามไปดูกันเลยค่า !!
27 กรกฎาคม 2564 เวลา 21:17 น.
มาต่อกันที่เมนูที่ 3 กันค๊าาาา!!!! อย่าหยุด ! อย่าหยุด!!
เมนูต้มแกงไปแล้ว เมนูดองๆแซ่บๆไปแล้ววว มาส่องดูจานผัดของเรากันบ้าง
ว่า “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก” จะเอาอยู่มั๊ยยยยย!!! ตามไปดูกันเลยค่าาาาา!!!
สำหรับเมนูผัด..น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกก็เอาอยู่ค่ะ! น้ำปลามาดีขนาดนี้
เมนูผัดน้ำปลาที่อร่อยที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเมนูกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาเลยจริงๆ
เป็นเมนูที่ทำได้ง่าย แต่อร่อยหัวใจจะวายเลยละค่า > < #เกียมถือทัพพีตักข้าวเพิ่ม
โดยเราเลือกใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว มาเป็นพระเอกของการปรุงจานนี้เลยค่ะ
วัตถุดิบจะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยค่าาาา!!!
วัตถุดิบและส่วนผสม “กะหล่ำปลีผัดน้ำปลาพาฟิน ฟิน ฟินนน..”
1.น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิมฉลากเขียว 1 ช้อนโต๊ะ (แนะนำว่าให้เหยาะออกจากขวด ลงขอบกระทะนะคะ)
2.กระเทียมสับ 2 กลีบ
3.น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
4.กระเทียมเจียว สำหรับโรยหน้า เพิ่มความกรุบกรอบ (มีไม่มีก็ได้ค่า)
กระทะร้อนแล้วววววววว… รีบมาส่องวิธีทำกันเลยค๊าาาาา!!!
เริ่มจากการตั้งกระทะให้ร้อน หลังจากนั้นใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย
เปิดไฟแรงขึ้น ตามด้วยกระเทียบสับ ผัดกระเทียมสุกและมีกลิ่นหอม
ตามด้วยกะหล่ำปลีหั่นที่ล้างสะอาดแล้ว ใส่ลงในกระทะ
*เคล็ดลับคือรอสักประมาณ 10 วิให้ความร้อนทั่วกะหล่ำแล้วค่อยผัดนะคะ
ตรงนี้จะช่วยทำให้กะหล่ำปลีกรอบ หอม อีกด้วยค่า
หลังจากนั้นผัดเบาๆให้กะหล่ำปลีเริ่มสุก ทีเด็ดอยู่ตรงที่..
เราจะเหยาะน้ำปลาแท้ตราปลากหมึกสูตรดั้งเดิม ฉลากเขียวขวดนี้ ลงไปที่ขอบของกระทะ
การเหยาะขอบกระทะจะช่วยให้น้ำปลามีกลิ่นหอมมากขึ้นนั่นเองค่ะ #มันเลิศศศศศศ
ในจังหวะที่กระทะร้อนๆ แนะนำให้เหยาะน้ำปลาขอบกระทะ
ให้มันดังฟู่ๆ แล้วค่อยๆไหลลงมา ที่กะหล่ำปลีนะคะ หลังจากนั้นก็ผัด บอกเลยว่ากะหล่ำปลี
หอมน้ำปลาทุกใบ ทุกคำเลยจริงๆ พูดแล้วเติมข้าวแพร๊บบบบบ!!!
ทาด๊าาาาา!!! หลังจากนั้นตักใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวกรุบกรอบ พร้อมเสิร์ฟค่าาาาาา !!
สำหรับเมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่พี่หมึกรักมากกกกกกเลยค่าาาาา
ใช้แค่วัตถุดิบไม่กี่อย่างแต่อร่อยจับใจ แทบะจเลียจาน กินเมื่อไหร่ก็หมดเกลี้ยงตลอด
ความหอมกลมกล่อมของน้ำปลา ช่างเข้ากันได้ดีจริงๆกับกะหล่ำปลีที่ผัดในจานนี้เลยค่า
มันหอม มันนัว มันดี! ต้องน้ำปลาดีด้วยจริงๆนะเมนูนี้ ไม่งั้นไม่อร่อยเลยค่าาาาา
พูดแล้วก็ต้องตะโกนบอกว่าใช้ “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก” เท่านั้นน้าาาา!!!
เมนูต่อไปจะเป็นเมนูอะไรนั้น ตามไปดูเลยค่า
สายดองก็มีมาล้าวววววว กลัวสายยำจะน้อยอกน้อยใจจจจจ!!
พี่หมึกเลยจัดให้! เพราะยำยังไงก็อร่อย แซ่บ นัว แน่น้อนนนนน!!!!!
ใครเป็นสายยำถือส้อมรอเลยจย้าาาาาาา!!! เพราะพี่หมึกจะพาไปทำเมนูยำกันแล้ว
ตามไปเล้ยยยยยยยยยย!!!
เมนูนี้เหมาะสำหรับสายยำ สายแซ่บนัว!! กับซาซิมิแซลมอนลูกครึ่งไทย
เสิร์ฟในรูปแบบยำแซ่บที่ทุกคนต้องติดใจในรสน้ำยำนี้อย่างแน่นอนค่ะ #ค่ะเชฟ!!!!
โดยเราเลือกใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง
มาปรุงรสน้ำยำจานนี้ของเรานั่นเองค่ะ
วัตถุดิบและส่วนผสม “น้ำยำแซ่บราดแซลมอลสองสัญชาติ”
1.น้ําปลาแท้ ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
2.พริก 15 เม็ด (กะตามใจชอบน้าาา)
3.น้ำตาลปิ๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
4.กระเทียมสับ 3 กลีบ
4.วาซาบิสด 1 ช้อนชา
5.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
6.แซลมอนซาซิมิ 200 กรัม (ใครกระเป๋าหนักจัดมาเลย 1 กิโลค่ะ 5555555555)
ใครจะกินยำ รบกวนรับบัตรคิวด้วยนะค๊าาาาา!!!
แม่ค้ากำลังจะเริ่มยำให้ดูแล้วค่าาาา ตามไปดูกันเล้ยยยยย!!!
เริ่มทำน้ำยำแซ่บของเราด้วยการใส่กระเทียม พริก น้ำตาลปิ๊บและน้ำมะนาวลงไปในชามผสม
และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ‘ น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง ‘
ที่มาช่วยชูรสชาติของน้ำยำจานนี้ให้อร่อยนัวถึงใจ ใครกินต้องน้ำตาลไหลเพราะอร่อยสุดๆแน่นอนค่าาา!
หลังจากใส่น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม สีเหลืองลงไปแล้ว..
คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี ชิมให้ได้รสเปรี้ยวเค็ม
ใส่วาซาบิสดลงไปในชามผสม คนให้เข้ากันอีกครั้ง
หลังจากนั้นหั่นปลาแซลมอนซาซิมิให้พอดีคำ จัดใส่จานให้สวยงาม
แล้วราดด้วยน้ำยำแซ่บสูตรเด็ดของเรา ก็เป้นอันเสร็จพิธีการยำค่าาาา!!!
ดูความจี๊ดดดด ดูความจึ้งงงง! ดูความพริกเอย กระเทียมเอย ความหอมน้ำปลาตั่งต่างงงงงงง
บอกเลยว่ามันคือดีย์มากกกก เมนูนี้พี่หมึกการีนตีความอร่อย ว่าแซ่บนัวสุดๆเลยค่ะ!
บอกเลยว่าทั้งกลิ่นหอม ทั้งรสชาติมาครบ จัดเต็ม ถูกใจสายยำอย่างแน่นอน #ใครกินหมดแล้วไปต่อคิวใหม่นะค๊าาา
บอกเลยว่า..อร่อยได้ทุกเมนูแค่มีน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกขวดนี้เลยจริงๆค่ะ
อย่าเพิ่งอิ่มกันนะคะ เพราะยังมีเมนูต่อไปที่พี่หมึกเตรียมไว้ให้ทุกคนได้ชิมกัน
จะเป็นเมนูอะไรนั้น ตามไปดูเลยค่า
” ที่ฉั้งงงงงอ้วงงงงงงง.. เพราะฉั้งงงยุกกินไม่ได้..
แววตาฉันเหลือบไปเห็นอะไรต่ออะไร.. ก็อยากกินไปหมดเลยยยยย.. “
งั้นก็มากินต่อกันเลยนะคะ โต๊ะอาหารจานเรามีทั้งต้มแกง / ดอง / ผัด / ยำ แล้ว
แต่ยังขาดเท็กเจอร์ความกรุบกรอบบนโต๊ะอาหารอยู่ งั้นพี่หมึกต้องจัดจานนี้ไป!
รับร้องว่า “อ้วงงงงงงแต่อย่อยยยยยย” ถูกใจทุกคนแน่นอนนนนน!!
เมนูบ้านๆแต่ความอร่อยระดับล้านมาอีกแล้วค่าาาาา!! #เกียมตักข้าวรอบที่4
เมนูนี้เป็นเมนูโปรดประจำบ้านเราเลยค่ะ สามชั้นทอดน้ำปลาหอมๆ กรอบๆ ทอดมาร้อนๆ
จิ้มคู่กับน้ำจิ้มแจ่วแซ่บนัว หอมข้าวคั่วแบบไม่ต้องยั่วก็ตกหลุมพลาง!
จะกินกับข้าวสวยก็ดี จะจกกับข้าวเหนียวก็เริ่ด ต้องเมนูนี้เลยค่า “หมูสามชั้นทอดน้ำปลา มาคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว”
โดยเราใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทั้ง 2 สูตรในการทำเลยค่ะ ตามไปดมพร้อมๆกันเลยค๊าาาาา
วัตถุดิบและส่วนผสม “หมูสามชั้นทอดน้ำปลา”
1.น้ําปลาแท้ ตราปลาหมึก สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว 6 ช้อนโต๊ะ
2.หมูสามชั้น 500 กรัม
3.น้ําเย็นจัด 1 ถ้วย
4.ผงปรุงรส 1/2 ช้อนชา
5.ไข่ไก่ 1 ฟอง
เมื่อเตรียมวัตถุดิบครบแล้ว ตามไปดูวิธีทำกันเลยค๊าาาา!!!
ส่วนวิธีทำเริ่มจากหมักหมูสามชั้นที่หั่นแล้ว ด้วยน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิมฉลากเขียว (ทาให้ทั่วๆเนื้อหมู)
ตามด้วยแป้งทอดกรอบ น้ำเย็นจัด ผงปรุงรส และไข่ที่ตีแล้ว 1 ฟองค่ะ
แน่นอนว่า 3 ชั้นทอดน้ำปลา น้ำปลาต้องดีจริง! หอมจริง! ถึงจะพาฟินได้น้าาาาาทุกโค้นนนน!!!!
ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี หมักโดยการแช่เย็นไว้ 30 นาที
หลังจากนั้นตั้งน้ำมันให้ร้อน นำหมูสามชั้นที่หมักไว้ลงไปทอดจนเหลืองกรอบ
พักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำค่ะ จัดใส่จานเตรียมไว้ (อย่าแอบกินก่อนนะค๊าาา)
เพราะว่าเราต้องรอกินคู่กับ “น้ำจิ้มแจ่วแซ่บนัว!” ที่กำลังจะทำต่อไปนี้เลยค๊าาาา!!!
วัตถุดิบและส่วนผสม “น้ำจิ้มแจ่วสุดแซ่บนัว by พี่หมึก”
1.น้ําปลาแท้ ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
2.ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
3.น้ํามะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
4.พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
5.น้ําตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
6.ผักชีฝรั่งและต้นหอมซอย
เริ่มต้นด้วยการใส่น้ำตาลปิ๊บลงไปในชามผสม ตามด้วยน้ำมะนาว พริกป่น ข้าวคั่ว
หลังจากนั้นตามด้วย น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง ลงไปนะคะ..
รับรองว่าหอม นัว กลมกล่อมตามชื่อสูตรแน่นอนค่ะ!!
คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ตามด้วยผักชีฝรั่งซอยและต้นหอมซอย คนให้เข้ากันอีกครั้ง
ชิมจนได้รสชาติที่ถูกใจ ก็จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟคู่กับสามชั้นทอดน้ำปลาได้เลยค่าาา!!
“น้ำจิ้มแจ่วยั่วๆ ที่รังสรรค์โดย น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง ”
เมนูไม่กลัวอ้วนของพี่หมึกจานนี้บอกเลยว่ายืนหนึ่งในโต๊ะกินข้าวจริงๆค่ะ
ความหอมของน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกที่ซึมเข้าไปในหมูสามชั้นนั้นช่างวิเศษจริงๆ
ยิ่งได้จิ้มคู่กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ดนี้บอกเลยว่าหยุดกินไม่ได้เลยจริงๆค่ะ
เมนูคาวก็รังสรรค์อาหารออกมาได้หลากหลายเมนูจริงๆค่ะ ได้ทุกประเภทเลย!
ไม่ว่าจะต้มแกง ดอง ยำ ผัด ทอด ได้ทุกรูปแบบจริงๆค่ะ แต่กินของคาวมาแน่นขนาดนี้
ไม่มีของหวานตบท้ายล้างปากมื้อนี้ก็ยังจะยังไงอยู่!!
อย่างที่เค้าว่ากันว่า ผู้หญิงเรานี้ กระเพาะอาหารคาว อาหารหวาน มันแยกกันนะค๊าาาา!!!
#ไปจ่ะพี่หมึกจัดให้จุกๆครบทั้งคาวหวาน
ตามไปดูกันที่คอมเม้นท์ต่อไปได้เลยค๊าาาาาา
V
V
V
27 กรกฎาคม 2564 เวลา 21:19 น.
อิ่มจากเมนูคาวแล้วก็ต้องต่อด้วยเมนูหวานตบท้ายมื้อล้างปากกันหน่อยนะค๊าาา อิอิ!!
และเมนูที่พี่หมึกภูมิใจนำเสนอนั่นก็คือเมนูที่มีชื่อว่า
“ไอศกรีมมะม่วงเชอเบทน้ำปลาหวาน” นั่นเองค๊า
จะมีส่วนผสมอะไรบ้างและมีวิธีทำยังไงนั้น ตามไปดูกันเลยค่า!
วัตถุดิบและส่วนผสม “ไอศกรีมมะม่วงเชอเบท”
1.มะม่วงดิบหันเต๋า 2 ลูก
2.น้ําเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ
3.น้ําสะอาดต้มสุก 1 ถ้วย
4.น้ํามะนาว 1 ช้อนชา
5.เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำนะคะเราจะใช้มะม่วงดิบหั่นเต๋าใส่ลงไปในโถปั่น
ตามด้วยน้ำสะอาดต้มสุก น้ำเชื่อม น้ำมะนาวและเกลือเล็กน้อยค่าาา
หลังจากนั้นปิดฝาและปั่นจนละเอียด
เทเนื้อมะม่วงปั่นลงในพิมพ์น้ำแข็ง แช่ไว้ 1 คืน หรือจนกว่าจะแข็งเซ็ตตัวค่ะ
แกะที่แข็งและเซ็ตตัวแล้วออกจากพิมพ์ จะได้เป็นเหมือนก้อนน้ำแข็งตามรูปนะคะ
หลังจากนั้นนำมาใส่โถปั่น ปั่นให้ละเอียดอีก 1 รอบ (หรือจนกว่าจะละเอียดเป็นเนื้อไอศกรีมนะคะ)
เทใส่พิมพ์ถังไอศกรีมหรือภาชนะที่มี และแช่แข็งไว้อีก 1 คืนค่ะ
ไอศกรีมมะม่วงเชอเบทก็มีแล้วววว มะม่วงกินกับอะไรอร่อยที่สุดน๊าาาาา??
อะ อะ ไม่ต้องเดาไม่ต้องสืบ น้ำปลาหวานแน่นอนจ้าาาา รออัลไล?!
ตั้งหม้อสิค๊าาาาา
วัตถุดิบและส่วนผสม “น้ำปลาหวานสุดแซ่บ By พี่หมึก”
1.น้ําปลาแท้ ตราปลาหมึก สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว 4 ช้อนโต๊ะ
2.น้ําเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
3.กะปิ 1 ช้อนชา
4.กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
5.น้ําตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
6.พริกและหอมแดงซอย
วิธีทำเริ่มจากการตั้งหม้อใส่น้ำเปล่าสะอาดลงไป
ตามด้วยน้ำตาลปิ๊บ กะปิ
และน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิม ฉลากเขียวลงไป
ตั้งไฟให้เดือด เคี่ยวจนทุกอย่างละลายเข้าด้วยกัน
การจะทำน้ำปลาหวานให้อร่อย ต้องแน่ใจว่าเราเลือกใช้ “น้ำปลาแท้ น้ำปลาดี” เท่านั้น
ที่ให้รสชาติที่ดี กลมกล่อม ทำแล้วไม่เหม็นคาว ทำให้เราได้น้ำปลาหวานอร่อยๆ มาทานกันค่ะ
และแน่นอนว่าที่บ้านเราเลือกใช้ “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก” ขวดนี้ที่เราวางใจในรสน้ำปลาค๊าาา
เคี่ยวต่อเรื่อยๆจนเริ่มใสและหนืดขึ้น ใส่กุ้งแห้ง พริกขี้หนู และหอมแดงซอยลงไปในน้ำปลาหวาน
คลุกเคล้าให้เข้ากัน หลังจากนั้นปิดไฟยกลงจากเตา พักไว้ให้หายร้อนค่าาา
กิ๊งงงงงๆ ถึงเวลาแล้วจ้าเด็กๆ ไอศครีมมาแว้ววววว!!!
ตักไอศกรีมมะม่วงเชอเบทใส่ลงไปในถ้วย ตกแต่งด้วยมะม่วงสด กุ้งแห้ง
ไอศกรีมเสิร์ฟพร้อมกับน้ำปลาหวาน ก่อนทานก็ราดน้ำปลาหวานให้ทั่ว
ทั้งเย็น ดับกระหาย แถมยังหอมน้ำปลา เหมือนได้กินมะม่วงน้ำปลาหวานแบบใหม่อีกด้วยค๊าาา
สำหรับเมนูของหวานดับร้อนของพี่หมึกเมนูนี้ว้าวสุดๆเลยค่าาาาา ><
ความเปรี้ยวนิดๆของไอศครีมม่วงเชอเบท เข้ากันได้ดีกับน้ำปลาหวานที่หอมน้ำปลามากๆ
แถมรสชาติยังกลมกล่อม อร่ยนัว เข้ากันได้ดีสุดๆ เป็นการปิดท้ายมื้อนี้ที่อร่อยที่สุดจนพี่หมึกต้องยกนิ้วให้เลยละค่า
สารพัดเมนูหลากหลายที่รังสรรค์ด้วยน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทั้ง 2 สูตรนี้
บอกเลยว่าทำให้อาหารทุกจานนั้นอร่อย ไม่ว่าจะเป็นเมนูคาว หรือเมนูหวาน
ก็อร่อยกลมกล่อม หอมน้ำปลาและครบรสสุดๆ เป็นเครื่องปรุงที่ต้องอยู่คู่ครัวแบบขาดไม่ได้เลยจริงๆค่ะ
ใครที่อยากลองทำสามารถดูจากสูตรที่แปะไว้ให้
และมีวิธีการทำของอาหารทุกจานอยู่ในคลิปวีดีโอด้านบนให้กับทุกคนเรียบร้อยแล้วนะค๊าาา : DDD
ซึ่งถ้าหากใครสนใจอยากลองซื้อน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทั้ง 2 สูตรนี้
มาปรุงอาหารให้อร่อยเหมือนพี่หมึกแล้วละก็ สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
หรือจะสั่งออนไลน์ให้ส่งตรงถึงหน้าบ้านก็ได้เลยนะค๊า
และสำหรับใครที่สนใจอยากดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูได้ตาม
Facebook ที่ขึ้นด้านล่างนี้ให้ได้เลยนะค๊า
https://www.facebook.com/SquidBrand
โดยเค้าจะมีทั้งเทคนิคดีเกี่ยวกับสินค้าและการทำอาหารๆ
ข่าวสารต่างๆ รวมถึงกิจกรรมดีๆที่มีให้กับแฟนๆน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกได้ติดตามกันอยู่ตลอดอีกด้วยละค่า
และสุดท้ายนี้อยากขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบมาถึงตรงนี้ หรือดูคลิปจนจบนะค๊าาา
ดีใจมากๆ เพราะเราตั้งใจมากๆจริงๆ เป็นคนนึงที่รักการกินมาก่อน จนมาทำอาหารทานเอง
ก็ตกหลุมรักในการทำอาหารมาเรื่อยๆ เลยอยากมาแบ่งปันความอร่อยในแบบฉบับของเราให้กับเพื่อนๆทุกคนนะคะ
สูตรอาจจะผิดเพี้ยนเพราะปรับตามแบบฉบับเราทาน อาจจะไม่ตรงใจใคร ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะค๊าาา
และแน่นอนว่าเราอยากนำเสนอให้ทุกคนได้เห็น ตามคอนเซ็ปต์ที่ว่า “เมนูอะไรก็ดี”
มันดีจริงๆนะทู๊กโค้นนนนน!!! น้ำปลาคือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยยยยย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหารไทยๆบ้านเรา
เอ๊ะอ๊ะอาหารจืดจากไหนไม่รู้ ขอเติมน้ำปลาไว้ก่อนนนน!!! 555555555
เพราะฉะนั้นเราควรมีน้ำปลาแท้ที่ดีจริงๆ อยู่ติดบ้านไว้ตลอด ไม่ว่าจะใช้หยิบปรุง ใช้เหยาะ จิ้ม เติม
ก็คือเอาอยู่และดีจริงๆ และเราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลอง น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทั้ง 2 สูตรนี้เลยจริงๆ
เพราะไม่ว่าเราจะเอาไปทำอาหารประเภทไหน เมนูอะไร ก็อร่อยและเอาอยู่จริงๆค๊าาาา
พี่หมึกพาทุกคนไปอิ่มท้องกับเมนูอร่อยๆกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พุงกาง พร้อมนอนต่อมากกก! 55555555
ก่อนจากลากันไป.. พี่หมึกคนนี้ขอบอกเลยว่า..
“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”
27 กรกฎาคม 2564 เวลา 21:21 น.