Pantip ชวนร่วมกิจกรรม เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความอร่อย ภาค 2 ชิงรางวัล รวมมูลค่า 64,696 บาท pantip

สวัสดีค่ะ  …  NUTCHANART_CH สาย Cooking

ขอนำเสนอเมนูสุดอร่อยเด็ดประจำตัว

สามชั้นทอดน้ำปลา สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว | น้ำจิ้มแจ่ว สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง

น้ำปลาคุณภาพ ต้องน้ำปลาตราปลาหมึก
      น้ำปลาตราปลาหมึกมีรสชาติที่กลมกล่อม กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ เคล็ดลับในการปรุงอาหารแบบไทยๆ

มาค่ะ มาดูวัตถุดิบ และวิธีทำ เมนูสุดอร่อยเด็ดประจำตัวของเรากันกันค่ะ

สามชั้นทอดน้ำปลา

ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก

” สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว ”

ปลากะตักหมักนาน 18 เดือน
ออริจินัล จัดจ้านถึงใจ สีเขียว มีปลากะตัก 75% สีนํ้าตาลอมแดง ไม่ใส่ผงชูรส
ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย มีโปรตีนจากปลาทะเล มีรสชาติเข้มข้นของนํ้าปลาแท้ Gluten Free

วัตถุดิบ หมูสามชั้นทอดน้ำปลา

1. หมูสามชั้น 1/2 กิโลกรัม 
2. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 
3. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา 
4. แป้งทอดกรอบ 4 ช้อนโต๊ะ 
5. น้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ 

น้ำจิ้มแจ่ว

ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก

” สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง ”

ปลากะตักหมักนาน 12 เดือน
รสกลมกล่อม นัวได้ใจ สีเหลือง มีปลากะตัก 70% ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น
ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่มีน้ำตาล กลุ่มคีโตบริโภคได้ Gluten Free

วัตถุดิบ น้ำจิ้มแจ่ว

1. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ (สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง)
2. พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
5. ข้าวคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ
6. หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
7. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ

1. ผสมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บ เข้าด้วยกัน

2. ใส่พริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดง คนให้เข้ากัน

3. โรยด้วยต้นหอมซอย

วัตถุดิบ

– กุ้งสดผ่าหลัง 300 กรัม
– หมูสับ 200 กรัม
– ข้าวคั่ว  2ช้อนโต๊ะ
– พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาล 2 ช้อนชา
– ต้นหอมซอย 2 ต้น
– ผักชีซอย 2 ต้น
– หอมแดงซอย 3 หัว

วิธีทำ

เราขอเริ่มจากการต้มกุ้งให้สุก ด้วยไมโครเวฟก่อนเลยจร้า

สำหรับวิธีการต้มกุ้งให้สุก ด้วยการเตรียมน้ำใส่ภาชนะที่สามารถเข้าไมโครเวฟ นำเข้าไปเวฟให้ร้อนด้วยไฟ 800 วัตต์ เป็นเวลา 3 นาที

เมื่อครบเวลา 3 นาที นำออกมาใส่กุ้งสดที่เตรียมไว้ลงไป แล้วนำเข้าไมโครเวฟที่ไฟ 800 วัตต์ เป็นเวลา 3 นาที

เมื่อครบเวลา นำกุ้งออกมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

ต่อไปเราจะไปทำการเวฟหมูสับให้สุกกันต่อค่ะ สำหรับวิธีการก็ง่ายๆ ค่ะ เพียงนำหมูสับที่เตรียมไว้ใส่ลงในภาชนะที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ แล้วทำการเติมน้ำเปล่าเล็กน้อย

นำเข้าไมโครเวฟที่ไฟ 800 วัตต์ เป็นเวลา 5 นาที

เมื่อครบเวลาให้นำหมูออกมาบด ให้เนื้อหมูเป็นชิ้นเล็กๆ ค่ะ

ขั้นตอนต่อไปก็เป็นขั้นตอนของการ “ลาบ” แล้วค่ะ

วิธีการก็ง่าย ๆ เช่นเดิม

เริ่มจาก บีบมะนาวใส่ภาชนะผสม

ตามด้วย น้ำปลาแท้ ตรา “ปลาหมึก”

วันนี้เราใช้  สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว   ปรุงอาหารจานแซ่บ ได้อร่อยทุกจาน จร้า

ตามต่อด้วยพริกป่น และน้ำตาล คนคลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน (ชิมรสตามชอบ)

เมื่อเราได้รสชาติที่ชอบเรียบร้อยก็ทำการใส่หมูสับ กุ้งสุก

คนคลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ก็เป็นอันว่าเรียบร้อย

ต้มจืดไข่น้ำตำลึง
1) เจียวกระเทียมให้หอมแล้วยกออกใส่ชามไว้
2) เจียวไข่พร้อมใส่น้ำปลาแท้ ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล (ฝาสีเขียว)
3) ใส่กระเทียมเจียวในกระทำ จากนั้น ใส่ไข่ที่ปรุงรสไว้แล้ว
4) เติมน้ำในหม้อรอน้ำเดือด ปิดเตาแก๊ส
5) ใส่ใบตำลึงลงไป ในขณะที่น้ำเดือด จะทำให้ตำลึงสุกพอดีไม่สุกจนเกินไป

ผัดปลากระป๋อง
1) หั่นกระเทียม หั่นพริก ซอยใบมะกรูดไว้
2) เจียวกากหมู (วิธีทำกากหมู หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้น ๆ เจียวเอาน้ำมันออก จากนั้นจะได้กากหมู แต่จะเหนียวยังไม่กรอบ ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอาไปเจียวอีกรอบ จะได้กากหมูที่กรอบน่ารับประทาน และยังสามารถเก็บรักษาปรุงรสอาหารในมื้อต่อไปได้)
3) ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กากหมูลงไป จากนั้นใส่ปลากระป๋อง ปรุงรสด้วยน้ำปลาแท้ ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล (ฝาสีเขียว)
4) ใส่กระเทียมที่หั่น พริกซอย และ ใบมะกรูดซอย
5) เอาขึ้นจากกระทะ
ลวกผัก เตรียมผักสด ทานกับข้าวร้อน ๆ อร่อยแซ่บ นัว
“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินอล (ฝาสีเขียว)
หอม…อร่อยอย่างไทย คุณภาพระดับโลก
ส่วนประกอบสำคัญ
1) ปลาไส้ตัน (ปลากะตัก)  70 %
2) เกลือ 27%
3) น้ำตาล 3%
ผสมไอโอดีน
ไม่มีส่วนผสมของซัคคารีน , ผงชูรส และวัตถุกันเสีย

น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม (ฝาสีเหลือง)
กลมกล่อม….นัวทุกจาน
ส่วนประกอบสำคัญ
1) ปลาไส้ตัน (ปลากะตัก)  70 %
2) เกลือ 30%
ผสมไอโอดีน
ใช้สตีวิออลไกลโคไซด์เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล
ไม่มีส่วนผสมของซัคคารีน , ผงชูรส และวัตถุกันเสีย

หมูเผ่ย  
วิธีทำ จะใช้หมูเนื้อแดงตัดเป็นก้อนลงต้มในน้ำเดือดให้สุก (ใช้น้ำเปล่า ไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มค่ะ)
        จากนั้นจึงนำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ
        จะเปลี่ยนเป็นหมูสามชั้น หรือ สันคอหมูก็ได้ค่ะ

กุ้งลวก  
วิธีทำ ล้างกุ้งทั้งตัวให้สะอาด จากนั้นนำลงใส่หม้อ ตั้งไฟ เทน้ำใส่เล็กน้อยประมาณ 2 ทัพพี จากนั้นค่อยๆคลุกกุ้งไปมาจนสุก
        เมื่อกุ้งเย็นจึงนำมาแกะเปลือกออก
        วิธีนี้จะเก็บความหวานจากตัวกุ้งได้ดีกว่าลวกกับน้ำเยอะๆค่ะ

ไข่ต้ม  
วิธีทำ นำไข่ใส่ในหม้อ เทน้ำให้พอท่วม ใส่เกลือเล็กน้อย ต้มจนน้ำเดือดจากนั้นปิดไฟปล่อยทิ้งไว้จนน้ำเย็น ค่อยมาแกะเปลือกออก

พริกเกลือ  หรือ น้ำจิ้มซีฟู้ด  
วิธีทำ ตำกระเทียม + พริกขี้หนู + ดอกเกลือ 1 ช้อนชา + น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา ตำรวมกันจนละเอียดดี
        จากนั้นเติมน้ำปลา น้ำมะนาว ในอัตราส่วน 1:1.5
        หรือชิมรสตามชอบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………
เมนู ” หมูเผ่ย และ สหาย ” หรือ ลวกจิ้มน้ำพริกเกลือ
เป็นเมนูประจำชุมชน ที่ไม่ว่าจะเป็นงานทำบุญ งานบวช งานศพ ก็มักจะมีเมนูนี้อยู่ด้วยเสมอ
เป็นเมนูที่ทำง่าย เค้าว่ากินแล้วแก้เอือม
……………………………………………………….
” เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว ”

ช่วงนี้ใครหลายคนคงเริ่มกลับเข้าสู่ช่วง Work From Home กันอีกรอบแล้วใช่ไหมคะ อยู่บ้านเซ็ง ๆ แบบนี้มาลงมือทำเมนูอาหารไทยง่าย ๆ
ถ่ายรูปสวย ๆ อวดลงโซเชียลกันดีกว่า!

วันนี้ ลูกตาลจะมาแจก สูตรเมนูเด็ด คู่กับ น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทำกินที่บ้านง่าย ๆ ช่วง Work From Home ให้ทุกคนได้เอาไปทำอวดฝีไม้ลายมือและเสน่ห์ปลายจวักที่บ้านกันค่ะ ทำทานกันได้ไปยาว ๆ เล้ยย!

เพื่อน ๆ ทุกคนรู้ไหมค่ะ ? ว่าส่วนประกอบหลักของน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกคือ “ปลาไส้ตัน” ที่มีมากถึง 70% ในสูตรฝาเขียว และ 65% ในสูตรฝาเหลือง

ในกระบวนการหมักน้ำปลา สารอาหารจากปลาไส้ตัน รวมถึงวิตามินต่าง ๆ จะถูกย่อยสลายออกมาเป็นน้ำปลา และหนึ่งในวิตามินที่พบนั่นก็คือ “วิตามิน B12” เพราะเป็นวิตามินที่เราสามารถพบได้ในอาหารประเภท เนื้อสัตว์ ไข่ นม และปลา  🥩🍳🥛 🐟  อีกทั้งยังมีประโยชน์หลากหลาย เช่น มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยให้การทำงานของระบบประสาท และช่วยกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียในกระเพาะอาหารอีกด้วยค่ะ

เมนูแรกคือ ปลาหมึกทอดกระเทียมเป็นอีกเมนูสำหรับเช้าวันนี้ค่ะ กระเทียมเจียวเยอะๆ ผัดให้หวานๆหน่อย ทุกคนในครอบครัวชอบมาก บอกให้ทำบ่อยๆ เราก็หน้าบานอีกแล้วค่ะ 55555 เลยหยิบยกเมนูนี้เอามาฝากเพื่อนๆ เผื่อใครยังไม่รู้จะทำกับข้าวอะไรให้ครอบครัวทานค่ะ

เข้าครัวมาทำอาหารจานเด็ด “ปลาหมึกทอดกระเทียม” เมนูทอดกินหอมชวนรับประทาน ใคร​กินก็ต้องติดใจ ถ้าพร้อมแล้วมาดูวิธีทำกันเลย

ส่วนผสมและสัดส่วน
1.ปลาหมึก 1 ถ้วย
2.กระเทียม 10 เม็ด
3.พริกไทย 1 ช้อนชา
4.รากผักชี 1 ราก
5.น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
5.ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
6.น้ำปลา 1/2 ช้อนชา
7.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
8.ผักชีสำหรับโรยหน้า

1.นำกระเทียม รากผักชี พริกไทยโขลกรวมกันไว้ กระเทียมอีกส่วนหนึ่งเจียวไว้สำหรับโรยหน้าเพิ่มความหอมและอร่อย
2.นำปลาหมึกดึงหนวดออกจากตัว เอาลูกตา และถุงหมึกออก ล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นแว่นๆ พักให้สะเด็ดน้ำ

เมนูที่ 2 ขอนำเสนอ แกงเขียวหวานไก่

เครื่องปรุงและส่วนผสม
– เนื้อไก่ 300 กรัม
– มะเขือเปาะ 4-5 ลูก
– มะเขือพวง 1 กรัม
– พริกชี้ฟ้าสีแดง 2-3 เม็ด
– โหระพา 3 ต้น
– ใบมะกรูด 5 ใบ
– พริกแกงเขียวหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
– หัวกะทิ และหางกะทิอย่างละ 1 ถ้วย
– น้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

เมนูสุดท้าย นั้นก็คือ ผัดแตงกวากุ้งไข่

ส่วนผสมและสัดส่วน
1. แตงกวา 4 ลูก
2. กุ้ง 6-10 ตัว
3. กระเทียม 5 กลีบ
4. รากผักชี 2 ราก
5. พริกไทยตามชอบ
6. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
8. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำเปล่า เล็กน้อย
11. น้ำมันพืช สำหรับผัด
12. น้ำปลาตราปลาหมึก (ฝาหลือง) 1 ช้อนโต๊ะ

เคล็ดลับ การเลือกซื้อน้ำปลา
น้ำปลา จัดเป็นเครื่องปรุงรสยอดนิยมของอาหารไทย ซึ่งน้ำปลามีทั้งน้ำปลาดีและไม่ดี การเลือกน้ำปลาแท้หรือไม่แท้ ก็มีหลักในการพิจารณาเลือกซื้อ และต้องมีความรู้อยู่บ้างพอสมควร

ช่วยโลกกอบกู้วิกฤติขยะ ด้วยกระบวนการ “รีไซเคิล”

หาซื้อได้ง่ายที่ห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำทั่วไป หรือถ้าใครไม่อยากออกจากบ้านก็สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลยค่า ^^
#ชอปออนไลน์ไม่ต้องออกไปเสี่ยง

ออกไปชอปปิง แต่ไม่แน่ใจว่าที่ไหนจะมี “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก” แบบที่เราต้องการ 🤔 แค่คลิกเข้าเว็บไซต์ของ TESCO LOTUS Online, Tops Online และ Big C Online ก็รู้หมดว่า มีน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกแบบไหนที่เราต้องการ ไม่ว่าจะขวดเล็ก ขวดใหญ่ ฉลากสีเขียว รสจัดจ้าน 💚 หรือ ฉลากสีเหลือง รสนัว กลมกล่อม 💛 ก็ค้นหาได้เลยง่าย ๆ ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลย 👇🏻
🛒 TESCO LOTUS Online : https://bit.ly/32AvMLA
🛒 Tops Online : https://bit.ly/2CecoZZ
🛒 Big C Online : https://bit.ly/2FMyBA4

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

เมนูสุดจัดจ้าน🌶ที่ต้องใช้น้ำปลาเป็นส่วนผสมหลักของครอบครัวชาวใต้เรา เยอะมากๆเลยค่ะ เพราะ เป็นครอบครัวใหญ่ตัองทำหลายเมนูในแต่ละมื้อ อาทิ ผัดสะตอ กะเพรา ผัดเผ็ดหน่อไม้ ไก่ผัดขิง กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา แกงเขียวหวาน และ ที่ไม่เคยขาด คือ พริกน้ำปลา !!! น้ำจิ้มสุดโปรดของอากง หัวเรือใหญ่ของบ้าน  เพราะ 👍 น้ำปลา เป็นเครื่องปรุงรสอย่างหนึ่งที่มีประจำทุกครัวเรือนของไทย ขาดไม่ได้ในอาหารไทย มีรสชาติเค็มกลมกล่อม เป็นการหมักจากปลาสดกับเกลือ ยังอุดมไปด้วยสารอาหารจำเป็นต่อร่างกายอย่างโปรตีน ซึ่งนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่า น้ำปลาเป็นแหล่งโปรตีนและกรดอะมิโนจำเป็นให้กับผู้ที่ขาดสารอาหารจำพวกนี้ได้

เคล็ดไม่ลับประจำตระกูล … ไม่ว่าจะเมูอะไร ก็ต้องเลือกปรุงรสด้วย => 🎉น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก อร่อย-ปลอดภัย-คุ้มค่า ค่ะ  ครอบครัวเราเลือก “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกฉลากเขียว” จัดจ้านถึงใจ เพื่อมือโปร ปรุงอาหารจานแซ่บได้อร่อยทุกจาน 🥗🦑🐟🌶 เพราะ น้ำปลาตราปลาหมึกมีรสชาติที่กลมกล่อม กลิ่นหอม อันเป็นเอกลักษณ์ ถูกหลักอนามัย และได้รสชาด อันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก 
ฝีมือดี…ต้อง ใช้เครื่องปรุงดี
น้ำปลาดี…ต้อง น้ำปลาตราปลาหมึก
 ✨✨”เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว” ✨✨

ส่วนผสม
1. สะโพกไก่ล้างให้สะอาดหั่นชิ้นพอดีคำ หรือ เลือกไก่ส่วนที่ชอบได้เลย
2. รากผักชี กระเทียม โขลกหยาบ
3. พริกไทยบด / พริกไทยป่น
4. แป้งทอดกรอบ / แป้งสาลีอเนกประสงค์
5. น้ำเย็นจัดๆ นิดหน่อย
6. น้ำปลาตราหมึก
7. น้ำมันสำหรับทอด
8. ผักชีสำหรับตกแต่งนิดหน่อย

วิธีทำ
– เริ่มจากใส่รากผักชี กระเทียมโขลก ลงในชามสะโพกไก่ที่ล้างสะอาดและหั่นเป็นชิ้นเรียบร้อยแล้ว
– ใส่น้ำปลาตราปลาหมึก วันนี้ใช้ขวดฉลากเหลือง สูตรกลมกล่อม เพิ่มความหอมอร่อย
– คลุกเคล้าให้ส่วนเข้ากัน จังหวะที่คลุกนี้จะได้กลิ่นหอมของน้ำปลาลอยออกมาเลยค่ะ
– ใส่แป้งทอดกรอบ และ น้ำเย็นจัดๆลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกรอบ
– น้ำลงไปทอดในน้ำมันที่ตั้งไฟกลางรอไว้ รอให้ข้างล่างเหลือง แล้วกลับข้างล่างขึ้นข้างบน
– เมื่อเหลืองเสมอกันทั้ง 2 ฝั่ง ตักขึ้นมาสะเด็ดได้น้ำมัน แล้วจัดใส่จาน วางผักชี พร้อมทานแล้วค่ะ

**จะเปลี่ยนจากไก่ เป็น เนื้อหมู หรือ เนื้อสัตว์ที่ชอบก็ได้นะคะ**

วันนี้ใช้น้ำปลาตราหมึกฉลากสีเหลือง รสกลมกล่อม ไก่ทอดน้ำปลาจานนี้หอมขึ้นเยอะเลยค่ะ น้ำปลาดี ทำอะไรกินก็อร่อยค่ะ…..
“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

จากบทเพลงพระราชนิพนธ์ด้านบนที่นำมาได้กล่าวถึงชื่ออาหารและวิธีทำไปแล้วนั้น
เดาได้ไม่ยาก เมนูเด็ดประจำตัว ที่เลือกมานำเสนอ นั่นคือ “ส้มตำ” นั่นเองค่าาา
ต้องบอกก่อนว่าเป็นเมนูประจำตัว ของคุณแม่ครัว (คุณแม่) ชอบทานมาก
วันหยุดสุดสัปดาห์ มะละกอต้องมาละ

วัตถุดิบในการทำส้มตำ
มะละกอดิบ ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ พริกขี้หนูสดหรือแห้ง น้ำมะนาว
น้ำตาลปี๊บ กุ้งแห้งฝอย ปูเค็ม ในรูปขาดปลาร้า และน้ำมะขาม
(สูตรของที่บ้านไม่ใส่ถั่วลิสงคั่ว)

วิธีทำก็ง่าย จะบอกได้ต่อไปนี้… แต่อาจมีการสลับขั้นตอนก่อน-หลังบ้างนะคะ

เริ่มที่ใส่พริกลงไป (วันนี้เลือกเป็นพริกแห้ง) ตำกับกระเทียม ใส่มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว
พอแหลกก็ปรุงรส ด้วยน้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขาม ปลาร้า
ใส่มะละกอที่สับไว้ กุ้งแห้ง ปูเค็ม

และที่ขาดไม่ได้ น้ำปลา ตราปลาหมึก ใช้เป็นหมึกเหลืองสูตรกลมกล่อม เพิ่มความนัวได้ใจ

คุณแม่เป็นมือตำอยู่แล้ว ทำเร็วมาก ถ่ายรูปได้แค่บางขั้นตอน ต้องขออภัยค่ะ
เมื่อใส่ทุกอย่างรวมกันแล้ว ตำคลุกเคล้าให้เข้ากันเป็นอันเสร็จค่ะ

แทน แท้น ส้มตำ เมนูเด็ดประจำบ้าน พร้อมเสิร์ฟค่ะ

มื้อเที่ยงพร้อมแล้วค่ะ (เที่ยงที่ผ่านมา) จัดใส่จานกับผักบุ้งไทย
ทานคู่กับข้าวเหนียว วันนี้มีขนมจีนอัญชันด้วย

แต่น่าเสียดายที่ไก่ย่างขายหมดซะก่อน เลยจัดแคปหมู กับหนังไก่ทอดมาแกล้มไปพลางก่อนค่ะ

และนี่ก็คือ เมนูเด็ดประจำบ้าน ที่ได้ “น้ำปลาตราปลาหมึก” (หมึกเหลือง) มาช่วยเพิ่มความกลมกล่อมค่ะ
“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

ใกล้สิ้นเดือนแบบนี้ อยากไข่ปูดองเยิ้มๆ แต่ต้องรอก่อน

เรามีวิธีค่ะ ถึงไม่ใช่แต่ใกล้เคียงอยู่ อิอิ
กับเมนูนี้เลย ไข่แดงดองน้ำปลา ..

ขั้นตอนและวัตถุดิบที่แสนง่ายแบบมีติดตู้เย็นกันชัวร์ๆ

วัตถุดิบ
1.ไข่ไก่ นางเอกของเรา
2.น้ำปลา ตราปลาหมึก พระเอกของเราจ้าาาา
3.น้ำตาลมะพร้าว
4.พริก
5.กระเทียม

——————————————————————————-

ขั้นตอนในการทำ

1.หั่นพริก+กระเทียม รอเลยค่ะ

2.เตรียมน้ำปลากวน เทน้ำปลาตราปลาหมึกลงภาชนะ และ ตัก น้ำตาลมะพร้าวใส่ลงไป
จากนั้นนำเข้าไมโครเวฟซัก 45 วิ ให้พออุ่นค่ะ ปริมาณ เพิ่ม – ลด ได้ตามใจชอบเลยค่ะ

3.แยกไข่ขาวและไข่แดงออกจากกัน เราเคาะเปลือกตรงส่วนปลายแหลมค่ะ ค่อยๆเคาะ กระเทาะเปลือกเอาเบาๆ แล้วเทออกมา

4.เทน้ำปลากวนที่เย็นแล้วลงภาชนะที่เราใส่ไข่แดงไว้ค่ะ
โรยพริกและกระเทียมตามลงไปดับคาว ก่อนน้ำเข้าตู้เย็นค่ะ
เราเข้าตู้เย็นช่วง 2 ทุ่ม แล้ว 5 ทุ่มมาพลิกไข่กลับด้าน ก่อนจะยิงยาวยัน 6 โมงเช้าค่ะ

น้องไข่ปูเทียมของเรา พร้อมทานแล้วค่า

ทานไข่ดองพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยน้ำปลากวนที่บีบมะนาวเพิ่ม
ถึงจะไม่เหมือนไข่ปู แต่ได้เมนูใหม่ที่แซ่บมากๆเช่นกันค่ะ
เพราะ .. เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ​ นัว

เมนูนี้ทำง่ายมากค่ะส่วนผสมไม่มีอะไรมากดัดแปลงจากสูตรพระราชทานค่ะ
ส่วนผสมมี 1. ไข่ไก่ 2.ข้าวเย็น (หอมมะลิจะอร่อยเรียงตัวสวย) 3.ผักต่างๆถ้าอยากใส่ให้เด็กๆค่ะ เช่น ถั่วลันเตา แครอท 4. แฮม ไส้กรอก
เครื่องปรุงมีดังนี้  1.น้ำตาลเล็กน้อย  2. น้ำปลา เราเลือกใช้น้ำปลาหมึก(ฉลากสีเขียวสูตรดั่งเดิม เพราะหอม กลมกล่อม ไม่เค็มจัดค่ะ) 3.ซอสมะเขือเทศ

วิธีทำง่ายมากๆจ้า
1. นำข้าวสวยผสมไข่ไก่ และ แครอท ไส้กรอก (เพิ่มผักหรือเนื้อสัตว์ได้ตามชอบเลยค่ะ) คนให้เข้ากันเหยาะน้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อย
2. ตั้งกะทะให้ร้อนใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันร้อน  ตีส่วนผสมต่างๆให้เข้ากันแล้ว แล้วนำลงไปทอดเลยค่ะ เกลี่ยๆให้ความร้อนทั่วข้าวและไข่เป็นแผ่นกรอบๆ
3. พอไข่กรอบทุกอย่างสุกดีแล้วตักขึ้นใส่จาน นำมาตกแต่งใส่ซอสมะเขือเทศตามชอบ ให้เด็กๆทำก็ได้นะคะเด็กๆจะได้สนุกสนานและทานข้าวได้มากขึ้นด้วยค่ะ ลูกสาวโตขึ้นมัธยมแล้วยังชอบเมนูนี้อยู่เลยค่ะ  จะดัดแปลงทำเป็นรูปต่างๆก็ได้นะคะ เช่น รูปผลไม้ รูปสัตว์

เป็นสูตรง่ายๆ ที่ใช้วัตถุดิบใกล้ๆตัวที่ไม่ยุ่งยากใช้เวลาน้อยในการทำค่ะ^^

แถวบ้านเรานิยมทานคู่กันค่ะ
เราเลยทำเป็นเมนูคู่เลย

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ปลาหมึกเหลือง




เหตุผลที่เราเลือก ปลาหมึกเหลือง เพราะว่า เมนูเด็ดเมนูโปรดที่เราทำคือเมนูอาหารว่างทานเล่น จะมีทั้งรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด เวลาเราปรุงรสเราจะปรุงแบบให้รสชาติเท่าๆกัน ไม่มีรสไหนเด่นหรือโดดเกินไป เราชอบแบบนัวๆ ละมุนลิ้น ทานได้เรื่อยๆ เราเลยเลือก น้ำปลาแท้ ตราปลาหมึก รสกลมกล่อม ฉลากเหลืองนัวได้ใจ ค่า

เริ่มที่ยำมะม่วงก่อนเลยค่า



























เมนูนี้ทำง่ายมากเลยค่า ที่เหลือก็แค่จัดใส่จาน
โรยหน้าเพิ่มด้วยถั่วคั่วและปลากรอบกรุบกรับ
และทานกับไข่เค็ม(แบบเค็มน้อย) ยิ่งอร่อยค่า

ต่อด้วยเมนูหมี่ยำ

























เสร็จแล้วค่า จัดใส่จาน พร้อมทานได้เลย
ง่ายๆแค่นี้เองค่า

เมนู ยำมะม่วง และหมี่ยำ
ส่วนผสมหาง่าย วิธีทำไม่ซับซ้อน
เป็นมือยำได้ไม่ยาก แค่ใช้น้ำปลาตราปลาหมึก
“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

วิธีทำ
1. ผสมน้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน คนให้เข้ากัน
2. ล้างเนื้อปลาแซลมอนแล้วซับให้แห้ง จากนั้นหั่นเป็นชิ้นๆ ใหญ่และหนาพอประมาณ พักไว้
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนได้ที่ นำเนื้อปลาแซลมอนลงทอดจนสุก มีสีเหลืองสวยทั้งสองด้าน (ปลาแซลมอนไม่ต้องทอดนานนะครับ ไม่งั้นเนื้อปลาจะแข็ง)

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้เลยนะครับว่าทำไม่ยาก แต่สิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับการทำให้เมนูนี้ให้อร่อยนั้นคือการเลือกสรรวัตถุดิบนั้นเอง
โดยสิ่งที่เป็นพระเอกสำหรับเครื่องปรุงในครั้งนี้คือ น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 75 ปีแล้ว มีการส่งออกไปมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก และยังการันตียอดส่งออกอับดับ 1 ของประเทศไทย จึงทำให้มั่นใจในคุณภาพของตัวสินค้าได้เลย

นอกจากนี้กระบวนการผลิตของน้ำปลาแท้ตาหมึกนั้นยังสะอาดและทันสมัยอีกด้วย น้ำปลาทั่วไปอาจจะใช้ปลาคณะที่ไม่ได้คุณภาพหรือหมักระยะเวลาสั้นๆ แต่ไม่ใช่กับทางนี้เพราะปลาที่เลือกใช้นั้นควบคุมคุณภาพและคัดสรร อีกทั้งยังใช้เวลาในการหมักยาวนานกว่า 18 เดือน จึงทำให้ได้น้ำปลาที่กลมกล่อม มีกลิ่นหอมชวนรับประทานแบบนี้ และมั่นใจได้เลยว่าดีต่อสุขภาพเพราะไม่มีทั้งผงชูรสและวัตถุกันเสีย ไม่มีการปรุงแต่งสีหรือกลิ่นใด ๆ ทุกอย่างเกิดจากกระบวนการพิถีพิถันอย่างสูงของทางบริษัท ดังนั้นแล้วจึงกล้าพูดได้เลยว่า เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว

ปล. สำหรับคนรุ่นใหม่ที่คิดว่าน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกนั้นดูเก่า ดูไม่ทันสมัย ไม่เหมาะกับการเอามาใช้หรือประดับในครัวยุคใหม่นั้น ก็ขอให้เปลี่ยนความคิดได้เลย เพราะทางบริษัทได้เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้ภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์นั้นดูดี ดูทันสมัย และน่าหามาจับจองมากขึ้น
หากสนใจสามารถซื้อหาจับจองกันได้ที่ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้วประเทศไทย หรือสั่งได้ทางเว็บของน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกตามสปอยด้านล่างได้เลย (มีภาพผลิตภัณฑ์แบบใหม่ด้วย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

รูปภาพจาก http://www.squidbrand.com/th/

เมนู ยำไข่ดาวทอดกรอบ
กับ
ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินอล ฉลากเขียว จัดจ้านถึงใจ
ค่า

สำหรับเมนูยำไข่ดาวทอดกรอบนั้น
ไข่ดาวมีรสจืด เราเอามายำให้เป็นเมนูจัดจ้าน
ใส่น้ำตาล เติมพริกนิด มะนาวหน่อย และที่ขาดไม่ได้นั้นก็คือน้ำปลาค่ะ
เราเลือกน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินอล ฉลากเขียว จัดจ้านถึงใจ
เพราะว่าเราต้องการให้ยำออกรสแบบเข้มข้น เด็ดดวง เผ็ดเป็นเผ็ด รสมะนาวถึง หวานแบบน้ำตาลมะพร้าว และกลิ่นน้ำปลาที่หอม ออกรสชัด ยำแบบให้ออกรสจัดจ้านไปเลย

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

วัตถุดิบในการทำนั้นแสนจะหาง่าย หาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด
วิธีทำก็ไม่ได้ยุ่งยาก
เรามาลงมือทำกันเลยค่า




















เสร็จแล้วค่า
จัดใส่จาน พร้อมรับประทาน
จะรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือรับประทานเลยก็ได้
แล้วแต่จะชอบเลยค่า

หิวๆ ไม่อยากออกนอกบ้าน  ต้องการลดการสัมผัส
เลือกที่จะทำอาหาร ทำกับข้าวกินเอง
แม้จะอยู่แต่บ้าน ทำอาหารไม่เก่ง
แต่ก็สามารถปรุงอาหารให้มีรสชาติอร่อยได้
ไม่ว่าเมนูไหนๆ จะเป็นเมนูยำไข่ดาวทอดกรอบ
หรือ
เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว

ส่วนผสมสำหรับทานในครอบครัวใหญ่ 5-6 คน
แบ่งอุ่นทานได้ 2 รอบ ถ้าทำหม้อเดียวก็ลดสัดส่วนเหลือครึ่งเดียวได้ค่ะ
1. พริกแกงเขียวหวาน 3 ขีด
2. เนื้อหมูสันนอก กับ สันคอ อย่างละครึ่งกิโล
3. มะเขือยาว 4 ลูกอวบๆ
4. ใบโหระพา กำใหญ่ (ปริมาณตามชอบ)
5. กะทิ (รวมหัว+หาง) 1 กิโล
6. น้ำปลาปลาหมึก ฉลากเขียว สูตรดั้งเดิม
7. พริกขี้หนูสวน สำหรับปรุงรสน้ำพริกเพิ่ม (ปริมาณตามชอบ)
8. เกลือ+แป้งมัน สำหรับหมักหมู
9. พริกจินดาแดง สำหรับตกแต่งหน้า
10. ขนมจีน หรือ เลือกทานกับข้าวสวยร้อนๆ

มาดูขั้นตอนการทำกันดีกว่า
1. นำเนื้อหมูสันนอก กับ สันคอ มาหั่นชิ้นพอดีคำ หมักด้วยแป้งมัน ให้หมูนุ่ม อุ่นทานสองครั้งหมูจะได้ไม่แข็ง
(สัดส่วนสันนอก กับ สันคอปรับตามชอบ เพราะที่บ้านมีทั้งคนที่ชอบหมูมันมาก มันน้อย เลยต้องใส่ทั้งสองส่วนจะได้ไม่ตีกันค่ะ) หมักหมูเสร็จแล้วพักไว้สัก 10 นาทีแล้วล้างออก แล้วค่อยมาหมักเกลือนิดหน่อยเพิ่มรสชาติ

2. นำพริกแกงเขียวหวานมาตำ หรือ ปั่น กับพริกขี้หนูสวนเพิ่มความจัดจ้านร้อนแรง

3. นำพริกแกงลงผัดในกระทะให้หอม เติมหัวกะทิลงไปผัดด้วยจนเดือดปุดๆ

4. ปรุงรสน้ำพริก ด้วยน้ำปลา ตราปลาหมึก สูตรดั้งเดิมฉลากเขียว

5. พอคนเข้ากันแล้ว ก็ใส่หมูที่หมักไว้ลงไป เติมกะทิส่วนที่เหลือลงไป คนจนเดือด กะทิแตกมัน

6. น้ำแกงเดือดดีแล้ว ใส่มะเขือยาวที่หั่นเตรียมไว้ลงไป
มะเขือยาวเอามาหั่นท่อนใหญ่ๆ (จะได้ไม่เละตอนเอามาแกงและอุ่นทาน) หั่นเสร็จแช่น้ำเกลือไว้จะได้ไม่ดำ

7. หลังจากมะเขือสุกได้ที่ น้ำแกงเดือดๆ ใส่ใบโหระพาลงไป แล้วดับไฟ เป็นอันเสร็จ

8. เทใส่ชามแล้วตกแต่งด้วยพริกจินดาแดง เป็นอันเสร็จ เลือกทานกับขนมจีน หรือ ข้าวสวยร้อนๆ

ภาพแถมสุดท้าย เมนูพิเศษจากหลานชายตัวน้อย ที่ทานเผ็ดยังไม่ได้
ขนมจีนคลุกน้ำปลา คือ นัมเบอร์วัน 55555

เมนูธรรมดาๆ ประจำบ้าน อร่อยกันได้พร้อมหน้าพร้อมตา
“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ขอตัวไปอุ่นแกงเขียวหวานมะเขือยาวหมูนุ่มหม้อที่สองก่อนค่า

————————————————————————————————-
บ้านนี้หมีรัก : เมนูที่ทำกินเองที่บ้านง่ายๆ กับครอบครัวหมี

วัตถุดิบ
-ไก่ 1ตัว
-หัวปลีกล้วย
-ยอดผักอีตู่ หรือใบแมงลัก
-พริกแกงที่ตำเอง
-น้ำเปล่า
-น้ำปลาร้า
-น้ำปลาตราปลาหมึก ฉลากเขียว
-ใบมะกรูด
-ตะไคร้
-หัวหอมแดง
-กะเทียม
-พริกสด

วิธีทำ
1.นำข่า ตะไคร้ หัวหอมแดง กระเทียม พริกสด เกลือ มาตำให้ละเอียด ปริมาณตามใจชอบ

2.นำพริกแกง น้ำปลาร้า และไก่ที่สับไว้แล้วใส่หม้อ

3.นำหม้อไปตั้งไฟจากนั้นก็คั่วจนไก่สุก แล้วเติมน้ำเปล่า 1.5 ลิตร ใส่ใบมะกรูด 3-4ใบ ใส่ตะไคร้ 4-5ต้น รอ20 นาที

4.ระหว่างที่รอน้ำเดือด ให้เอาน้ำใส่กะละมังใส่เกลือลงไป1กำมือ แล้วสับหัวปลีใส่ในกะละมัง

5.เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ใส่หัวปลีลงไปในหม้อรอจนน้ำเดือด ใส่น้ำปลา 1ช้อนโต๊ะ คนสัก2-3ที รอจนน้ำเดือด ชมรสชาติ ถ้าพอดีแล้วใส่ผักอีกตู่ก็ต้มต่ออีก 5 นาที ค่อยปิดแก๊ส

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

    อย่างที่ทราบกันว่าช่วงนี้สถานการณ์​โควิดในบ้านเราระบาดอย่างหนักเรียกได้ว่าเป็นช่วงวิกฤติ​สุดๆเท่าที่เคยมีการระบาดมา​ ร้านอาหารต่างๆ​ ก็มีคำสั่งไม่ให้นั่งทานที่ร้าน​ บวกกับช่วงนี้เป็นช่วง​ WFH​ จึงเป็นโอกาสที่ดี​ ที่วันนี้จะได้มาโชว์ฝีมือปลายจวักให้เพื่อนๆสมาชิกได้รับชมกันค่ะ

     สำหรับวันนี้กวางจะมาทำอาหารด้วยกัน​​ 2​ เมนู​ ซึ่งอาหารของกวางที่จะทำในวันนี้ขอเป็นแนวเพื่อสุขภาพ​ เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์​ในช่วงนี้ที่​ ผู้คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพ​กันมากขึ้นค่ะ

   เมนูที่กวางจะทำในครั้งนี้คือ​ “เมนู​ต้มยำปลาทูน้ำใส” ซดร้อนๆไล่หวัดดีนักแล​ และ​ อีกเมนูขอเอาใจสายสุขภาพ​ สายคีโต​ สายลดความอ้วน​ นั่นก็คือ​ “เมนูยำเส้นแก้วคีโต” นั่นเองค่ะ

     บอกเลยว่า​ 2​ เมนูนี้ทำง่ายมากกกก​ วัตถุดิบไม่เยอะ ไม่ต้องเตรียมของให้วุ่นวาย เหมาะกับคนที่ชอบความความเรียบง่าย หรือคนที่อยู่​หอ อยู่คอนโดอยู่บ้าน ไปไหนไม่ค่อยได้ในช่วงนี้ แต่อร่อย ขนาดคนที่ทำอาหารไม่เก่งแบบกวางยังทำให้อร่อยได้​ เพราะกวางมีตัวช่วย​เพิ่มความอร่อย​ นั่นก็คือ “ผลิตภัณฑ์​น้ำปลาตราปลาหมึก”​ค่ะ

     ก่อนอื่นขอแนะนำข้อมูล​ของผลิตภั​ณ​ฑ์​น้ำปลาตราปลาหมึกกันสักนิดนะคะ​ เพราะบางคนอาจเคยได้ยินแต่ชื่อ​แต่ไม่เคยทราบว่าเค้ามีส่วนผสมอะไร​และมีกี่สูตรบ้าง

     ผลิตภัณฑ์​น้ำปลาตราปลาหมึกมีมาอย่างยาวนาน​ เพราะเป็นน้ำปลาที่มีรสชาติ​กลมกล่อม​ มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลัษณ์​ มีการผลิตที่มีมาตรฐาน​ สะอาด​ ถูกหลักอนามัย​ ได้รับการยอมรับในระดับ​สากล​ ในระดับที่ว่ามีการส่งออกไปยัง​ 70​ ประเทศ​ทั่วโลก​ ไม่ธรรมดา​จริงๆค่ะ

ซึ่งผลิตภัณฑ์​ของน้ำปลาตราปลาหมึกมีอยู่ด้วยกัน​ 3​ แบบ​ คือ
– ผลิตภัณฑ์​ขวดสี​เขียว​ สูตรออริจินอล
– ผลิตภัณฑ์​ขวดสีเหลือง​ สูตรกลมกล่อม​
– ผลิตภัณฑ์​ขวดสีทอง​ สูตรพรีเมี่ยม​

โดยน้ำปลาตราปลาหมึกที่กวางจะนำมาทำอาหารในวันนี้มี​  2​ สูตรค่ะ​ คือ​ ขวดสีเขียว​ รสออริจินัล​ และ​ ขวดสีเหลือง​ รสกลมกล่อม​ เดี๋ยวมาดูข้อมูล​ผลิตภัณฑ์​ของทั้ง​ 2​ สูตร​ กันอีกครั้​งค่ะ

ผลิตภัณฑ์​น้ำปลา​ตรา​ปลาหมึก​ ฝาเขียว
มีส่วนผสมของปลากระตัก​หรือปลาไส้ตัน​ 75​ %
หมักนาน​ 18​ เดือน​ รสชาติ​เข้มข้นจัดจ้าน​ เหมาะกับการนำไปปรุงอาหารทุกประเภ​ท​ สูตรนี้มีส่วนผสมของน้ำตาล​ ทำให้รสชาติ​ของน้ำปลายิ่งกลมกล่อม

ผลิตภัณฑ์​น้ำปลา​ตรา​ปลาหมึก​ ฝาเหลือง
มีส่วนผสมของปลากระตัก​หรือปลาไส้ตัน​ 70 %
หมักนาน​ 12 เดือน​ เหมาะกับการนำไปปรุง​ เหยาะ​ จิ้ม​ หรือทำพริกน้ำปลา​ หรือทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็ยังอร่อย และพิเศษสุดๆ สูตร​นี้ยังเหมาะมากๆกับคนที่เน้นเรื่องอาหารด้านสุขภาพ​หรือต้องการควบ​คุม​ระดับน้ำตาล​  เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล​ แต่ใช้สารสกัดจากหญ้าหวานแทน​ความหวานจากน้ำตาลนั่นเองค่ะ

และสิ่งที่เหมือนกันของผลิตภั​ณ​ฑ์​ตราปลาหมึกทั้งสองสูตรคือ
-ไม่แต่งสี​ ไม่แต่งกลิ่น​ ไม่มีวัตถุกันเสีย​ ไม่มีผงชูรส​ มีโปรตีนจากเนื้อปลา มีส่วนผสมของไอโอดีน และ​ เป็นสูตร​ Gluten​ Free​ ดังนั้นคนที่เป็นภูมิแพ้อาหารก็สามารถทานได้อย่างสบายใจค่ะ

โอเคค่ะ​ แนะนำผลิตภัณฑ์​กันไปแล้ว​ ต่อไป​ มาลงมือทำอาหารไปพร้อมๆกันเลยค่ะ​  2​ เมนู​ ที่กวางจะทำในวันนี้เป็นเมนูง่ายๆ​ วัตถุดิบ​ไม่ยุ่งยาก​ นั่นก็คือ

​

ต่อไปมาดูในส่วนของวัตถุดิบและวิธีทำไปพร้อมๆกันค่ะ

(สำหรับทาน​ 2​ คน)​

1.ปลาทูนึ่ง​ 2​ ตัว
2.ผลิตภัณฑ์​น้ำปลาตราปลาหมึก​ ขวดเขียว​
3.มะนาว
4.ข่า​ ตะไคร้​ ใบมะกรูด
5.หอมแดง​ 2​ หัว
6.กระเทียม​ไทย  1  หัว
7.พริกขี้หนู​สวน​ 5-6​ เม็ด​ (แล้วแต่ชอบ)​
8.ใบกระ​เพ​รา​ 1​ กำ
9.เกลือ​ 1/2​  ช้อนโต๊ะ​

1.ต้มน้ำประมาณ​ 2​ ถ้วยตวง​ พอน้ำเดือด​ ใส่ข่าหั่นแว่น​ ตะไคร้ทุบที่หั่นแล้ว​  ใบมะกรูด​ฉีก​ กระเทียมและหอมแดงทุบ​ลงไปต้มค่ะ

2.พอกลิ่นสมุนไพรเริ่มออก​ เติมเกลือลงไปประมาณ​ 1/2​ ช้อนโต๊ะ​ แล้วนำปลาทูลงต้ม​ ไม่ต้องคน​นะคะ  เพราะเดี๋ยว​ปลาทูอาจเละ​  ไม่น่ารับประทาน​ได้ค่ะ

3.พอปลาทูสัก​  ส่งกลิ่นหอม​ ปรุงรสด้วน้ำปลาตราปลาหมีกฝาเขียวให้ได้รสตามชอบ​ จากนั้นใส่พริกขี้หนูทุบและใบกระเพราที่เด็ดแล้วลงไป​ ให้เดือดสักครู่​ จึงปิดเตา​ แล้วบีบมะนาวลงไป​ (ไม่ควรใส่น้ำมะนาวขณะต้ม​ เพราะอาจทำให้น้ำซุปขมได้ค่ะ)​  เพียงเท่านี้ก็เสร็จ​พร้อมเสิร์ฟ​ง่ายมากๆค่ะ

***ปล… บางคนอาจจะต้มแค่ปลา​ทู​ แล้วค่อยนำมาปรุงเป็นถ้วยตอนจะรับประทาน​ก็ได้​ค่ะ จะเติมน้ำตาลเล็กน้อยเพิ่มรสชาติ​ก็ได้​ แต่กวางไม่ชอบทานหวานเลยไม่ใส่ค่ะ

เมนูที่​ 2

​
1.เส้นแก้ว​ 200​ กรัม
2.​หมูสับ 100​ กรัม
3.กุ้งแกะเปลือก​ 4​ ตัว
4.เห็ดหูหนู​ขาว+ดำ​ 200​ กรัม
5.คื่นช่าย
6.หอมหัวใหญ่​
7.​พริกแดง​ 4​ เม็ด​ (แล้วแต่ชอบ)​
8.มะนาว
9.น้ำตาลสารสกัด​จาก​หญ้าหวาน
10.ผลิตภัณ​ฑ์​น้ำปลาตรา​ปลาหมึก​ ขวดเหลือง​

1.ตั้งน้ำให้เดือด​ ลวกกุ้ง​พักไว้ ต่อด้วยลวกเห็ดหูหนู​ขาวและดำ​ และเส้นแก้วพักไว้​ (ปล.เส้นแก้วไม่ต้องลวดนานค่ะ)​

2.รวนหมูสับเตรียมไว้

3.ปรุงรสด้วย​ พริกโขลก​ น้ำมะนาว  น้ำตาลสารสกัด​จากหญ้าหวาน​ แล้วตามด้วยน้ำปลาตรา​ปลาหมึก​ ขวดเหลือง​ ชิมรสตามชอบ​

4.เติมส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้​ คือ​ หมูสับรวน​ กุ้งลวก​ เห็ดลวก​ เส้นแก้วลวก​ คลุกเคล้ากับน้ำยำให้เข้ากัน

5.จากนั้นเติมคื่นช่ายและหอมหัวใหญ่ที่หั่นไว้แล้ว​ ลงไปคนเบาๆ​ เป็นอันเสร็จ​ พร้อมเสิร์ฟ​ค่ะ

และนี่ก็คือ​ หน้าตาของทั้ง​ 2​ เมนู​ง่ายๆ​ แต่รสชาติ​อร่อย​ ด้วยส่วนผสมจากผลิตภัณฑ์​น้ำปลา​ตรา​ปลาหมึก​ นอกจากอร่อยแล้ว​ ยังสะอาดปลอดภัย​ ห่างไกลโควิดด้วยค่ะ

 
น้ำปลาตราปลาหมึกทั้งสองแบบ  2  สูตร  สามารถรังสรรค์​เมนูอาหารได้มากมาย ใครชอบรสชาติ​จัดจ้าดถึงใจก็ฝาเขียว ใครสายนัวกลมกล่อมหรือสายรักสุขภาพ​ก็ฝาเหลือง  ทำได้ทุกเมนู  และอร่อยแน่นอน   การันตีด้วยคุณภาพ​ที่เขาสั่งสมมาอย่างยาวนาน สำหรับบ้านกวางมีติดครัวไว้ ไม่ว่าสถานการณ์​ไหน ยากดี  มีจน ก็ไม่เคยขาดค่ะ

และสำหรับใครที่กำลังมองหาน้ำปลารสชาติ​ดีๆ​ กวางขอแนะนำ​ ผลิตภัณ​ฑ์​น้ำปลาตรา​ปลาหมึก​ เขามีจำหน่ายมากมายหลายช่องทาง​ ราคาย่อม​เยาว์​ หาซื้อง่ายมาก​ๆ ค่ะ

และยังมีหลายขนาดให้เลือก​ ดังนี้ค่ะ
ผลิตภัณ​ฑ์​น้ำปลาตรา​ปลาหมึก​ ฝาเขียว​
มี​ 3​ ขนาด​ คือ​ 280/500/700​ มิลลิกรัม.

ผลิตภัณฑ์​น้ำปลา​ตรา​ปลาหมึก​ ฝาเหลือง​
มี​ 2 ขนาด​ คือ​ 280/700​ มิลลิกรัม.

สุดท้ายนี้  ขอฝากเพื่อนๆ ไว้สักนิด โรคโควิด-19 ไม่มีอะไรดีเลยค่ะ​ สิ่งเดียวที่ดีคือ​ ทำให้เราได้ทานข้าวพร้อมหน้ากับคนในครอบครัวค่ะ​ อาหารอาจไม่เลิศหรู อาจเป็นอาหารบ้านๆ แต่การที่เราได้ทานอาหารอย่างมีความสุขกับครอบครัว คือสิ่งที่ดีที่สุด ถือว่าช่วงนี้พลิกวิกฤติ​เป็นโอกาส​ มองโลกในแง่ดี​ สักวันโรคนี้จะต้องหายไป​ แล้วเราจะกลับมามีความสุขกันอีกครั้งค่ะ​ กวางเชื่อแบบนั้นค่ะ

ใครที่กำลังท้อ กวางก็ขอเป็นกำลังใจ ขอให้เพื่อนๆทุกคน​ มีความสุขกับการทำอาหาร​ และขอให้ทุกคนปลอดภัย​จากโรคโควิด-19​ ทุกคนค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้ขอส่งเมนูแซ่บ ๆ ของคนแซ่บ ๆ เข้าประกวดค่ะ 555555 ที่สำคัญทำง่าย วัตุดิบน้อย ไม่ยุ่งยากค่ะ ทำกินคนเดียวก็ฟินค่ะ ก็คือเมนู กุ้งดองน้ำปลานั่นเอง ชื่ออาจจะดูธรรมดา แต่น้ำปลาของเราไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะเราใช้

น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว

น้ำปลาคุณภาพต้องน้ำปลาตราปลาหมึกน้ำปลาตราปลาหมึกมีรสชาติที่กลมกล่อม กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ เคล็ดลับในการปรุงอาหารแบบไทยๆ เราผลิตน้ำปลามาตรฐานคุณภาพเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า และมุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์น้ำปลาคุณภาพที่มีมาตรฐานสูงสุด

บอกแล้วว่าทำง่ายมากกกก แซ่บจนพริกหมดสวน ยิ่งทานกับผักสดแช่เย็นคือที่สุด “เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

ชื่อเมนู “ซี่โครงหมูเหลืองขมิ้น ทอดน้ำปลา จัดจ้านถึงใจ”

อาหารจะอร่อย ต้องอยู่ที่การคัดสรรคุณภาพของวัตถุดิบ ต้องสด สะอาด และมีคุณภาพดี พระเอกในเมนูนี้ เราขอยกให้ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรดั่งเดิม ฉลากสีเขียว ปรุงอาหารจานแซ่บได้อร่อยทุกจาน จัดจ้านถึงใจ

วัตถุดิบ
1. ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรดั่งเดิม ฉลากสีเขียว
2. ซี่โครงหมู
3. ขมิ้น
4. พริกไทขาว
5. กระเทียมไทย
6. ข้าวสาร

วิธีทำ
1. ล้างซี่โครงหมูให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. เตรียมครก เพื่อโขกกระเทียม พริกไทและขมิ้นให้ละเอียด
3. โขกข้าวสารไม่ต้องละเอียด ใช้แทนแป้ง เราใช้ข้าวหอมมะลิค่ะ
4. นำส่วนผสมทุกอย่างที่เราโขลกไว้ มาคลุกเคล้ากับซี่โครงหมู แล้วอย่าลืมใส่พระเอกของเราผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรดั่งเดิม ฉลากสีเขียวลงไป 4 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้นใส่ภาชนะปิดสนิทแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ อย่างน้อย 2 ชั่วโมงค่ะ แต่ของเราทิ้งไว้ข้ามคืนเลย

5. ตั้งกะทะ ใส่น้ำมันตั้งไฟให้ร้อน นำซี่โครงหมูลงทอด ใช้ไฟกลาง ทอดไปจนมีสีเหลืองทั้ง 2 ด้าน ค่อยปิดไฟ ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จัดลงจานพร้อมเสริฟ์

สำหรับเมนูนี้ ความคิดสร้างสรรค์น่าจะมาจากข้าวสารที่เราโขลกหยาบๆ แล้วมาคลุกที่ซี่โครงหมู ทำให้ได้สัมผัสที่กรุบๆกรอบๆ บวกกับรสชาตเค็มนัวๆ จากพระเอกของเราผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรดั่งเดิม ฉลากสีเขียว ทำให้ได้จานเด็ด อร่อย ทำง่าย บอกแล้วว่า “เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

วัตถุดิบ
1. ไข่ไก่ 3 ฟอง
2. แหนมหมูปริมาณตามชอบ
3. น้ำปลาตราปลาหมึก 2 ช้อนชา
4. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. หั่นแหนมให้เป็นลูกเต๋าขนาดตามชอบ
2. ตอกไข่ใส่ชาม ใส่แหนมหมูที่หั่นเตรียมไว้ลงไป
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลาตราปลาหมึกฉลากเหลืองเพิ่มความนัวกลมกล่อม ตีไข่ให้เข้ากัน
4. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เทไข่ที่ตีไว้ลงไป ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เห็นไหมคะ ”เมนูไหนก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บนัว” ง่ายๆเพียงเท่านี้ก็ได้เมนูแสนอร่อยกลมกล่อมจากน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก เพิ่มความแซ่บนัวไปอีกขั้นด้วยน้ำปลาพริก อร่อยจนต้องคดข้าวเพิ่มเลยล่ะค่ะ

☘1.มะละกอดิบ  1 ผล
☘2.แครอท 1 หัว
☘3.พริกสด  5 เม็ด / พริกแห้ง  5 เม็ด
☘4.กระเทียม 5 กลีบ
☘5.น้ำตาลมะพร้าว  1 ช้อน
☘6.มะเขือเทศ  2 ลูก
☘7.น้ำมะขามเปียก 1 ช้อน
☘8.มะนาว 1 ลูก
☘9.น้ำปลาตราปลาหมึก   2  ช้อน
☘10.น้ำปลาร้า   1  ช้อน
*ล้างผักให้สะอาดทุกครั้งก่อนนำมาประกอบอาหาร

สูตรเด็ด “ส้มตำสุดสะเดิด”  วิธีการทำ 5 ขั้นตอนง่ายๆเลย
🌼1.โขลกพริกสด พริกแห้ง กระเทียมให้พอละเอียด แล้วเติมน้ำตาลมะพร้าว โขลกต่อให้เข้ากัน
🌼2. หั่นมะเขือเทศใส่ลงไป และบีมน้ำมะนาวสด ใส่เปลือกมะนาวลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความหอม ใส่น้ำมะขามเปียก โขลกเบาๆเพื่อคลุกให้น้ำเข้ากัน
🌼3. ใส่น้ำปลาตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากสีเหลืองลงไป 2 ช้อน
น้ำปลาตราปลาหมึก ฉลากสีเหลือง
-มีปลากะตัก 70%
-ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น
-ไม่ใส่วัตถุกันเสีย
-ไม่มีน้ำตาล
-กลุ่มคีโตบริโภคได้
🌼4. เติมปลาร้า 1 ช้อน
🌼5. ใส่มะละกอและแครอทที่สับไว้ลงในครก จากนั้นก็ตำและคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรส เสร็จ

*ส้มตำสุดสะเดิดยั่วๆ รสชาติแซ่บนัวทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ ผักสด เส้นขนมจีน หรือจะจัดเป็นเครื่องตำถาดก็เข้ากันสุดๆ  🍗🍐🍋🥙🍍🍙🍽 ชวนน้ำลายไหลแล้ว ไปทานกันข้าวกันเลย 🌿🌸

หากยังไม่เห็นภาพ สามารถชมวิธีการทำตามคลิปด้านล่างได้ได้เลยค่ะ

แกงเผ็ดไก่ใส่ฟักทอง สับปะรด สตรอเบอรี่

ส่วนประกอบ
-อกไก่ 2 อก
-ฟักทองสดหั่น 200 กรัม
-สับปะรดภูเก็ต 200 กรัม
-สตรอเบอรี่ 5 ลูก (ใช้มะเขือเทศราชินีแทนได้)
-พริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
-กะทิสด 2 ถ้วย
-น้ำตาลทรายนิดหน่อย
-น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกฉลากเขียว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
(แทรก youtube แล้วคลิปไม่ขึ้น ขอแปะ link แทนนะครับ)
https://youtube.com/shorts/JJVwUyyfJAY?feature=share

1.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่พริกแกงลงผัดให้สุก-หอม
2.ใส่อกไก่หั่นลงไปผัด
3.ใส่น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกฉลากเขียว ผัดให้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่คุ้นเคยแทรกซึมเข้าไปในเนื้อไก่
4.ใส่ฟักทองลงไปผัด
5.ใส่กะทิสดลงไป เคี่ยวไฟกลางจนฟักทองเริ่มนิ่ม
6.ใส่สับปะรดและสตรอเบอรี่
7.ชิมรสตามชอบ

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

อันนี้อาจจะมีมีธีทำที่คล้ายๆ ปรับจากสูตรปกตินิดนะครับ

1.น้ำปลาตราปลาหมึกฉลากเขียวครับ ซื้อมา 2X บาท ใช้แค่ 50 มล.
2.ไข่สดอนามัย 10 ฟอง
3. น้ำตาลมะพร้าว 2/3ช้อนโต๊ะ
4. น้ำเปล่า 100 มล.
5. กระเทียม พริกตามชอบ
และเครื่องเคียงอื่นๆ
ุ6. ไข่กุ้ง
7.ข้าวก่ำ (หากินยาก ปนะโยชน์เยอะมาก)

วิธีทำ
1ตั้งน้ำ ใส่น้ำตาลและน้ำปลาผสมกัน จนเดือด แล้วพักไว้ให้เย็น

2. แยกไข่ขาว ไข่แดงออก เหลือรอดมา8ฟองครับ ที่ไม่แตก 555 (ไข่ขาวนำไปนึ่งเตรียมทำเครื่องเคียง)

3. หลังจากน้ำดองเย็นแล้วใส่ภาชนะไว้ครับ ที่มีฝาก็ดี

4. เตรียมพริกกระเทียมให้พร้อม

5. ค่อยๆ เทไข่ลงไปในน้ำดอง และตักน้ำดองราดทั่วๆได้เลยครับ ระวังอย่าให้ไข่แตก และ ใส่กระเทียมลงไปข้างๆครับ ทิ้งไว้ 12 ชม.

6. ตัดภาพมาตอนเช้านะครับ หุงข้าวก่ำ 1 ถ้วย น้ำ 1 ถ้วยนะครับ ข้าวก่ำจะเหนียวๆ หนุบๆ เหมือนอยู่ระหว่างข้างกล้อง และข้าวเหนียว คุณประโยชน์เยอะมากๆครับ

ึ7. เตรียมจานครับ วันนี้เราใช้จานจาก Maggi Studio จานสวยๆ จาก เซรามิกดีไซน์เนอร์ชื่อดังของเมืองไทย การที่จานสวยๆ รวมกับอาหารรสชาติดีๆ ทำให้ยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่เลยครับ :]

8. เริ่มจัดข้าวและเครื่องเคียงละครับ
เอาข้าวลงก่อนนะครับ จาดนั้นน้ำไข่ขาวนึ่ง ตัดลูกเต๋าวางรอบๆ วางกระเทียมดองรอง และไข่ดองตรงกลาง โปะด้วยไข่กุ้งฉ่ำๆ  


จากนั้นทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดแซ่บๆ ตามอัธยาศัยได้เลยครับ
อันนี้คือฟินสุดสำหรับ เมนู ข้าวก่ำดำไข่ดองทรงเครื่อง
ขอบคุณน้ำปลาตราปลาหมึกด้วยนะครับ  :]

ไก่บ้านต้มน้ำปลา ไก่บ้านนุ่มๆ เนื้อแน่นๆ รสชาติกลมกล่อม แซ่บ นัว หอมน้ำปลาแท้อย่างดี ไก่บ้านนิยมนำมาปรุงอาหารหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นไก่ใต้น้ำ ไก่ผัดกระเพรา แกงไก่ หรือจะเป็นไก่ต้มน้ำปลา วันนี้เสือหิวไปตลาดได้ไก่บ้านมา 1 ตัว ว่าแต่จะทำอะไรทานดีละ เข้าครัวเปิดหาวัตถุดิบที่มีในบ้านหันไปเห็นน้ำปลาตราปลาหมึกเลยคิดได้ว่าวันนี้เรามีน้ำปลาเลยจับสองอย่างมาบวกกันกลายเป็นเมนูไก่บ้านต้มน้ำปลา ทานคู่กับน้ำจิ้มรสชาติจัดจ้าน เผ็ด แซ่บจนลิ้นชา เนื้อไก่นุ่มๆ หอมเครื่องเทศ สมุนไพรหลากหลายต้มรวมกันในหม้อ เมนูไก่ต้มน้ำปลาเคล็ดลับไม่ยากเลย ความอร่อยอยู่ที่น้ำปลา วันนี้เราใส่น้ำปลา 1 ขวด รสชาติไม่เค็มอย่างที่เราคิด รสชาติที่ได้มีแต่ความแซ่บ ความนัว ความหอมจากน้ำปลาแท้ ผสมกับเครื่องสมุนไพรไทย ผสมผสานด้วยน้ำปลาแท้แทรกซึมเข้าที่เนื้อไก่ เราใช้เวลาต้มประมาณ 60 นาที ต้มจนเนื้อไก่นุ่มแต่ไม่เละ ผิวขาวเหลืองสวย หนังไม่ถลอก หอมละมุนด้วยกลิ่นของน้ำปลาได้อรรถรสในการทาน ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ร้านอาหารหลายร้านไม่สามารถนั่งทานได้ เมนูนี้เหมาะเลยจ้ะ เสือหิวอยากชวนเพื่อนๆ เขาครัวทำอาหารทานกันเองที่บ้าน เสือหิวมีเมนูแนะนำที่ฟังดูแล้วแอบคิดในใจเราจะทำได้ไหม เสือหิวอยากให้เพื่อนๆ ลองเปิดช่องยูทูปของเสือหิวแล้วทำตามกันไม่อยากอย่างที่คิด ว่าแล้วเรามาเริ่มกันที่เมนูนี้เลยจ้ะ ไก่ต้มน้ำปลา วัตถุดิบหลักพระเอกของเราคือน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก วันนี้เราเลือกใช้สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง ส่วนพระรองของเราที่จะทานคู่กับไก่บ้านตัวอวบ ๆ ขาว ๆ นั้นก็คือน้ำจิ้มซีฟู๊ด ที่รสชาติจัดจ้านเราเลือกใช้น้ำปลาตราปลาหมึก สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว เพิ่มความจัดจ้าน ถึงใจ ได้เป็นอย่างดี เราไปดู ส่วนผสมและวิธีการทำกันเลยจ้า…  

ส่วนผสมไก่ต้มน้ำปลา แบบต้มทั้งตัว
ใบเตย  30 กรัม
ตะไคร้  50 กรัม
ใบมะกรูด  10-15 ใบ
ข่าแก่      20 กรัม
หอมแดง  90 กรัม
ขมิ้น  20 กรัม
กระเทียมจีน  90 กรัม
รากผักชี  4 ราก
ไก่บ้าน  1 กิโลกรัม (พวงไข่และเครื่องในเราซื้อมา 1 ถุงในราคา 50 บาท)
น้ำตาลปี๊บ  1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช  1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น  ครึ่งช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด  2 ลิตร
น้ำปลาแท้ ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง  1 ขวด (700 มิลลิลิตร)

ส่วนผสมน้ำจิ้มทานคู่กับไก่บ้านต้มน้ำปลา
ผักชี  10 กรัม
มะนาว  5 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนเม็ดใหญ่  10-15 เม็ด
กระเทียมไทย  10 กรัม
พริกจินดาสีแดง  10-15 เม็ด
น้ำอุ่น      ครึ่งแก้ว
น้ำปลาแท้ ตราปลาหมึก สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว  4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ        1 ช้อนโต๊ะ

วิธีและขั้นตอนการทำไก่ต้มน้ำปลาอย่างละเอียดสามารถอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ
1. เริ่มต้นล้างทำความสะอาดไก่บ้านใช้เกลือป่นทาให้ทั่วตัวไก่เพื่อเป็นการลดกลิ่นสาบของไก่ และเตรียมวัตถุดิบให้เรียบร้อย
2. นำขมิ้น 1 หัวมาโขลกให้พอหยาบและใส่น้ำมันพืชลงไปทาให้ทั่วตัวไก่บ้าน (น้ำมันจะช่วยเคลือบทำให้ผิวไก่มีความเงาน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น) เราแบ่งสมุนไพรบางส่วนยัดไส้ที่ท้องไก่ หอมแดง กระเทียมจีน ข่าหั่นแว่น ใบมะกรูด ตะไคร้ แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที



3. ตั้งน้ำให้เดือด จากนั้นลดไฟลงเป็นไฟกลาง นำใบเตยมามัดรวมกัน ใส่เครื่องปรุงและสมุนไพรลงไป เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ หอมแดง กระเทียม รากผักชี ใบมะกรูด ข่าหั่นแว่น ตะไคร้ ขมิ้น และใบเตย พระเอกมาแล้วใส่น้ำปลาแท้ ตราปลาหมึก ฉลากเหลือง 1 ขวด เสร็จแล้วค่อยๆใส่ไก่บ้านลงในหม้อ (ห้ามใช้ไฟแรงนะจ้ะ เพราะจะทำให้น้ำเดือดจัดในตอนที่เราใส่ไก่ลงไปต้มหนังไก่จะถลอกไม่น่ารับประทาน) เติมน้ำให้ท่วมตัวไก่



4. ต้มต่อให้ครบ 20 นาที แล้วทำการกลับไก่ให้โดนความร้อนกันทั่วทั้งตัวและสีผิวของไก่จะมีความเหลืองสม่ำเสมอกัน ถ้ามีฟองลอยขึ้นมาก็ให้ช้อนฟองออกได้เรื่อยๆ
5. ต้มต่ออีก 20 นาที เช่นเดิมทำการกลับไก่ให้โดนความร้อนกันทั่วทั้งตัวและสีผิวของไก่จะมีความเหลืองสม่ำเสมอกัน
6. ตามต่อด้วยใส่พวงไข่ และเครื่องในลงไปต้มให้ทุกอย่างสุกใช้เวลา 20 นาที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ตักขึ้นพร้อมเสริฟคู่กับน้ำจิ้มรสชาติเผ็ดจัดจ้าน

7. เรามาลงมือทำน้ำจิ้มทานคู่กับไก่บ้านต้มน้ำปลากันจ้ะ ผักชี พริกจินดาสีแดง พริกขี้หนูสวนเม็ดใหญ่สีเขียว กระเทียม และน้ำอุ่น น้ำตาลปี๊บ ปั่นทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด จากนั้นนำมาปรุงรสชาติต่อในถ้วย น้ำมะนาว และน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ปลาหมึกเขียว เสร็จเรียบร้อยแล้วตักใส่ถ้วย

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากดูสูตรและวิธีการทำอย่างละเอียดในแบบคลิปวีดีโอ ดูได้ที่นี่เลยค่ะ

เสร็จเรียบร้อยแล้วจ้ะ ไก่บ้านต้มน้ำปลา รสชาติแช่บ นัว ละมุนลิ้น ไม่ยากอย่างที่คิดเป็นเมนูอาหารที่เพื่อนๆ ก็สามารถทำตามกันได้ และที่สำคัญวัตถุดิบก็หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ล้วนเป็นวัตถุดิบที่ทุกบ้านจะต้องมีติดครัวกัน สูตรนี้ทำทานเองก็อร่อย ทำขายก็ได้ เพื่อนๆ ก็ลองปรับวัตถุดิบได้ตามชอบเลยค่ะ เคล็ดลับของไก่ต้มน้ำปลาอยู่ที่น้ำปลาจ้า ไก่ 1 ตัว น้ำปลาต้องถึง วันนี้เสือหิวใส่น้ำปลา 1 ขวด รสชาติที่ออกมาไม่เค็มเลยค่ะ รสชาติของเนื้อไก่บ้านกลมกล่อมลงตัว รวมๆแล้วมีเสน่ห์น่ารับประทานมากเลยค่ะ การทำอาหารไม่มีสูตรตายตัวเพื่อนๆ สามารถเลือกใช้วัตถุดิบได้ตามที่เราชอบหรือตามสิ่งที่เรามี ดัดแปลงกันไป แค่เราทำอาหารแล้วคนในครอบครัวทานได้อร่อยก็มีความสุขแล้วจ้ะ ปิดท้ายความอร่อยลงตัวด้วย

พริกน้ำปลา เมนูนี้จริงๆผมว่ามันเป็นตัวประสาน ตัวเชื่อม ของอาหารไทยได้เป็นอย่างดี นับเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณที่ถือว่า “เด็ด” เมนูนี้จะทานคลุกข้าวเดี่ยวๆ ยามไม่มีอะไรจะกินก็ทำให้อิ่มท้องไปได้หลายมื้อ จะลองคลุกข้าวทานกับไข่ต้ม โดยเฉพาะไข่ต้มแบบยางมะตูม นี่ก็สุด หรืออาจจะลองทานกับไข่เจียว (แทนซอสพริก ซอสมะเขือเทศ) ไข่ดาวกรอบๆ (ใช้แทนซอสปรุงรส) ก็อร่อยไปอีกแบบ มากไปกว่านั้น เมนูนี้จะทานกับอาหารประเภทแกง ประเภทต้ม ประเภทผัด ประเภททอด จะอะไรก็ตามแต่ มันจะทำให้อาหารมื้อนั้นของคุณ “พิเศษ” กว่าทุกมื้อ รสดีกว่าทุกครั้ง เพียงแค่ตักกับข้าวมาราดข้าว และตามด้วยพริกน้ำปลาตำรับนี้ แหมะ!! “ขอข้าวอีกจานได้ไหม?”

มาเริ่มทำกันเลยดีกว่า ดูวัตถุดิบกันก่อนนะครับ
1.    พระเอกของเรา คือน้ำปลา ผมเลือกใช้น้ำปลาแท้อย่างดีตราปลาหมึกฝาเขียว (แอบบอกนะเนี่ย ปกติเค้าไม่บอกกันหรอกว่าน้ำปลาอะไรดี) เพราะมันมีความหอม ความเค็มที่พอเหมาะ
2.    พริก ขอเป็นพริกขี้หนูสวน จะเป็นพริกแดง เขียว หรือเหลือง ก็แล้วแต่ เม็ดใหญ่ เม็ดเล็กก็ตามชอบ
3.    กุ้งแห้งเนื้อ ขอตัวโตๆ หน่อย เอาแบบที่รสพอดีนะ แช่น้ำจนนิ่ม
4.    น้ำตาลทราย จะทรายขาว ทรายแดง สุดแท้แต่ ขอให้เป็นน้ำตาลทรายก็พอ
5.    มะนาวแป้น ย้ำนะว่ามะนาวแป้น เพราะมันมีความหอมไม่เหมือนใคร
6.    กระเทียม ขอเป็นกระเทียมไทย ปอกเปลือกให้เรียบร้อย  
7.    หอมแดง ขอหอมไทยนะ มันจะใช่

แค่นี้ครับ 7 อย่างเอง และทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้หายากที่ไหน เป็นของที่มีติดครัว ติดบ้านอยู่แล้ว มาเริ่มทำกันเลยนะครับ
1.    ก่อนอื่นซอยพริกขี้หนูให้ละเอียด ตามชอบ และซอยกระเทียม หอมแดง ให้บางๆ เป็นแว่น
2.    เทน้ำปลาใส่ถ้วยผสม ที่มีเครื่องซอยตามข้อ 1 ตามชอบ
3.    ใส่น้ำตาลทราย ผมไม่ได้ใส่ให้มันหวานนะ ใส่ให้มันนัวร์ มันจะช่วยให้น้ำปลาเราเค็มแบบกลมกล่อม และคนจนน้ำตาลละลาย การคนจนน้ำตาลละลายจะทำให้ความเผ็ดของพริก หอม กระเทียมออกมาด้วยเช่นกัน และน้ำปลาจะซึมเข้าเนื้อ
4.    จากนั้นนำกุ้งแห้ง (ที่แช่น้ำจนนิ่ม) ใส่ไปในน้ำปลาที่เราเตรียมไว้ในถ้วยผสม
5.    บีบมะนาวหน่อย อันนี้ก็ไม่ได้บีบเพื่อให้รสเปรี้ยวนะ บีบพอตัดรส แล้วก็คนๆให้เข้ากันป็นอันเสร็จ
6.    ชิมรสชาติสักหน่อย เอาที่เราชอบ แต่อย่าลืมนะ รสหวานกับเปรี้ยว ต้องไม่ออกมากนัก ถ้าออกมากจะกลายเป็นรสชาติน้ำยำเสียก่อน รสที่ควรจะเป็นคือ เค็ม เผ็ด แบบนัวร์ๆ
7.    ตักเสิร์ฟ ได้เลยครับ

เคล็ดไม่ลับ พริกน้ำปลาสูตรนี้ ควรทานให้หมดในครั้งเดียว เพราะมันมีกุ้งแห้ง ไว้นานไม่ได้ เดี๋ยวจะเสีย ส่วนตัวแนะนำให้ทำใหม่ทุกครั้งต่อมื้อ จะดีที่สุด และที่สำคัญ น้ำปลาเนี่ย ต้องตราปลาหมึกนะ เพราะ “เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

เมนูนี้…คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก…ต้มจืดวุ้นเส้นเต้าหู้หมูสับ…

วิธีทำ
1. ผสมหมูสับ กระเทียม รากผักชีสับละเอียด พริกไทยป่น ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก คลุกเคล้าพอเข้ากัน
2. ต้มน้ำเปล่า  พอเดือด ปั้นหมูสับที่หมักไว้เป็นก้อนกลมลงต้มพอสุก ใส่เกลือป่น คอยช้อนฟองออก
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก คนให้เข้ากัน ใส่ผักกาดขาว วุ้นเส้น ใส่เต้าหู้ไข่ โรยด้วยต้นหอม ผักชี
4. ตักใส่ชามโรยด้วยพริกไทย

เสร็จพร้อมทาน ค่ะ

เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว
ขออนุญาตแนะนำคลิปค่าาา วิธีทำอยู่ในนี้เลยค่ะ

         ห่อหมกหมูสับ และน้ำปลาพริก เป็นเมนูอร่อยเด็ดประจำตัวของผมครับ มีวิธีทำที่ง่าย ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก ใช้วัตถุดิบและอุปกรณ์ไม่มาก ค่าวัตถุดิบและเครื่องปรุงไม่แพง อยู่หอพักหรือคอนโดก็ทำได้
         ห่อหมกหมูสับ เป็นเมนูสุขภาพ เพราะใช้วิธีการนึ่ง สามารถเลือกใช้เนื้อหมูที่ไม่มีไขมันได้ และใช้สมุนไพรไทยเป็นเครื่องปรุงหลากหลายชนิด
         ห่อหมกหมูสับ และน้ำปลาพริก เป็นอาหารที่อุดมด้วยคุณประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน มีสรรพคุณทางยาจากสมุนไพร ที่สำคัญคืออร่อย รสชาติแซ่บจัดจ้าน นัวได้ใจ เพราะผมใช้ไอเท็มพิเศษที่อยู่คู่ครัวบ้านผมมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กน้อย ซึ่งก็คือผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ที่ช่วยปรุงให้อาหารทุกจานมีรสชาติเข้มข้นจัดจ้านหอมอร่อยยิ่งขึ้น โดยเมนูห่อหมกหมูสับ และน้ำปลาพริก ของผม มีผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ฉลากเขียว และ สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง เป็นเครื่องปรุงรสหลัก หากขาดน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกไป ก็เหมือนกับขาดพระเอกที่จะช่วยชูรสชาติของอาหาร ทำให้อรรถรสในการรับประทานอาหารขาดหายไป ดังนั้นถ้าหากขาดน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทั้ง 2 สูตร นี้ เมนูอาหารของผมก็จะไม่อร่อย และไม่สมบูรณ์ครับ
         ผมขอแชร์สูตรการทำ ห่อหมกหมูสับ และน้ำปลาพริก โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน นะครับ โดยจะเริ่มจากอธิบายวิธีการทำ ห่อหมกหมูสับ ก่อน
จากนั้นจะอธิบายวิธีการทำ น้ำปลาพริก ในลำดับต่อไปครับ

ชื่อเมนู: ห่อหมกหมูสับ (ปรุงรสด้วยน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ฉลากเขียว)

วิธีทำ
1) ล้างผักต่าง ๆ ให้สะอาด แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ, 2) ซอยกะหล่ำปลี ซอยใบมะกรูด ซอยพริกแดงจินดา เอาเม็ดพริกออก และแกะสลักพริกเป็นดอกไม้ไว้สำหรับแต่งจาน, 3) ซอยขมิ้น ตะไคร้ ใส่ครก โขลกให้ละเอียด, 4) จากนั้นปอกหอมแดง กระเทียม ใส่ครก โขลกให้ละเอียด
5) จากนั้นเด็ดพริกใส่ครก โรยเกลือเล็กน้อย โขลกให้ละเอียด, 6) โขลกทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด จนได้พริกแกงเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วตักพริกแกงใส่ถ้วยพักไว้, 7) เติมน้ำเปล่าสะอาดลงครกเล็กน้อย เพื่อล้างครก เทน้ำล้างครกใส่ถ้วยเก็บไว้ เพื่อใช้ปรุงอาหารต่อไป
         หมายเหตุ: ถึงแม้เราจะซื้อพริกแกงสำเร็จรูปมาแล้ว แต่ยังขาดความหอมและความเข้มข้นจากสมุนไพรไทย ดังนั้นที่บ้านผมจึงตำพริกแกงเพิ่มตลอด หากใครไม่สะดวกที่จะตำพริกแกงเอง ก็สามารถใช้พริกแกงสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียวก็ได้ครับ ให้ข้ามขั้นตอนตำพริกแกง ข้อ 3-7 ไปได้เลย
         *เกร็ดความรู้ : ขมิ้นชัน ตะไคร้ พริก หอมแดง กระเทียม ใบมะกรูด มะนาว และกะทิ ล้วนเป็นสมุนไพรไทยและเป็นเครื่องปรุงที่มีประโยชน์และมีสรรพคุณทางยา ยกตัวอย่างเช่น ขมิ้น พริก หอมแดง ใบมะกรูด มะนาว กะทิ มีสรรพคุณในการต้านเชื้อไวรัสและช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ทำให้ เมนู “ห่อหมกหมูสับ” นี้ เหมาะกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในปัจจุบันมาก ๆ

8) เตรียมเครื่องปรุงทุกอย่างสำหรับทำห่อหมกไว้ให้พร้อม (ดูตามรูปที่ 3)

9) ตักพริกแกงที่โขลกเตรียมไว้แล้วลงในอ่างผสม, 10) เติมพริกแกงเผ็ดลงในอ่างผสม, 11) เติมน้ำตาลลงในอ่างผสม, 12) เติมน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ฉลากเขียว ลงในอ่างผสม, 13) เติมกะทิลงในอ่างผสม, 14) เติมน้ำล้างครกลงในอ่างผสม, 15) ตอกไข่ไก่ใส่ลงไปในอ่างผสม, 16) คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน, 17) เติมหมูสับหรือหมูบดลงในอ่างผสม แล้วคนผสมให้เข้ากัน, 18) เติมแป้งข้าวโพดลงในอ่างผสม แล้วคนผสมให้เข้ากัน, 19) ตักส่วนผสมสักเล็กน้อยใส่ถ้วย แล้วนำไปเข้าไมโครเวฟ (ใช้ไฟกลาง กำลังไฟ 800 วัต ประมาณ 30 วินาที) จากนั้นชิมรสชาติ สามารถปรุงรสเพิ่มตามชอบได้, 20) เมื่อปรุงรสชาติตามชอบแล้ว เติมใบมะกรูดซอยลงไปในอ่างผสม, 21) คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้ววางพักไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ส่วนผสมห่อหมกขึ้นฟู (ในระหว่างนี้ สามารถพับกระทงสำหรับไว้ใส่ห่อหมก และตั้งลังถึงใส่น้ำให้เดือดรอไว้ได้เลย)

22) พับฟอยล์ห่ออาหารเป็นรูปกระทงสำหรับใส่ห่อหมกที่จะนำไปนึ่ง (หากใครมีใบตอง ก็สามารถใช้ใบตองทำกระทงแทนได้นะครับ เมื่อนำไปนึ่ง กระทงใบตองจะช่วยทำให้ห่อหมกมีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น), 23) เติมกะกล่ำปลีซอยลงไปรองที่ก้นกระทง, 24) เติมส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงในกระทงที่รองผักไว้ แล้วนำไปวางบนลังถึง, 25) นึ่งห่อหมก (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที), 26) นึ่งห่อหมกไปได้ประมาณ 15 นาที ให้ใช้ส้อมจิ้มห่อหมกเพื่อตรวจดูความสุก ถ้าห่อหมกยังไม่สุก จะมีเนื้อห่อหมกติดส้อมขึ้นมา และห่อหมกจะยังดูเปียกอยู่, 27) เมื่อห่อหมกสุกแล้ว ก็ยกลงจากลังถึงพักไว้
28) ตกแต่งหน้าห่อหมกด้วยพริกแดงจินดาที่เตรียมไว้ หากใครอยากทำกะทิราดหน้าเพิ่ม ก็สามารถทำได้โดยใช้กะทิ 50 มิลลิลิตร (ประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ) ตั้งไฟ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย พอกะทิเดือด ให้ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป คนไปเรื่อย ๆ จนกะทิข้น แล้วยกขึ้นจากเตาพักไว้ แต่ผมไม่ค่อยอยากแนะนำให้ทำกะทิราดหน้าจากกะทิกล่อง อยากแนะนำให้ทำจากหัวกะทิคั้นสดใหม่จะดีกว่า เพราะมีความหอมมันละมุนลิ้นมากกว่ากะทิกล่องครับ

         เมื่อเราทำห่อหมกเสร็จแล้ว ลำดับต่อไปเราก็มาทำเมนู น้ำปลาพริก ไว้กินแกล้มกับห่อหมกหมูสับของเรา เผื่อต้องการรสชาติที่เข้มข้น แซ่บเผ็ดร้อนยิ่งขึ้น วิธีการทำก็ง่าย ๆ ใช้เวลาทำเสร็จอย่างรวดเร็ว และเก็บไว้รับประทานได้หลายวัน โดยมีวิธีทำ ดังต่อไปนี้

ชื่อเมนู: น้ำปลาพริก (ปรุงรสด้วยน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง)
วิธีทำ
1) ซอยพริกกับกระเทียมปริมาณตามชอบ จากนั้นเรียงกระเทียมกับพริกลงในถ้วย หรือภาชนะที่มีฝาปิด, 2) บีบน้ำมะนาวลงบนพริกกับกระเทียมก่อน เพื่อไม่ให้พริกกับกระเทียมดำ, 3) เติมน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง, 4) เก็บน้ำปลาพริกในภาชนะที่มีฝาปิด สามารถแช่ไว้ในตู้เย็น เก็บไว้รับประทานได้หลายวัน

         เมนู ห่อหมกหมูสับ และน้ำปลาพริก ของผม อร่อยเด็ดได้ ก็เพราะปรุงรสด้วยผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ฉลากเขียว จัดจ้านถึงใจ และ สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง นัวได้ใจ
         ไม่ใช่มีเพียงแค่ 2 เมนูนี้เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลากหลายเมนู ที่อร่อยได้ด้วยน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ดังคำกล่าวที่ว่า “เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว” ครับ

         ผมมีความประทับใจต่อผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก และอยากขอเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ดังต่อไปนี้
         น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกมีกลิ่นหอมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รสชาติอร่อยกลมกล่อม ปัจจุบันได้มีการออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นพลาสติกใส ไม่แตกง่าย น้ำหนักเบา ถือได้ถนัด จับได้เหมาะมือ ฉลากมีรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น มีแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ชัดเจน บนฝามีบอกวันหมดอายุชัดเจน ไม่ต้องมองหารอบขวด หรือตะแคงก้นขวดมองหา ฝาขวดเปิดง่าย ปิดได้สนิท ผมประทับใจตรงฝาด้านในมีจุกแบบก้านยาว และฝาครอบแบบ grip-cap ที่เวลาพอปิดฝาขวดทำให้ปิดสนิท อากาศไม่เข้า ช่วยลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ช่วยให้น้ำปลาไม่เปลี่ยนเป็นสีเข้มเร็วจนเกินไป และช่วยให้น้ำปลาไม่หกออกมาค้างที่ฝาขวด ทำให้ไม่ว่าจะวางขวด ล้ม กลิ้ง ตะแคง เอียงท่าไหน น้ำปลาก็ไม่หกออกมา แสดงถึงความละเอียดและใส่ใจในการออกแบบ คำนึงถึงการใช้งานของผู้บริโภค
          เรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมประทับใจ น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก เป็นน้ำปลาที่ดี สะอาด ถูกหลักอนามัย มี อย. และฮาลาลรับรอง น้ำปลามีสีน้ำตาลอมแดง ใส ไม่มีตะกอน มีกลิ่นหอมและความเค็มตามธรรมชาติ การผลิตได้มาตฐาน ผลิตจากปลากระตักแท้ ๆ ใช้เกลือไอโอดีนหมักด้วยวิธีธรรมชาติ สะอาด ปลอดเชื้อ ไร้การสัมผัสตลอดการหมัก มีขั้นตอนการกรองน้ำปลามากถึง 5 ชั้น ใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัยในการบรรจุผลิตภัณฑ์ สะอาด ปลอดภัย ปราศจากการปนเปื้อน ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ผสมไอโอดีน ใช้สตรีวิออลไกลโคไซต์เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล ไม่มีส่วนผสมของซัคคาริน ปราศจากกลูเตน (gluten free) โรงงานผลิตก็เป็น gluten-free facility ด้วยเช่นกัน ในระบบการผลิตและทุกผลิตภัณฑ์ของน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ไม่มีอาหารที่เป็นสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น นม ไข่ สัตว์น้ำมีเปลือก ธัญพืช ถั่ว (nuts) ชนิดต่าง ๆ ถั่วลิสง และถั่วเหลือง จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีสารพิษสารปนเปื้อน หรือสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ ทำให้บริโภคได้อย่างสบายใจ
         อีกเรื่องที่ประทับใจ คือ ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก มีราคาสมเหตุสมผล ราคาไม่แพง คุณภาพคุ้มราคา หรือคุณภาพอาจจะคุ้มเกินราคาด้วยซ้ำ คนงานค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท สามารถหาซื้อมาบริโภคในครอบครัวได้นานเป็นเดือน ๆ โดยที่ไม่ค่อยเดือดร้อนหรือกระทบกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากนัก
         นอกจากนี้ผมยังรู้สึกชื่นชมต่อการใส่ใจและความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค คือ ในกรณีที่น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกอาจเกิดการตกตะกอนโปรตีน (protein precipitation) ได้ ตามธรรมชาติ (แต่ไม่ได้มีผลเสียต่อคุณภาพหรือก่อให้เกิดการเน่าเสียใด ๆ ในน้ำปลา) ผู้บริโภครู้สึกกังวลไม่พอใจ สามารถติดต่อขอคืน/แลกเปลี่ยนสินค้าได้โดยตรงกับทางบริษัท
          ท้ายนี้ผมขอเสนอแนะต่อ บริษัท โรงงานน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จำกัด ดังนี้
(1) ผมอยากขอเสนอให้ทางบริษัท โปรดพิจารณาการออกผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก แบบโซเดียมต่ำ (low-sodium) เพื่อเป็นทางเลือกสุขภาพ เพราะผู้สูงอายุจะมีการเสื่อมของประสาทรับรสที่ลิ้น ทำให้เวลาปรุงรส ต้องใช้น้ำปลาในปริมาณที่มาก ๆ ชิมรสเท่าไหร่ก็รู้สึกว่ายังไม่เค็ม ไม่นัว ปรุงรสทีใช้น้ำปลาเป็นครึ่งขวด ดังนั้นจึงขอเสนอให้ทางบริษัทออกผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก แบบโซเดียมต่ำ (low-sodium) เพื่อผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรคไต เป็นต้น และเพื่อเป็นทางเลือกสุขภาพสำหรับคนสุขภาพปกติครับ                                    
(2) ผมอยากขอเสนอแนะให้ทางบริษัทออกผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก แบบขวดเล็ก ขนาดประมาณ 75 -100 มิลลิลิตร เพื่อการใช้งานในปริมาณที่ไม่มาก เพื่อการพกพาได้สะดวก และเพื่อง่ายต่อการนำติดตัวเดินทางไปด้วย
         หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง บริษัท โรงงานน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จำกัด จะรับข้อเสนอแนะไปพิจารณานะครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย ข้าน้อยมีสูตรเมนูประจำตัวเด็ด ๆ แซ่บคัก ๆ แซ่บอีหลี มาแชร์  

เมนูมีชื่อว่า อกไก่นุ่มราดน้ำปลา และน้ำจิ้มซีฟู้ด

รู้หรือเปล่าว่าทำไม เมนู “อกไก่นุ่มราดน้ำปลา” ถึงอร่อย?   ทำไมรสชาติ จัดจ้านถึงใจ?

เมนู “น้ำจิ้มซีฟู้ด” ทำไมถึงรสชาติกลมกล่อม แซ่บ นัวได้ใจ?

อยากรู้กันหรือเปล่าว่าข้าน้อยมีเคล็ดลับอะไร?

ไม่หวงสูตรเหรอ?

ไม่หวงสูตรหรอก ของดีของแซ่บต้องแบ่งปันกัน

เคล็ดลับความอร่อยก็คือ เมนู “อกไก่นุ่มราดน้ำปลา” ใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ฉลากเขียว

ส่วนเมนู “น้ำจิ้มซีฟู้ด” ใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง

หืม…. อะไรนะ? แค่ใช้น้ำปลาก็อร่อยแล้วเหรอ?

ก็ใช่น่ะสิ ใช้แค่น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก แค่นั้นก็อร่อยแล้ว ไม่โกหกหรอก

ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก มีอะไรดีงั้นเหรอ?

งั้นตั้งใจฟังดี ๆ นะ

– น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก เป็นน้ำปลาดี มีสีน้ำตาลอมแดง ใส ไม่มีตะกอน มีรสชาติที่กลมกล่อม มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์

– เป็นผลิตภัณฑ์น้ำปลาคุณภาพที่มีมาตรฐาน สะอาด ถูกหลักอนามัย

– ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคกว่าครึ่งศตวรรษว่าน้ำปลาแท้ “ตราปลาหมึก” คือน้ำปลาแท้คู่ครัวไทยที่สามารถครองใจคนไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก

– น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ฉลากเขียว มีปลากะตัก 75% หมักนานถึง 18 เดือน มีโปรตีนจากปลาทะเล มีรสชาติเข้มข้นของนํ้าปลาแท้ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ปราศจากกลูเตน

– น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง มีปลากะตัก 70% หมักนาน 12 เดือน ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่มีน้ำตาล กลุ่มคีโตบริโภคได้ และปราศจากกลูเตน

ทีนี้รู้ยัง ว่าทำไมแค่ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกปรุงอาหารก็อร่อยแล้ว

ไม่เชื่อเหรอ?   งั้นต้องลองปรุง แล้วลองชิมดู รับรองจะติดใจ!

มา ๆ มาเริ่มทำเมนู “อกไก่นุ่มราดน้ำปลา” กันก่อนเลย

มีวิธีทำง่ายมาก ๆ ใช้วัตถุดิบเพียง 1 อย่าง กับเครื่องปรุงแค่ 3 อย่าง

เมนู “อกไก่นุ่มราดน้ำปลา”

วัตถุดิบ
– อกไก่นุ่ม    
(สามารถหาซื้ออกไก่นุ่มพร้อมปรุง จากร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ได้เลย สะดวกมาก ๆ มีหลายแบบให้เลือกด้วยนะ ข้าน้อยชอบเลือกใช้อกไก่นุ่มกระเทียมพริกไทยมาทำเมนูนี้ เพราะไม่ต้องเสียเวลามาโขลกกระเทียมพริกไทยหมักไก่เอง ซื้อแบบพร้อมปรุงมาเลย สะดวก ง่ายดี และอกไก่นุ่มที่ข้าน้อยเลือกใช้เป็นแบบให้พลังงานน้อย โปรตีนสูง ไขมันต่ำ ราคาไม่แพง กินแล้วดีต่อใจ รู้สึกไม่อ้วน ได้สุขภาพด้วย)

เครื่องปรุง
– น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ฉลากเขียว          1/3       ถ้วย
– น้ำตาลทราย                                                             1/3       ถ้วย
– น้ำเปล่า                                                                    1/3       ถ้วย

อุปกรณ์   (ใช้สำหรับปรุงทั้ง 2 เมนู: อกไก่นุ่มราดน้ำปลา และน้ำจิ้มซีฟู้ด)
– กระทะเอนกประสงค์แบบนอนสติ๊ก                       – มีด
– ตะหลิว                                                             – เขียง
– ที่คีบอาหาร                                                       – ถ้วย
– ครก                                                                 – จาน
– ไม้ตีพริก (สาก)                                                  – ช้อน

วิธีทำ

(1) จี่อกไก่นุ่มบนกระทะนอนสติ๊ก/กระทะเทฟล่อน ถ้าอกไก่นุ่มติดกระทะให้หยอดน้ำมันพืช (เช่น น้ำมันดอกคาโนล่า, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันรำข้าว จะได้คุณค่าทางโภชนาการยิ่งขึ้น) ลงไปเล็กน้อย จี่กลับด้านไปมาจนอกไก่นุ่มสุก ขึ้นสีสวย

(2) เมื่ออกไก่นุ่มสุกและขี้นสีสวยตามต้องการแล้ว ตักใส่จานพักไว้

(3) ทำน้ำปลาสำหรับราดอกไก่นุ่ม โดยผสมน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ฉลากเขียว  น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า อย่างละ 1/3 ถ้วย ลงไปเคี่ยวในกระทะด้วยไฟอ่อน

(4) เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลาย และส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน

(5) เมื่อน้ำปลาสำหรับราดอกไก่นุ่มเดือดเป็นฟองใหญ่ หนา ๆ ฟู ๆ (ดูตามรูปด้านล่าง) ให้ปิดไฟ แล้วตักใส่ถ้วยพักไว้ เมื่อทิ้งไว้สักพัก น้ำปลาที่เคี่ยวไว้จะมีความเหนียวข้นเพิ่มขึ้น

(6) นำน้ำปลาที่เคี่ยวเสร็จแล้ว มาราดลงบนอกไก่นุ่มที่จี่เตรียมไว้แล้ว ตักใส่จานพร้อมรับประทาน

เมื่อทำ เมนู “อกไก่นุ่มราดน้ำปลา” เสร็จแล้ว ก็มาทำ เมนู “น้ำจิ้มซีฟู้ด” กันต่อเลย

เมนู “น้ำจิ้มซีฟู้ด”

วัตถุดิบ
– รากผักชี     (ตามชอบ)
– พริก          (ตามชอบ)
– กระเทียม    (ตามชอบ)

เครื่องปรุง
– น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง     1/4   ถ้วย
– น้ำตาลทราย                                                        1/4   ถ้วย
– น้ำมะนาว                                                            1/4   ถ้วย

วิธีทำ

(1) โขลกรากผักชี พริก กระเทียม พอแหลก

(2) เติมน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง  น้ำตาลทราย น้ำมะนาว อย่างละ 1/4 ถ้วย คนผสมกับรากผักชี พริก กระเทียม ที่โขลกไว้

(3) ชิมและปรุงรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย นำไปรับประทานกับ เมนู “อกไก่นุ่มราดน้ำปลา”

อร่อยใช่มะล่ะ!!!  

เมนู “อกไก่นุ่มราดน้ำปลา” หอม อร่อย รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน ด้วยน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ฉลากเขียว

เมนู “น้ำจิ้มซีฟู้ด” รสแซ่บ นัวได้ใจ ด้วยน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง

เชื่อรึยังล่ะ! ว่าทั้งสองเมนูนี้ทำได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก แค่ใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกปรุงรสก็อร่อยเหาะเลย เชลล์ชวนชิมยังน้ำลายไหล แม่ช้อยยังหยุดรำ รีบวิ่งมาชิมเลยนะเออ…  เลิศฝุด ๆ ฮ่า ๆๆ

ข้าน้อยหวังว่า สองสูตรเมนูอร่อยเด็ดประจำตัวของข้าน้อยจะโดนใจใครหลาย ๆ คน อย่าลืมเอาไปทำรับประทานกันเด้อ รับรองอร่อยเด็ดถูกใจแน่นอน เพราะ “เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

ข้าน้อยขอให้ทุกท่านและครอบครัว มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สุขภาพจิตแจ่มใส ปลอดภัยจากโควิด
— ด้วยความห่วงใยจากใจ ฮักทุกคนเด้อ จุ๊บ ๆ

ป.ล. ข้าน้อยขอฝากข้อเสนอแนะไปยังบริษัทผู้ผลิตน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก จักหน่อยเด้อ

– อยากเสนอให้ออกผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก แบบโซเดียมต่ำ (low sodium)

– อยากเสนอให้ออกแบบฉลากเป็นลายเท่ ๆ ล้ำ ๆ เช่น ลายกราฟฟิก สตรีทอาร์ต หรือออกเป็น limited edition ก็ได้ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคยุคดิจิทัลโดนใจคนรุ่นใหม่ จะได้เกิดการรีวิว การแชร์ เพิ่มขึ้น

– อยากเสนอให้มีแคมเปญส่งเสริมการทำอาหารไทยในครัวเรือน ในธีม “น้ำปลาหมึกคู่ครัวไทย คู่ครัวเรือน” เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้แชร์ตามช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อจะได้ช่วยส่งเสริมให้คนไทยรักและภูมิใจในอาหารไทยมากยิ่งขึ้น ได้ตระหนักว่า “อาหารไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก” และทำให้อาหารไทย worldwide ไปทั่วโลก เป็นการเผยแพร่เอกลักษณ์ของไทย

– อยากเสนอให้มีโครงการ corporate social responsibility (CSR) เช่น ซื้อผลิตน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก 1 ขวด จะเท่ากับร่วมสมทบทุนบริจาคสนับสนุนอาหารกลางวันแก่เด็กด้อยโอกาส, ซื้อผลิตน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก 1 ขวด เท่ากับช่วยอนุรักษ์ทะเลไทย เป็นต้น
ข้าน้อยหวังว่าข้อเสนอข้างต้น ทางบริษัทผู้ผลิตน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก จะรับไปพิจารณาจักหน่อยเด้อ ขอขอบคุณหลาย ๆ

ขอแสดงความนับถือ
นะเมติ
2 ก.ค. 64

นำเสนอเมนู   สลัดหมูอบ เป็นเมนูโปรดประจำบ้าน

วัตถุดิบ
1.เนื้อหมู 1.5 โล
2.น้ำปลาตราปลาหมึก ฉลากเขียว(สูตรออริจินัล) 10 ชต
3.น้ำตาลปั๊บ 5 ชต
4.ซีอิ้วหวาน 2 ชต
5.เม็ดผักชี 1 ชต
6.ยี่หร่า 1 ชต
7.พริกไทยป่น 1 ชต
8.ผักรองจาน  ผัดกาดหอม มะเขือเทศ หอมใหญ่ แตงกวา  (จะใช้ผักอะไรก็ได้ที่เราชอบ)

วิธีทำ
1. โขลก เม็ดผักชี ยี่หร่า พริกไทยป่น ให้ละเอียด พักไว้

2. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด หั่นเนื้อหมูเป็นก้อนๆ พักไว้ นำน้ำปลาตราปลาหมึก ฉลากเขียว(สูตรออริจินัล)
น้ำตาลปั๊บ ซีอิ้วหวานลงไปคลุก แล้วตามด้วยเครื่องเทศที่โขลกไว้ คลุกเคล้าให้ทั่วอีกครั้ง

3. นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมัน แล้วนำส่วนผสมที่คลุกไว้ลงไปผัดให้เหลือง

4. เทส่วนผสมทั้งหมด ลงหม้อ แล้วเติมน้ำเปล่าให้ท่วมหมู นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวจนหมูเปื่อย ปรุงรสออก เค็ม หวานนิดหน่อยตามชอบ

เวลาทาน หั่นผักรองจาน แล้วตักหมูอบ ราดบนผัก

2)ใส่กระเทียม พริกขี้หนู ลงไปโขลกในครกให้พอแตก

3)ใส่มะเขือ ถั่วฝักยาว กุ้งแห้งแล้วก็ตำแล้วค่อยใส่น้ำตาลปี๊บด้วย

4) ใส่น้ำปลาตราปลาหมึก สูตรดั้งเดิมฝาเขียว ปรุงอาหารจานแซ่บได้อร่อยจัดจ้านแน่นอน

5)เตรียมพร้อมเอามะละกอมาคลุกแล้วตำต่อกันเลย

6) เป็นอันเสร็จกับการทำส้มตำไทยง่ายๆกับพี่หมึกดเขียว เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว

แกงป่าปลาดุก , ผัดฉ่าทะเล

เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความอร่อย

แกงป่าปลาดุก

ผัดฉ่ากุ้ง

Link แกงป่าปลาดุก ลงในTiktok ค่ะ
https://vt.tiktok.com/ZGJkN688C/

Linkผัดฉ่ากุ้ง ลงในTiktok ค่ะ
https://vt.tiktok.com/ZGJkNVnGX/

ใช้สูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว

ชื่อเมนูแกงป่าปลาดุก

วิธีทำแกงป่าปลาดุก
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนใส่น้ำพริกแกงป่าลงไปผัดจนหอม ตามด้วยปลาดุก ผัดให้สุก
2. เติมน้ำเปล่า รอจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลาตราปลาหมึก  เกลือ กับน้ำตาลมะพร้าว
3. ใส่กระชายกับมะเขือเปราะ มะเขือพ่วง  พริกไทยสด ใส่พริกชี้ฟ้า  ใบมะกรูด ใบกะเพรา ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ
“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

ชื่อเมนูผัดฉ่ากุ้ง
วิธีทำผัดฉ่ากุ้ง
ใส่น้ำมันพืชในกระทะให้ร้อน
ใส่กระเทียมสับและพริกขี้หนูโขบกไว้ ผัดให้เข้ากันจนหอม
ใส่กุ้งผัดให้เข้ากัน
เติมซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย  น้ำปลาตราปลาหมึก น้ำตาล  กระชาย พริกไทยสด  พริกชีฟ้า  ใบมะกรูด  ชิมรสชาติให้ถูกใจ ถ้าชอบน้ำขลุกขลิก เติมน้ำสุกได้ ชิมอีกครั้ง
เติมใบโหระพา  คลุกให้เข้ากันเร็วๆ เอาขึ้น โหระพากับถ้าผัดนานจะดำไม่น่ารับประทานค่ะ
“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

ส่วนผสมหมูสามชั้นทอดน้ำปลา
1.หมูสามชั้น
2.น้ำปลา ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล
3.พริกไทยดำ

ส่วนผสมน้ำปลาพริก
1.น้ำปลา ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล
2.มะนาว
3.น้ำตาล
4.หอมแดง
5.พริก
6.กระเทียม

วิธีทำ
1.หมักหมูสามชั้นด้วย น้ำปลา ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล กับพริกไทยดำ
2.ในขณะที่หมักหมู เราก็จะเตรียมทำน้ำปลาพริก เริ่มจากหั่นหอมแดง พริก กระเทียม จากนั้นเติมมะนาว และตามด้วยน้ำปลา ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล และน้ำตาลเล็กน้อย เติมน้ำต้มสุกเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ
3.ตั้งกระทะด้วยไฟเบา เทน้ำมัน พอกระทะร้อนก็ใส่หมูหมักลงกระทะ หมั่นพลิกหมูเรื่อยๆจนกว่าจะได้สีน้ำตาลอ่อน
4.ยกออกมาสะเด็ดน้ำมัน จึงนำมาหั่นเป็นชิ้นพร้อมเสริฟ์คู่กับน้ำปลาพริกแสนอร่อยของเรา

เมนูง่ายๆ ที่หาเครื่องปรุงได้จากในครัว (อย่าทำกินบ่อยนะ เดี๋ยวอ้วนเป็นห่วงนะ)
เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว

มาร่วมกิจกรรม  เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความอร่อย

วันนี้อยากทำเมนูม้าฮ่อค่ะ

ม้าฮ่อ คืออะไร  ม้าฮ่อ เป็นอาหารว่างของไทยชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นไส้รสหวานเค็มรสชาติคล้ายไส้สาคู แต่ไม่ใส่ใช่โป้สับ จับคู่กับผลไม้รสเปรี้ยวจัด ส้ม สับปะรด หรือผลไม้ตามฤดูกาลแบบ มะยงชิดก็ได้  ความโดดเด่นจะอยู่ที่ ไส้  ที่มีรสหวานเค็ม ในวันนี้เราจะใช้ ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ฉลากเขียว ในการปรุงรสใส้ม้าฮ้อกันค่ะ

ส่วนผสม ม้าฮ่อ

      • โขลกพริกไทย กระเทียม และรากผักชี  ให้ละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
      • เนื้อหมูบด 1 ถ้วยตวง
      • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำปลาตราปลาหมึก ฉลากเขียว(สูตรออริจินัล) 3 ช้อนโต๊ะ
      • ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 1/2 ถ้วยตวง
      • ส้มเขียวหวาน หรือจะใช้ผลไม้รสเปรี้ยว
      • พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นวง  (ใช้ตกแต่ง)
      • ผักชีเด็ดเป็นใบ (ใช้ตกแต่ง)

ปอกส้มเขียวหวานดึงใยออก ผ่ากลาง นำเมล็ดออก

วิธีทำ

2. ปอกส้มดึงใยออกให้หมด ผ่ากลางนำเมล็ดออก เตรียมไว้

3. ปั้นส่วนผสมที่ผัดไว้เป็นก้อนกลม วางลงบนส้มที่เตรียมไว้ ตกแต่งด้วยผักชีและพริกชี้ฟ้า

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

วัตถุดิบ
– หมูสะโพก 300 กรัม
– ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
– มะเขือเทศท้อ 1 ลูก
– น้ำปลาตราปลาหมึกสีเหลืองตามชอบ
(เน้นที่สีเหลืองเพราะมันนัวอร่อยมากครับ)

วิธีทำ
1. หั่นหมูให้เป็นแผ่นครับไม่ต้องบางมากเพราะเดี่ยวจะใช้ไม้จิ้มฟันเสียบไว้
2. หั่นต้นหอมญี่ปุ่นให้เป็นท่อนขนาดเท่ากับหมูหรือจะเลยก็ได้
3. เอาหมูม้วนด้วยต้นหอมญี่ปุ่นครับแล้วเอาไม้จิ้มฟันเสียบไว้

4. เริ่มทำน้ำราดเราจะเริ่มหั่นมะเขือเทศให้พอดีคำครับแล้วใส่ไว้ในถ้วย
5. ใส่น้ำปลาตราปลาหมึกสีเหลืองลงไปในถ้วย
6. หั่นต้นหอมลงไปด้วยครับเพื่อเพิ่มรสชาติและสีสันแล้วมะเขือเทศกับน้ำปลา ต้นหอมทิ้งไว้ จนกว่ามะเขือเทศจะนิ่มๆเพราะเราจะใช้รสน้ำปลาตราปลาหมึกสีเหลืองกับมะเขือเทศมาช่วยทำให้หมูทอดแซ่บนัวครับ

7. เอาหมูที่เสียบไม้ไว้ทอดด้วยไฟเบาๆเพราะเราจะให้ต้นหอมแสดงรสชาติออกมาครับ
8. เอาหมูที่ทอดเสร็จแล้วจัดจานตามชอบแล้วเอาน้ำราดที่ทำจากน้ำปลาตราปลาหมึกสีเหลืองกับมะเขือเทศและผักชีที่เราทำไว้เทราดลงไปครับเราจะได้หมูทอดที่มีความกลมกล่อมแซ่บนัวจากน้ำปลาตราปลาหมึกสีเหลืองแล้วก็มีความหวานของมะเขือเทศและต้นหอม กินกับข้าวร้อนๆจะอร่อยมากครับ

เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว

เมนูชื่อว่า “ไส้อ่อนย่าง น้ำจิ้มแจ่ว”

       สำหรับเมนู “ไส้อ่อนย่าง น้ำจิ้มแจ่ว” เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารรสเด็ดที่หลายคนชื่นชอบ เมนูนี้เรียกว่าเป็นได้ทั้งอาหารที่ช่วยเรียกน้ำย่อย หรือ

เป็นกับแกล้มรับประทานกันไปเพลินๆ หากแม้จะทำเมนูไส้อ่อนย่างรับประทานคู่กับข้าวเหนียวพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ ก็เป็นอาหารจานหลักที่ช่วยให้เรา

อิ่มท้องได้เช่นกันค่ะและเป็น เมนูเด็ดประจำตัว ที่ถือว่าทำบ่อย เมื่อเวลาปาร์ตี้กันกับครอบครัวพร้อมเครื่องดื่มที่หลากหลาย จะพูดถึงเรื่อง

รสชาติของไส้อ่อนจะมีความขม นิดๆ ไม่ขมมาก เมนูนี้เหมาะแก่การย่างบนเตาถ่าน ย่างแบบเกรียมๆ กรอบ ๆจะได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศ

กระเทียม พริกไทย ซึ่งมันหอมมากๆยิ่งพูดยิ่งน้ำลายสอกันเลยเราไปดูวัตถุดิบและวิธีการทำเมนูเด็ดประจำตัว “ไส้อ่อนย่างพร้อมน้ำจิ้มแจ่วรสแซบ

กันเลยดีกว่าคะ

วัตถุดิบและเครื่องปรุง
1.ไส้อ่อน 450 กรัม
2.น้ำปลาแท้ ตราปลาหมึก 2 ช้อน (ฝาเขียว)
3.ซอสหอยนางรม 2  ช้อน
4.ผงปรุงรสหมู 1 ช้อน
5.ซีอิ๊วขาว 2 ช้อน
6. น้ำตาล 1 ช้อน
7.ซีอิ้วดำนิดหน่อย
8.กระเทียม 5 กลีบ
9.พริกไทย
10.ตะไคร้ 2 ต้น (หั่นแล้ว บุบให้แตก)
11.ใบมะกรูด 4-5 ใบ
12.รากผักชี
13.น้ำเปล่าไว้สำหรับต้มไส้อ่อน

ขั้นตอนและวิธีการทำ
1.นำไส้อ่อนมาล้างให้สะอาด โดยขยำไส้อ่อนกับเกลือ แล้วนำไปล้างให้สะอาด 2-3 ครั้ง
ต้มน้ำเปล่า ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดและเกลือลงไป เพื่อดับกลิ่นคาว ต้มให้น้ำเดือดพล่านแล้วนำไส้อ่อนที่เราล้างเตรียมไว้ลงไปต้ม ประมาณ 45 นาที

2. เมื่อไส้อ่อนที่ต้มนิ่ม แบบที่เราชอบแล้วตักขึ้นมาหั่นเป็นชิ้นๆ   

3.จากนั้นนำเครื่องปรุง ต่างๆ น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก,ซอสหอยนางรม,ผงปรุงรสหมู,ซีอิ๊วขาว,น้ำตาลปิ๊บ,ซีอิ้วดำ,กระเทียม พริกไทยและรากผักชีที่โคลกแล้ว มาใส่ชามผสม คนส่วนผสมให้เข้ากันและนำใส้ออ่อนที่หั่นไว้เทรวมลงไปแล้วคลุกแล้วหมักทิ้งไว้ 20-30 นาที

4.พอหมักได้ที่แล้วเรานำไส้อ่อนมาย่าง (ย่างเตาถ่านหรือกระทะเทฟล่อนก็ได้นะแล้วแต่ความสะดวกของครัวแต่ละบ้านคะ)

ย่างแบบกรอบๆ จะน่าทานคะ เดียวเราจะจัดจานรอเสิร์ฟกันนะ

วัตถุดิบและเครื่องปรุง
1.น้ำมะขามเปียก 3 ช้อน
2.น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก 2 ช้อน(ฝาเหลือง)
3.น้ำตาลเคี่ยว 1 ช้อน
4.พริกป่น 1 ช้อน
5.ข้าวคั่ว 1 ช้อน
6.หอมแดงซอย 2-3 หัว
7.ต้นหอม,ผักชีซอย 1 ต้น

ขั้นตอนและวิธีการทำ
    ผสมน้ำมะขามเปียก น้ำปลาแท้ น้ำตาลตามส่วนผสม เข้าด้วยกัน  จากนั้นใส่พริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย ต้นหอม,ผักชีซอย ลงไปคนให้เข้ากัน แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ

เมนูเด็ดประจำตัว “ไส้อ่อนย่าง น้ำจิ้มแจ่ว”ของเราพร้อมเสิร์ฟจ้า เตรียมช้อน และเตรียมพบกับเมนูนี้ที่ย่างออกจากเตาร้อนๆหอมๆกัน

ว้าวๆ น่ากินมากๆเลย

       เมนูไส้อ่อนย่าง น้ำจิ้มแจ่ว เรามีตัวพระเองของการทำอาหารครั้งนี้ให้อร่อยและรสชาติดี คือ “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก”เป็นส่วนผสมและเครื่องปรุงหลักๆที่ใช้ในการหมักไส้อ่อนโดยการใช้ น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกฝาสีเขียว เหมาะแก่การปรุงอาหารและส่วนของน้ำจิ้มแจ่ว เราจะใช้ น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกฝาสีเหลืองเหมาะแกการเติม จิ้ม เหยาะ ทำให้รสชาติของ “เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตรีความแซบนัว” เพื่อนๆคนไหนสนใจเมนูนี้ทดลองทำกันได้นะ ซึ่งวิธีการทำและเครื่องปรุงไม่ยุ่งยากเลย

ความนัวแซ่บ จัดจ้าน สร้างประสบการณ์ในแต่ละเมนู  ทั้งเท – เหยาะ – จิ้ม – ปรุง  = ครบรส  เรียงร้อยเรื่องราวความอร่อยในแบบบ้านๆ

ก่อนชมเมนูแจ่มๆ  พบกับสาระความรู้เกี่ยวกับน้ำปลากันค่ะ

เมนูถัดไปที่เชฟ Saran Villa  ขอนำเสนอ คือ เมนู 2 กุ้ง นั่นคือ  พล่ากุ้งและหมี่กุ้งลวกน้ำจิ้มซีฟู้ดค่ะ

พล่ากุ้งสไตล์เรา จะดัดแปลงจากตำรับอาหารไทยสูตรโบราณที่ใช้กุ้งสดๆ มาทำพล่า 🍲 แต่เราจะทำให้กุ้งสุกก่อนโดยการลวกค่ะ

นำกุ้งมาแกะเปลือก อย่าลืม ผ่าหลังดึงเส้นดำๆ ออกมา  นำกุ้งไปล้างให้สะอาด  
จากนั้นต้มน้ำเดือดนำกุ้งไปลวกจนสุก (อย่าลวกนานเกินไป เพราะจะทำให้กุ้งเนื้อแข็ง) แล้วนำกุ้งสะเด็ดน้ำรอไว้ค่ะ

แว๊บมาทำน้ำยำ  วัตถุดิบไม่ยากกะปริมาณไม่ต้องซีเรียส เอาแบบที่ชอบเลยค่ะ ลองผิดลองถูกจนได้รสที่คุณอร่อย

น้ำยำเวอร์ชั่นนี้ เราใช้น้ำปลาตราปลาหมึกฉลากเหลือง 💛 เราอยากให้จานนี้นัว กลมกล่อม แบบรสชาติพล่าฟินๆ ค่ะ

คุณสมบัติของฉลากเหลือง 💛เขาหมักธรรมชาติ 100%   ไม่ใส่วัตถุกันเสีย  ใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล  ดังนั้น น้ำตาลจึง 0% และไม่ใส่ผงชูรสค่ะ

ใส่กุ้งลงในน้ำยำ คลุกให้ส่วนผสมเข้ากัน  

ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา พริก ตะไคร้ฝอย ใบมะกรูด หอมซอย  

คือถ้ามายืนตรงนี้  จะได้กลิ่นหอมมาก น้ำลายสอเลยค่ะ

ตักใส่จานแล้วโรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ 🌿🌿🌿

ด้วยรสชาติกลมกล่อมจัดจ้านแบบไทยๆ หอมเครื่องสมุนไพร  ดัดแปลงจากตำรับอาหารไทยสมัยโบราณ โดยการทำให้กุ้งสุกก่อน
แต่ก็รับรองว่ารสชาติยังครบเครื่อง ถูกสุขอนามัยค่ะ

จานนี้ “พล่ากุ้ง” กุ้งสดเนื้อแน่น คลุกด้วยน้ำยำรสกลมกล่อม  ถ้าได้ลองทานจะต้องติดใจแน่นอน

พักชมสิ่งที่น่าสนใจสักครู่  💚💛  พบสาระดีๆ จากน้ำปลาตราปลาหมึกค่ะ

---

เมนูนี้  =  เมี่ยงกุ้ง + เส้นหมี่ + ผักสด + น้ำจิ้มซีฟู้ด

แน่นทั้งกุ้ง แน่นทั้งผัก จัดหนักแบบไม่ต้องกลัวอ้วน

อร่อยแบบไม่ต้องไปถึงร้านอาหาร  เพราะทำง่ายมากๆ เพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้นค่ะ

1. ลวกกุ้งให้สุกพอดีๆ แล้วพักไว้

2. ลวกเส้นหมี่ แล้วพันไว้พอดีคำ

3. อร่อยด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด

โขลกกระเทียม พริก ใส่น้ำตาลทราย น้ำมะนาว พริกขี้หนู  

และเติมน้ำปลาตราปลาหมึกฉลากเหลือง 💛   เพื่อ “การปรุงน้ำจิ้มซีฟู้ด” ให้ได้ความนัวจับใจ สิ่งสำคัญในการเพิ่มความอร่อย

แบบน้ำตาล 0%  จิ้ม – เหยาะ – ปรุงรส . . . ได้เพลินแบบไม่ต้องกังวลค่ะ 🍜🍳

จัดลงจานและผักใส่ถาด เสิร์ฟคู่ก้บน้ำจิ้มแซ่บค่ะ

สรุปราคา 2 เมนูกุ้ง   เฉพาะค่ากุ้งขาวใหญ่ ประมาณ 25 ตัว 150 บาท   

💚น้ำปลาตราปลาหมึกฉลากเขียว 25 บาท 💛ฉลากเหลือง 20 บาท (ใช้ได้หลายหน)

นอกนั้นก็วัตถุดิบและผักสดรวมๆ 2 จานนี้ไม่เกิน 200 บาท ทานได้อิ่มอร่อย คุ้มมากค่ะ

เดี๋ยวเชฟขอพักเติมหน้าแป๊ปนึงนะคะ   พบกับสิ่งที่น่าสนใจสักครู่ค่ะ

👩🏻‍🍳👉🏻 🍳🥘 การปรุงอาหารด้วยการนึ่ง😉🍴

เริ่มจากล้างปลาให้สะอาด  ควักไส้ออกจากนั้นบั้งปลาทั้งสองด้าน แล้วนำปลาเข้าเครื่องนึ่งประมาณ  20-25 นาที จนกว่าจะสุก

ช่วงนี้ก็เตรียมทำในส่วนของน้ำนึ่งมะนาว  โดยโขลกพริก กระเทียม พริกขี้หนู พริกแดงจินดา บีบมะนาว น้ำตาลทราย

เติมน้ำปลาตราปลาหมึกฉลากเขียว ให้รสจัดจ้านคลุกเคล้าไว้รอ

แล้วนำไปผสมรวมกับน้ำเปล่าต้มสุก  ใส่ผักชีฟูๆ ไปเลยค่ะ แจ่มมาก  

แล้วนำน้ำราดลงไปบนปลาที่นึ่งสุก  เนื้อปลาสดๆ แน่นๆ คลุกเคล้าน้ำนึ่งมะนาวสุดแซ่บครบรสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดลงตัวค่ะ

สรุปราคาจานนี้  เฉพาะค่าปลาทับทิม 89 บาท 💚💛 รวมวัตถุดิบจานนี้ไม่เกิน 120 บาท เริ่ดมากค่ะ

เข้าครัวทำอาหารที่บ้าน  🍳🥘 อย่าลืมเลือก “น้ำปลาตราปลาหมึก” นะคะ  เพราะเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงที่ช่วยเพิ่มความหอมในแต่ละเมนู ที่มาของ “ความหอม“ เกิดจาก “การหมักปลาไส้ตัน” ที่เกิดจากการเลือกปลาคุณภาพดีมาหมักเป็นเวลานาน เพื่อให้เนื้อปลาย่อยสลายเป็นกรดแอมิโน  ให้สารอาหารต่างๆ และยังทำให้เกิดกลิ่นหอม รสชาติดีค่ะ💚

💛 “ปลาหมึกฉลากเหลือง” เพื่อความนัวได้ใจ ใช้เหยาะ – จิ้ม  ช่วยเพิ่มความอร่อยแบบน้ำตาล 0% จิ้มเหยาะเพลินไม่ต้องกังวล
💚 “ปลาหมึกฉลากเขียว” เพื่อมือโปร  เมนูสไตลล์จัดจ้านถึงใจ 🔥🌶 เลือกขวดฉลากเขียวยังไงก็ปรุงอร่อยจัดจ้านเข้มข้นทุกจาน 👍🏻

ตอนนี้สามารถชอปออนไลน์ . . . ไม่ต้องออกไปเสี่ยง
แค่คลิกเข้าเว็บไซต์ของ TESCO LOTUS Online, Tops Online และ Big C Online สะดวกสุดๆ เขามีน้ำปลาตราปลาหมึก ทั้งขวดเล็ก ขวดใหญ่
ฉลากเขียว รสจัดจ้าน 💚 ฉลากเหลือง รสนัว กลมกล่อม 💛 ก็ค้นหาได้เลยค่ะ

จัดไป  5 เมนูคาว โปรดติดตามเมนูของหวานนะคะ  เชฟตั้งใจทำมากๆ

” เ ม นู อ ะ ไ ร ก็ ดี   ป ล า ห มึ ก ก า รั น ตี ค ว า ม แ ซ่ บ นั ว “

                ”ไข่ดองน้ำปลาพริกทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ด”

  แบบง่ายกว่านี้แล้วจ้า เอาตรงๆ ใครทำก็อาหร่อยยยย
    

ส่วนผสม
สำหรับ 6 ฟอง
ไข่เป็ด / ไข่ไก่ ตามชอบ6 ฟอง
น้ำปลาแท้9 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีป3 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า1 ถ้วยตวง
พริกขี้หนู เพิ่มลดตามชอบ10 เม็ด
กระเทียม5 กลีบ

น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก

แยกไข่แดงออกมาพักไว้ก่อน

ขั้นตอนแรก ตั้งไฟอ่อนใส่น้ำปลากับน้ำเปล่าที่เตรียมไว้ลงไป  เติมน้ำตาลปี้บ แล้วคนให้น้ำตาลละลายเข้ากัน  คนจนน้ำตาลละลาย พักให้เย็น

น้ำตาลละลายเข้ากันแล้วพักไว้ให้เย็นค่ะ

ทำการแยกเอาไข่แดง มาใส่กล่องน้ำปลาที่เราเตรียมไว้

หั่นพริก และ กระเทียมเตรียมไว้

หั่นพริกขี้หนูและกระเทียมใส่ลงในไข่แดงที่แยกไว้ เมื่อน้ำปลาเย็นลง เทใส่ลงในกล่อง ปิดฝาเข้าตู้เย็นไว้ 1 คืน หรือ 12 ชม.

ปิดกล่อง พรุ่งนี้มารอทานได้เลย

หิวแล้วอ่ะ 555

ดึกๆๆ แอบมากลับด้านไข่สักหน่อย ให้สีเสมอกัน

ปิดกล่อง รอไปจ้าาาา

เลยเวลานิดหน่อยยย 15 ชม.ผ่านไป ไปแกะกล่องกัน

น่าทานไหมค่ะ ทุกคน ดีต่อใจมากๆ

ก่อนทาน เรามาเตรียมน้ำจิ้มสุดแซ่บกันก่อน

พริกขี้หนู 6-7 เม็ด
กระเทียม 1 ถ้วยเล็ก
น้ำมะนาว 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาแท้
รากผักชี 2 ราก

โขลกรากผักชี พริกระเทียมให้เข้ากัน แล้วเติมใจชอบได้เลยค่ะ

เสร็จแล้ว ตักใส่จาน พร้อมทานจ้า

เวลาทานกับข้าวสวยร้อนๆ เจาะตรงกลางไข่แดง จะหนืดๆ มันๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดเข้ากันได้ดีมากๆค่ะ

ถ้ารับประทานไม่หมดสามารถนำไปแช่ตู่เย็นได้

เมนู ต้นเดือน กลางเดือน สิ้นเดือน ทำได้หมด
เป็นอาหารที่ทำง่ายๆ แค่มีน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกกับไข่ ง่ายไหมทุกคน รับประทานกับน้ำจิ้มซีฟูดรสชาติตัดกันและยังทำให้มื้ออาหารอร่อยขึ้นที่สุดเลยค่ะ

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

เมื่อยามเราป่วย และต้องให้อาหารทางสายยาง  กินอะไรผ่านทางปากไม่ได้   ชีวิตเหมือนอยู่ใน จักรวาลคู่ขนาน  
เราขอให้แฟน ช่วยทำเมนูอาหารที่ให้ทางสายยางให้  กินแต่นม เอนชัวร์บางทีเบื่อมาก แม้จะให้ทางสายยางก็เถอะ  
เราอยากกินซุป แฟนเลยทำให้  เมนูนี้ เหมาะสำหรับ
*ทำเป็นอาหารเช้า มากๆครับ  
**สำหรับผู้ป่วย ที่อาจจะเบื่อโจ๊ก
***ผู้ป่วยที่ให้อาหารทางสายยาง  

ส่วนคนไม่ป่วยทานได้ปกติเลยคร้าบ เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี  
เมนูนี้ชื่อ
ซุปเห็ดหอม #นะจ๊ะ

วิธีทำไม่ยุ่งยาก  ยิ่งได้กินตอนร้อน ๆ ยิ่งอร่อยมากเลย นะจ๊ะ ^_^
ส่วนผสมและเครื่องปรุง

วิธีทำ  
เริ่มแรก เราก็จะมาเตรียมผักกันก่อนเลยนะจ๊ะ  เรามีอุปกรณ์  ใส่แว่น นะจ๊ะ ตอนปอก+หั่นหอม จะได้ไม่แสบตา อิอิ

#เตรียมผักก่อนนะจ๊ะ
#มันฝรั่ง ก็ให้เราปอกเปลือก ล้าง แล้วเอามาหั่นไว้เป็นชิ้นเล็ก ๆ   วิธีหั่น ที่ถูกต้อง เป็นรูป หัวจายยย
#หอมใหญ่ ใส่แว่นแล้ว ซอยโลดจ้ะ
#เห็ดหอม ล้างแล้ว แบ่งหั่นเป็น 2 แบบ  แบบแรก เป็นชิ้นเล็กๆ สำหรับผัดทำตัวซุป  ที่เหลือใช้เห็ด 3-4 ดอก หั่นเป็นแว่นบางๆ เอาไว้ใส่ในซุป นะจ๊ะ ^_^

*ส่วนประกอบทั้งหมด*
และเมื่อเราหั่นผักทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว  เตรียมของเรียบร้อย  ก็มาลงมือทำตัวซุปกันเลย

พร้อมแล้ว ลุย…!!
เริ่มแรกก็ตั้งกระทะบนเตาไฟ ใช้ไฟกลาง ใส่เนยกับน้ำมันพืชลงไปนะจ๊ะ  พอเนยละลายก็ใส่หอมใหญ่ลงไปผัดให้สุก                                                    

จากนั้นก็ใส่มันฝรั่ง กับเห็ดหอมลงไปนะ

แล้วก็ผัดไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ ^_^   เติมน้ำซุปนิดหน่อย ได้นะ จะได้ไม่ติดกระทะ ผัดไปสักแป้บ ก็เทน้ำซุปใส่เพิ่มลงไปเลยนะจ๊ะ

แล้วก็ต้มต่อ ด้วยไฟกลาง เป็นเวลาประมาณสัก 10-15 นาที หรือจนเห็ดนุ่ม มันฝรั่งนิ่ม…. ก็โอเค นะจ๊ะ  

ปั่น ปั่น ปั่น  จร้า!!!
เสร็จแล้วปิดแก๊ส   ตักส่วนผสมใส่ลงในโถปั่น จร้า   ปั่น จนละเอียดกลายเป็นเนื้อเดียวกัน  ก็ใช้ได้

ปรุงซุป*-*

ยังๆ ยังไม่เสร็จนะ  
ปั่นเสร็จ แล้ว เทส่วนผสมซุปเห็ดหอมของเราใส่ลงในกระทะใบเดิมนะจ๊ะ  แล้วก็เติมกะทิลงไป  ใครชอบยี่ห้อไหนก็จัดไป  
ปรุงรสด้วยเกลือป่นนิดหน่อย  พริกไทยป่นมากหน่อย น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก   ไม่ใส่ไม่อร่อยนะ อิอิ
น้ำตาลไม่ต้องใสนะ เพราะในน้ำปลา มีอยู่แล้ววว 3% เลย นะจ๊ะ

คนให้เข้ากันแล้วเอาไปตั้งเตาไฟ โดยใช้ไฟกลาง

พอซุปเดือด ก็ใส่เห็ดหอมที่หั่นเป็นแว่นไว้ลงไป รอจนซุปเดือดอีกครั้ง ชิมดูว่ารสชาติได้หรือยัง  ถ้ายังก็ปรุงเอาตามชอบ แต่เรา ชอบมาเหยาะเกลือ พริกไทยป่นทีหลังอะ

เสร็จ…แว้ววววว !!!
หากซุปข้นไป  ก็เติมน้ำซุปใส หรือน้ำเปล่าก็ได้   เอาให้ได้ความข้นตามที่ชอบนะจ๊ะ   เสร็จแล้วปิดไฟ  ตักใส่ถ้วยเลยจร้า
ตกแต่งด้วยกะทิ ผักชี/ พาสเลย์    แนะนำ อาจใส่ กรูตอง ก็ได้ นะ  หรือ เบคอนบิท อะแจ๋วเลย    
เราชอบโรยพริกไทยดำป่น กับเกลือป่น อีกนิดหน่อย
อาจกินกับขนมปังปิ้ง นะ  แต่หลังๆ เราชอบ  *ปาท่องโก๋* มากกว่า 55   แนะนำเลย เข้ากันมากเลยนะจ๊ะ ^_^

เป็นอันว่า อร่อยเหาะ ส่งท้ายด้วย
“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

*Bye Bye*

เวลาไปทานข้าวนอกบ้าน ก็จะมีแบบที่น้ำพริกคลุกข้าวไปแล้ว
หรือแบบน้ำพริกแยก แล้วมีเครื่องเคียงต่างหาก
เราจะไม่ทำแบบนั้นค่ะ

สูตรและวิธีทำที่เราจะนำมาแชร์นั้น
เป็นแบบที่เราชอบ ทำในฉบับของเราเอง และเราขอตั้งชื่อเมนูใหม่ นั้นว่า
เมนู น้ำพริกกะปิ จิ้มโลด
กับ ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลืองนัวได้ใจ

เมนู น้ำพริกกะปิ จิ้มโลด ที่เราจะนำมาเสนอนั้น
รับรองว่าไม่เหมือนใครแน่นอนค่า
เพราะว่าเป็นเมนูที่เราคิดเอง ทำรับประทานเองค่า
นอกจากอร่อย สวยงาม น่ารับประทานแล้ว
ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายด้วยค่า

วิธีทำเราจะแบ่งเป็นสองส่วนนะคะ
โดยส่วนแรกเราจะทำในส่วนของน้ำพริกกะปิก่อน
ในส่วนที่สองเป็นส่วนของเครื่องเคียง(ที่รับประทานคู่กัน)ค่ะ

มาเริ่มลงมือทำกันเลย










จากนั้นให้คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันค่ะ
อาจจะเติมน้ำอุ่นเพิ่มหรือไม่เติมก็แล้วแต่จะชอบค่ะ ถ้าชอบแบบเข้มข้นมากก็รับประทานได้เลย หรือถ้าชอบแบบเข้มข้นน้อยก็เติมน้ำเปล่าเพิ่มสัก2-3ช้อนโต๊ะกำลังดีค่ะ
เมื่อทำเสร็จแล้วก็ตักใส่ภาชนะ โรยหน้าด้วยมะเขือพวงและกุ้งแห้งอีกสักนิด แค่นี้เราก็ได้น้ำพริกกะปิรสกลมกล่อม นัวได้ใจ ที่พร้อมรับประทานได้แล้วค่ะ

เราเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง นัวได้ใจ เป็นส่วนผสมในการปรุงรสน้ำพริกกะปิ เพราะว่า ปลาหมึกเหลืองให้รสที่นัวกว่า และสามารถใส่ในปริมาณที่มากกว่าได้ โดยที่รสชาติและกลิ่นของน้ำปลาจะไม่โดดออกมา และไม่ไปตัดรสชาติของเครื่องปรุงอื่นๆค่ะ

ส่วนที่สองที่เราจะมาลงมือทำนั้นก็คือ เครื่องเคียง(ที่รับประทานคู่กับน้ำพริกกะปิ) ค่า
เราทำ 3 อย่างค่ะ
– ไข่เจียวชะอมทอด
– ข้าวคลุกปลาทูทอด
– และผักตามชอบค่ะ

มาลงมือทำกันต่อค่า

รอให้ไข่เจียวชะอมทอดเย็นตัวลง นำไข่เจียวชะอมทอดมาม้วน ตัดเป็นชิ้น แล้วนำไปเสียบไม้ พร้อมทานค่า

ทอดจนได้ข้าวคลุกปลาทูทอดที่กรอบและเป็นสีเหลืองทอง ก็นำมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน อาจจะให้แผ่นซับน้ำมันเป็นตัวช่วย ให้ข้าวคลุกปลาทูทอดที่ได้อมน้ำมันน้อยที่สุดค่า

ในส่วนของผักจิ้มนั้น สามารถเลือกได้หลากหลายตามใจผู้รับประทานเลยค่ะ ในเมนูที่เรานำมาเสนอนี้ เราได้เลือก แตงกวา ถั่วพู มะเขือม่วง ทานแบบสดค่า และมีแครอท กับหน่อไม้ที่ทานแบบต้มแล้วค่ะ

รอให้ข้าวคลุกปลาทูทอดหายร้อน หั่นผักที่เตรียมไว้เป็นชิ้นพอดี นำผักและข้าวคลุกปลาทูทอดมาเสียบไม้สลับกันให้สวยงาม เสร็จพร้อมทานค่ะ
นำทุกอย่างที่เราทำมาจัดใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทานได้เลยค่า

วิธีรับประทานในแบบที่เราทำ คือ
นำผัก ข้าวคลุกปลาทูทอด หรือจะเป็นไข่เจียวชะอมทอด ที่เสียบไม้แล้ว นำไปจิ้มน้ำพริกกะปิที่เราใส่ในฟักทองไว้แล้วก็รับประทานได้เลยค่า
เราถึงได้ตั้งชื่อเมนูนี้ว่า น้ำพริกกะปิ จิ้มโลด เพราะไม่ว่าจะผักก็จิ้ม ข้าวคลุกปลาทูทอดก็จิ้ม หรือจะเป็นไข่เจียวชะอมทอดก็จิ้ม จิ้มกับน้ำพริกกะปิแล้วก็ทานไปโลด

เมนูนี้ที่จริงแล้วทำไม่ยากเลยนะคะ แต่อาจจะแค่มีหลายขั้นตอน และวัตถุดิบเยอะหน่อย แต่ราคาของแต่ละอย่างก็หาซื้อได้ง่าย มีขายทั่วไป ราคาก็ไม่แพง ทำเลย อร่อยดีมีประโยชน์

จะเป็นแม่บ้านมือโปร หรือบ้านมือสมัครเล่น ก็เข้าครัวได้ ทำอาหารอร่อย แค่มีตัวช่วยดีดี อย่างเช่นน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก จะเหยาะนิด หรือเติมหน่อย ก็อร่อยชัวร์ เพราะ
“เมนูไหนก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”
ซื้อแล้ว เข้าครัวเลย ไม่ผิดหวัง

ส่วนประกอบ 🍽
– เนื้อหมู 2 ขีด
– พริกแกง 1 ช้อนโต๊ะ
– หัวกะทิ 1 ถ้วย
– ใบโหระพา
– น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก
– น้ำตาลทราย

วิธีทำ 📔
– หั่นหมูเป็นชิ้นพอดีคำ
– เตรียมกระทะให้ร้อน
– ใส่หัวกะทิลงไป ใช้ไฟปานกลาง
– ใส่พริกแกง 1 ช้อนโต๊ะ
– ใส่น้ำสุก 1/2 แก้ว
– เคี่ยวพริกแกงให้แตกมัน
– ใส่เนื้อหมูลงไป จากนั้นเคี่ยวต่อให้หมูสุก
– ใส่น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
– เมื่อหมูสุก แล้วจึงใส่โหระพา
– ปิดไฟ ตักใส่ชาม

👑 “เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว” 👑

หมูสะดุ้งจะอร่อย ขึ้นอยู่กับน้ำปลาที่ดี วันนี้เลือกน้ำปลาตราปลาหมึก สูตรออริจินัลมาเป็นเครื่องปรุงหลัก

ส่วนประกอบต่างๆ :

1) หมูสันนอกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้วนำมาหมักกับเกลือ 20 นาที
2) น้ำเปล่า
3) น้ำปลาตราปลาหมึก
4) มะนาวสด
5) น้ำตาลมะพร้าว
6) พริกขี้หนูสวนสับละเอียด
7) กระเทียมสับละเอียด
8) คะน้าส่วนก้าน

วิธีทำ :

1) เตรียมคะน้าโดยเลือกส่วนก้าน นำไปล้างให้สะอาด ใส่ภาชนะมีฝาปิด ใส่ในช่องแช่แข็ง 1 ชั่วโมง

2) ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่าลงไป ใช้ไฟสูงจนน้ำเดือด ใส่หมูหมักที่หั่นไว้ลงไปลวกจนสุก ตักขึ้นมาพักไว้

3) เตรียมน้ำราด โดยผสมน้ำปลาตราปลาหมึก กับน้ำตาลมะพร้าวแล้วบีบน้ำมะนาวสดลงไป คนให้น้ำตาลละลาย แล้วเติมพริกขี้หนูสวนสับละเอียดและกระเทียมสับละเอียดลงไป ชิมรสชาติแล้วเติมน้ำตาลตราปลาหมึกเพิ่มอีกนิดหน่อย เป็นอันเสร็จ

4) เวลารับประทาน จัดจานโดยนำหมูลวกใส่จาน ใส่ก้านคะน้าแช่เย็น แล้วนำน้ำราดที่ปรุงไว้แล้วลงไป พร้อมอร่อยกันได้แล้วครับ

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

สำหรับ เคล็ด(ไม่) ลับ ในการทำอาหารให้ออกมาอร่อยถูกปาก รสชาติถูกใจ ทุกคนในครอบครัวนั้น นอกจากแม่บ้านอย่างเราจะ จะต้องให้ความสำคัญในการเลือกวัตถุดิบ  ที่มีความสด สะอาด และ มีคุณภาพแล้ว  สิ่งที่ขาดไม่ได้ สำหรับครัวไทยๆแบบเรา และเป็นตัวช่วยที่ทำให้เรามีรสชาติอร่อยขึ้นก็คือ ก็เลือกใช้ น้ำปลา ที่ดี และ มีคุณภาพ ซึ่งบ้านเราเลือกใช้ น้ำปลาแท้ ตราปลาหมึก มาปรุงอาหาร ตั้งแต่ รุ่นคุณยาย ส่งต่อความอร่อย มายังรุ่นเรา ไม่ว่าจะมาปรุงใส่เมนูอะไร ไม่ว่ารสชาติ สไตล์ไหนก็เลือกปรุงรสให้ อร่อยได้ด้วย  “น้ำปลาแท้ ตรา ปลาหมึก”

น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ก็เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของอาหารไทย ที่ช่วยปรุงรสให้ทุกจานหอมอร่อยเพราะผลิตจากปลาไส้ตัน  ไม่ใส่ผงชูรสและวัตถุกันเสีย หมักธรรมชาติแบบ 100%  สะอาด ปลอดภัย โดยผ่านการหมักบ่มนานถึง 18 เดือน  ทำให้น้ำปลาตราปลาหมึกมีรสชาติ  และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์

“ปลาหมึก ฉลาก เขียว” สูตร ออริจินอล เหมาะกับ  “มือโปร”  ชอบเข้าครัวโชว์ฝีมือทำอาหาร ชอบรสชาติจัดจ้านถึงใจ  เลือกสูตรนี้ นี้ยังไงก็ ปรุงอร่อยทุกจาน

“ปลาหมึกฉลากเหลือง”   สูตรกลมกล่อม เหมาะกับ  “มือปรุง” ได้รส นัวได้ใจ ใช้เหยาะ ใช้จิ้มก็ช่วยเพิ่มความอร่อยแบบน้ำตาล 0%  อร่อยได้แบบไร้กังวล เพราะใช้ความหวานจากใบหญ้าหวาน

ไม่ว่าจะ ผัด  ต้ม ยำ หมัก ทอด เหยาะ จิ้ม น้ำปลาตราปลาหมึก ก็ช่วยเพิ่มรสชาติ ความอร่อย  ให้กับอาหาร ได้รสที่อร่อยถูกปาก แซ่บ นัวถูกใจคนไทยทุกจาน

ไม่รอช้า เรามาเข้าครัว ปรุงเมนู   แรกกันเลยค่ะ

เมนู ข้าวผัดพริกแกงเขียวหวาน

แกงเขียวหวาน เมนูอาหารไทย ที่เลื่องชื่อในความอร่อยแบบไทย ๆ ที่รสชาติถูกใจทั้งไทย และ ต่างชาติเลยค่ะ  โดยเมนูนี้ เรานำแกงเขียวหวานผัดกับข้าว และ ใส่เครื่องทะเล เพิ่มความอร่อย หรือ ใครที่อยากใส่เป็นเนื้อสัตว์อื่นๆ ก็ได้ค่ะ

สำหรับเมนูนี้เราการันตี ในความอร่อย เต็มรสชาติถึงเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นพริกแกงเขียวหวานที่มีความหอมของเครื่องเทศ  และ ตัวช่วยที่ช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยให้กับเมนูนี้ก็คือ น้ำปลา ตรา ปลาหมึก (ฉลากเขียว ) สูตรออริจินอล น้ำปลาแท้ ที่มีความหอม ความนัว  เต็มรสชาติความอร่อย แบบไทย ๆ รับรองอร่อยถูกใจแน่นอน

วัตถุดิบ
กุ้ง 5 ตัว
ปลาหมึก 2 ตัว
น้ำปลาตราปลาหมึก ฉลากเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวสวย 1 ถ้วย
น้ำพริกแกงเขียวหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
มะเขือพวงเด็ด 10 เม็ด
ใบโหระพา(เด็ดเป็นใบ)10-15 ใบ
ใบมะกรูด 3 ใบ
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง
กะทิ 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ตามด้วยพริกแกง ผัดให้พริกแกงสุกและหอม ใส่กะทิ
2 ใส่กุ้ง และ ปลาหมึก ปรุงรสด้วย น้ำปลาตราปลาหมึก น้ำตาลปี๊บ ชิมและปรุงให้ได้รสตามที่ชอบ

4. ใส่มะเขือพวง ลงไปผัดจนมะเขือสุก ใส่ข้าวสวย ผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าเข้ากัน   ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียงกับใบโหระพา ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ไม่ต้องผัดนาน ปิดไฟยกลง พร้อมทานแล้วค่ะ

ต้องทานกับน้ำปลาพริกหอมอร่อยมากค่ะ

    เมนู ยำตะไคร้ ปลาแดดเดียว   
            

เมนู ยำตะไคร้ ปลาแดดเดียว

เมนูนี้บอกเลยว่าอร่อย ครบรส ไม่ว่าจะเป็นปลาแดดเดียว ที่เรานำปลานิล มาหมักด้วยน้ำปลาตราปลาหมึก (ฉลากเขียว)  สูตรออริจินอลทำให้ให้ได้เนื้อปลาที่มีสีสัน น่าทาน มีกลิ่นหอม และรสชาติที่มีความนัว ความเค็มกำรันตี การันตีความอร่อย และ ทานเคียง กับยำตะไคร้  รสชาติจัดจ้าน อร่อยลงตัว ดีต่อสุขภาพ ซึ่งขั้นตอนการทำก็ง่ายมาก มีดังนี้เลยจร้า
  

วัตถุดิบ ปลาแดดเดียว
1. ปลานิล ครึ่งกิโลกรัม
2. น้ำปลาตราปลาหมึก 5 ช้อนโต๊ะ

วัตถุดิบ ยำตะไคร้
1. ตะไคร้ 5 ต้น
2. มะม่วงเปรี้ยว 1 ถ้วย
3. หอมแดง 3 หัว
4. เม็ดมะม่วงหิมพาน
5. น้ำปลาตราปลาหมึก ฉลากเขียว สูตร ออริจินอล  5 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
7. พริกขี้หนู 3 – 5 เม็ด

ขั้นตอนการทำ ปลาแดดเดียว
1. นำปลามาคลุกกับน้ำปลาตราปลาหมึก แล้วน้ำไปแตกแดด จนแห้งพอดี

2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันสำหรับทอด เมื่อน้ำมันร้อนใส่เกลือลงไปเล็กน้อย กันติดกระทะ ใส่ปลาลงไปทอด ใช่ไฟอ่อนทอดไปเรื่อยๆ จนปลาสุก กรอบ ก็ใช้ได้ค่ะ

ขั้นตอนการทำยำตะไคร้

1. น้ำปลาตราปลาหมึก 5 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยมะนาว คนให้เข้ากัน

2. ใส่ตะไคร้ มะม่วงเปรี้ยว หอมแดง พริก ลงไปคลุกให้เข้ากับ ชิมรสตามชอบ แล้วใส่ เม็ดมะม่วงหิมพานลงไปคลุกให้เข้ากัน ก็เสร็จพร้อมทานแล้วค่ะ

เมนู หมูย่างพริกไทยดำ จิ้มแจ่วมะขามไฮโปรตีน เมนูนี้เอาใจสายสุขภาพ คุณผู้ชายนักกล้าม พ่อบ้านใจกล้ากันค่ะ เพราะ นอกจากเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ โปรตีนสูงแล้ว ยังมีความแซ่บ ซี๊ด จี๊ดจ๊าด ของน้ำจิ้มแจ่วมะขาม รสจัดจ้าน ครบรส และ ที่สำคัญทำง่ายด้วยค่ะ  สำหรับเมนูนี้ เราเลือกใช้  น้ำปลา ตรา ปลาหมึก ( ฉลากเหลือง ) สูตรกลมกล่อม ในการปรุงรส  นอกจากจะทำให้รสชาติ กลมกล่อมแล้ว ยังดีต่อสุจภาพ เพราะ เป็นสูตรที่ มีน้ำตาล 0% เพราะใช้ความหวานจากใบหญ้าหวาน  ไม่ใส่ผงชูรสและวัตถุกันเสีย พร้อมหมักธรรมชาติแบบ 100% เพื่อน ๆ คนไหนทานคีโต หรืออยากดูแลสุขภาพเลือกใช้น้ำปลาสูตร กลมกล่อม ฝาเหลืองได้เลยจร้า

วัตถุดิบ ส่วนหมูย่าง

เนื้อหมู 300 กรัม
กระเทียม 3 กลีบ
พริกไทยดำ
น้ำปลาตราปลาหมึก ฝาเหลือง  3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

วัตถุดิบ น้ำจิ้มแจ๋ว

น้ำปลาตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม  ฝาเหลือง  5 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
พริก 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่ง 3 ต้น
หอมแดง 3 หัว

ขั้นตอนการทำ หมูย่างพริกไทยดำ

1. นำเนื้อหมู 300 กรัม หั่นเป็นชิ้น  
ใส่ กระเทียม พริกไทยดำ  ตามด้วย น้ำปลาตราปลาหมึก 3 ช้อนโต๊ะและน้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ นวดผสมให้เข้ากันหมักไว้ 30 นาที

2.นำไปย่าง  หรือ อบด้วยหม้อทอด เมื่อหมูสุกแล้ว ก็นำมาหั่นเป็นชิ้น พอดีคำ  เนื้อหมูที่สุดออกมาจะมีความฉ่ำ ไม่แห้ง และมีกลิ่นหอมมากๆ

ขั้นตอนการทำน้ำจิ้มแจ่วมะขาม

ใส่น้ำปลาตราปลาหมึก  น้ำตาลปี๊บ
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ , ใส่น้ำมะนาว  , ใส่ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ , พริกป่น , ผักชีฝรั่ง , หอมแดง 3  คนส่วนผสมให้เข้ากัน พร้อมทานแล้วค่ะ

เมนูนี้ เรานำใบ ชะพลูมาทอดจนกรอบ แล้วราดด้วยน้ำส้มตำ สุดแซ่บ เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ครบรส เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี  เป็น  เมนูเบาๆ แต่ความอร่อย และคุณประโยชน์ ไม่เบาเลยค่ะ  สำหรับเมนู เราเลือกใช้ น้ำปลาตาปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ( ฉลากเหลือง) ในการทำ ช่วยให้รสชาติที่ได้มีความหอม กลมกล่อม  และ มีความนัว  

วัตถุดิบ ใบชะพลูทอด

1. ใบชะพลู 10 ใบ
2. แป้งทอดกรอบ 3 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำ
วัตถุดิบ ส้มตำ
1. มะละกอ 1 ถ้วย
2. มะเขือเทศสีดา 5 ลูก
3. ถั่วฝักยาว 1 ฝัก
4. ถั่วลิสงคั่ว (ตามชอบ)
5. น้ำปลาตราปลาหมึก 3 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
7. มะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
8. พริก 3 เม็ด
9. กระเทียม 2 กลีบ

ขั้นตอนการทำ

ทอดใบชะพลู
1. ผสมแป้งทอดกรอบ กับ น้ำ
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป
3. นำใบชะพลูมาชุปแป้งทอดจนกรอบ

วิธีทำ ส้มตำ

1. ใส่กระเทียม และ พริก ที่ตำไว้แล้ว ใส่น้ำปลาตราปลาหมึก น้ำตาลปี๊บ มะนาว คนให้เข้ากัน ปรุงรสได้ตามชอบ
2. ใส่มะละกอ ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ และถั่วลิสง คลุกให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำไปทานกับใบชะพลูทอดได้เลยค่ะ

มีต่อ ข้อความตอบกลับ ความคิดเห็น 77-1 นะค่ะ
👇👇

รสชาติความหอม เค็มของน้ำปลา ตราปลาหมึกฝาเขียวคือที่สุดค่ะ
ทานกับโจ้กร้อนๆถ้วยโปรดทุกเช้าก่อนทำงาน
ช่วยให้สดชื่น อิ่มท้อง ระบบจดจำดี มีไฮโอดีนสูง

ร่วมกิจกรรมดีๆนะคะ ทำครบกติกาแล้วค่ะ

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

ส่วนประกอบ
1.    ปีกไก่ส่วนบน(น่องไก่เล็ก)
2.    น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก
3.    ข่า
4.    ตะไคร้
5.    ใบมะกรูด
6.    พริก
7.    ผงปรุงรส
8.    หอมแดง
9.    ต้นหอมผักชี

วิธีทำ
1.    เติมน้ำใส่หม้อหุงข้าวประมาณเกือบ 2 ถ้วยตวงข้าว
2.    รอให้น้ำเดือด
3.    ใส่ตะไคร้, มะกรูด, ข่า, ใบมะกรูด และส่วนผสมอื่นๆลงไปในหม้อหุงข้าว
4.    ใส่ปีกไก่ส่วนบนลงไป รอประมาณ 15 นาที หรือคอยเปิดดูเป็นระยะว่าไก่สุกรึยัง
5.    เมื่อไก่สุกแล้วตักใส่ถ้วยแล้วปรุงรสใส่พริกป่น น้ำมะนาว ด้วยปริมาณ ตามใจชอบ

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

สวัสดีค่ะ ขอควงตะหลิวร่วมกิจกรรมทำอาหารกับน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกด้วยคนนะคะ

.
ช่วงนี้หลายบ้านต้องกักตัว หรือ WFH เพื่อให้ห่างจากเจ้า COVID-19 รวมทั้งต้องดูแลสตางค์ในกระเป๋าเป็นพิเศษ
จึงขอนำเสนอเมนูทำง่ายกินง่าย เมนูจากเสบียงติดบ้าน ใคร ๆ ก็ทำได้ ที่สำคัญอร่อยและสบายกระเป๋านะคะ
.

“เมนูไข่คั่วน้ำปลา” ตามมาเลยค่ะ

วัตถุดิบติดครัว : 1.ไข่>>ไก่,เป็ดได้หมด  2.กระเทียม  3.พริก>>สด,แห้งไม่ติด  4.ต้นหอม  และพระเอก “น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก”

3 ขั้นตอนเท่านั้น ลุยจ้าาาา
.
Step 1 ขยี้ไข่ในกระทะ แค่พอสุก ตักขึ้นพักไว้

Step 2 เจียวกระเทียมจนพอเหลือง ใส่พริกลงไปคั่วพอหอม

Step 3 ใส่ไข่ที่พักไว้ลงไป เปิดไฟแรงโปรยพระเอก (โปรยให้โดนผิวกระทะนะคะ จะได้กลิ่นความหอมมาก ๆ)
น้ำตาลตัดรสนิดนึง คั่วเร็ว ๆ ใส่ต้นหอมคลุกเคล้าปิดไฟ ตักขึ้นพร้อมเสิร์ฟ

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

เมนูแรก
หมึกทอดน้ำปลา

มาดูส่วนผสมและดูเครื่องปรุงนะคะ

– ปลาหมึก  4ตัว
– ตะไคร้ 9 ต้น 
– น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 
– น้ำตาลปี๊บ 1½ ช้อนโต๊ะ 
– กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำเปล่า  เล็กน้อย
– น้ำมันพืชสำหนับทอด
– ตะไคร้ + ข่า 4ต้า
– เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำส้มสายชู  2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

– นำปลาหมึกมาล้างทำความสะอาด ด้วยเกลือป่น และน้ำส้มสายชูเพื่อลดกลิ่นคาวของปลาหมึก เอาแกน ตา และปากออกให้เรียบร้อย  บั้งปลาหมึกให้ทั่ว แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าประมาณ 2-3 น้ำ

– ทุบตะไคร้ ข่าให้พอแหลก แล้วนำใส่วางบนซึ้ง  

– ตามด้วยวางปลาหมึกวางลงไปลงไป วางตะไคร่ ข่าไว้ด้านบน(ตะไคร่  ข่า  กลิ่นคาว)

– จากนั้นนึ่งด้วยไฟแรง 7-8 นาที แล้วยกออก

ขั้นตอนขั้นตอนต่อไปคือ ทอด และทำน้ำปลาราด

– ตั้งกระทะใส่ให้ร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียว

จนเหลืองหอม ตักออกด้วยตะแกรงพักไว้

– จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมัน นำปลาหมึกที่นึ่งไว้ลงไปทอด

– จนได้สีออกน้ำตาลเหลืองสวยงาม แล้วตักขึ้นพักไว้

– หลังจากนี้ทำน้ำปลาสำหรับราดโดยใช้น้ำปลาตราปลาหมึก กระทะใบเล็กอีกใบ ใส่น้ำปลาลงไป ตามด้วยน้ำเปล่าเล็กน้อย ตามด้วยน้ำตาลปิ๊บ

เคี่ยวให้ละลายเข้ากันดี

– เคี่ยวจนได้ที่  ปิดเตา

– จัดวางใส่จาน

– โรยด้วยกระเทียมเจียวืตักน้ำปลาที่เคี่ยวไว้ค่อยๆราดลงไป

– พร้อมเสริฟความหอมอร่อย

…..ขาดไม่ได้กับน้ำจิ้มรสเด็ด…

น้ำจิ้มซีฟู้ด

ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู๊ด
-น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
-น้ำปลาตราปลาหมึก  2 1/2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลปี๊บ 1ช้อนโต๊ะ
-กระเทียม 1ช้อนโต๊ะ
-รากผักชี 1 ราก
-พริกแดงจินดา 10 เม็ด

วีธีการทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด

– นำพริกแดงจินดา  กระเทียม รากผักชีมากโขลกแค่พอละเอียด

– พอโขลกพริกได้ที่แล้วตักใส่ชาม ปรุงรสด้วยน้ำปลาตาปลาหมึก  น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว

คนจนน้ำตาลปี๊บละลาย

โรยด้วยผักชี  เท่านี้ก็ได้น้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บ   ทานคู่กับ  หมึกทอดน้ำปลา อร่อยสุดๆ

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

…..,……..

เมนูที่ 2

ซุปมะเขือผัดหมู

เป็นเมนูที่ชอบมาก  เพราะ
เป็นเมนูที่แม่ชอบทำให้ทานตอนเด็กๆ ชอบมาก  เลยขอสูตรแม่มาทำไว้กินเอง (ถ้าใครชอบปลาร้าสามารถใส่เพิ่มได้)

มาเริ่มลงมือกันเลยค่ะ

ส่วนผสมและเครื่องปรุง

– มะเขือเปราะ 300 กรัม
– เนื้อหมู 150 กรัม
– พริกแดงจินดา 14 เม็ด
– ใบแมงลัก 1 ถ้วย
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
– น้ำปลาตราปลาหมึก 2 ช้อนโต๊ะ
– หอมแดง  3หัว
– กระเทียมสับ  1ช้อนโต๊ะ
– น้ำมันพืช
– เกลือเล็กน้อย

ขั้นตอนการทำ

– นำมะเขือเปราะมาล้างทำความสะอาด  แล้วฝ่าครึ่ง

– หั่นหมูเป็นชิ้นบางๆ

– ต้มน้ำให้เดือดสำหรับต้มมะเขือ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย

– นำมะเขือเปราะลงไปต้มจนนิ่ม

– พอนิ่มได้ที่  ตักขึ้นพักไว้

– นำพริกแดงและหอมแดงมาคั่วให้พอสถกหอม

– จากนั้นนำไปโขลกแค่พอละเอียด

– ตามด้วยมะเขือเปราะที่ต้มเตรียมไว้

โขลกคลุกเคล้าเข้าด้วยกันแค่พอละเอียด

– ตั้งกระทะน้ำมันเล็กน้อยใส่กระเทียมลงไปเจียวให้พอหอม

ตามด้วยเนื้อหมูลงไปผัดให้พอสุก.

ตามด้วยมะเขือเปราะที่โขลกไว้ลงไปผัด

ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน

ปรุงรสด้วยน้ำปลาตราปลาหมึก น้ำตาลทราย ผงปรุงรส ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน

– ใส่ต้นหอม และใบแมงลักลงไปผัดคลุกเคล้าต่อ  ปิดเตาตักใส่ชาม

ทานกับข้าวสวยร้อนไป  มีเครืองแนมเป็นผักสดๆ  อร่อยจนต้องเพิ่มข้าวแน่นอนจ้า

“เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

ส่วนผสมมีดังนี้
1.ปลานิลสด 1 ตัว
2.ใบอีออม 1 มัด
3.กระเทียม 7 กลีบ
4.พริกสด 9 เม็ด
5.ข่า 3 แง่ง
6.ตะไคร้ 5 ต้น
7.มะนาว 2 ลูก
8.น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ขวดฉลากเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
9.มะเขือเทศ 3 ลูก

วิธีทำ
1.ต้มน้ำร้อน 1 ขัน
2.พอน้ำเดือดจัดแล้ว นำปลานิลลงไปต้ม (ต้องให้น้ำเดือดจัด เพื่อลดคาวปลา)

3.ใส่ พริก กระเทียม ข่า ตะไคร้ มะเขือเทศ

4.ปรุงรสด้วย น้ำปลา มะนาว

5.ใส่ใบอีออม
เสร็จแล้วจ้า อร่อยมากเลย

ได้ต้มยำรสจัดจ้าน แซ่บถึงใจ ได้กลิ่นหอมและรสชาติของน้ำปลาแท้ๆ เพราะใช้น้ำปลาดี ใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ขวดสีเขียว ออริจินัล จัดจ้านถึงใจ เกิดจากการนำปลากะตัก 75% มาหมักตามธรรมชาตินานถึง 18 เดือน จนได้น้ำปลาสีนํ้าตาลอมแดง มีโปรตีนจากปลาทะเล มีรสชาติเข้มข้นของนํ้าปลาแท้ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย Gluten Free

แค่มีน้ำปลาดี จะหยิบจับ ทำเมนูไหนๆทำให้อร่อยได้แบบก็ง่ายๆ
เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว

     เรามาทำอาหารกันคร่า กุ้งขอเริ่มที่เมนูง่ายๆ ด้วย “กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา” ค่ะ

วัตถุดิบ
1. กะหล่ำปลี แกะกะหล่ำปลี เป็นใบๆ ล้างน้ำสะอาดเตรียมไว้
2. กระเทียม 2 – 3 กลีบ สับหรือทุบจนแตก
3. น้ำมันพืช
4. น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล

วิธีทำ
1. เทน้ำมันพืชลงกระทะ พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมลงไป
2. เมื่อกระเทียมเริ่มเหลืองจึงใส่กะหล่ำปลีลงไป ทิ้งไว้นับ 1 – 10 จึงเริ่มผัดกะหล่ำปลีนิดนึงพอให้น้ำมั่นทั่ว (ผักยังไม่สุก)
3. ราดน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล (ฝาเขียว) รอบๆ กระทะ จากนั้นปิดฝาทิ้งไว้ นับ 1 – 10 หรือเริ่มได้กลิ่นหอมของน้ำปลาจึงเปิดฝา ผัดกะหล่ำปลีต่อประมาณ 20 วินาที จนกลิ่นหอมของน้ำปลามากขึ้น ก็ปิดเตา ตักใส่จาน อร่อยได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก

เมนูต่อมา “ยำวุ้นเส้นโบราณ” คร่า

วัตถุดิบ
1. วุ้นเส้น 1 ห่อ
2. หมูสับรวนสุก 1 ถ้วย
3. หอมแดง 4 หัว
4. หอมหัวใหญ่ ครึ่งลูก
5. ต้นหอม 2 ต้น
6. กุ้งแห้ง 1 ถ้วย
7. พริกคั่ว 1/2 ช้อนโต๊ะ
8. ถั่วลิสง 1/2 ถ้วย
9. พริกขี้หนูซอย 1/4 ถ้วย
10. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
12. มะนาว 2 ลูก

วิธีทำ ใส่น้ำตาลทรายตามด้วยน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก เติมพริกคั่วลงไปประมาณครึ่งช้อนโต๊ะ (อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวค่ะ ช่วยให้ยำหอมกลิ่นพริก) ใส่พริกขี้หนูซอย หอมหัวใหญ่ หอมแดง บีบมะนาวลงไป ใส่หมู กุ้งแห้ง (ใช้ต้มแทนทอดค่ะ) ใส่วุ้นเส้นที่ลวกเอาไว้ ตามด้วย ถั่วลิสง แล้วก็คลุกให้เข้ากัน จะทานเปล่าๆ หรือทานกับข้าวสวยก็อร่อยค่ะโดยเฉพาะทานกับคนที่เรารัก ยิ่งดีมากๆ ค่ะ เพราะยำวุ้นเส้น ถือว่าเป็นอาหารมงคลในสมัยก่อน ยำวุ้นเส้น มีความหมายในการแสดงความรักที่ทอดยาวเป็นเส้นเหมือนวุ้นเส้น ชีวิตคู่ไม่จืดชืด ครบรสเหมือนยำวุ้นเส้นคร่า

เมนู “ไข่คั่วกุ้งน้ำปลาพริก”

วัตถุดิบ
1. ไข่ไก่/ไข่เป็ด 3 ฟอง
2. กุ้งสด เด็ดหัว ผ่าหลัง 10 ตัว
3. นมสด 4 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
6. กระเทียม 2 กลีบ
7. ต้นหอมซอย

เครื่องปรุงน้ำปลาพริก
1. น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก 6 ช้อนโต๊ะ
2. หอมแดงซอย 3 หัว
3. กระเทียมกลีบใหญ่ 3 กลีบ
4. พริกขี้หนูซอยตามชอบ
5. มะนาวหั่นเต๋าตามชอบ
6. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ผสมน้ำปลากับน้ำตาลทรายคนให้น้ำตาลละลาย ใส่กระเทียม หอมแดง พริกซอย น้ำมะนาว มะนาวหั่นเต๋า คนนิดหน่อยพอให้เข้ากัน เตรียมใส่ถ้วยทานแกล้มคลุกกับไข่คั่ว
2. ปอกเปลือกกุ้ง ดึงหางกุ้งออก ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ล้างให้สะอาด
3. ตอกไข่ใส่ชาม ไข่ไก่หรือไข่เป็ดก็ได้ค่ะแล้วแต่ความชอบและความสะดวก แต่กุ้งเลือกไข่เป็ดเพราะรสชาติอร่อยและสีสันสวยงามกว่าไข่ไก่ ตีไข่แต่ไม่ต้องให้ขึ้นฟู ปรุงรสด้วยน้ำปลา พริกไทยป่น เติมนมสด ตีให้ส่วนผสมเข้ากัน
4. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่กระเทียมสับ ผัดจนหอม ใส่กุ้งลงไปผัดคลุกเล็กน้อยพอแค่กุ้งสะดุ้งความร้อน ใส่ไข่เป็ดทีตีเตรียมไว้ราดลงไปบนตัวกุ้ง ด้านล่างเริ่มเป็นแผ่น ใช้ตะหลิวผัดเร็วๆ แค่พอไข่สุกจะช่วยให้เนื้อไข่นิ่มไม่แข็ง ปิดไฟ ตักใส่จาน โรยต้นหอมซอย ทานคู่กับน้ำปลาพริกปรุงรส

     เมนูต่อมา

“กุ้งคั่วน้ำปลา”

วัตถุดิบ
1. กุ้งขาว
2. น้ำปลา
3. น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
4. กระเทียม 3 กลีบ

วิธีทำ น้ำจิ้ม

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ตามด้วยกระเทียม
2. พอกระทะร้อนใส่กุ้งลงไปผัดกับน้ำมัน
3.พอกุ้งเริ่มสุกให้ใส่น้ำปลาเหยาะลงไป (ตามใจชอบ)
4. ผัดต่ออีกประมาณ 1/2 นาที ปิดไฟ เสิร์ฟคู่กับน้ำปลาพริก ข้าวสวยร้อน แซ่บนัวสุดๆ

     ปิดท้ายด้วยเมนู

วัตถุดิบ
1. เนื้อหมูสไลด์บาง 1/2 กก. เลือกเนื้อหมูที่มีไขมันผสมอยู่ จะช่วยให้เนื้อหมูนุ่มขึ้น
2. มะนาว 2 ลูก
3. น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก (ฉลากเหลือง) 4 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
5. กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
6. พริกสับ 8 เม็ด (ใครที่ทานเผ็ดก็ใส่เพิ่มได้ค่ะ)
7. ตะไคร้ซอย 2 ต้น
8. ใบมะกรูด 7 – 10 ใบ
9. แครอท แตงกวาแช่เย็น (ตามใจชอบ) หรือจะเปลี่ยนเป็นผักคะน้าก็ได้ค่ะ

วิธีทำ
1. ต้มน้ำเพื่อเตรียมลวกหมู พอน้ำเริ่มเดือดใส่ตะไคร้ทุบหั่นเป็นท่อนและใบมะกรูดลงไป (เพื่อช่วยลดกลิ่นคาวของเนื้อหมู)
2. รอน้ำเดือดสักครู่ ใส่หมูลวกพอสะดุ้งลงไปประมาณ 1 นาที เนื้อหมูจะนุ่มละมุนลิ้นพอดี
3. ตักมาวางพักไว้ที่จาน

4. น้ำยำ ปรุงน้ำยำด้วยมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลาย ตามด้วยกระเทียมสับพริกสับ ตะไคร้ ใบมะกรูด
5. นำน้ำยำที่ปรุงรสเสร็จแล้วนำมาราดลงไปบนเนื้อหมูที่วางพักไว้ในจาน
6. ทานกับผักเคียงที่แช่เย็นไว้อย่าง แครอทและแตงกวา จะทานเป็นกับแกล้มหรือทานคู่กับข้าวก็อร่อย

     ช่วงนี้ที่บ้านเน้นทำอาหารทานเองค่ะ เมนูง่ายๆ ไม่ยุ่งยากและได้ตัวช่วยเพิ่มความอร่อยอย่างน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกนี่แหละค่ะ “เมนูอะไรก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

สวัสดีค่ะ วันนี้นุ๊กจะมารีวิวผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก…และ

แชร์สูตรเด็ดประจำตัว คู่ครัวแสนอร่อย กับ น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก มี 2 สูตร คือ

สูตรออริจินัล (ดั้งเดิม) ฉลากเขียว ปรุงอาหารจานแซ่บ และ

สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง ปรุง เติม จิ้ม เหยาะ กลมกล่อมทุกจาน

ทุกเมนูหลากหลายสไตลแสนอร่อยแซ่บ นัว รสชาติจี๊ดจ๊าด จัดจ้าน ทุกๆจาน นุ๊กมีเคล็บลับง่ายๆมาแนะนำค่ะ

ก่อนอื่นขอมาแนะนำการปรุงอาหารของน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกในแต่ละสูตรนะคะ

ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล (ดั้งเดิม) ฉลากเขียว จัดจ้านถึงใจ ปรุงอาหารจานแซ่บ อร่อย แซ่บ นัว ทุกจาน

ผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง นัวได้ใจจะปรุง เติม จิ้ม เหยาะ กลมกล่อมทุกจาน

ต่อมาเรามาดูบรรจุภัณฑ์กันนะคะ

น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล (ดั้งเดิม) ฉลากเขียว (ฝาสีเขียว)

เป็นขวดพลาสติก มีน้ำหนักเบาทนทาน ใช้งานสะดวก ง่ายต่อการหยิบจับปรุงอาหาร เปิดใช้งานง่ายเพียงแค่ดึงตัวล็อคที่ฝาออก

ด้านหน้ามีชื่อผลิตภัณฑ์บอกชัดเจน, สูตร, และข้อมูลผลิตภัณฑ์ ดังนี้

น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรออริจินัล ผลิตจากปลาไส้ดัน ตามหลักธรรมชาติ 100% ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ.1944

ด้านหลังขวดมีข้อมูลดังนี้

ส่วนประกอบ, วิธีใช้, วิธีจัดเก็บ, ปริมาตรสุทธิ 700 มล. , ข้อมูลโภชนาการ, สถานที่ผลิตและจัดจำหน่าย,

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ http://www.squidbrand.com เป็นต้น

น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก สูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง (ฝาสีเหลือง)

ด้านหลังขวดมีข้อมูลดังนี้

ส่วนประกอบ, วิธีใช้, วิธีจัดเก็บ, ปริมาตรสุทธิ 700 มล. , ข้อมูลโภชนาการ, สถานที่ผลิตและจัดจำหน่าย,

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ http://www.squidbrand.com เป็นต้น

เมื่อเราทำความรู้จักกับน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทั้งสูตรดั้งเดิม และ สูตรกลมกล่อมแล้ว …

นุ๊กจะเริ่มแนะนำเมนูจานแซ่บประจำตัว..คู่ครัวอร่อย

ขอแนะนำเมนูเซตใหญ่ไฟกระพริบครบเครื่องมีทั้งของคาวและของหวานก็ใช้น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกทั้ง 2 สูตรในการปรุง

เริ่มด้วยเมนูแรก สูตรเด็ดส่วนผสมเด็ดขาดไม่ได้ต้องมีน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว

รสชาติเข้มข้น อร่อยเข้าเนื้อทุกคำ หอมกลิ่นน้ำปลาแท้ๆ เพิ่มรสอร่อย

ชื่อเมนู “ปีกไก่ทอดน้ำปลาโรยกระเทียมเจียว”

อร่อยง่ายๆ แซ่บ นัว เข้มข้นทุกจาน “เมนูไหนก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

เมนูต่อไปชื่อ “น้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ” รสจี๊ดจ๊าด แซ่บนัวถึงใจ จิ้มกับอะไรก็อร่อย

สูตรเด็ดส่วนผสมเด็ดต้องมีน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรกลมกล่อม ฉลากเหลือง

เมนูน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บสูตรนี้บอกเลย จิ้มกับอะไรก็อร่อยแซ่บ นัว เพราะ “เมนูไหนก็ดี ปลาหมึกการันตีความแซ่บ นัว”

เมนูต่อไปชื่อว่า “หมูสามชั้นทอดน้ำปลาพริก”

สูตรเด็ดจานนี้ต้องมีน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกสูตรดั้งเดิม ฉลากเขียว

เมนูนี้มีชื่อว่า “ยำหมูย่างรสแซ่บ”

มาถึงขนมหวานไฮไลท์เด็ดของเรา เพราะนอกจากน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกจำทำอาหารคาวอร่อแซ่บ นัวแล้ว
เมนูต่อไปคือ “ครองแครงกรอบรสพริกไทย” รสชาติอร่อยเข้มข้นไม่แพ้กัน

”

5. ตักไก่ออกมาใส่ชาม