[CR] เที่ยวแบบ Slow Life @อุทัยธานี pantip

  หลังจากไม่ได้เที่ยวกันนาน คราวนี้จะไปทำธุระที่ จ.อุทัยธานี พอดีเลยถือโอกาสพาครอบครัวไปด้วยซะเลย

เริ่มออกจากบ้านช่วง 08.30 น. จุดหมายที่อุทัยฯ ใช้เวลาประมาณเกือบ 3 ชม. เป้าหมายแรกของเราคือ ร้านบ้านนอกริมนา ท้องเริ่มร้องพอดีเลยแวะกินข้าวเช้า+กลางวันเลยทีเดียว 

 บรรยากาศร้าน มีทั้งโซนร้านอาหาร อาหารให้เยอะ รสชาติใช้ได้ และระหว่างรออาหารที่สั่งยังไม่มา ด้านหลังมีโซนคาเฟ่ริมนา คนน้อยมาก มุมถ่ายรูปเก๋ๆติดวิว ทุ่งนาเขียวชอุ่ม ถ่ายรูปจนอิ่ม 55555 เกือบลืมกินข้าวเลย

อาหารมื้อนี้ของเราคุ้มมาก ไม่ถึงพัน คืออิ่มมากจ้า

อิ่มข้าวกันแล้ว มาต่อกันที่คาเฟ่ หาอะไรหวาน ๆ กินกันดีกว่า
– อาณาจักรบ้อง เป็นคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ระหว่างทางเข้าไป มุมถ่ายรูปเยอะมาก ๆ อากาศร้อนแค่ไหนก็สู้ตายถ่ายรูปจนจะเป็นลม เดินไปจนสุดคาเฟ่มีบ้านญี่ปุ่นให้หลบร้อน หรืออยากเลือกนั่งมุมไหนก็ได้ มีให้เลือกหลายมุม นั่งแล้วจะมีพนักงานมารับออเดอร์ เครื่องดื่มมีทั้ง ชา กาแฟ อาหารให้เลือกเพียบ ครั้งนี้เราอิ่มข้าวกันแล้ว เลยเลือกสั่งเครื่องดื่มมาแทน



ถ่ายรูปเสร็จแล้ว จุดหมายต่อไป ขับรถไปเก็บที่พักก่อนแล้วค่อยออกมาทำธุระ
คืนนี้มานอนที่ ปฐวี โฮมสเตย์ อยู่ตรงแถวบ้านเขาปฐวีพอดี ได้มาในราคาคืนละ 500 บาท /ห้อง


วิวของที่พักเห็นเขาพอดีเลย

เราได้ห้องแบบกระจก เปิดม่านออกมาเห็นวิวมุมกว้าง 

ส่วนห้องของพ่อแม่เป็นห้องแฝด ด้านข้างมีที่ให้จอดรถ

-ภายในห้องมีห้องน้ำในตัว มีตู้เย็น ทีวี แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่นครบ นอกจากจะเป็นที่พักแล้ว ที่นี่ยังมีคาเฟ่ให้บริการ ไม่ต้องกลัวว่าจะหาของกินยาก เพราะคาเฟ่อยู่ด้านหน้าโฮมสเตย์เลย มีขายทั้งชา กาแฟ และอาหาร ชื่อ ปฐวีคาเฟ่ ร้านน่ารักตกแต่ง Loft ภายในร้านตกแต่งด้วยตุ๊กตารูปลิงทั้งร้านเลย

หลังจากเก็บของเสร็จก็ออกไปทำธุระจนเสร็จประมาณ 17.00 น. ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักมาก และจะบอกว่าเราเลยสั่งอาหารไว้ก่อน ทำธุระเสร็จจะได้มากินเลย มื้อนี้สั่ง ข้าวผัดน้ำพริกนรก ข้าวหมูจิ้มแจ่ว สเต๊กหมูบาบีคิว และสปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล ความหิวสั่งเพิ่มส้มตำทะเล อิ่มยันเช้าจ้า

ตื่นเช้ามา ร่างกายต้องการกาแฟ ก็จัดไปทั้งเมนูร้อน – เย็น (ขอรวมภาพเครื่องดื่มจากเมื่อวานตอนเย็นด้วยน้า)
 

เสร็จสิ้นภารกิจ ก่อนเดินทางกลับ กทม. เราแวะทำบุญกับวัดชื่อดังของจังหวัด ที่ใครมาเที่ยวอุทัยฯ จะต้องแวะ อย่าง วัดท่าซุง แต่ด้วยความที่วัดท่าซุงเปิดให้บริการวิหารแก้ว เป็นรอบ รอบเช้า 9 โมง – 11 โมงครึ่ง และรอบบ่าย บ่าย 2 – บ่าย 4 โมงเย็น เราไปไม่ทันรอบเช้า เลยแพลนไปรอบบ่ายแทน ระหว่างนี้ก็เลยเลือกไปทำบุญกันที่วัด วัดสังกัสรัตนคีรี อยู่ไม่ไกลจากวัดท่าซุงเท่าไหร่

จริง ๆ ถ้าใครเดินไหวแนะนำให้เดินขึ้นไปด้านบน จะมีพระให้กราบไหว้ พร้อมกับชมวิว แต่เราแอบเสียดายไม่ได้ขึ้นไปค่ะ เลยไม่ได้เก็บภาพมาฝากเลย

หลังจากไหว้พระเสร็จเรียบร้อย เวลายังเหลือเราก็เลยแวะมาหาขนมกินกันที่ร้าน Boo Bun อยู่ใกล้กับถนนคนเดินตรอกโรงยา 
เป็นร้านเล็ก ๆ มีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ขนมอร่อย ราคาไม่แพงด้วยค่ะ

เดินเล่นกินขนม เพลิน ๆ ตั้งใจจะเดินไปซื้อขนมปังสังขยา ร้านไพพรรณ เจ้าดัง พอไปถึงร้าน เจ้าของร้านแจ้งว่าต้องรอรับอีกที 4 โมงเย็น ซึ่งตอนเราไปสั่งคือเที่ยง เศร้าเลยค่ะ อดกิน T_T ของเค้าฮอตจริง 

หลังจากผิดหวังจากขนมปังสังขยา เราก็ได้เวลาไปวัดท่าซุงกันต่อ จุดหมายสุดท้ายของทริปนี้

เรามาถึงวัดประมาณ บ่ายโมง ยังเหลือเวลาอีกชม. นึง ก่อนวิหารแก้วเปิด เราเลยไปนั่งรถชมวิว ค่าบริการไป-กลับ คนละ 10 บาท เค้าพาขับไปเที่ยวชมปราสาททองคำ ที่อยู่ด้านในของวัด 

หลังจากเดินเล่น ชมความสวยงามของปราสาททองคำแล้ว เราก็นั่งรถกลับมาเที่ยวชมวิหารแก้วกันต่อ สวยงามสมคำร่ำลือ 

 
สำหรับทริปนี้ เราเน้นเที่ยวแบบชิล ๆ ถือว่าได้มาทำธุระด้วย ได้เที่ยวด้วย จริง ๆ แล้วอุทัยธานีก็มีทั้งวัด คาเฟ่ ที่พักดี ๆ ซ่อนอยู่เยอะเหมือนกันนะ สำหรับใครมีเวลาว่าง เราคิดว่าอุทัยฯ ก็เป็นจังหวัดที่น่าพักผ่อนอีกเหมือนกัน