[CR] BufFeast Review : “The Stay Cafe”บุฟเฟ่ต์ข้าวแกงอินเดียร้านจิ๋วบริการแจ๋ว @ถ.ราชปรารภ ข้างซ.รางน้ำ pantip

จู่ๆก็คิดถึงอาหารรสจัดๆของอาหารอินเดียก็เลยลองค้นหาร้านที่น่าสนใจดู ก็เจอเข้ากับโพสนึง ของร้าน The Stay Cafe 
ซึ่งเขาโพสโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์อาหารอินเดียพอดี โดยเขาจะเปิดบุฟเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ช่วงสายจนถึงบ่ายสองเท่านั้นเอง แม้ว่าอาหารจะมีไม่ค่อยมาก 
แต่ราคานั้นแสนจะย่อมเยาว์ และเดินทางได้ไม่ลำบากนัก เลยทำการจองคิวทันที

ถึงวันนัดหมายก็ออกเดินทางแต่เช้าเลยกลัวรถติดมาถึงหน้าร้านซึ่งตั้งอยู่บนถ.ราชปรารภ เลยแยกราชประสงค์มาหน่อย แต่ร้านนั้นตั้งอยู่ติดริมฟุตบาทเลยทำให้จอดรถไม่ได้ จึงจำต้องย้อนกลับเข้าไปจอดที่ซอยรางน้ำใกล้ๆกันแทน มาถึงร้านก็บอกคิวจองแล้วเตรียมกินกันเลย


บรรยากาศร้านเป็นห้องเช่าเล็กๆ มีโต๊ะไม่มาก และไลน์อาหารมีอยู่แถวเดียว ซึ่งราคาต่อหัวอยู่ที่ 299 บาท กินได้ ชม.ครึ่ง อาหารจะมีทั้งพวกแกง 
แป้งนาน และของทอดในตู้ แต่ละเมนูก็จะมีป้ายบอกชื่ออาหารด้วยทำให้จำง่าย บนเค้าเตอร์จะมีพวกเครื่องปรุงต่างๆให้ปรับแต่งรสชาติกันตามชอบใจ 

ตักมาอย่างละหน่อย พร้อมกินครับ ดูสิว่ารสชาติจะจัดเท่าร้านก่อนที่เคยไปกินเปล่า

จานนี้มีข้าวหมกเหลือง กับ แกง 2 อย่าง คือ บัตเตอร์ชิคเก้น กับ วินดาลู
ข้าวรสจืดนุ่ม หวานปลายลิ้น คล้ายข้าวสวยบ้านเรา
แกงบัตเตอร์ น้ำแกงออกครีมมะเขือเทศ เผ็ดพอประมาณ ไก่ตุ๋นเนื้อร่วนๆนุ่มได้ใจ
ส่วน Chicken Vindaloo หรือแกงถั่ว หน้าตาเหมือนสตูเนื้อแต่รสชาติมันถั่วผสมครีมแบบเด่นชัด ตรงก้นๆจะได้กลิ่นหอมแดงฟุ้ง 
อันนึงรสอ่อน อันนึงรสเข้ม ถ้ากินเปล่าๆจะเริ่มเอียน แต่พอกินสลับกัน จะสมดุลและกินได้อร่อยขึ้น


แป้งนาน มีความมันและหอมกระเทียมมาก แต่บางแผ่นจะเกรียมๆไปนิด 
อาลู ซาโมซ่า พัพอบขอบกรอบหนา ไส้ในเป็นมันและถั่วอบ กินละกรุบๆดี รสชาติใช้ได้เลย 
ปลาทอด Amritsari ทอดมากรอบอร่อยดีมาก แป้งนุ่มหอมน้ำมันกำลังดี ใช้เนื้อปลาดอลี่กับแซลมอนคละกันไป 

แกงผักใส่ชีส Palak Paneer รสมันๆ ผสมกลิ่นผักบดแบบเต็มคำ รสรวมๆเหมือนผักโบมอบชีส ไม่เหม็นเขียวดั่งคาด 
และ Daal Maharani สีคล้ายๆกับไก่บัตเตอร์ แต่รสชาติจะฉุนเครื่องเทศและเผ็ดกว่าบัตเตอร์ ส่วนประกอบหลักเป็นเนื้อไก่และมะเขือเทศเหมือนกัน 

ของกินประจำร้านแนวอินเดีย Pani Puri แป้งบางกรอบ ไส้เป็นมันอบหั่นเต๋าชิ้นเบ้ง ซอสนั้นได้รสหวานอมเปรี้ยวของมะขามมาเต็ม
กินแล้วเหมือนเป็นของหวานกลายๆเลย เพราะรสชาติออกหวานนำเยอะ แถมน้ำราดก็เย็นๆกินแล้วชุ่มคอ

ปลาทอดอย่างเด็ดครับ จิ้มกินกับแกงเผ็ดคือลือมากๆ

ข้าวไม่ค่อยหอมเท่าไหร่ แต่กินกับแกงถั่วกับบัตเตอร์แล้วได้รสชาติเข้มเต็มปากเลย 

จะจุ่มกินรึห่อแล้วเอาแกงราดก็ได้หมดถ้าใจอยาก

ด้วยความที่อาหารมีไม่มากเลยเดินวนตักกินวนอยู่อย่างนั้น(เน้นปลาทอดเป็นหลัก)เกือบๆห้าหกรอบได้ จนได้เวลาอันสมควร สั่งของหวานมาตบท้ายซะ
ของหวานจะเป็นพุดดิ้งข้าวปสมกับพวกผลไม้ปั่นและเครื่องเทศ รสชาติก็หอมเครื่องเทศและหวานแบบจางๆ ก็กินได้แบบเฉยๆนะ ไม่ได้ว้าวไรมาก 

ก่อนจาก เจ้าของร้านนำของล้างปากมาให้กินระหว่างรอคิดเงิน  เป็นพวกน้ำตาลกรวด น้ำตาลเคลือบ และข้าวเปลือกรสฉุนๆ 
กินแล้วก็เย็นและหอมปากดีเหมือนกินพวกยาเย็นบ้านเราอ่ะนะ

ตัดเกรด
รสชาติอาหาร : ****
โดยรวมแล้วพวกแกงแล้วก็ข้าวรสชาติอ่อนกว่าที่คาดไว้นิด ร้านนี้เขาเน้นความหวานของมะเขือเทศมากกว่าครีม แล้วก็เผ็ดร้อนกว่าร้านเก่าที่เคยไปกิน
ความสดสะอาดถือว่าดีงามเพราะทำร้อนๆ โดยเฉพาะพวกของทอดและแป้ง อร่อยมาก แต่ติดตรงแป้งนานบางแผ่นจะแห้งและเกรียมไปนิด 
ของหวานค่อนข้างธรรมดา

อร่อยมากสุด : ปลาทอด
กรอบแป้งด้านนอก เนื้อปลานุ่มหอมลงตัว จิ้มกับแกงถั่วมันๆเข้าสุดละผมว่า

อร่อยน้อยสุด : พุดดิ้งข้าว
ก็ถือว่าโอเคดี เพียงแต่รสชาติเบากว่าอย่างอื่น กินจบแล้วก็จบเลย ไม่มีไรน่าพิศมัย

บรรยากาศในร้าน : ****
เป็นตึกคูหาเดียว ไม่เหมาะกับการเดินตักอาหารนัก ตกแต่งสวยใช้ได้อยู่

การบริการ : *****
ทำได้ดีมาก ยิ่งเจ้าของร้านเอาใจใส่ลูกค้าสุดๆ คอยเสิร์ฟคอยถามว่าจะเอาอะไรเพิ่มบ้าง และเป็นกันเองมาก

ความหลากหลาย : **1/2
มีไม่เท่าไหร่ ใครชอบความหลากหลายคงจะเบื่อเอาง่ายๆ แต่เห็นพวกของทอดนี้จะเวียนไปในแต่ละสัปดาห์ใครมีเวลาก็ลองมาชิมดูนะครับ

ราคา : ****
ค่อนข้างถูกสบายเป๋าตังค์กับอาหารอินเดียที่ไม่ได้หาทานได้บ่อยๆ

การเข้าถึง : ****1/2 
ร้านสังเกตุเห็นง่ายเพราะอยู่ติดถนนและป้ายเด่นชัด ติดตรงใครเอารถไปอาจจะต้องลำบากไปหาที่จอดในซอยรางน้ำเอา

ความคุ้มค่า : ****1/2
ผมว่าคุ้มมากนะ เพราะถึงแม้ของกินจะมีน้อยนิด แต่รสชาติก็ถือว่าดีงาม อร่อยคุ้มค่า โดยเฉพาะยิ่งเจ้าของใส่ใจลูกค้าแบบนี้ ควรค่าแก่การมาลองครับ
แต่ร้านมีโปรบุฟเฟ่ต์เฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ช่วง 10 โมงครึ่งถึงบ่ายสองครึ่งเท่านั้นเอง ใครสนใจก็ต้อง จองคิวกันก่อนละไม่งั้นเต็ม เพราะร้านเล็กมาก

ภาพรวม : ****