[CR] 🇹🇭 Sushi Ichizu – ซูชิ อิชิซึ ซูชิที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เหมาะกับคนที่อยากลิ้มลองวัตถุดิบหายาก
📍 FB: ตามล่า Fine Dining
📌 IG: Fine Dining lover
และช่องทางใหม่ทาง Youtube : ตามล่า Fine Dining
🇹🇭 Sushi Ichizu – ซูชิ อิชิซึ
🍴 Sushi – ร้านซูชิ
🎗 รีวิววันนี้เราอาสาพาเพื่อน ๆ ไปพบกับหนึ่งในร้านซูชิชั้นสูงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเท่าที่เราเคยสัมผัสมาในกรุงเทพ Sushi Ichizu ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ชื่อร้านแปลตรงตัวว่า วิถีแห่ง สื่อไปถึงวิถีแห่งการทำซูชิ ด้านหน้าตกแต่งอย่างเรียบง่ายมีเพียงป้ายชื่อร้านขนาดเล็กเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นแขวนเอาไว้ เมื่อเข้ามาด้านในลูกค้าจะถูกพาไปยังห้องรับรองเพื่อเตรียมการก่อนเสิร์ฟจริง ห้องอาหารหลักตกแต่งในแบบ Zen สังเกตได้จากเคาน์เตอร์ซูชิรูป U Shaped ขนาดใหญ่ทำมาจากไม้ Hinoki ล้อมรอบตัวเชฟราวกับเป็นเวทีการจัดแสดงทางอาหารชั้นยอด แม้หน้าตาอาหารดูจะต้องใช้เทคนิคชั้นสูงในการเตรียมแต่ทราบกันหรือไม่ว่าเชฟคนปัจจุบันของร้านนั้นเป็นคนไทยชื่อว่าเชฟแน็ต เขาได้สืบทอดประสบการณ์การปั้นซูชิสไตล์ Edomae มาจากเชฟ Riku Toda มือขวาของมาสเตอร์เชฟ Takaaki Sugita เจ้าของร้านซูชิระดับ 1 ดาวมิชลินนั่นเอง เชฟแน็ตได้เรียนรู้เทคนิคในทุกขั้นตอนตั้งแต่การจัดเตรียมวัตถุดิบ การคัดเลือกปลาตามฤดู การแล่และบ่มเนื้อปลา ไปจนถึงการทำขนมหวานสูตรพื้นบ้านออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเทียบเท่ากับร้านซูชิระดับสูงที่ควบคุมโดยเชฟชาวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
🎗 ลูกค้าสามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ผ่านทางเวปไซต์โดยตรงโดยจะมีให้เลือกสองรอบคือ 17.30 น. และ 20.30 น. ในห้องอาหารห้ามการใช้น้ำหอมรวมถึงเจลแต่งผมมีกลิ่น ทางร้านนำเสนอเซ็ตเมนู 3 แบบคือ Nigiri Course (4,000++/p) ที่จะเน้นเสิร์ฟนิงิริซูชิเป็นหลักกับ Omakase Course (8,000++/p) ซึ่งจะมีอาหารเรียกน้ำย่อยรวมไปถึงวัตถุดิบพรีเมี่ยมอย่าง Kegani, Ankimo และ Awabi เพิ่มเติมขึ้นมา สุดท้ายคือ Mini Omakase Course (6,000++/p) สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากลองทานเมนู Signature ต่าง ๆ (พิเศษสำหรับเซ็ต Mini Omakase เมื่อทำการจองภายวันที่ 30 เมษายนนี้ทุกคนจะได้รับ Complimentary เป็น Sake Set อีกด้วย คุ้มไปอีก) แม้เชฟจะเป็นคนไทยแต่อาหารหลาย ๆ อย่างคุณภาพดีงามเทียบเคียงได้กับร้านซูชิชั้นสูงในกรุงโตเกียวโดยมีจานที่ขอปักหมุดแนะนำกันไว้อยู่ 3 อย่างคือ
✨ Ankimo
เรากล้าการันตีเลยว่า “อังกิโมะ” หรือตับปลามังที่นี่รสชาติอร่อยติดอันดับทอปในประเทศไทย เชฟนำตับปลาไปล้างน้ำเปล่าโดยเปิดให้น้ำไหลผ่านนาน 3-4 ชั่วโมงเพื่อล้างกลิ่นออกจนหมด จากนั้นจึงต้มกับซอสสูตรพิเศษของเชฟ ด้านบนทอปด้วยวาซาบิสด คลุกซอสกับตับปลาให้ทั่วแล้วทานเป็นชิ้น ๆ ตัวปลามีความหอม นุ่ม ครีมมี่ สมกับฉายาอัญมณีแห่งท้องทะเล น้ำซอสรสหวานกลมกล่อมตัดด้วยความเผ็ดเบา ๆ จากวาซาบิ ทุกองค์ประกอบที่ใส่มาเข้ากันได้อย่างไร้ที่ติ (15/20)
✨ Shimofuri
“ชิโมะฟุริ” เป็นเนื้อปลาทูน่าที่อยู่ระหว่าง Chutoro และ Otoro เชฟนำมา Aburi หรือการผ่านความร้อนฝั่งเดียวโดยใช้ถ่าน Binchōtan เพื่อให้ระดับความร้อนคงที่ จุดเด่นของเนื้อปลาส่วนนี้คืออัตราส่วนไขมันที่มากพอจะทำให้เนื้อปลานุ่ม แต่ไม่เยอะจนอาจทำให้เลี่ยนได้เหมือน Otoro หลังจากผ่านความร้อนมาทำให้ไขมันบริเวณผิวแตกตัว เนื้อปลาจะนุ่มมากขึ้นและมีกลิ่นหอมจากการอะบุริชัดเจน หยิบทานในคำเดียวพบว่าเนื้อปลาแทบจะละลายในปาก สุดยอดมาก ๆ (15/20)
✨ Warabi Mochi
ปิดท้ายด้วยขนมหวานซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง “วาราบิ โมจิ” โดยวาราบิเป็นพืชตระกูลเฟิร์นชนิดหนึ่งที่เติบโตขึ้นตามภูเขาในประเทศญี่ปุ่น ทางร้านคัดเลือกแป้งโมจิเกรดที่ดีที่สุด (ราคาสูงกว่าหลานพันบาทต่อกิโลกรัม) ทำให้มีเนื้อสัมผัสความหนึบที่เป็นเอกลักษณ์ เคี้ยวง่าย ไม่ติดฟัน ราดด้วย Kuromitsu หรือน้ำตาลอ้อยนำเข้าจากเกาะ Okinawa ให้รสชาติหวานไม่บาดคอ ด้านบนโรยด้วยผงถั่ว Kinako หอม ๆ และ Sakura Shio-zuke หรือดอกซากุระหมักเกลือช่วยให้มีรสเค็มนิด ๆ มาบาลานซ์โทนรสหวานให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น (15/20)
🎗 จุดเด่นของ Sushi Ichizu คือการเฟ้นหาวัตถุดิบพรีเมี่ยมหายากมาเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ตลอดทั้งปี เชฟแน็ตแม้จะเป็นคนไทยแต่สามารถสืบทอดเทคนิคชั้นสูงจากมาสเตอร์เชฟระดับโลกมาส่งถึงมือลูกค้าได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ Sushi Ichizu เป็นร้านซูชิชั้นสูงที่หาใครเทียบได้ยากในกรุงเทพ เพื่อน ๆ ที่มีใจชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นหรือเป็นขาประจำร้านซูชิควรหาโอกาสมาลองทานกันดูสักครั้ง
📃 Omakase Course (8,000++/p)
Hotaru Ika Chawanmushi
Iwashi Roll
Kegani
Ankimo
Shirako
Shiro Ebi
Ishigakidai
Torigai
Kobashira
Chutoro
Shimofuri
Awabi
Kuruma Ebi
Nodoguro
Uni
Soup
Tamagoyaki
Warabi Mochi
🏵 Score:
👍 สุดยอดร้านซูชิที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เหมาะกับคนที่อยากลิ้มลองวัตถุดิบหายาก ไม่ซ้ำใคร
อาหาร : 14/20
ราคา : 🌟🌟
ความคุ้มค่า : 🌟🌟
เทคนิค : 🌟🌟
อัตลักษณ์ : 🌟🌟
บรรยากาศ : 🌟🌟🌟🌟
บริการ : 🌟🌟🌟🌟
ความประทับใจโดยรวม : 14/20
📍 Visit: Mar 2020
🏠 Location: สุขุมวิท 39 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
🚗 Parking: จอดหน้าร้าน
🕠 Operating Time: 17.30 และ 20.30
💰 Price: 4,000-8,000++/p
📞 Tel: 065-738-9999
🧥 Dress Code: Smart Casual
🖥 Website: https://sushiichizu.com/indexth.html
🥰 ฝากเพื่อน ๆ ช่วยกดไลค์และติดตามเราผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเราตั้งใจนำเสนองานรีวิวร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำและห้องอาหารระดับ Michelin Guide ทั่วโลก
👍 Facebook: “ตามล่า Fine Dining” และ “Pakiin by ตามล่า Fine Dining”
👍 Group “Fine Dining Lovers by ตามล่า Fine Dining”: https://www.facebook.com/groups/3392372877497917/?ref=share
👍 Instagram: finedining_lovers
👍 Youtube: ตามล่า Fine Dining
#Sushi #JapaneseFood #FineDining #AroiBKK #Bangkok #ตามล่าFineDining
🇹🇭 Sushi Ichizu – ซูชิ อิชิซึ
🍴 Sushi – ร้านซูชิ
รีวิววันนี้เราอาสาพาเพื่อน ๆ ไปพบกับหนึ่งในร้านซูชิชั้นสูงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเท่าที่เราเคยสัมผัสมาในกรุงเทพ
ลูกค้าสามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ผ่านทางเวปไซต์โดยตรงโดยจะมีให้เลือกสองรอบคือ 17.30 น. และ 20.30 น. ในห้องอาหารห้ามการใช้น้ำหอมรวมถึงเจลแต่งผมมีกลิ่น ทางร้านนำเสนอเซ็ตเมนู 2 แบบคือ Nigiri Course (4,000++/p) ที่จะเน้นเสิร์ฟนิงิริซูชิเป็นหลักกับ Omakase Course (8,000++/p) ซึ่งจะมีอาหารเรียกน้ำย่อยรวมไปถึงวัตถุดิบพรีเมี่ยมอย่าง Kegani, Ankimo และ Awabi เพิ่มเติมขึ้นมา แม้เชฟจะเป็นคนไทยแต่อาหารหลาย ๆ อย่างคุณภาพดีงามเทียบเคียงได้กับร้านซูชิชั้นสูงในกรุงโตเกียว
Hotaru Ika Chawanmushi
จานแรกเชฟเริ่มเสิร์ฟเราด้วย “ชาวานมูชิ” หรือไข่ตุ๋นญี่ปุ่น เชฟตุ๋นออกมาดีมาก เนื้อนุ่ม ละเอียด ด้านในมีโฮตารุอิกะหรือหมึกหิ่งห้อยเรืองแสงนำเข้าจาก Toyama แม้จะตัวเล็กแต่เชฟแล่ปากและส่วนเครื่องในออกได้สะอาดหมดจดทำให้มีความหนึบ เคี้ยวง่าย ที่สำคัญไม่มีกลิ่นคาวติดมาเลย (13/20)
Welcome Drink
สำหรับเวลคัมดริ๊งก์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮลล์ที่มีกลิ่นของส้มยูซูนั่นเอง
Takuwan & Gari
ทางร้านเสิร์ฟหัวไชเท้าดองมาสองรูปแบบโดยชิ้นสีขาวคือหัวไชเท้าที่นำไปดองกับข้าวส่วนสีเหลืองคือหัวไชเท้าที่ดองกับโชยุ ส่วนขิงดองถูกแล่เป็นแผ่นขนาดเท่ากัน มีความกรอบ ทานง่าย กลิ่นไม่ฉุนและไม่เผ็ดจนเกินไป
Iwashi Roll
เมนูพื้น ๆ ที่เชฟแน็ตทำออกมาได้ดีเกินคาดคือ “อิวาชิโรล” โดยอิวาชิเป็นปลาในกลุ่มซาดีนทำให้มีรสเค็มนิด ๆ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว (15/20)
Iwashi Roll
เชฟนำเนื้อปลามาดองกับเกลือน้ำส้มญี่ปุ่น จากนั้นจึงบ่มเนื้อปลาต่ออีกราว ๆ 3 วันเพื่อให้รสชาติของเครื่องดองซึมสู่เนื้อปลา ก่อนเสิร์ฟนำมาม้วนห่อกับสาหร่าย เชฟแนะนำให้ตักวาซาบิสดจาก Shizuoka ทอปลงไปเยอะหน่อยเพื่อบาลานซ์โทนรสชาติให้พอดีกับรสจากเนื้อปลา (15/20)
Kegani
เชฟแน็ตใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยมอย่าง ”เคกานิ” หรือปูขนนำเข้าจากฮอกไกโด นำมาฉีกเนื้อออกแล้วราดคานิมิโสะหรือซอสมันปูลงไป ด้านบนทอปด้วย Beluga Caviar คลุกทุกองค์ประกอบให้เข้ากันเพื่อสัมผัสรสหวานและกลิ่นหอมจากธรรมชาติของเนื้อปู, ความมันของคานิมิโสะ และความเค็มอุมามิของคาเวียร์ไปพร้อม ๆ กัน สุดยอดมาก ๆ (14/20)
Ankimo
เรากล้าการันตีเลยว่า “อังกิโมะ” หรือตับปลามังที่นี่รสชาติอร่อยติดอันดับทอปในประเทศไทย เชฟนำตับปลาไปล้างน้ำเปล่าโดยเปิดให้น้ำไหลผ่านนาน 3-4 ชั่วโมงเพื่อล้างกลิ่นออกจนหมด จากนั้นจึงต้มกับซอสสูตรพิเศษของเชฟ ด้านบนทอปด้วยวาซาบิสด คลุกซอสกับตับปลาให้ทั่วแล้วทานเป็นชิ้น ๆ ตัวปลามีความหอม นุ่ม ครีมมี่ สมกับฉายาอัญมณีแห่งท้องทะเล น้ำซอสรสหวานกลมกล่อมตัดด้วยความเผ็ดเบา ๆ จากวาซาบิ ทุกองค์ประกอบที่ใส่มาเข้ากันได้อย่างไร้ที่ติ (15/20)
Shirako
มาถึงคอร์สพิเศษที่เชฟใช้วัตถุดิบหายากอย่าง “ฟุกุ ชิราโกะ” หรือถุงเก็บน้ำเชื้อของปลาปักเป้าเพศผู้ สาเหตุที่วัตถุดิบสุดแปลกนี้ได้รับความนิยมขึ้นมาเพราะเนื้อสัมผัสที่ครีมมี่ นุ่ม ละลาย หาไม่ได้ในวัตถุดิบอื่น ด้านล่างคือซอสพอนซึรสเปรี้ยวหวาน ด้านบนทอปด้วยหัวไชเท้าปรุงรสและต้นหอม ใครที่ไม่เคยทานต้องตามมาลองกันเพราะชิราโกะจากปลาปักเป้ามีเสิร์ฟในร้านซูชิชั้นสูงเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นในกรุงเทพ (14/20)
ถัดมาเชฟจะพาเข้าสู่ Nigiri Sushi ที่เรารอคอยกัน
Shiro Ebi
คำนี้คือ “ชิโระเอบิ” หรือกุ้งขาวญี่ปุ่นจากจังหวัด Toyama เชฟใช้เทคนิค Kombu-jime หรือการหมักด้วยสาหร่ายคอมบุทำให้เนื้อกุ้งมีกลิ่นหอม จบด้วยการบีบ Sudachi หรือมะนาวญี่ปุ่นและเกลือสาหร่าย Moshio ช่วยดึงรสหวานของกุ้งให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น (13/20)
Ishigakidai
“อิชิกากิได” ปลากระพงลายเสือนำเข้าจากจังหวัด Kyushu เชฟนำไปบ่มหรือ Aging นาน 1 สัปดาห์ ด้วยความที่เป็นปลาเนื้อขาวจึงมีจุดขายอยู่ที่เนื้อสัมผัสนุ่มหนึบ รสชาติจะได้เด่นชัดมากนัก เชฟทาซอสมาบาง ๆ ที่ด้านบน เหมาะกับการเสิร์ฟเป็นคอร์สแรก ๆ ของนิงิริซูชิ (14/20)
ติดตามความอร่อยกันต่อในคอมเม้นกันนะค้าาา
และที่สำคัญอย่าลืมกเไลค์ กดแชร แฟนเพจ fb : ตามล่า Fine Dining ของเราด้วยนะค้าา เร็วๆนี้เราจะมีช่องยูทูปของเราด้วย ช่วงนี้อยู่ในช่วงฝึกหัด เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะค้า เปิดประเทศเมื่อไหร่ มีคลิปทั้งกิน ทั้งเที่ยวให้ดูกันเพลินๆแน่นอน
CR – Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- – จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- – ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
28 มีนาคม เวลา 14:31 น.
Torigai
หนึ่งในนิงิริที่ทำออกมาได้ดีที่สุดในวันนี้คือ “โทริไก” หรือหอยแครงญี่ปุ่นจากจังหวัด Hyogo เชฟคัดหอยขนาดพอดีคำไม่ใหญ่จนเกินไป ทั้งยังเตรียมมาได้ดีไร้ซึ่งกลิ่นคาว เชฟนำไปลวกจนมีความสุกระดับมีเดียมแรร์ เคี้ยวแล้วมีความกรึบของเนื้อหอยไร้ที่ติมาก ๆ (14/20)
Kobashira
“โคบาชิระ” เป็นส่วนเอ็นของหอย Aoyagi หรือหอยกระต่ายห่อมาในสาหร่าย ข้าวซูชิ และวาซาบิโดยจุดเด่นอยู่ที่ความกรึบที่มากขึ้นกว่าเนื้อหอยโทริไกคำก่อนหน้านี้ เมื่อเคี้ยวไปกับข้าวซูชิจะเกิดความต่างทางเนื้อสัมผัสชัดเจน (13/20)
Chutoro
เนื้อปลาทูน่าส่วน “ชูโทโร่” หรือส่วนที่มีไขมันแทรกอยู่ปานกลาง เชฟนำไปบ่มหรือ Aging นาน 2 อาทิตย์ทำให้เนื้อปลามีระดับความมันและเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบและหอมมากยิ่งขึ้น (14/20)
Shimofuri
“ชิโมะฟุริ” เป็นเนื้อปลาทูน่าที่อยู่ระหว่าง Chutoro และ Otoro เชฟนำมา Aburi หรือการผ่านความร้อนฝั่งเดียวโดยใช้ถ่าน Binchōtan เพื่อให้ระดับความร้อนคงที่ (15/20)
Shimofuri
จุดเด่นของเนื้อปลาส่วนนี้คืออัตราส่วนไขมันที่มากพอจะทำให้เนื้อปลานุ่ม แต่ไม่เยอะจนอาจทำให้เลี่ยนได้เหมือน Otoro หลังจากผ่านความร้อนมาทำให้ไขมันบริเวณผิวแตกตัว เนื้อปลาจะนุ่มมากขึ้นและมีกลิ่นหอมจากการอะบุริชัดเจน หยิบทานในคำเดียวพบว่าเนื้อปลาแทบจะละลายในปาก สุดยอดมาก ๆ (15/20)
Awabi
ในภาพคือวัตถุดิบพรีเมี่ยมอย่าง “อะวาบิ” หรือหอยเป่าฮื้อญี่ปุ่นจากจังหวัด Chiba ที่ผ่านการนึ่งกับสาเกเป็นระยะเวลานานถึง 6-8 ชั่วโมง เชฟจะนำมาแสดงให้ดูก่อนจะนำไปแล่ (14/20)
Awabi
สังเกตให้ดีจะพบว่าเชฟพิถีพิถันกระทั่งการแล่เนื้อหอยให้เป็นริ้วคลื่นเพื่อให้จับตัวกับน้ำซอสได้ดีมากยิ่งขึ้น (14/20)
Awabi
เนื้อหอยนึ่งมาสุกกำลังดี มีความหนึบแต่ไม่เหนียว ไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย เชฟแล่มาเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ มีริ้วจากการแล่เป็นชั้น ๆ ขนาดเท่า ๆ กันเพื่อให้ยึดน้ำซอสได้ดีมากยิ่งขึ้น ด้านล่างคือ Kimo Sauce ทำมาจากตับหอยจึงมีความครีมมี่ หอม มัน เข้ากันกับเนื้อหอยได้อย่างไร้ที่ติ (14/20)
Kuruma Ebi
ถัดมาคือ “นามะคุรุมะเอบิ” หรือกุ้งลายเสือเป็น ๆ นำเข้าจากจังหวัด Kagoshima เชฟนำไปหมักกับซอสหรือที่เรียกว่ากระบวนการ Shoyu-zuke ใส่องค์ประกอบของยูซูลงไปเล็กน้อยแล้วเสิร์ฟมาแบบดิบ เนื้อกุ้งมีความกรอบ แน่น รสชาติหวานปานกลาง ตรงตามคุณสมบัติของคุรุมะเอบิชั้นดี ทั้งยังหอมกลิ่นยูซูชัดเจน (13/20)
Nodoguro
“โนโดกุโระ” หรือปลากระพงคอดำถือเป็นหนึ่งในปลาญี่ปุ่นที่เราชอบมากที่สุด เชฟนำปลาไปผ่านกระบวนการหมักซอสหรือ Shoyu-zuke จากนั้นจึง Aburi หรือย่างไฟเพียงด้านเดียวเฉพาะส่วนหลังเพื่อให้มีกลิ่นหอม เนื้อปลามีความนุ่มหนึบ มีรสชาติของซอสเข้มข้นเข้าเนื้อชัดเจน สุดยอดมาก ๆ (14/20)
Uni
เพียงแค่เห็นก็เชื่อเลยว่าที่ Sushi Ichizu คัดเฉพาะวัตถุดิบพรีเมี่ยมมาเสิร์ฟให้ลูกค้าเพราะ ทางร้านเลือกใช้ “บาฟุนอูนิ” ของแบรนด์ Akiyama นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอูนิที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ (13/20)
Soup
ปิดท้ายอาหารคาวด้วย ”อะกะดาชิ มิโสะ” หรือซุปมิโสะแดงรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นเต้าเจี้ยว แนะนำให้รีบซดขณะยังร้อน ๆ ช่วยดับรสชาติของปลาและหอยต่าง ๆ ไปได้อย่างหมดจด (13/20)
Tamagoyaki
“ทามะโกะยากิ” ที่นี่ทำออกมาในสไตล์ Kasutera (Castella) โดยมีส่วนผสมของเนื้อปลาบดและเนื้อกุ้งบด ทั้งยังไม่มีส่วนผสมของแป้งแม้แต่น้อย เนื้อสัมผัสนุ่ม เบา หอม รสชาติอมหวานกำลังดี อาจเรียกได้ว่าอร่อยเกินมาตรฐานร้านซูชิในกรุงเทพไปมากเลยทีเดียว (14/20)
Matcha
ลูกค้าสามารถเลือกเครื่องดื่มเป็น ”มัทฉะ“ หรือชาเขียวร้อน/เย็นซึ่งจะรวมอยู่ในเซ็ทเรียบร้อยแล้ว
Warabi Mochi
ปิดท้ายด้วยขนมหวานซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง “วาราบิ โมจิ” โดยเชฟจะมาทำขนมโมจิให้ชมกันสด ๆ ที่หน้าเคาน์เตอร์เลยทีเดียว (15/20)
Warabi Mochi
เนื่องจากแป้งที่เตรียมเอาไว้ใช้เสิร์ฟได้เพียงครั้งเดียว ทางร้านจึงมีข้อเสนอให้ลูกค้าสามารถเติมขนมได้เรื่อย ๆ ไม่อั้นจนกว่าแป้งจะหมด สุดยอดมาก ๆ (15/20)
Warabi Mochi
เนื่องจากแป้งที่เตรียมเอาไว้ใช้เสิร์ฟได้เพียงครั้งเดียว ทางร้านจึงมีข้อเสนอให้ลูกค้าสามารถเติมขนมได้เรื่อย ๆ ไม่อั้นจนกว่าแป้งจะหมด สุดยอดมาก ๆ (15/20)
Hojicha
ส่วนเมนูขนมหวานทางร้านจะนำเสิร์ฟ ”โฮจิฉะ“ หรือชาคั่วซึ่งจะมีกลิ่นหอมเข้ากันได้เป็นอย่างดี
Sushi Ichizu ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ชื่อร้านแปลตรงตัวว่า วิถีแห่ง สื่อไปถึงวิถีแห่งการทำซูชิ
แม้หน้าตาอาหารดูจะต้องใช้เทคนิคชั้นสูงในการเตรียมแต่ทราบกันหรือไม่ว่าเชฟคนปัจจุบันของร้านนั้นเป็นคนไทยชื่อว่าเชฟแน็ต เขาได้สืบทอดประสบการณ์การปั้นซูชิสไตล์ Edomae มาจากเชฟ Riku Toda มือขวาของมาสเตอร์เชฟ Takaaki Sugita เจ้าของร้านซูชิระดับ 1 ดาวมิชลินนั่นเอง เชฟแน็ตได้เรียนรู้เทคนิคในทุกขั้นตอนตั้งแต่การจัดเตรียมวัตถุดิบ การคัดเลือกปลาตามฤดู การแล่และบ่มเนื้อปลา ไปจนถึงการทำขนมหวานสูตรพื้นบ้านออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเทียบเท่ากับร้านซูชิระดับสูงที่ควบคุมโดยเชฟชาวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
จุดเด่นของ Sushi Ichizu คือการเฟ้นหาวัตถุดิบพรีเมี่ยมหายากมาเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ตลอดทั้งปี เชฟแน็ตแม้จะเป็นคนไทยแต่สามารถสืบทอดเทคนิคชั้นสูงจากมาสเตอร์เชฟระดับโลกมาส่งถึงมือลูกค้าได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ Sushi Ichizu เป็นร้านซูชิชั้นสูงที่หาใครเทียบได้ยากในกรุงเทพ เพื่อน ๆ ที่มีใจชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นหรือเป็นขาประจำร้านซูชิควรหาโอกาสมาลองทานกันดูสักครั้ง
ด้านหน้าตกแต่งอย่างเรียบง่ายมีเพียงป้ายชื่อร้านขนาดเล็กเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นแขวนเอาไว้ เมื่อเข้ามาด้านในลูกค้าจะถูกพาไปยังห้องรับรองเพื่อเตรียมการก่อนเสิร์ฟจริง
ห้องอาหารหลักตกแต่งในแบบ Zen สังเกตได้จากเคาน์เตอร์ซูชิรูป U Shaped ขนาดใหญ่ทำมาจากไม้ Hinoki ล้อมรอบตัวเชฟราวกับเป็นเวทีการจัดแสดงทางอาหารชั้นยอด
28 มีนาคม เวลา 14:36 น.
28 มีนาคม เวลา 14:42 น.
28 มีนาคม เวลา 17:10 น.