[CR] รีวิว”LarbLoi ลาภลอย”ร้านอาหารไทย-อีสานรสเด็ดราคาถูกวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในยอดพิมานริเวอร์วอล์ค
หลังจากเดินเล่นแวะซื้อดอกไม้สวยๆภายในปากคลองตลาดเสร็จก็เกิดอาการหิว จำได้ว่าแถวนี้มีโครงการยอดพิมานริเวอร์วอล์คที่รวมร้านค้าและร้านอาหารอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไว้อยู่มากมาย เมื่อก่อนตอนเพิ่งเปิดใหม่เคยแวะมาทานข้าวจำได้ว่าสวย-บรรยากาศดีสุดๆ แต่เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ทำให้ปัจจุบันคงเหลืออยู่เพียงแค่ไม่กี่ร้านเพราะนอกนั้นพากันปิดตัวไปหมด มีอยู่ร้านนึงที่เปิดมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโครงการที่ยังคงเหลือรอดอยู่นั่นก็คือ “LarbLoi ลาภลอย” ตั้งอยู่ภายในโครงการชั้น 2 ติดกับร้านกาแฟ Starbucks ที่ขายอาหารไทย-อีสานรสเด็ดราคาไม่แพงนักมื้อนี้จึงตัดสินใจว่าทานร้านนี้กันครับผม วิธีการเดินทางหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดเดินทางมาตาม Google Maps ที่นี่มีลิฟต์จอดรถอัตโนมัติให้บริการสามารถจอดได้มากถึง 360 คัน คิดราคา 4 ชั่วโมงแรก 40 บาทชั่วโมงต่อไป 40 บาทเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่อยากเสียเงินค่าจอดรถสามารถจอดบริเวณรอบๆได้ (แต่มีพื้นที่ให้จอดเพียงแค่ไม่กี่คัน) หากมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะจะสะดวกหน่อยเพราะมาได้หลายช่องทางทั้งรถเมล์สาย 8 /เรือด่วนธงสีส้ม (จอดหน้าโครงการ) ถ้ามาด้วย MRT ให้ลงสถานีสนามชัยแล้วเดินเท้าต่อมาอีกเพียง 350 เมตรก็จะถึงแล้วครับ ช่วงที่เรามาถึงพระอาทิตย์ยังไม่ทันใกล้ตกสวยงามที่สุดจึงมีเวลาดูเล่มเมนูหน้าร้านกันก่อนว่ามีอะไรให้ทานกันบ้างแล้วราคาจะขายแพงมั้ย เรามาเปิดดูไปพร้อมกันเลยครับผม
หน้าแรกเป็นโปรโมชั่นชุดเมนูสุดพิเศษแต่มีเงื่อนไขก็คือต้องถ่ายรูปเช็คอินที่ร้านบนแอปพลิเคชั่นสังคมออนไลน์บนมือถือช่องทางใดก็ได้และชำระเป็นเงินสดเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์ โดยอาหารที่ทางร้านจัดมาให้มีทั้งหมด 4 ชุด 12 เมนู ราคาเริ่มต้นที่ 499-599และ749 บาท รับเมนูอาหารไป 2-3และ4 อย่างตามลำดับ ราคาที่เห็นในใบเมนูโปรฯนี้ Net. แล้วถือว่าให้ปริมาณเยอะคุ้มค่าสุดๆ หน้าต่อไปเป็นการรวบรวมเมนูอาหารแนะนำทั้งหมดของทางร้านที่เป็น Signature ทั้งไทยและอีสานราคาเริ่มต้นที่ 180-350 บาท (หากหากนึกไม่ออกว่าจะทานอะไรก็สั่งตามนี้ได้ง่ายดี) ต่อกันด้วยเมนูอาหารอีสานอย่าง “ส้มตำ” แค่หมวดเดียวก็มีให้สั่งมากถึง 18 รายการ ราคาเริ่มต้นที่ 90-250 บาท
หมวดต่อไปเป็นลาบสไตล์อีสานและยำสไตล์ไทยราคาเริ่มต้นที่ 100-350 บาท ต่อกันด้วยเมนูแกงกับต้มสูตรไทย-อีสานราคาเริ่มต้นที่ 130-200 บาท ตามมาด้วยเมนูของทอดและย่างต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 60-380 บาท ส่วนเมนูปลายกทั้งตัวมีให้เลือกสั่งทั้งทับทิมกับกระพงราคาเริ่มต้นที่ 280-350 บาท เมนูผัดผักใส่เนื้อสัตว์กับเห็ดต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 120-180 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจานเดียวให้เลือกอีกสั่งมากมายราคาเริ่มต้นที่ 100-250 บาท (เพิ่มไข่ดาวฟองละ 20 ไข่เจียว 25 บาท) โดยราคาอาหารที่เห็นในเล่มเมนูทั้งหมดนี้ไม่รวม Service Charge อีก 10% แต่รวม Vat. เรียบร้อยแล้วไม่เหมือนกับชุดโปรโมชั่นที่เป็นราคา Net. รวมทุกๆอย่างแล้วเรียบร้อยนะครับ
หมวดต่อไปเป็นข้าวสวย-ข้าวเหนียว-ขนมจีนราคาที่ละ 25 บาท หากสั่งข้าวเป็นโถราคา 100 บาท ต่อกันด้วยเครื่องดื่มต่างๆมีตั้งแต่น้ำเปล่า-น้ำอัดลมราคาขวดละ 25-30 บาทไปจนถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับนั่งดื่มชิลๆริมแม่น้ำเจ้าพระยาราคาเริ่มต้นที่ 85-1,250 บาท น้ำแข็งแก้วละ 5 บาท ถ้าสั่งเป็นถังราคา 20 บาท หน้าสุดท้ายก็คือขนมหวานเน้นเมนูแบบไทยๆเสิร์ฟทั้งแบบร้อนกับเย็นมีให้เลือกทั้งหมด 13 รายการราคาถ้วยละ 50 บาทครับผม
ดูเล่มเมนูหน้าร้านแล้วมาสำรวจรอบๆกันก่อนโดยพื้นนั้นที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักคือ 1.ห้องแอร์ด้านในเย็นฉ่ำมีโซฟากับเก้าอี้บุนวมให้นั่งสบายๆสำหรับเข้ามาใช้บริการช่วงกลางวันแดดร้อนก็หลบไปนั่งด้านในมองเห็นภายในครัวเป็นแบบเปิด 2.โซน Out Door ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับท่าเรือยอดพิมาน โดยจุดนี้เป็นทำเป็นระเบียงพื้นยกสูงพร้อมรั้วกั้น 3 ด้านเรียงโต๊ะเก้าอี้เป็นแนวเดียวกันเพื่อให้ลูกค้าทุกคนที่มามองเห็นวิวได้เหมือนกันทั้งหมด ตอนนี้ดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าสะท้อนแสงสีทองกับแม่น้ำสวยงาม มองมาอีกด้านจะเป็นวิวเมืองและบ้านเรือนมากมายมีจุด Land Mark อยู่โดยรอบมากมายทั้งวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร/วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร/โบสถ์วัดซางตาครู้สชุมชนกุฎีจีนและสะพานพระพุทธยอดฟ้า ตอนกลางคืนเปิดไฟแสงสีทองสว่างไสวสวยงามมากๆครับ
วันนี้เรามาก่อนลูกค้าคนอื่นเลยได้นั่งโต๊ะริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงจุดที่วิวดีสุดและอาหารที่สั่งไปก็ทยอยยกออกมาเสิร์ฟเริ่มจากเมนูแรกเป็น Signature ของที่ร้านและอยู่ในชุดโปรโมชั่นสุดคุ้มนั่นก็คือ “ลาภลอย” ปกติราคาจานละ 180 บาท มันคือลาบหมูสับแบบไม่ใส่หนังหมูแข็งผสมซีฟู๊ดทั้งกุ้ง-ปลาหมึกลวกตัวใหญ่และกุ้งแม่น้ำเผาปรุงรสตามแบบฉบับอีสานเปรี้ยวเค็มเผ็ดอมหวานนิดๆพอตัดให้กลมกล่อม หอมกลิ่นข้าวคั่วผสมกับเครื่องสมุนไพรสดทั้งต้นหอม/หัวหอมแดงและผักชีเข้ากันได้ดีกับหมูสับและเครื่องซีฟู๊ดที่ผสมลงไปได้อย่างลงตัวดีครับ จานต่อไปยังคงอยู่ในชุดเมนูสุดคุ้มที่ดูหน้าตาธรรมดาแต่ใช้วิธีการเตรียมแบบพิเศษนั่นคือ “คอหมูย่าง” ปกติราคาจานละ 150 บาท เป็นคอหมูแท้ที่ทางร้านนำไปซูวีกับเครื่องเทศต่างๆจนนุ่ม (แต่ไม่ถึงกับละลาย) ให้รสชาติซึมซับชุ่มฉ่ำเข้าไปถึงเนื้อในก่อนนำไปย่างบนเตาถ่านจนมีสีน้ำตาลสวยไม่ติดรอยไหม้แล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆจิ้มทานได้เพลินๆเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วมะขามเปียกรสเปรี้ยวอมหวานหอมกลิ่นข้าวคั่วหอมๆช่วยตัดไขมันที่ชวนเลี่ยนของคอหมูย่างได้เป็นอย่างดีครับ
รายการต่อไปยังคงอยู่ในชุดเมนูสุดคุ้มนั่นก็คือ “แกงเห็ดรวม” ปกติราคาถ้วยละ 160 บาท เป็นแกงเห็ดรวมใส่น้ำใบย่านางและปลาร้าน้ำข้นๆแต่อร่อยเค็มนัวและไม่เหม็นรุนแรงอย่างที่คิด เพิ่มความสดชื่นด้วยเครื่องสมุนไพรสดทั้งข่า/ตะไคร้/ใบมะกรูด/พริกขี้หนูสดและใบแมงลักอัด แน่นเต็มชามไปด้วยเห็ดมากมายถึง 3 ชนิด ดีต่อสุขภาพทั้งเห็ดนางรมหลวง/เห็ดเข็มทองและเห็ดนางฟ้าฮังการีทานได้ง่ายๆถึงแม้จะไม่ใช่คออาหารอีสานแท้ๆก็ฟินได้ครับ ตามมาด้วยข้าวเหนียวที่ร้านบรรจุมาเป็นห่อราคา 25 บาทกับข้าวสวยสั่งมาเป็นโถใหญ่ราคา 100 บาท เพราะวันนี้เรามาทานกัน 4 คนแบบนี้น่าจะคุ้มกว่าสั่งเป็นจานเล็กๆ และเมนู Highlight อันดับ 1 ของที่นี่ก็ถูกยกตามออกมาครับผม
เมนูดูอลังการแต่ยังคงอยู่ในชุดสุดคุ้มนั่นก็คือ “ไก่ภูอังคาร” ปกติราคาตัวละ 350 บาท เป็นไก่ทั้งตัวนำไปหมักด้วยเครื่องสมุนไพรกับโซดาจนเนื้อนุ่มก่อนจะเอาไปย่างให้หนังสีทองกรุบกรอบ เวลาเสิร์ฟเสียบบนแท่งเหล็กแนวตั้งวางบนกระทะร้อนราดด้วยเหล้าแอลกอฮอล์ดีกรีสูงแล้วจุดด้วยไฟจนเหลือแต่รสหวานของเหล้า แล้วราดด้วยซอสที่ปรุงรสมาพิเศษคล้ายน้ำจิ้มไก่ผสมซอสบาร์บีคิวเปรี้ยวอมหวานสูตรพิเศษของทางร้านให้ความร้อนของไฟไประเหยน้ำส่วนเกินออกเหลือแต่ซอสเข้มข้นเคลือบตัวไก่พร้อมทานได้ทันทีแบบไม่ต้องมีน้ำจิ้มใดทั้งสิ้น ไก่เนื้อนุ่มหนังกรอบเคลือบซอสเปรี้ยวอมหวานหอมหวานกลิ่นเหล้าจางๆอร่อยไม่เหมือนใครสมกับเป็น Highlight อันดับ 1 ของร้านนี้มากๆครับ เท่ากับว่า 4 เมนูที่เราสั่งมาปกติราคารวม 840 บาท แต่เราจ่ายไปแค่ 749 บาท ถือว่าคุ้มมากๆเลยครับ
นอกจากชุดเมนูสุดคุ้มที่เราสั่งมาแล้วยังเพิ่มรายการที่อยากทานมาอีก 2 อย่างนั่นก็คือ “คอหมูสะเด็ด” ราคาที่ละ 280 บาท เป็นสเต็กคอหมูย่างซูวีชิ้นโตกว่าจานแรกนำมาเสิร์ฟบนกระทะร้อนก่อนทานให้ราดด้วยน้ำจิ้มแจ่วสูตรของทางร้านจนน้ำส่วนเกินออกกลายเป็นซอสรสเข้มข้นเคลือบอยู่บนเนื้อคอหมูย่าง หากอยากทานแบบเต็มปากเต็มคำแบบในรูปรีวิวนี้แนะนำว่าให้มาสั่งแบบไม่ต้องหั่นหรือถ้าขี้เกียจจริงๆสั่งมาแบบหั่นพร้อมทานก็ได้เช่นเดียวกันครับ เมนูต่อมาเป็นจานฟิวชั่นที่ดัดแปลงมาส้มตำปลาร้าใส่หมูกรอบนั่นก็คือ “ขาหมูลาภลอยทอด” ราคา 380 บาท เป็นขาหมูเยอรมันต้มในน้ำซุปสมุนไพรจนเข้าเนื้อก่อนจะนำไปตากแห้งแล้วทอดให้สีน้ำตาลกรอบ ทานคู่กับส้มตำรสแซ่บเลือกได้ว่าจะเป็นตำไทย/ตำไทยใส่ปู/ตำปลาร้า/ตำปลาร้าใส่ปู (เลือกได้แค่ 4 เมนูนี้เท่านั้น) เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้ม 3 สูตร โดยจะแกะเนื้อ-หนังขาหมูทอดกรอบๆทานคู่กับส้มตำครบรสกลมกล่อมหรือจิ้มกับซอสซีฟู๊ดเผ็ดเปรี้ยว/น้ำจิ้มไก่รสหวานอมเปรี้ยวหรือน้ำจิ้มแจ่วมะขามเปียกก็ได้ตามใจทานได้หลากหลายรูปแบบ สุดท้ายคือไอเทมลับพิเศษแถมฟรีทุกโต๊ะของร้าน “LarbLoi ลาภลอย” นั่นก็คือ “ข้าวเกรียบตรามโนห์รา” แผ่นใหญ่รสชาติกุ้งสุดเข้มข้นแบบที่คุ้นเคย จะทานเล่นเปล่าๆหรือจับคู่กับเมนูอาหารอื่นๆของทางร้านเช่นส้มตำ-ลาบก็อร่อยแซ่บถึงใจ สามารถขอเติมได้อีกเรื่อยๆ รับรองว่าถูกในสายดื่มและสายชิลล์อย่างแน่นอนเพราะช่วยประหยัดค่ากับแกล้มไปได้เยอะเลยครับผม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
หน้าแรกเป็นโปรโมชั่นชุดเมนูสุดพิเศษแต่มีเงื่อนไขก็คือต้องถ่ายรูปเช็คอินที่ร้านบนแอปพลิเคชั่นสังคมออนไลน์บนมือถือช่องทางใดก็ได้และชำระเป็นเงินสดเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์ โดยอาหารที่ทางร้านจัดมาให้มีทั้งหมด 4 ชุด 12 เมนู ราคาเริ่มต้นที่ 499-599และ749 บาท รับเมนูอาหารไป 2-3และ4 อย่างตามลำดับ ราคาที่เห็นในใบเมนูโปรฯนี้ Net. แล้วถือว่าให้ปริมาณเยอะคุ้มค่าสุดๆ หน้าต่อไปเป็นการรวบรวมเมนูอาหารแนะนำทั้งหมดของทางร้านที่เป็น Signature ทั้งไทยและอีสานราคาเริ่มต้นที่ 180-350 บาท (หากหากนึกไม่ออกว่าจะทานอะไรก็สั่งตามนี้ได้ง่ายดี) ต่อกันด้วยเมนูอาหารอีสานอย่าง “ส้มตำ” แค่หมวดเดียวก็มีให้สั่งมากถึง 18 รายการ ราคาเริ่มต้นที่ 90-250 บาท
หมวดต่อไปเป็นลาบสไตล์อีสานและยำสไตล์ไทยราคาเริ่มต้นที่ 100-350 บาท ต่อกันด้วยเมนูแกงกับต้มสูตรไทย-อีสานราคาเริ่มต้นที่ 130-200 บาท ตามมาด้วยเมนูของทอดและย่างต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 60-380 บาท ส่วนเมนูปลายกทั้งตัวมีให้เลือกสั่งทั้งทับทิมกับกระพงราคาเริ่มต้นที่ 280-350 บาท เมนูผัดผักใส่เนื้อสัตว์กับเห็ดต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 120-180 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจานเดียวให้เลือกอีกสั่งมากมายราคาเริ่มต้นที่ 100-250 บาท (เพิ่มไข่ดาวฟองละ 20 ไข่เจียว 25 บาท) โดยราคาอาหารที่เห็นในเล่มเมนูทั้งหมดนี้ไม่รวม Service Charge อีก 10% แต่รวม Vat. เรียบร้อยแล้วไม่เหมือนกับชุดโปรโมชั่นที่เป็นราคา Net. รวมทุกๆอย่างแล้วเรียบร้อยนะครับ
หมวดต่อไปเป็นข้าวสวย-ข้าวเหนียว-ขนมจีนราคาที่ละ 25 บาท หากสั่งข้าวเป็นโถราคา 100 บาท ต่อกันด้วยเครื่องดื่มต่างๆมีตั้งแต่น้ำเปล่า-น้ำอัดลมราคาขวดละ 25-30 บาทไปจนถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับนั่งดื่มชิลๆริมแม่น้ำเจ้าพระยาราคาเริ่มต้นที่ 85-1,250 บาท น้ำแข็งแก้วละ 5 บาท ถ้าสั่งเป็นถังราคา 20 บาท หน้าสุดท้ายก็คือขนมหวานเน้นเมนูแบบไทยๆเสิร์ฟทั้งแบบร้อนกับเย็นมีให้เลือกทั้งหมด 13 รายการราคาถ้วยละ 50 บาทครับผม
ดูเล่มเมนูหน้าร้านแล้วมาสำรวจรอบๆกันก่อนโดยพื้นนั้นที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักคือ 1.ห้องแอร์ด้านในเย็นฉ่ำมีโซฟากับเก้าอี้บุนวมให้นั่งสบายๆสำหรับเข้ามาใช้บริการช่วงกลางวันแดดร้อนก็หลบไปนั่งด้านในมองเห็นภายในครัวเป็นแบบเปิด 2.โซน Out Door ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับท่าเรือยอดพิมาน โดยจุดนี้เป็นทำเป็นระเบียงพื้นยกสูงพร้อมรั้วกั้น 3 ด้านเรียงโต๊ะเก้าอี้เป็นแนวเดียวกันเพื่อให้ลูกค้าทุกคนที่มามองเห็นวิวได้เหมือนกันทั้งหมด ตอนนี้ดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าสะท้อนแสงสีทองกับแม่น้ำสวยงาม มองมาอีกด้านจะเป็นวิวเมืองและบ้านเรือนมากมายมีจุด Land Mark อยู่โดยรอบมากมายทั้งวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร/วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร/โบสถ์วัดซางตาครู้สชุมชนกุฎีจีนและสะพานพระพุทธยอดฟ้า ตอนกลางคืนเปิดไฟแสงสีทองสว่างไสวสวยงามมากๆครับ
วันนี้เรามาก่อนลูกค้าคนอื่นเลยได้นั่งโต๊ะริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงจุดที่วิวดีสุดและอาหารที่สั่งไปก็ทยอยยกออกมาเสิร์ฟเริ่มจากเมนูแรกเป็น Signature ของที่ร้านและอยู่ในชุดโปรโมชั่นสุดคุ้มนั่นก็คือ “ลาภลอย” ปกติราคาจานละ 180 บาท มันคือลาบหมูสับแบบไม่ใส่หนังหมูแข็งผสมซีฟู๊ดทั้งกุ้ง-ปลาหมึกลวกตัวใหญ่และกุ้งแม่น้ำเผาปรุงรสตามแบบฉบับอีสานเปรี้ยวเค็มเผ็ดอมหวานนิดๆพอตัดให้กลมกล่อม หอมกลิ่นข้าวคั่วผสมกับเครื่องสมุนไพรสดทั้งต้นหอม/หัวหอมแดงและผักชีเข้ากันได้ดีกับหมูสับและเครื่องซีฟู๊ดที่ผสมลงไปได้อย่างลงตัวดีครับ จานต่อไปยังคงอยู่ในชุดเมนูสุดคุ้มที่ดูหน้าตาธรรมดาแต่ใช้วิธีการเตรียมแบบพิเศษนั่นคือ “คอหมูย่าง” ปกติราคาจานละ 150 บาท เป็นคอหมูแท้ที่ทางร้านนำไปซูวีกับเครื่องเทศต่างๆจนนุ่ม (แต่ไม่ถึงกับละลาย) ให้รสชาติซึมซับชุ่มฉ่ำเข้าไปถึงเนื้อในก่อนนำไปย่างบนเตาถ่านจนมีสีน้ำตาลสวยไม่ติดรอยไหม้แล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆจิ้มทานได้เพลินๆเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วมะขามเปียกรสเปรี้ยวอมหวานหอมกลิ่นข้าวคั่วหอมๆช่วยตัดไขมันที่ชวนเลี่ยนของคอหมูย่างได้เป็นอย่างดีครับ
รายการต่อไปยังคงอยู่ในชุดเมนูสุดคุ้มนั่นก็คือ “แกงเห็ดรวม” ปกติราคาถ้วยละ 160 บาท เป็นแกงเห็ดรวมใส่น้ำใบย่านางและปลาร้าน้ำข้นๆแต่อร่อยเค็มนัวและไม่เหม็นรุนแรงอย่างที่คิด เพิ่มความสดชื่นด้วยเครื่องสมุนไพรสดทั้งข่า/ตะไคร้/ใบมะกรูด/พริกขี้หนูสดและใบแมงลักอัด แน่นเต็มชามไปด้วยเห็ดมากมายถึง 3 ชนิด ดีต่อสุขภาพทั้งเห็ดนางรมหลวง/เห็ดเข็มทองและเห็ดนางฟ้าฮังการีทานได้ง่ายๆถึงแม้จะไม่ใช่คออาหารอีสานแท้ๆก็ฟินได้ครับ ตามมาด้วยข้าวเหนียวที่ร้านบรรจุมาเป็นห่อราคา 25 บาทกับข้าวสวยสั่งมาเป็นโถใหญ่ราคา 100 บาท เพราะวันนี้เรามาทานกัน 4 คนแบบนี้น่าจะคุ้มกว่าสั่งเป็นจานเล็กๆ และเมนู Highlight อันดับ 1 ของที่นี่ก็ถูกยกตามออกมาครับผม
เมนูดูอลังการแต่ยังคงอยู่ในชุดสุดคุ้มนั่นก็คือ “ไก่ภูอังคาร” ปกติราคาตัวละ 350 บาท เป็นไก่ทั้งตัวนำไปหมักด้วยเครื่องสมุนไพรกับโซดาจนเนื้อนุ่มก่อนจะเอาไปย่างให้หนังสีทองกรุบกรอบ เวลาเสิร์ฟเสียบบนแท่งเหล็กแนวตั้งวางบนกระทะร้อนราดด้วยเหล้าแอลกอฮอล์ดีกรีสูงแล้วจุดด้วยไฟจนเหลือแต่รสหวานของเหล้า แล้วราดด้วยซอสที่ปรุงรสมาพิเศษคล้ายน้ำจิ้มไก่ผสมซอสบาร์บีคิวเปรี้ยวอมหวานสูตรพิเศษของทางร้านให้ความร้อนของไฟไประเหยน้ำส่วนเกินออกเหลือแต่ซอสเข้มข้นเคลือบตัวไก่พร้อมทานได้ทันทีแบบไม่ต้องมีน้ำจิ้มใดทั้งสิ้น ไก่เนื้อนุ่มหนังกรอบเคลือบซอสเปรี้ยวอมหวานหอมหวานกลิ่นเหล้าจางๆอร่อยไม่เหมือนใครสมกับเป็น Highlight อันดับ 1 ของร้านนี้มากๆครับ เท่ากับว่า 4 เมนูที่เราสั่งมาปกติราคารวม 840 บาท แต่เราจ่ายไปแค่ 749 บาท ถือว่าคุ้มมากๆเลยครับ
นอกจากชุดเมนูสุดคุ้มที่เราสั่งมาแล้วยังเพิ่มรายการที่อยากทานมาอีก 2 อย่างนั่นก็คือ “คอหมูสะเด็ด” ราคาที่ละ 280 บาท เป็นสเต็กคอหมูย่างซูวีชิ้นโตกว่าจานแรกนำมาเสิร์ฟบนกระทะร้อนก่อนทานให้ราดด้วยน้ำจิ้มแจ่วสูตรของทางร้านจนน้ำส่วนเกินออกกลายเป็นซอสรสเข้มข้นเคลือบอยู่บนเนื้อคอหมูย่าง หากอยากทานแบบเต็มปากเต็มคำแบบในรูปรีวิวนี้แนะนำว่าให้มาสั่งแบบไม่ต้องหั่นหรือถ้าขี้เกียจจริงๆสั่งมาแบบหั่นพร้อมทานก็ได้เช่นเดียวกันครับ เมนูต่อมาเป็นจานฟิวชั่นที่ดัดแปลงมาส้มตำปลาร้าใส่หมูกรอบนั่นก็คือ “ขาหมูลาภลอยทอด” ราคา 380 บาท เป็นขาหมูเยอรมันต้มในน้ำซุปสมุนไพรจนเข้าเนื้อก่อนจะนำไปตากแห้งแล้วทอดให้สีน้ำตาลกรอบ ทานคู่กับส้มตำรสแซ่บเลือกได้ว่าจะเป็นตำไทย/ตำไทยใส่ปู/ตำปลาร้า/ตำปลาร้าใส่ปู (เลือกได้แค่ 4 เมนูนี้เท่านั้น) เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้ม 3 สูตร โดยจะแกะเนื้อ-หนังขาหมูทอดกรอบๆทานคู่กับส้มตำครบรสกลมกล่อมหรือจิ้มกับซอสซีฟู๊ดเผ็ดเปรี้ยว/น้ำจิ้มไก่รสหวานอมเปรี้ยวหรือน้ำจิ้มแจ่วมะขามเปียกก็ได้ตามใจทานได้หลากหลายรูปแบบ สุดท้ายคือไอเทมลับพิเศษแถมฟรีทุกโต๊ะของร้าน “LarbLoi ลาภลอย” นั่นก็คือ “ข้าวเกรียบตรามโนห์รา” แผ่นใหญ่รสชาติกุ้งสุดเข้มข้นแบบที่คุ้นเคย จะทานเล่นเปล่าๆหรือจับคู่กับเมนูอาหารอื่นๆของทางร้านเช่นส้มตำ-ลาบก็อร่อยแซ่บถึงใจ สามารถขอเติมได้อีกเรื่อยๆ รับรองว่าถูกในสายดื่มและสายชิลล์อย่างแน่นอนเพราะช่วยประหยัดค่ากับแกล้มไปได้เยอะเลยครับผม
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *******
ชื่อสินค้า: LarbLoi (ลาภลอย) โครงการยอดพิมานริเวอร์วอล์ค
คะแนน:
0.5
1.0
1.5
2.0
2.5
3.0
3.5
4.0
4.5
5.0
CR – Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- – จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- – ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
Food Addicts
29 มีนาคม เวลา 11:43 น.
29 มีนาคม เวลา 11:43 น.
แหล่งที่มา pantip.com
มื้อนี้มาทานกัน 4 คนสั่งอาหารและเครื่องดื่มไปทั้งหมด 16 รายการราคา 1,775.91 รวม Service Charge อีก 10% เป็น 1,953 บาท (เฉพาะชุดโปรฯเท่านั้นที่คิดเป็นราคาสุทธิแล้ว) เฉลี่ยราคาต่อหัวมื้อนี้จ่ายไม่ถึงคนละ 500 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับร้านอาหารอื่นๆที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เมนูไทย-อีสานรสเด็ดเข้าถึงง่ายขายราคาหลักร้อยแต่ได้ชมวิวหลักล้าน เหมาะกับมาเป็นคู่รักสองต่อสองหรือยกทั้งครอบครัวมากครับ สำหรับวันนี้ร้าน “LarbLoi (ลาภลอย)” ที่ยอดพิมานริเวอร์วอล์ครับคะแนนความอร่อยกับคุ้มค่าไปเลย 5 ดาวครับ 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : โครงการยอดพิมานริเวอร์วอล์คเลขที่ 174 ถนนอัษฎางค์ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. 10200
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 11.30-22.00 น. โทร. 082-343-7667
Facebook : https://www.facebook.com/larbloi
ลิงค์ Google Maps : https://goo.gl/maps/tf382VbpbTPC3VQZ6
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
29 มีนาคม เวลา 11:46 น.