10 ผลไม้ ตัวช่วยดูแลฟันให้แข็งแรง
1. แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ล มีสารที่ชื่อว่า กรดมาลิก (malic acid) ซึ่งจะจะช่วยลดคราบที่ติดอยู่บริเวณผิวฟัน ป้องกันการสะสมของคราบแบคทีเรีย จึงช่วยให้ฟันขาวสะอาดและแข็งแรงอีกด้วยค่ะ
.
2. สตอเบอรี่
สตอเบอรี่อุดมไปด้วย กรดมาลิก เป็นสารประกอบที่ได้มาจากธรรมชาติที่มีรสเปรี้ยว ซึ่งเหมาะสำหรับการขจัดคราบไวน์แดง และคราบชาบนฟัน เป็นสารช่วยฟอกฟันขาวตามธรรมชาติ หรือสามารถนำใบสดของสตอเบอรี่มาแช่น้ำทิ้งไว้ข้ามคืน ในตอนเช้าจึงนำน้ำที่แช่ไว้มาบ้วนปากหลังแปรงฟัน จะสามารถช่วยรักษาสุขภาพของเหงือกและฟันให้แข็งแรงได้ค่ะ
.
3. สับปะรด
เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งในช่องปาก นอกจากมีคุณสมบัติให้รสฝาดแล้ว ยังช่วยกระชับเหงือกและฟัน เรียกได้ว่าเป็นยาสมานแผลที่มีประสิทธิภาพมากๆ เลยค่ะ มักใช้เพื่อแก้ปัญหาการคลายตัวของฟัน หรือการหดตัวของเหงือกค่ะ
.
4. มะม่วงดิบ
ช่วยบำรุงให้กระดูกและฟันให้แข็งแรง มะม่วงไม่ได้มีดีแค่รสชาติเท่านั้นค่ะ แต่ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่มีส่วนช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วยค่ะ
.
5. กล้วยน้ำว้า
เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซี แคลเซียมสูงมาก กินวันละ 4 ลูก จะได้แคลเซียมพอดี รวมทั้งโปแตสเซียม กินแล้วฟันไม่ผุ เพราะมีสารเพคติน ซึ่งมีฤทธิ์ฝาดสมาน จะเคลือบตั้งแต่ในปาก ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ถือว่าเป็นยามหัศจรรย์เลยค่ะ ควรกินตอนห่ามๆ อย่าให้สุกมาก เพราะจะมีความหมานมากเกินไป
.
6. กล้วยหอม
ช่วยลดกลิ่นปากได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ควรรับประทานหลังตื่นนอนตอนเช้าทันทีแล้วค่อยแปรงฟัน กล้วยหอมช่วยในการป้องกันโรคกระดูกเปราะ
.
7. ฝรั่ง
ฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ช่วยดูแลรักษาเรื่องสุขภาพช่องปากและฟันได้เป็นอย่างดี และใบฝรั่งมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่ให้รสฝาด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ช่วยดูดหนอง ถอนพิษ และยังสามารถช่วยระงับกลิ่นปากได้ดี โดยเฉพาะปัญหากลิ่นปากที่เกิดจากฟันผุเหงือกอักเสบค่ะ
.
8. เสาวรส
อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 กรดโฟลิก แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี คาร์โบไฮเดรต และมีฟอสฟอรัสสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง
.
9. มะละกอ
สรรพคุณของมะละกอช่วยดูแลช่องปาก ดูแลเหงือกและฟัน ช่วยป้องกันลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟัน มีงานวิจัยมะละกอพบว่าการรับประทานมะละกอเป็นประจำมีส่วนช่วยในการต่อต้านโรคมะเร็งได้ด้วยค่ะ
.
10. แตงโม
ในแตงโมนั้นมีวิตามิน ซี ที่ช่วยปกป้องเหงือก และยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย และลดอัตราการเกิดโรคเกี่ยวกับเหงือกได้อีกด้วย เปลือกสีเขียวของแตงโมที่จริงๆ แล้วทานได้ ช่วยคลายอาการปวดฟันด้วยค่ะ
วันพฤหัส เวลา 11:43 น.
เราก็คนยุค baby boomer generation แต่เราค้นข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ online แล้วพบว่า “น้ำตาล fructose ในผลไม้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ” เราเลยเลิกกินผลไม้ตั้งแต่อายุ 69 จนถึงตอนนี้อายุ 71 ทำให้โรคภัยไข้เจ็บทั้งหมดหายไปหมด สุขภาพดีเยี่ยม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “เลิกกินผลไม้!”
ฟัง Dr. Boz [Annette Bosworth, MD] บรรยายเรื่อง
Why Fruit is Evil – Sugar in Fruit is Bad for Your Health
ทำไมผลไม้จึงเป็นสิ่งชั่วร้าย –น้ำตาล (fructose) ในผลไม้ไม่ดีต่อสุขภาพ
นี่คือ clip ของ Dr. Paul Saladino เค้าสลายความเชื่อผิดๆ ที่พวกเราถูกหลอกมาหลายสิบปี ว่าอะไรคือสาเหตุของ gout แต่เผอิญมันมีเนื้อหาเรื่อง น้ำตาล fructose ทำอันตรายไต!
และผลไม้มีน้ำตาล fructose
นี่คือเนื้อหาที่เราแปลสรุปให้
Dr. Paul บอกว่า การกินสัตว์ปีก กินเนื้อสัตว์ กินเครื่องใน ไม่ได้ทำให้เป็น gout (พวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยุค baby boomer generation โดนหลอกให้เชื่อผิดๆ ซึ่งเด็กรุ่นหลังก็โดนหลอกให้เชื่อผิดๆไปด้วย)
2 ใน 3 ของ uric acid ร่างกายเราสร้างขึ้นเอง
1 ใน 3 ของ uric acid กินเข้าไป นั่นก็คือกินอาหารที่ที purine เข้าไปแล้วร่างกาย breaks down (เปลี่ยนแปลง) purine ให้เป็น uric acid
เวลากิน purine rich foods (อาหารที่มี purine สูง) เช่นเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก เครื่องใน พอมันเปลี่ยนเป็น uric acid ในปริมาณที่สูง ไตก็จะขับ uric acid ส่วนเกินออกไปได้ตามธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์ทำสิ่งนี้ได้มาหลายหมื่นปีแล้ว ตั้งแต่ยุคล่าสัตว์กินเป็นอาหารหลัก!
แต่อยู่ดีๆไตขับ uric acid ส่วนเกินออกไปไม่ได้ ผู้คนถึงป่วยเป็น gout
สาเหตุที่ไตผิดปกติ ก็เพราะสาเหตุ 3 ประการคือ
1 insulin resistance (ภาวะดื้ออินซูลิน) อันนี้เกิดจากกินน้ำตาลและ carb สูง
2 กินน้ำตาล fructose มากเกินไป อันนี้หละสำคัญมากๆ เพราะ ผลไม้มีน้ำตาล fructose
3 ดื่มแอลกอฮอล์มากไป
สรุปแล้วคนยุค baby boomer generation โดนหลอกว่ากินผลไม้แล้วดีต่อสุขภาพ แล้วโดนหลอกว่า กินสัตว์ปีก เนื้อสัตว์ และเครื่องใน จะทำให้เป็น gout แต่ที่ไหนได้ กินผลไม้กลายเป็นป่วยเป็น gout 555
โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ใครค้นข้อมูลใหม่ๆเป็นภาษาอังกฤษไม่เป็น จะตามโลกไม่ทัน!
Dr. Gary Fettke – ‘Is Fruit Good or Bad For You?’
Dr. Jason Fung บรรยายเรื่อง The Trouble With Fructose
เมื่อกิน fructose เข้าไปร่างกายใช้งานไม่ได้ทันที ตับต้องเปลี่ยน fructose เป็นไขมันพอกไว้ที่ตับ! ก่อให้เกิดโรคหลายอย่างเช่น โรคอ้วน เบาหวาน และอื่นๆอีกตั้งมากมาย เท่านั้นไม่พอ fructose เป็นภัยมืดเพราะเวลาไปวัดค่าน้ำตาลวัดไม่เจอ fructose เจอแต่ glucose
Fructose Metabolism: Absorption, Fructolysis, Regulation and Role in Obesity
วันพฤหัส เวลา 14:23 น.
https://pantip.com/topic/41246689
คือจะบอกให้ว่า “การใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นอันตรายต่อสุขภาพ” เพราะว่า มันไปทำลายกระบวนการผลิต nitric oxide ผลก็คือ
1. ทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น
2. ลดภูมิคุ้มกัน
กลไกการทำงานเป็นงี้นะ ถ้าหายใจเข้าออกทางจมูกช้าๆลึกๆยาวๆ ตอนหายใจเข้าจะมีการผลิต nitric oxide ในโพรงจมูก และลมหายใจ+nitric oxide + oxygen ขณะที่ลงไปในปอด มันจะฆ่าเชื้อโรคหลายตัว รวมทั้งเชื้อโควิดด้วย!
ดังนั้นการใช้น้ำยาบ้วนปากจึงเพิ่มความเสี่ยงในการติดโควิด!
ไปฟัง Dr. Gundry บรรยายเรื่องนี้ได้ใน clip นี้
Is this absolutely destroying your beneficial bacteria? – Ask Gundry
วันพฤหัส เวลา 14:46 น.
นั่นก็คือว่ามนุษย์ถ้ำล่าสัตว์กินเป็นอาหารหลัก จึงกินแต่ protein กับ fat จากเนื้อสัตว์ ในยุคนั้นไม่มีการเพาะปลูกจึงไม่มี carb จากธัญพืชและจากผักให้กิน ส่งผลให้ insulin ต่ำมากๆ ร่างกายเข้า ketosis ในสภาวะเช่นนี้ร่างกายไม่จำเป็นต้องเผา glucose จากน้ำตาลและแป้งเป็นพลังงานหลัก แต่จะเผาไขมันเป็นพลังงานหลัก ซึ่งเป็นพลังงานที่ยั่งยืน
ช่วงก่อนฤดูหนาวมนุษย์ถ้ำจะกินผลไม้เข้าไป เพื่อให้น้ำตาล fructose เปลี่ยนเป็นไขมันพอกไว้ที่ตับ พอหิมะตก ออกไปล่าสัตว์ไม่ได้ ก็อยู่ในถ้ำอดอาหารบ้าง กินผลไม้บ้าง ตับก็เปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน ทำให้มีชีวิตอยู่รอดได้ จนกว่าหิมะจะหยุดตกแล้วออกไปล่าสัตว์ได้อีก!
แต่ในยุคนี้มนุษย์มีอาหารกินทุกวัน ดังนั้นการกินผลไม้จึงทำให้ fructose จากผลไม้เปลี่ยนเป็นไขมันพอกไว้ที่ตับ แล้วใช้ไขมันนั้นไม่ได้ จึงก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตั้งมากมาย ตั้งแต่ป่วยเป็น gout ตาม clip ของ Dr. Paul Saladino ที่เราแปะไว้ใน คคห 1 และป่วยเป็นไขมันพอกตับ โรคอ้วน เบาหวาน และอื่นๆอีกตั้งมากมาย!
เท่านั้นไม่พอ ผลไม้ยุคนี้กลายพันธ์ุไปมากเนื่องจากการเพาะปลูกเพื่อแพร่พันธ์อย่างรวดเร็วในเชิงพาณิชย์ ผลไม้จึงไม่ให้ประโยชน์ แต่กลายเป็นให้โทษ ตาม clip ของ Dr. Gary Fettke ที่เราแปะไว้ใน คคห 1
วันพฤหัส เวลา 15:18 น.
น้ำผลไม้อันตรายยิ่งกว่าน้ำอัดลม!
Fruit Juices WORSE than Soft Drinks (Here’s Why)
Dr. Eric Berg
อธิบายว่าน้ำผลไม้ทำลายสุขภาพมากยิ่งกว่าน้ำอัดลม!
วันพฤหัส เวลา 15:36 น.
วันพฤหัส เวลา 16:10 น.
วันพฤหัส เวลา 20:13 น.
วันศุกร์ เวลา 10:08 น.
วันศุกร์ เวลา 11:09 น.
วันศุกร์ เวลา 11:13 น.
วันศุกร์ เวลา 18:26 น.
วันศุกร์ เวลา 18:44 น.