กำลังจะขอ อย.อาหาร (ทำขนมขบเคี้ยวเป็นซอง) แล้วต้องบอกส่วนประกอบ อย่างนี้สูตรขนมของผมก็ไม่ได้เป็นความลับสิครับ pantip

ไม่ต้องห่วงครับ ต่อให้ไม่บอก อย. แต่วิธีการ reverse engineering จากอาหารที่ทำเสร็จแล้วก็สามารถรู้ได้ว่าใส่อะไรบ้าง วิทยาศาสตร์เราเดินมาไกลมากแล้ว

อีกอย่างคือการรู้แค่ปริมาณส่วนผสมมันไม่ใช่ว่าจะเลียนแบบกันได้เป๊ะๆ เพราะยังมีเรื่องวิธีการปรุงที่สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นความลับเรื่องสูตรอาหารมันไม่ใช่สิ่งสำคัญลับสุดยอดอย่างที่คุณเข้าใจ

เข้าใจว่า จขกท. อาจจะเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับสูตรโค้ก ที่ว่ากันว่าต้องรักษากันลับสุดยอด ใส่ตู้เซฟ มีแต่ประธานคนเดียวที่รู้รหัส ซึ่งจริงๆ แล้วนั่นเป็น myth หรือเรื่องเล่าให้อาหารแบรนด์ต่างๆ มันดูน่าสนใจขึ้นเท่านั้นเองครับ ในความเป็นจริงสูตรอาหารมันต้องแจ้ง อย. แต่ละประเทศอยู่แล้วแหละ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน และจริงๆ คุณค่าของแบรนด์ดังๆ อยู่ในตัวแบรนด์มากกว่าครับ ไม่ได้อยู่ที่สูตร คือทุกวันนี้คนซื้อโค้กเพราะมันเป็นโค้ก ฉลากแดงน้ำดำ หน้าตาแบบนั้นถึงได้ซื้อ ต่อให้คุณได้สูตรเขามา ทำน้ำดำเหมือนกันเป๊ะ ขายถูกกว่าด้วยขวดละ 5 บาท แต่เป็นขวดไม่มีแบรนด์ (เพราะคุณเลียนแบบฉลากโค้กไม่ได้ โดนจับลิขสิทธิ์) ก็มีความเป็นไปได้สูงครับที่คนจะไม่ซื้อน้ำคุณ เพราะเป็นน้ำโนเนมอะไรก็ไม่รู้ คนจะหันไปซื้อน้ำโค้กที่เขาคุ้นเคยดีกว่า

ส่วนผสมต้องบอกครับ บอกเป็นอัตราส่วนเลย บอกไม่หมดไม่จริงเขาเอาเข้าแลปอยู่ดี(ส่วนผสมที่มีค่ากำหนดตามกฎหมาย) ถ้าค่าเกินที่เราแจ้งก็โดนปัดตกใบอนุญาตได้ แต่วิธีการปรุงการผสมเป็นการอธิบายคร่าวๆไม่กี่บรรทัดได้ ซึ่งตรงนี้ที่ทำให้แต่ละเจ้าเก็บเป็นโนวฮาวของตัวเองได้ การใช้เครื่องมือที่คนละเทคโนโลยีการเซ็ทค่าบางตัวที่ต่างกันก็ออกผลมาต่างกัน

ส่วนคนนอกจะเข้าไปดูรายละเอียดเลขอย.ได้แค่ไม่กี่ข้อมูล ที่เป็นข้อมูลทั่วไป ต้องเป็นจนท.โดยตรงจึงจะเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก

ใส่ไปเลย มีส่วนผสมของสัตว์เปลือกแข็ง  โดยไม่ต้องบอกว่าเป็นตัวอะไรก็ได้ เห็นร้านยี่ห้อดังเขาทำอยู่

เป็นการเตือนป้องกันไว้ เผื่อมีคนแพ้อาหารครับ

…
..
.