เป็นคนที่ชอบกินเค็มค่ะ มีวิธีทำให้กินเค็มน้อยลงมั้ยคะ
เป็นคนที่ชอบกินเค็มค่ะ กินน้ำปลาเล่น กินอาหารอะไรก็ต้องใส่น้ำปลาอยากกินน้อยลงกว่านี้ทำไงดีคะ?
สมาชิกหมายเลข 6957904
31 มีนาคม เวลา 00:52 น.
31 มีนาคม เวลา 00:52 น.
แหล่งที่มา pantip.com
31 มีนาคม เวลา 05:09 น.
แต่ก่อนผมก็กินรสปกติ(ออกเค็ม) พอเป็นความดัน หมอให้ลดเค็ม
ก็สั่งอาหารลดเค็มตลอด จนตอนนี้กินอาหารปกติไม่ได้แล้ว เค็มมากกกกกกกกก
31 มีนาคม เวลา 08:51 น.
31 มีนาคม เวลา 09:10 น.
เพิ่งมาเปลี่ยนตอนทำกับข้าวกินเองมั้งคะ เห็นปริมาณเครื่องปรุงแต่ละอย่างที่ใส่ไปแล้วแทบจะกินไม่ลงเลย
เราเลยค่อยๆลดเครื่องปรุงลง เดี๋ยวนี้จะใส่ซอสปรุงรสแค่นิดเดียว เกลือกับน้ำปลาไม่ใส่เลยถ้าไม่จำเป็น
จนตอนนี้กลายเป็นกินเค็มไม่ได้เลย
แต่เราใช้วิธีปรุงรสอย่างอื่นทดแทนค่ะ อย่างเช่นถ้าเราทำลาบ ลาบของเราจะไม่เค็ม แต่เปรี้ยวและเผ็ดแทน อย่างน้อยจะได้พอมีรสชาติจัดจ้านบ้าง
แต่คนอื่นมากินคงกินไม่ไหวเพราะรสชาติมันไม่กลมกล่อม
แนะนำว่าอย่าหักดิบค่ะ ให้ใช้วิธีค่อยๆลดเค็มแทน แล้วลิ้นคุนจะชินกับรสชาติจืดๆไปเอง
31 มีนาคม เวลา 09:15 น.
31 มีนาคม เวลา 11:01 น.
31 มีนาคม เวลา 12:40 น.
หลังจาก 7วันลิ้นคุณจะปรับตัวได้เอง ถ้าคุณปรุงเค็มเพิ่มหลัง 7วัน คุณจะรู้สึกเลยว่าเค็มเกินไป
31 มีนาคม เวลา 12:50 น.
อ่านมากๆ อ่านทุกวัน เดี๋ยวก็อยากกินเค็มน้อยไปเอง….
31 มีนาคม เวลา 16:54 น.
แต่ตอนนี้เราตาสว่างแล้ว เพราะหมอฝรั่งยุคใหม่บอกว่ากินเกลือได้ไม่มีปัญหา กินเกลือน้อยกลายเป็นมีปัญหา เราเลยกินเกลือมากขึ้น กินกาแฟดำผสมกับเกลือสีชมพู ทำอาหารก็ใส่เกลือมากขึ้น
ลองไปฟังหมอฝรั่งยุคใหม่บรรยายว่าการกินเกลือมันไม่ได้เป็นอันตราย แต่การกินเกลือน้อยกลายเป็นให้โทษ เพื่อเปิดหูเปิดตาซะบ้าง
หมายเหตุ: ยังมีคนไทย (รวมทั้งหมอไทย) เป็นจำนวนมาก ที่ (ไม่ได้ค้นข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษใหม่ๆ) ตกยุค ยังหลงกลัวเกลือกันอยู่
บน facebook มีหมอไทยแค่ 3-4 คนเองที่ก้าวไกลทันหมอฝรั่งยุคใหม่! และสอนคนไทยว่า “อย่ากลัวเกลือ แต่ให้กลัวน้ำตาล+high carb”
Dr. Ken D. Berry คุยกับ Dr DiNicolantonio เรื่องการกินเกลือ ซึ่งทั้งสองคนก็เห็นพ้องต้องกันว่ากินเกลือน้อยไปไม่ดี ควรเกินเกลือให้ค่อนข้างมาก
Dr. Jason Fung บอกว่าเกลือไม่ได้ทำให้ความดันโลหิตสูง
Dr. Sten Ekberg บอกว่าพวกเราฟังเรื่องโกหกเกี่ยวกับเกลือมาแล้วตั้งมากมาย ควรรู้ความจริงเรื่องเกลือซะบ้าง
คราวนี้ลองฟังคำบรรยายโดยหมอไทย คือ น.พ. ธนะศักดิ์ ยิ้มเกิด ที่หัวก้าวไกลทันหมอฝรั่งยุคใหม่ เค้าติดตามผลงานของหมอฝรั่งยุคใหม่และศึกษางานวิจัยหลายงาน แล้วลงความเห็นว่า กินเกลือน้อยให้โทษ ควรกินเกลือให้มากขึ้น
31 มีนาคม เวลา 17:13 น.
แล้วที่เขายังไม่ได้พูดถึงคือ “ไตวาย” ครับ อย่างในคลิปอจ.ฝรั่งเขาก็ยังเตือนเลยว่าเขาทดลองเพื่อให้รู้หลักการทำงานของระบบความดัน แต่เขาบอกว่าอย่าเอาไปหมายถึงว่าแนะนำให้กินเกลือเพราะเกลือยังมีผลต่อการทำงานของไต ถ้าคนปกติไตทำงานได้จะขับเกลือออกมา แต่ถ้าร่างกายไม่ 100% จะขับไม่ได้เท่าเดิมและเสี่ยงต่อการทำงานล้มเหลวของไต
1 เมษายน เวลา 09:33 น.
คุณพูดราวกับระแวงว่าทุกคนจะต้องป่วยเป็นโรคไตงั้นหละ555 จะบอกให้ว่าเรานี้แหละเคยป่วยไตมีปัญหา และตอนนั้นเราหลงผิดกินคลีนมาหลายสิบปี คือกลัวเกลือกับกลัวไขมันสัตว์ ตอนนั้นเราเรียนการแพทย์แผนจีนแล้วรักษาไตตัวเองด้วยการเลือกกินอาหารบำรุงไต ใช้สมุนไพร ฝึกเดินลมปราณ และนวดกดจุด แต่เราทำให้ไตแข็งแรงขึ้นได้แค่ประมาณ 85% เอง
แต่หลังจากเราค้นข้อมูลใหม่ๆเจอจากหมอฝรั่งยุคใหม่ ที่สอนขัดกับแนวคิดของคนกินคลีน เราค้นพบว่า “ความเชื่อเรื่องอาหารและโภชนาการของคนกินคลีน มันผิด และล้าสมัย” เราเลยทำตามหมอฝรั่งยุคใหม่ แล้วเปลี่ยนจากกินคลีนไปกินแบบ carnivore diet (กินแบบ zero sugar low carb high (animal) fat ซึ่งกิน carb ต่ำมากๆเกือบศูนย์) กับกินแบบ ketogenic diet (กินแบบ zero sugar low carb high (animal) fat ซึ่งกิน carb ไม่เกิน 20 กรับต่อวัน) โดยกินแบบ 2 อย่างนี้ สลับกัน “นั่นก็หมายความว่าเราต้องหยุดกินอาหารหลายชนิดที่คนกินคลีนหลงเชื่อว่าดีต่อสุขภาพ และกล้ากินอาหารที่คนกินคลีนหลงเชื่อว่าทำลายสุขภาพ”
ผลที่ออกมาน่าทึ่ง นั่นก็คือว่า ภายในเวลาแค่ 2-3 เดือนของการกินแบบใหม่ 2 อย่างนี้สลับกัน ไตเราแข็งแรงเต็ม 100% โดยไม่ต้องใช้ความรู้ด้านการแพทย์แผนจีนอีกเลย
คำอธิบายว่า “กินสวนทางกับกินคลีนแล้วไตกลายเป็นแข็งแรงเต็ม 100% มันเป็นไปได้เพราะอะไร” ให้ดู clip นี้ของ Dr. Paul Saladino
เค้าอธิบายว่า อะไรก่อให้เกิด gout แต่มันทำให้เราเข้าใจได้ว่า การกินแบบ carnivore diet กับ ketogenic diet กลายเป็นทำให้ไตเราแข็งแรงกว่ากินคลีนเพราะอะไร
อ่านคำแปลสรุปของเราข้างล่าง + ข้อมูลที่เราค้นเจอจากแหล่งอื่น (จากหมอฝรั่งยุคใหม่คนอื่นๆ)
การกินสัตว์ปีd กินเนื้อสัตว์ กินเครื่องในสัตว์ ไม่ได้ทำให้เป็น gout
2 ใน 3 ของ uric acid ร่างกายเราสร้างขึ้นเอง
1 ใน 3 ของ uric acid กินเข้าไป นั่นก็คือกินอาหารที่ที purine เข้าไปแล้วร่างกาย breaks down (เปลี่ยนแปลง) purine เป็น uric acid
เวลากิน purine rich foods (อาหารที่มี purine สูง) เช่นเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก เครื่องใน พอมันเปลี่ยนเป็น uric acid สูง ไตจะขับ uric acid ส่วนเกินออกไปได้ ตามธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์ทำสิ่งนี้ได้มาหลายหมื่นปีแล้ว ตั้งแต่ยุคล่าสัตว์กินเป็นอาหารหลัก!
แต่อยู่ดีๆไตขับ uric acid ส่วนเกินออกไปไม่ได้ ผู้คนถึงป่วยเป็น gout
สาเหตุที่ไตผิดปกติ ก็เพราะสาเหตุ 3 ประการคือ
1 insulin resistance(ภาวะดื้ออินซูลิน)…(อันนี้เราเติมเอง…ซึ่งคนกินคลีนมักจะมีอาการนี้เพราะกิน carb เป็นอาหารหลัก)
2 กินน้ำตาล fructose มากเกินไป (อันนี้เราเติมเอง…ซึ่งคนกินคลีนมักจะมีอาการนี้เพราะกินผลไม้)
3 ดื่มแอลกอฮอล์มากไป
นี่คือ clip ของ Dr. Paul Saladino
2 เมษายน เวลา 21:07 น.
มันแตกกระจายประเด็นออกไปได้มาก คือ
1 กินน้ำตาลและ carbs เยอะก่อให้เกิด insulin resistance
2 พวกเราโดนผู้ผลิตน้ำมันพืช หลอกมาตั้งแต่ยุค baby boomer generation ว่า กิน saturated fat (ไขมันอิ่มตัว) แล้วจะป่วยเป็นนั่นเป็นนี่ โดนหลอกให้กิน น้ำมันพืช น้ำมันถั่ว น้ำมันงา ซึ่งมี omega 6 น้ำมันพืช น้ำมันถั่ว น้ำมันงา พวกนี้ก่อให้เกิด inflammations (อาการอักเสบ) ซึ่งก่อให้เกิด insulin resistance (อันนี้เราเติมเอง…ซึ่งคนกินคลีนมักจะกลัวไขมันสัตว์ ก็เลยหลงผิดกินน้ำมันพืช)
เรื่องนี้ไปยาวมากๆเลย น่ากลัวมากๆ! มันเกี่ยวโยงกับอีกเรื่องหนึ่งที่พวกเรา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนกินคลีน) โดนหลอกมาตั้งแต่ยุค baby boomer generation แล้วว่า cholesterol อันตราย
แท้จริงแล้ว cholesterol มีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ!
ศึกษาข้อมูลนี้ให้ดีๆ แล้วจะตกใจสุดขีดว่า คำแนะนำยุค baby boomer generation ที่บอกว่า “ให้กินผลไม้และน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ” กลายเป็นฆ่าคน! เพราะผลไม้และน้ำผลไม้มี fructose สูง! 55555 (ความเชื่อผิดๆเหล่านี้ คือข้อผิดพลาดของคนกินคลีน!)
Dr. Melina Roberts บอกว่า cholesterol เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ เช่น สร้าง sex hormones ทำให้คงไว้ซึ่งความอ่อนวัย และทำปฏิกิริยากับแสงแดดเพื่อสร้าง vitamin d ทำให้เพิ่มภูมิคุ้มกัน และมีประโยชน์อื่นๆอีกตั้งมากมาย
cholesterol สร้าง bile acids (กรดน้ำดี) เราต้องมี bile acids เพื่อ fat metabolism (การเผาผลาญไขมัน) (อันนี้เราเติมเอง…คนกินคลีนไม่รู้ข้อมูลนี้ถึงได้กลัวการกินไขมันสัตว์แล้วไปกินน้ำมันพืชที่อันตรายแทน)
cholesterol is part of every cell membrane (cholesterol เป็นส่วนหนึ่งของทุกเยื่อหุ้มเซลล์)
มันมีความสำคัญต่อ nervous system functions (มีความสำคัญต่อกลไกการทำงานของระบบประสาท)
cholesterol ขับ toxic loads (สารพิษและสารเคมีที่สะสมกันอยู่) ออกไปจากร่างกาย ทำให้ immune system (ระบบภูมิคุ้มกัน) แข็งแรง
เคล็ดลับที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองโดน cholesterol ทำร้าย แท้จริงเป็นเพราะ กินน้ำตาลกับ carbs เข้าไป และกินน้ำมันพืช น้ำมันถั่ว น้ำมันงา น้ำมันธัญพืช เข้าไป ทำให้เกิด inflammations
เมื่อมี inflammations ไอ้เจ้า cholesterol ก็จะวิ่งไปแปะตรง inflammations ทำให้เกิด calcium deposits อุดตันที่กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ ข้อต่อ เส้นประสาท ผนังหลอดเลือด ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆตั้งหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่วยเป็น NCDs
นั่นก็คือว่าถ้าไม่กินน้ำตาลเลย และกิน carb ให้ต่ำมากๆ และไม่กินน้ำมันพืช น้ำมันถั่ว น้ำมันงา น้ำมันธัญพืช ร่างกายก็จะไม่เกิด inflammations และ cholesterol ก็จะไม่ทำร้ายเรา แต่จะให้คุณแก่เราตั้งมากมาย!
และนี่คือเหตุผลโดยรวมว่า “ทำไมเราจึงเลิกกินคลีน แล้วมากินแบบ carnivore diet กับ ketogenic diet สบับกัน ซึ่งทำให้ร่างกายเราสูญเสียเกลือมากขึ้น เราจึงจำเป็นต้องกินเกลือมากขึ้น (โดยการจิบน้ำผสมเกลือทีละนิดๆทั้งวัน) แล้วสุขภาพเรากลายดีขึ้นกว่าเดิมตั้งหลายเท่า!”
นี่คือ clip ของ Dr. Melina Roberts ซึ่งเป็นหมอฝรั่งยุคใหม่อธิบายเรื่อง
FIVE Benefits of Cholesterol
ประโยชน์ 5 ประการของ cholesterol
2 เมษายน เวลา 21:28 น.
31 มีนาคม เวลา 18:51 น.
เช่นไม่เติมเพิ่มอีกในก๋วยเตี๋ยว
31 มีนาคม เวลา 23:06 น.
1 เมษายน เวลา 22:24 น.
2 เมษายน เวลา 13:31 น.