เชียงใหม่-จิบชาเนปาลย่านกาดหลวง ร้านน่านั่ง น่าชม น่าถ่ายรูป น่าซื้อของ
ก่อนอื่นต้องอธิบายให้ทราบว่านี่เป็นกระทู้ที่เขียนด้วยความระลึกถึงเชียงใหม่นะครับ
ผมเองได้มีโอกาสได้เดินเล่น และแวะจิบชาเนปาล ที่ร้านนี้ เห็นว่าเป็นร้านที่น่าสนใจ จึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ (เล่าจากความทรงจำ)
ร้านนี้ดูจากภายนอกก็แทบจะไม่ได้สังเกตสักเท่าไหร่ครับว่ามีอะไรน่าสนใจ
แต่ผมยืนมองขึ้นไปที่ชั้นบนเห็นหน้าต่างแล้วทำให้รู้สึกมันต้องมีอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย
และด้วยความที่เป็นคนช่างถาม ก็เลยสอบถาม และขอเข้าไปชมข้างในทันทีเลยครับ
บรรยากาศชั้นล่างก็จะเป็นสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ได้คุยกับทางเจ้าของร้าน
ทราบว่า ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากเนปาลทีเดียว ยิ่งทำให้ผมเองเลือกชมอย่างสนุกทุกซอกทุกมุมเลยครับ
แต่จุดเด่นของร้านนี้ อยู่ที่ชั้นบนครับ เป็นคาเฟ่เล็กๆ แต่น่าสนใจ น่าถ่ายรูปมากๆ ครับ
ซึ่งเราสามารถสั่งเครื่องดื่มจากหน้าร้านชั้นล่าง ขึ้นมาจิบ เคล้าบรรยากาศที่ชั้นบนนี้ได้อย่างเพลิดเพลินทีเดียวเชียวครับ
ที่หน้าต่างของร้าน บริเวณชั้น ๒ นี้ ผมชอบศิลปะของผ้าม่านมากๆ สะดุดตาตั้งแต่มองจากภายนอกร้านที่ชั้นล่างแล้วครับ
สถานที่ดูโปร่งตา ทำให้ร้านเล็กๆ แต่ดูไม่อึดอัด อย่างน้อยบางช่วงเวลา เหมือนได้มาอยู่ในโลกส่วนตัวทีเดียวครับ
ความเก๋ของช่วงพักบันได ก็ถือว่าจัดวางได้อย่างมีองค์ประกอบสะดุดตาทีเดียวครับ
ลงมาชั้นล่างเลือกซื้อของฝากเป็นที่ระลึก
จากนั้นก็เดินมาจิบชาเนปาลต่ออีกที่หลังร้านครับ
ผมว่าบริเวณหลังร้านนี้ ทางเดินอาจดูซับซ้อนสำหรับคนที่มาเป็นครั้งแรกนะครับ
แต่ผมชอบสไตล์การจัดร้าน ให้ดูเก๋ และเหมาะสม ด้วยการใช้พื้นที่แบบ Minimal มากๆ ครับ
การประดับและตกแต่งชั้นล่างด้านหลังร้าน แตกต่างจากชั้นบนมากๆ เรียกว่า มาจิบชาเนปาลที่นี่ คุ้มค่ามากๆ กับบรรยากาศ
โดยเฉพาะคนที่รักการถ่ายภาพ ผมเชื่อว่า “ต้องไม่พลาดกับร้านนี้นะครับ”
ภาพเขียนที่ประดับตามฝาผนัง เป็นงานศิลปะที่สวยงามมากๆ ครับ อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่จัดวาง ดูไม่เบื่อเลยครับ
เจ้าของร้านชวนให้ผมนั่งทานอาหารด้วยในวันที่ไปคุยกัน (นานแล้วครับ) ผมยังคิดถึง หากมีโอกาสจะกลับไปเยี่ยมอีกครั้งครับ
ผ้าม่านหน้าต่างที่บริเวณชั้น ๒ นี้แหละครับ ที่ผมสะดุดตามากๆ
บริเวณด้านนอกร้าน ดูแล้วแทบไม่อยากเชื่อว่า จะมีร้านชาเนปาล ร้านกาแฟ น่านั่ง น่าถ่ายรูปแฝงตัวอยู่ในละแวกนี้
เขียนกระทู้นี้ขึ้นด้วยความคิดถึงครับ บริเวณ “กาดหลวง” หรือย่านตลาดวโรรสนี้ มีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจครับ
แม้กระทั่งร้านทอง ที่ในอดีตเคยเป็นสถานที่พักพิงของผู้สอนศาสนา จนกระทั่งมาเป็นบุคคลสำคัญของเชียงใหม่ในเวลาต่อมาด้านหลายๆ ด้านครับ
อีกทั้งในละแวกนี้ก็เคยเป็นสถานที่ที่เคยเป็น “คุก” ในอดีตมาก่อน
เรียกว่า ย่านนี้ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากๆ และมีหลายเรื่องราวให้น่าค้นหา รวมไปถึง ย่านใกล้ๆ นี้ก็เคยเป็น “โรงเรียนชาย” ที่เป็นจุดกำเนิดของ
“Prince Royal” เสียด้วยครับ
………………..
สุดท้ายที่จะกล่าวถึงก็คือ ท่านเจ้าของร้านชาเนปาล ท่านเองก็ส่งภาพโรงแรมที่ท่านเปิดไว้ซึ่งอยู่อีกย่านหนึ่ง
มีความสวยงามมากๆ ครับ แต่เนื่องจากเป็นภาพที่ผมมิได้ถ่ายเอง จึงคิดว่า ไว้มีโอกาสจะเข้าไปถ่ายเอง แล้วจึงนำมาโพสให้ทราบกันครับ
ผมเองได้มีโอกาสได้เดินเล่น และแวะจิบชาเนปาล ที่ร้านนี้ เห็นว่าเป็นร้านที่น่าสนใจ จึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ (เล่าจากความทรงจำ)
ร้านนี้ดูจากภายนอกก็แทบจะไม่ได้สังเกตสักเท่าไหร่ครับว่ามีอะไรน่าสนใจ
แต่ผมยืนมองขึ้นไปที่ชั้นบนเห็นหน้าต่างแล้วทำให้รู้สึกมันต้องมีอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย
และด้วยความที่เป็นคนช่างถาม ก็เลยสอบถาม และขอเข้าไปชมข้างในทันทีเลยครับ
บรรยากาศชั้นล่างก็จะเป็นสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ได้คุยกับทางเจ้าของร้าน
ทราบว่า ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากเนปาลทีเดียว ยิ่งทำให้ผมเองเลือกชมอย่างสนุกทุกซอกทุกมุมเลยครับ
แต่จุดเด่นของร้านนี้ อยู่ที่ชั้นบนครับ เป็นคาเฟ่เล็กๆ แต่น่าสนใจ น่าถ่ายรูปมากๆ ครับ
ซึ่งเราสามารถสั่งเครื่องดื่มจากหน้าร้านชั้นล่าง ขึ้นมาจิบ เคล้าบรรยากาศที่ชั้นบนนี้ได้อย่างเพลิดเพลินทีเดียวเชียวครับ
ที่หน้าต่างของร้าน บริเวณชั้น ๒ นี้ ผมชอบศิลปะของผ้าม่านมากๆ สะดุดตาตั้งแต่มองจากภายนอกร้านที่ชั้นล่างแล้วครับ
สถานที่ดูโปร่งตา ทำให้ร้านเล็กๆ แต่ดูไม่อึดอัด อย่างน้อยบางช่วงเวลา เหมือนได้มาอยู่ในโลกส่วนตัวทีเดียวครับ
ความเก๋ของช่วงพักบันได ก็ถือว่าจัดวางได้อย่างมีองค์ประกอบสะดุดตาทีเดียวครับ
ลงมาชั้นล่างเลือกซื้อของฝากเป็นที่ระลึก
จากนั้นก็เดินมาจิบชาเนปาลต่ออีกที่หลังร้านครับ
ผมว่าบริเวณหลังร้านนี้ ทางเดินอาจดูซับซ้อนสำหรับคนที่มาเป็นครั้งแรกนะครับ
แต่ผมชอบสไตล์การจัดร้าน ให้ดูเก๋ และเหมาะสม ด้วยการใช้พื้นที่แบบ Minimal มากๆ ครับ
การประดับและตกแต่งชั้นล่างด้านหลังร้าน แตกต่างจากชั้นบนมากๆ เรียกว่า มาจิบชาเนปาลที่นี่ คุ้มค่ามากๆ กับบรรยากาศ
โดยเฉพาะคนที่รักการถ่ายภาพ ผมเชื่อว่า “ต้องไม่พลาดกับร้านนี้นะครับ”
ภาพเขียนที่ประดับตามฝาผนัง เป็นงานศิลปะที่สวยงามมากๆ ครับ อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่จัดวาง ดูไม่เบื่อเลยครับ
เจ้าของร้านชวนให้ผมนั่งทานอาหารด้วยในวันที่ไปคุยกัน (นานแล้วครับ) ผมยังคิดถึง หากมีโอกาสจะกลับไปเยี่ยมอีกครั้งครับ
ผ้าม่านหน้าต่างที่บริเวณชั้น ๒ นี้แหละครับ ที่ผมสะดุดตามากๆ
บริเวณด้านนอกร้าน ดูแล้วแทบไม่อยากเชื่อว่า จะมีร้านชาเนปาล ร้านกาแฟ น่านั่ง น่าถ่ายรูปแฝงตัวอยู่ในละแวกนี้
เขียนกระทู้นี้ขึ้นด้วยความคิดถึงครับ บริเวณ “กาดหลวง” หรือย่านตลาดวโรรสนี้ มีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจครับ
แม้กระทั่งร้านทอง ที่ในอดีตเคยเป็นสถานที่พักพิงของผู้สอนศาสนา จนกระทั่งมาเป็นบุคคลสำคัญของเชียงใหม่ในเวลาต่อมาด้านหลายๆ ด้านครับ
อีกทั้งในละแวกนี้ก็เคยเป็นสถานที่ที่เคยเป็น “คุก” ในอดีตมาก่อน
เรียกว่า ย่านนี้ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากๆ และมีหลายเรื่องราวให้น่าค้นหา รวมไปถึง ย่านใกล้ๆ นี้ก็เคยเป็น “โรงเรียนชาย” ที่เป็นจุดกำเนิดของ
“Prince Royal” เสียด้วยครับ
………………..
สุดท้ายที่จะกล่าวถึงก็คือ ท่านเจ้าของร้านชาเนปาล ท่านเองก็ส่งภาพโรงแรมที่ท่านเปิดไว้ซึ่งอยู่อีกย่านหนึ่ง
มีความสวยงามมากๆ ครับ แต่เนื่องจากเป็นภาพที่ผมมิได้ถ่ายเอง จึงคิดว่า ไว้มีโอกาสจะเข้าไปถ่ายเอง แล้วจึงนำมาโพสให้ทราบกันครับ
Force8949
26 มีนาคม เวลา 14:12 น.
26 มีนาคม เวลา 14:12 น.
แหล่งที่มา pantip.com
26 มีนาคม เวลา 17:53 น.
สำหรับที่กาดหลวงนั้น จะเป็นแค่เครื่องดื่ม และช่วงที่เป็นโควิด ก็จะไม่มีอาหารครับ
แต่หากเป็นเวลาปกติ ก็จะมีอาหารทั้งสไตล์ไทยๆ และเนปาลทั้งที่กาดหลวงและที่โรงแรมครับ
26 มีนาคม เวลา 19:35 น.
ขอบพระคุณสำหรับรีวิวนะคะ
26 มีนาคม เวลา 23:43 น.
27 มีนาคม เวลา 07:20 น.
-ชอบเดินเที่ยวในตัวเมือง ครับ เน้นเดิน ระลึกถึงสถานที่เก่าๆ
-ตอนเช้าจะวิ่งจากบ้านฟ้าฮ่ามไปกาดหลวง ไปนั่งทาน น้ำเต้าหู้
27 มีนาคม เวลา 12:09 น.
ทานน้ำเต้าหู้ แถวกาดหลวง สงสัยจะเป็นหลังศาลเจ้าปุงเถ่ากงกระมังครับ มีปาท่องโก๋ไดโนเสาร์ด้วยนะครับ
27 มีนาคม เวลา 16:25 น.
27 มีนาคม เวลา 13:00 น.
27 มีนาคม เวลา 16:25 น.
ตกแต่งสวยมากๆค่ะ ได้บรรยากาศเนปาล
28 มีนาคม เวลา 13:33 น.
ความลึกลับจะอยู่ที่ทางเดินจากหน้าร้านทะลุต่อไปหลังร้านที่มีการตกแต่งอย่างสวยงามครับ
ทางเดินขนาบไปด้วยบ้านในละแวกใกล้เคียงนั่นเองครับ
ซึ่งกรณีแบบนี้เราจะเห็นได้จากร้านพลาสติกที่อยู่ใกล้เคียงในละแวกเดียวกันครับ
กล่าวคือ นอกจากด้านหนึ่งของร้านจะขายพลาสติกสารพัดชนิดแล้ว เดินทะลุหลังร้านก็จะมีทางเดิน
เชื่อมต่อไปยังร้านเดียวกันแต่ขายสินค้าหลากหลายประเภท
ที่สำคัญยังแยกออกไปสองถึงสามด้านทีเดียวครับ
ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการแสดงว่า ร้านในละแวกเดียวกันนี้ หากร้านใดค้าขายกิจการดีขึ้น
ก็จะเพิ่มพื้นที่ และต่อทะลุถึงกันได้อีก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงเป็นแนวคิดคล้ายๆ กับร้านทำนองเดียวกันในตลาดของอีกหลายๆ ประเทศครับ
……………….
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจ นั่นก็คือ ทั้งพนักงานร้าน เจ้าของร้าน ต่างก็มีรอยยิ้มตลอดเวลาครับ
28 มีนาคม เวลา 15:00 น.
31 มีนาคม เวลา 08:13 น.
1 เมษายน เวลา 13:10 น.
1 เมษายน เวลา 11:34 น.
1 เมษายน เวลา 13:11 น.
1 เมษายน เวลา 14:42 น.
แต่พอโควิด ลูกค้าก็ต้องเบรคกันไปครับ ธุรกิจโรงแรมของเจ้าของนี้ก็ปิดครับ
1 เมษายน เวลา 19:08 น.