[CR] รีวิว “Mr. Jogg’s” ร้านฟาสต์ฟู้ดอินเดียสั่งชุดเดียวได้ทานหลายอย่างราคาเบาๆ อยู่ใน Block 28 ย่านจุฬาฯ
เว้นช่วงห่างหายจากการรีวิวร้านอาหารอินเดียไปนานมากจนวันก่อนเพื่อนผมทำงานออฟฟิศอยู่ภายในโครงการ Block 28 จุฬาฯซอย 5 ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นานแนะนำว่ามี “Mr. Jogg’s” เป็นฟาสต์ฟู้ดเสิร์ฟเมนูอินเดียจานด่วนโดยเน้นไปที่กลุ่มพนักงานบริษัทกับนักศึกษาในละแวกนี้เป็นหลักจึงปรุงรสชาติมาอร่อยกลมกล่อมชวนเข้าถึงได้ง่ายถูกปากสำหรับคนที่ไม่เคยทานอาหารอินเดียมาก่อน ที่สำคัญก็คือราคาถูกจนสามารถสั่งทานได้บ่อยๆกับชุดสุดคุ้มที่จ่ายน้อยแต่ได้รับอาหารสูงสุดถึง 5 อย่าง หากเทียบกับภัตตาคารอินเดียทั่วไปถือว่าถูกมาเพราะแกง 1 ถ้วยชั้นต่ำก็ 150-200 บาทแล้ว วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดมาที่ “Block 28” ภายในโครงการมีลานจอดรถขนาดใหญ่ 2 ชั่วโมงแรกคิด 20 บาท ชั่วโมงต่อไปคิดชั่วโมงละ 20 บาท หรือจะจอดยาวตั้งแต่ 12-24 ชั่วโมงเหมาทั้งวันได้คิดราคา 200 บาท ถ้าเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะลง MRT สามย่านใช้ประตูสามย่านมิตรทาวน์เดินตั้งต้นจากหน้าห้างประมาณ 700 เมตร ไม่อยากเดินไกลก็ลง MRT หัวลำโพงแล้วเรียกรถเข้ามาที่ร้านอีก 900 เมตร จะพบกับร้านสีฟ้า-เหลืองที่ตกแต่งภายนอกนึกว่าขายอาหารเมนูสไตล์ตะวันตกแบบนี้แสดงว่ามาถึงแล้วครับ
บรรยากาศการตกแต่งร้านโดยรวมหากไม่บอกว่าเป็นร้านอาหารอินเดียหรือเดินผ่านแบบไม่สังเกตป้ายเมนูด้านหน้าก็ไม่มีทางรู้ได้เลย เรียกได้ว่าเป็นสไตล์ Loft ผนังปูนเปลือยครึ่งบนส่วนที่เหลือปูกระเบื้องสีสันสดใส อีกด้านทาด้วยสีน้ำเงิน-เหลืองพร้อมเฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งสไตล์ตะวันตกล้อมรอบด้วยหน้าต่างขนาดใหญ่และกระจกรับแสงธรรมชาติช่วยให้ภายในดูกว้างขวางถึงแม้จะมีพื้นที่เพียง 1 คูหา ยกเว้นแค่เพียงเคาน์เตอร์สั่งอาหารกับครัวที่ใช้กระเบื้องสีเขียวมรกต เพิ่มอารมณ์ความเป็นบ้านที่ดูอบอุ่นด้วยแสงไฟโทนเหลือง/ประตู/ฉากกั้นไม้ตามมุมต่างๆอีกนิดหน่อยรวมทั้งผนังภายในร้านมีความสูงกว่าปกติจึงรู้สึกโล่งสบายไม่อึดอัดชวนนั่งนาน ส่วนวิธีการสั่งออเดอร์ก็ใช้รูปแบบเดียวกับฟาสต์ฟู้ดจากฝั่งตะวันตกโดยดูจากในจอทีวีหรือให้น้องพนักงานแคชเชียร์ช่วยแนะนำได้เลยครับผม
รายการเมนูขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในทีวีหลังเคาน์เตอร์ถูกย่อออกมาเป็นใบกระดาษแข็งเอาไว้ออเดอร์กับพนักงานได้ง่ายๆ โดยหน้าแรกคือ Wok Fried หรือของชุบแป้งทอดมีทั้งมังสวิรัติ/เนื้อสัตว์ราคา 100-160 บาท เลือกซอสได้ 1 จากทั้งหมด 6 สูตรฟรีแบ่งเป็นเผ็ดน้อย/เผ็ดมาก Signature Curry ก็มี 4 แกงเปลี่ยนเครื่องได้ทั้งเนื้อสัตว์/ผักต่างๆราคา 100-180 บาท ข้าวผัดสไตล์จีน-อินเดียและข้าวหมกไก่ราคาถ้วยละ 65-125 บาท ผัดหมี่จีนราคา 65-85 บาท โรตีสำหรับทานจิ้มแกงราคาแผ่นละ 45 บาท ส่วนเครื่องดื่มมีทั้งกาแฟสด/บัตเตอร์มิลค์/ลาสซี่และน้ำอัดลมราคา 30-60 บาท หน้าหลังเป็นชุดคอมโบราคาถูกซึ่งเป็นจุดเด่นของทางร้านเริ่มต้นที่ 135-340 บาท ได้รับอาหาร 2-5 อย่างสุดคุ้ม หมวดสุดท้ายคือ Signature 65 Fried รวมอาหารทานเล่นเริ่มจากไก่ทอดราคาที่ละ 65 บาท ผัก/เห็ดและชีสทอดที่ละ 65 บาท Warp ห่อแป้งสไตล์จีน-อินเดียที่ละ 65 บาท ผักผลไม้ทอดทานเล่นสไตล์มังสวิรัติรายการละ 49 บาท และไข่ต้มชุบแป้งทอดและซาโมซ่าทอดร้อนๆราคาชุดละ 59 บาท อาหารบางเมนูถ้าไม่เข้าใจ/สงสัยก็ไม่ต้องกลัวเพราะพนักงานรอรับออเดอร์หน้าเคาน์เตอร์เป็นคนไทยพร้อมตอบคำถามให้เต็มที่เลยครับ
เนื่องจาก 1 ออเดอร์พนักงานต้องตอบคำถามลูกค้าเป็นเวลานานกว่าจะปิดการขายได้ที่ร้านเลยทำเล่มเมนูเป็นรูปภาพให้คนไม่เคยทานอาหารอินเดียสามารถเห็นรูปและตัดสินใจสั่งอาหารได้ง่ายขึ้น หน้าแรกเป็นรวมของทอดทุกอย่างโดยใช้แป้งผสมเครื่องเทศสูตร 65 ทั้งไก่ป๊อบ/ปีกไก่/น่องไก่/กุ้ง/ชีสอินเดีย/ข้าวโพดอ่อน/เห็ด/กระเจี๊ยบและดอกกะหล่ำ หน้าต่อไปเป็นเมนู Side ชุบแป้งทอดทานเล่นๆทั้งพริกเจลาปิโน่/ไข่ต้ม/กระเจี๊ยบและกล้วย ส่วน Wok Fried นั่นคือเมนูชุบแป้งทอดผัดซอสเริ่มจากเนื้อสัตว์กับผักคือกุ้ง/ไก่/ชีส/ข้าวโพดอ่อน/ดอกกะหล่ำ/เห็ด เคล้ากับซอสสูตรต่างๆทั้งมันจูเรี่ยน/ฮันนี่สไปซ์/บัตเตอร์สไปซ์/โทมาโท่มัสตาร์ต/เลมอนสไปซ์/โคชูจังอีกหลายหน้าเลยครับ
มาต่อกันที่เมนูข้าวผัดทั้งข้าวผัดมังสวิรัติซอสเสฉวน/ข้าวผัดไก่ซอสเสฉวนและข้าวอบเลมอน ผัดหมี่สไตล์จีน-อินเดียก็มีให้สั่งทั้งผัดหมี่มังสวิรัติซอสเสฉวนกับผัดหมี่ไก่ซอสเสฉวน ส่วนเมนู Warp ก็มีเป็นไส้บัตเตอร์ชิกเก้นและชีสใส่ภาชนะเสิร์ฟแบบเดียวกับในรูป ตามมาด้วยแกงที่ร้าน 4 เมนูหลักคือ 1. บัตเตอร์ชิกเก้น 2. แกงเขียวหวาน 3. แกงผักโขมอินเดีย และ 4. แกงใต้สูตรอินเดีย สุดท้ายเป็นชุด Combo ต่างๆทั้ง A/B/C โดยทางร้านได้สลับเมนูให้เป็นชุดหลายรูปถ้าอยากทานชุดไหนก็จิ้มที่ชอบเพื่อสั่งอาหารกับพนักงานได้ทันทีถือว่าสะดวกรวดเร็วไปอีกแบบครับ
จัดการสั่งอาหารจ่ายเงินให้เรียบร้อยแล้วกลับมานั่งรอโดยแต่ละโต๊ะมีกระดาษทิชชู่พร้อมช้อนพิเศษที่ตรงปลายสามารถใช้เป็นส้อมได้ด้วยแบบ 2 in 1 ถ้าทานไม่ถนัดสามารถขอช้อน-ส้อมปกติกับพนักงานได้ เฉพาะเมนูผัดหมี่ที่ร้านจะให้ตะเกียบมาด้วยแต่เสียดายว่าวันนี้เส้นหมดเลยอดไป ระหว่างรอก็สังเกตรอบๆร้านไปด้วยเห็นว่าทุกๆโต๊ะมีช่องเสียบปลั๊กและ USB เต็มไปหมดพร้อมขายกาแฟด้วยเลยสั่งมาชิมเป็นอเมริกาโน่และคาราเมลมัคคิอาโต้แก้วละ 60 บาท พร้อมคุยกับน้องพนักงานไปด้วยได้ความมาว่านอกจากจะเป็น Indian Food แบบ Express แล้วยังเปิดให้ลูกค้ามานั่งเล่นสั่งชา/กาแฟ/อิตาเลี่ยนโซดาพร้อมนั่งเล่นชาร์จมือถือ-โน้ตบุ๊กให้ทำงานในร้านได้ฟรีมี Wifi อีกทั้งยังเป็น Pet Friendly อนุญาตให้สุนัขพันธุ์เล็กเข้าร้านได้อีกด้วย (ถ้าตัวใหญ่ต้องนั่งข้างนอก) กาแฟสดที่ร้านเขาใช้สายพันธุ์อาราบิก้า 100% คั่วกลางให้กลิ่นหอมมีมิติเทียบเท่าร้านดังสัญลักษณ์คาวบอยบนห้างใหญ่แต่ไม่เข้มจึงดื่มง่ายกว่าถ้าติดใจก็มีเมล็ดกาแฟแพ็กถุงขายด้วย เรียกได้ว่าเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ใจกลาง Block 28 ได้เลยครับผม
อาหารจานแรกมาเสิร์ฟเป็น Combo ชุด C ราคา 340 บาท ซึ่งน้องพนักงานแนะนำว่าต้องสั่งเพราะชุดเดียวได้ทานอาหารเกือบครบทุกหมวดภายในร้านมากถึง 5 รายการนั่นก็คือ 1. Wok Fried หรือของทอดเคลือบซอสสไตล์อินเดียที่เราสามารถเลือกเนื้อสัตว์-ผักต่างๆและรวมถึงซอสกว่า 6 ชนิดได้ด้วยตัวเอง วันนี้ผมสั่งมาเป็น “Prawns Manchurian Sauce” ปกติราคาเต็ม 160 บาท เป็นกุ้งตัวใหญ่แกะเปลือกเหลือแต่ปลายหางชุบแป้งทอดผัดซอสมันจูเรี่ยนคล้ายผัดเปรี้ยวหวานจีนที่เพิ่มเครื่องเทศอินเดียลงไปให้มีมิติความอร่อยเพิ่มมากขึ้น (มือใหม่ทานได้สบาย) 2. Curries หรือแกงเลือกได้ 1 จาก 4 สูตรเลยสั่งมาเป็น “Butter Curry” หรือแกงบัตเตอร์อินเดียรสชาติหวานหอมมันครีมนมผสมมะเขือเทศและเครื่องเทศอินเดียกลมกล่อมสุดนัว ซึ่งเป็นเบสพื้นฐานไม่มีเครื่องใดๆโดยทางร้านเสิร์ฟคู่กันเป็นเนื้อสัตว์-ผักชุบแป้งใส่ผงสมุนไพรสีแดงทอดเราได้เลือกเป็นชีส ปกติราคาเต็มรวมกันแล้ว 140 บาท ส่วนวิธีการทานก็ให้นำชีสชุบแป้งทอดในชุดลงไปจุ่มในแกงทีละคำจึงได้ความกรุบกรอบหอมมันอย่างเต็มที่หรือว่าจะเอาไว้ทานเล่นเฉยๆก็จัดการแบ่งด้วยตัวเองตามใจ ราวกับที่ร้านคิดมาเผื่อเดลิเวอรี่ไกลยังไงก็ได้กินอร่อยเหมือนเดิม
ความคุ้มค่าของชุดนี้ก็คือได้ข้าวอีก 2 ถ้วยใหญ่เต็มอิ่ม เริ่มต้นที่ 3. Fried Rice เราเลือกมาเป็น “Szechwan Chicken Rice” หรือข้าวผัดไก่ซอสเสฉวนที่ใช้เมล็ดสายพันธุ์บาสมาติเรียวยาวคลุกซอสรสชาติเผ็ดอมหวานมีกลิ่นหอมกระทะสไตล์จีนสุดกลมกล่อม เพิ่มความเป็นอินเดียด้วยเครื่องเทศบางๆใส่เนื้อไก่/พริกหยวกหวานและไข่ไก่อัดแน่นเต็มถ้วยปกติขายราคาถ้วยละ 85 บาท ส่วนอีกเมนูไม่รู้จะสั่งอะไรแต่น้องพนักงานแนะนำว่ามาแล้วต้องลองคือ 4. “Lemon Butter Rice” หรือข้าวอบเนยเลมอนที่ร้านใช้ Ghee ผสมน้ำเลมอนและสมุนไพรสูตรพิเศษเฉพาะจนได้สีเหลืองนวลผสมพริก/ใบสมุนไพรกับถั่วเลนทิลทอดกรอบคลุกผสมลงไปอย่างทั่วถึง ความหอมนุ่มของบาสมาติเผ็ดตรงปลายลิ้นอมเปรี้ยวหอมเลมอนผสมเนยปรุงรสพอเค็มนิดหน่อยๆกลายเป็นความอร่อยทานเพลินอย่างเหลือเชื่อโดยปกติขายราคาถ้วยละ 65 บาท หากไม่อยากทานข้าวเปลี่ยนเป็นแผ่นโรตีก็ได้ตามใจเลยครับ 5. Sides หรืออาหารทานเล่นเลือกได้ 1 จากทั้งหมด 8 รายการเห็นว่าอันนี้ชื่อแปลกดีเลยสั่งมาคือ “Golden ORB” หรือไข่ต้มชุบแป้งผสมเครื่องเทศทอดกรอบที่เรียกว่าสูตร 65 พร้อมใบสมุนไพรมาพอสวยงาม กินเปล่าๆก็อร่อยกรอบนอกนุ่มในเค็มกลมกล่อมหรือจะจิ้มซอส Honey Spice ที่มาคู่กัน รสชาติหวานอมเปรี้ยวใส่น้ำผึ้งผสมสมุนไพรอินเดียคล้ายๆกับซอสหมูแดงฮ่องกงที่เพิ่มความเปรี้ยวตัดเลี่ยนลงไปอีกนิดถ้าสั่งแยกปกติ 59 บาท รวมเบ็ดเสร็จหากต้องสั่งแยกต้องจ่าย 509 บาท แต่ชุดนี้เหลือเพียงแค่ 340 บาท (ประหยัดไปตั้ง 169 บาท) เอาเงินไปสั่งเมนูอื่นๆต่อได้อีกครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
บรรยากาศการตกแต่งร้านโดยรวมหากไม่บอกว่าเป็นร้านอาหารอินเดียหรือเดินผ่านแบบไม่สังเกตป้ายเมนูด้านหน้าก็ไม่มีทางรู้ได้เลย เรียกได้ว่าเป็นสไตล์ Loft ผนังปูนเปลือยครึ่งบนส่วนที่เหลือปูกระเบื้องสีสันสดใส อีกด้านทาด้วยสีน้ำเงิน-เหลืองพร้อมเฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งสไตล์ตะวันตกล้อมรอบด้วยหน้าต่างขนาดใหญ่และกระจกรับแสงธรรมชาติช่วยให้ภายในดูกว้างขวางถึงแม้จะมีพื้นที่เพียง 1 คูหา ยกเว้นแค่เพียงเคาน์เตอร์สั่งอาหารกับครัวที่ใช้กระเบื้องสีเขียวมรกต เพิ่มอารมณ์ความเป็นบ้านที่ดูอบอุ่นด้วยแสงไฟโทนเหลือง/ประตู/ฉากกั้นไม้ตามมุมต่างๆอีกนิดหน่อยรวมทั้งผนังภายในร้านมีความสูงกว่าปกติจึงรู้สึกโล่งสบายไม่อึดอัดชวนนั่งนาน ส่วนวิธีการสั่งออเดอร์ก็ใช้รูปแบบเดียวกับฟาสต์ฟู้ดจากฝั่งตะวันตกโดยดูจากในจอทีวีหรือให้น้องพนักงานแคชเชียร์ช่วยแนะนำได้เลยครับผม
รายการเมนูขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในทีวีหลังเคาน์เตอร์ถูกย่อออกมาเป็นใบกระดาษแข็งเอาไว้ออเดอร์กับพนักงานได้ง่ายๆ โดยหน้าแรกคือ Wok Fried หรือของชุบแป้งทอดมีทั้งมังสวิรัติ/เนื้อสัตว์ราคา 100-160 บาท เลือกซอสได้ 1 จากทั้งหมด 6 สูตรฟรีแบ่งเป็นเผ็ดน้อย/เผ็ดมาก Signature Curry ก็มี 4 แกงเปลี่ยนเครื่องได้ทั้งเนื้อสัตว์/ผักต่างๆราคา 100-180 บาท ข้าวผัดสไตล์จีน-อินเดียและข้าวหมกไก่ราคาถ้วยละ 65-125 บาท ผัดหมี่จีนราคา 65-85 บาท โรตีสำหรับทานจิ้มแกงราคาแผ่นละ 45 บาท ส่วนเครื่องดื่มมีทั้งกาแฟสด/บัตเตอร์มิลค์/ลาสซี่และน้ำอัดลมราคา 30-60 บาท หน้าหลังเป็นชุดคอมโบราคาถูกซึ่งเป็นจุดเด่นของทางร้านเริ่มต้นที่ 135-340 บาท ได้รับอาหาร 2-5 อย่างสุดคุ้ม หมวดสุดท้ายคือ Signature 65 Fried รวมอาหารทานเล่นเริ่มจากไก่ทอดราคาที่ละ 65 บาท ผัก/เห็ดและชีสทอดที่ละ 65 บาท Warp ห่อแป้งสไตล์จีน-อินเดียที่ละ 65 บาท ผักผลไม้ทอดทานเล่นสไตล์มังสวิรัติรายการละ 49 บาท และไข่ต้มชุบแป้งทอดและซาโมซ่าทอดร้อนๆราคาชุดละ 59 บาท อาหารบางเมนูถ้าไม่เข้าใจ/สงสัยก็ไม่ต้องกลัวเพราะพนักงานรอรับออเดอร์หน้าเคาน์เตอร์เป็นคนไทยพร้อมตอบคำถามให้เต็มที่เลยครับ
เนื่องจาก 1 ออเดอร์พนักงานต้องตอบคำถามลูกค้าเป็นเวลานานกว่าจะปิดการขายได้ที่ร้านเลยทำเล่มเมนูเป็นรูปภาพให้คนไม่เคยทานอาหารอินเดียสามารถเห็นรูปและตัดสินใจสั่งอาหารได้ง่ายขึ้น หน้าแรกเป็นรวมของทอดทุกอย่างโดยใช้แป้งผสมเครื่องเทศสูตร 65 ทั้งไก่ป๊อบ/ปีกไก่/น่องไก่/กุ้ง/ชีสอินเดีย/ข้าวโพดอ่อน/เห็ด/กระเจี๊ยบและดอกกะหล่ำ หน้าต่อไปเป็นเมนู Side ชุบแป้งทอดทานเล่นๆทั้งพริกเจลาปิโน่/ไข่ต้ม/กระเจี๊ยบและกล้วย ส่วน Wok Fried นั่นคือเมนูชุบแป้งทอดผัดซอสเริ่มจากเนื้อสัตว์กับผักคือกุ้ง/ไก่/ชีส/ข้าวโพดอ่อน/ดอกกะหล่ำ/เห็ด เคล้ากับซอสสูตรต่างๆทั้งมันจูเรี่ยน/ฮันนี่สไปซ์/บัตเตอร์สไปซ์/โทมาโท่มัสตาร์ต/เลมอนสไปซ์/โคชูจังอีกหลายหน้าเลยครับ
มาต่อกันที่เมนูข้าวผัดทั้งข้าวผัดมังสวิรัติซอสเสฉวน/ข้าวผัดไก่ซอสเสฉวนและข้าวอบเลมอน ผัดหมี่สไตล์จีน-อินเดียก็มีให้สั่งทั้งผัดหมี่มังสวิรัติซอสเสฉวนกับผัดหมี่ไก่ซอสเสฉวน ส่วนเมนู Warp ก็มีเป็นไส้บัตเตอร์ชิกเก้นและชีสใส่ภาชนะเสิร์ฟแบบเดียวกับในรูป ตามมาด้วยแกงที่ร้าน 4 เมนูหลักคือ 1. บัตเตอร์ชิกเก้น 2. แกงเขียวหวาน 3. แกงผักโขมอินเดีย และ 4. แกงใต้สูตรอินเดีย สุดท้ายเป็นชุด Combo ต่างๆทั้ง A/B/C โดยทางร้านได้สลับเมนูให้เป็นชุดหลายรูปถ้าอยากทานชุดไหนก็จิ้มที่ชอบเพื่อสั่งอาหารกับพนักงานได้ทันทีถือว่าสะดวกรวดเร็วไปอีกแบบครับ
จัดการสั่งอาหารจ่ายเงินให้เรียบร้อยแล้วกลับมานั่งรอโดยแต่ละโต๊ะมีกระดาษทิชชู่พร้อมช้อนพิเศษที่ตรงปลายสามารถใช้เป็นส้อมได้ด้วยแบบ 2 in 1 ถ้าทานไม่ถนัดสามารถขอช้อน-ส้อมปกติกับพนักงานได้ เฉพาะเมนูผัดหมี่ที่ร้านจะให้ตะเกียบมาด้วยแต่เสียดายว่าวันนี้เส้นหมดเลยอดไป ระหว่างรอก็สังเกตรอบๆร้านไปด้วยเห็นว่าทุกๆโต๊ะมีช่องเสียบปลั๊กและ USB เต็มไปหมดพร้อมขายกาแฟด้วยเลยสั่งมาชิมเป็นอเมริกาโน่และคาราเมลมัคคิอาโต้แก้วละ 60 บาท พร้อมคุยกับน้องพนักงานไปด้วยได้ความมาว่านอกจากจะเป็น Indian Food แบบ Express แล้วยังเปิดให้ลูกค้ามานั่งเล่นสั่งชา/กาแฟ/อิตาเลี่ยนโซดาพร้อมนั่งเล่นชาร์จมือถือ-โน้ตบุ๊กให้ทำงานในร้านได้ฟรีมี Wifi อีกทั้งยังเป็น Pet Friendly อนุญาตให้สุนัขพันธุ์เล็กเข้าร้านได้อีกด้วย (ถ้าตัวใหญ่ต้องนั่งข้างนอก) กาแฟสดที่ร้านเขาใช้สายพันธุ์อาราบิก้า 100% คั่วกลางให้กลิ่นหอมมีมิติเทียบเท่าร้านดังสัญลักษณ์คาวบอยบนห้างใหญ่แต่ไม่เข้มจึงดื่มง่ายกว่าถ้าติดใจก็มีเมล็ดกาแฟแพ็กถุงขายด้วย เรียกได้ว่าเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ใจกลาง Block 28 ได้เลยครับผม
อาหารจานแรกมาเสิร์ฟเป็น Combo ชุด C ราคา 340 บาท ซึ่งน้องพนักงานแนะนำว่าต้องสั่งเพราะชุดเดียวได้ทานอาหารเกือบครบทุกหมวดภายในร้านมากถึง 5 รายการนั่นก็คือ 1. Wok Fried หรือของทอดเคลือบซอสสไตล์อินเดียที่เราสามารถเลือกเนื้อสัตว์-ผักต่างๆและรวมถึงซอสกว่า 6 ชนิดได้ด้วยตัวเอง วันนี้ผมสั่งมาเป็น “Prawns Manchurian Sauce” ปกติราคาเต็ม 160 บาท เป็นกุ้งตัวใหญ่แกะเปลือกเหลือแต่ปลายหางชุบแป้งทอดผัดซอสมันจูเรี่ยนคล้ายผัดเปรี้ยวหวานจีนที่เพิ่มเครื่องเทศอินเดียลงไปให้มีมิติความอร่อยเพิ่มมากขึ้น (มือใหม่ทานได้สบาย) 2. Curries หรือแกงเลือกได้ 1 จาก 4 สูตรเลยสั่งมาเป็น “Butter Curry” หรือแกงบัตเตอร์อินเดียรสชาติหวานหอมมันครีมนมผสมมะเขือเทศและเครื่องเทศอินเดียกลมกล่อมสุดนัว ซึ่งเป็นเบสพื้นฐานไม่มีเครื่องใดๆโดยทางร้านเสิร์ฟคู่กันเป็นเนื้อสัตว์-ผักชุบแป้งใส่ผงสมุนไพรสีแดงทอดเราได้เลือกเป็นชีส ปกติราคาเต็มรวมกันแล้ว 140 บาท ส่วนวิธีการทานก็ให้นำชีสชุบแป้งทอดในชุดลงไปจุ่มในแกงทีละคำจึงได้ความกรุบกรอบหอมมันอย่างเต็มที่หรือว่าจะเอาไว้ทานเล่นเฉยๆก็จัดการแบ่งด้วยตัวเองตามใจ ราวกับที่ร้านคิดมาเผื่อเดลิเวอรี่ไกลยังไงก็ได้กินอร่อยเหมือนเดิม
ความคุ้มค่าของชุดนี้ก็คือได้ข้าวอีก 2 ถ้วยใหญ่เต็มอิ่ม เริ่มต้นที่ 3. Fried Rice เราเลือกมาเป็น “Szechwan Chicken Rice” หรือข้าวผัดไก่ซอสเสฉวนที่ใช้เมล็ดสายพันธุ์บาสมาติเรียวยาวคลุกซอสรสชาติเผ็ดอมหวานมีกลิ่นหอมกระทะสไตล์จีนสุดกลมกล่อม เพิ่มความเป็นอินเดียด้วยเครื่องเทศบางๆใส่เนื้อไก่/พริกหยวกหวานและไข่ไก่อัดแน่นเต็มถ้วยปกติขายราคาถ้วยละ 85 บาท ส่วนอีกเมนูไม่รู้จะสั่งอะไรแต่น้องพนักงานแนะนำว่ามาแล้วต้องลองคือ 4. “Lemon Butter Rice” หรือข้าวอบเนยเลมอนที่ร้านใช้ Ghee ผสมน้ำเลมอนและสมุนไพรสูตรพิเศษเฉพาะจนได้สีเหลืองนวลผสมพริก/ใบสมุนไพรกับถั่วเลนทิลทอดกรอบคลุกผสมลงไปอย่างทั่วถึง ความหอมนุ่มของบาสมาติเผ็ดตรงปลายลิ้นอมเปรี้ยวหอมเลมอนผสมเนยปรุงรสพอเค็มนิดหน่อยๆกลายเป็นความอร่อยทานเพลินอย่างเหลือเชื่อโดยปกติขายราคาถ้วยละ 65 บาท หากไม่อยากทานข้าวเปลี่ยนเป็นแผ่นโรตีก็ได้ตามใจเลยครับ 5. Sides หรืออาหารทานเล่นเลือกได้ 1 จากทั้งหมด 8 รายการเห็นว่าอันนี้ชื่อแปลกดีเลยสั่งมาคือ “Golden ORB” หรือไข่ต้มชุบแป้งผสมเครื่องเทศทอดกรอบที่เรียกว่าสูตร 65 พร้อมใบสมุนไพรมาพอสวยงาม กินเปล่าๆก็อร่อยกรอบนอกนุ่มในเค็มกลมกล่อมหรือจะจิ้มซอส Honey Spice ที่มาคู่กัน รสชาติหวานอมเปรี้ยวใส่น้ำผึ้งผสมสมุนไพรอินเดียคล้ายๆกับซอสหมูแดงฮ่องกงที่เพิ่มความเปรี้ยวตัดเลี่ยนลงไปอีกนิดถ้าสั่งแยกปกติ 59 บาท รวมเบ็ดเสร็จหากต้องสั่งแยกต้องจ่าย 509 บาท แต่ชุดนี้เหลือเพียงแค่ 340 บาท (ประหยัดไปตั้ง 169 บาท) เอาเงินไปสั่งเมนูอื่นๆต่อได้อีกครับ
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
ชื่อสินค้า: Mr. Jogg’s
คะแนน:
0.5
1.0
1.5
2.0
2.5
3.0
3.5
4.0
4.5
5.0
CR – Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- – จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- – ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ 11 มีนาคม เวลา 16:01 น.
Food Addicts
11 มีนาคม เวลา 15:36 น.
11 มีนาคม เวลา 15:36 น.
แหล่งที่มา pantip.com
ข้าวผัดที่ร้านรสชาติอร่อยมากจนไม่อยากราดแกงลงไปให้เสียอรรถรสในการทานก็เลยสั่งเป็น “Roti” เสิร์ฟ 2 แผ่นแบบนี้ราคา 49 บาท เป็นแผ่นแป้งคล้ายๆกับตอร์ติญ่าของเม็กซิกันเอามาทาเนยอินเดียแล้วจี่ในกระทะพอให้มีสีเหลืองสวยงามจิ้มกับแกงของทางร้านบอกได้คำเดียวว่าฟินเว่อร์ และเพื่อให้ได้อารมณ์ร่วมสูงสุดในการทานอาหารอินเดียสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ “Lassi” ราคาแก้วละ 55 บาท เป็นโยเกิร์ตปั่นใส่น้ำแข็งเกล็ดละเอียดเทไซรัปหรือผลไม้ลงไปผสมออกมาเป็นเนื้อนวลเนียนเย็นสดชื่น โดยวันนี้เราสั่งเป็นนมอัลมอนด์หอมมัน-หวานกำลังดีเหมาะกับอากาศอันแสนร้อนอบอ้าวของประเทศไทยสุดๆ อีกแก้วก็คือ “Butter Milk” ราคา 55 บาท เป็นนมสดเต็มมันเนยผสมใบสะระแหน่/เกลือและพริกป่นปั่นละเอียดตัดหวานนิดๆ โดยก่อนสั่งพนักงานจะถามก่อนว่ารับเป็นสูตรอินเดียแท้แบบที่ผมสั่งหรือคนไทยซึ่งตำรับดัดแปลงก็คือใช้นมสดเต็มมันเนยผสมน้ำเชื่อมกลิ่นคาราเมลเฉยๆ ส่วนตัวคิดว่าถ้าอยากได้ความต้นตำรับก็ควรลองเพราะเครื่องดื่มผสมพริกเกลือในร้านสะดวกซื้อบ้านเราก็มีสดชื่นไปอีกแบบครับ
มาถึงแล้วก็อยากทานให้ได้หลากหลายก็เลยสั่งมาอีกเพราะเห็นว่าแปลกดีนั่นคือ “Larb Chicken Puff” หรือซาโมซ่าไส้ลาบไก่เสิร์ฟ 2 ชิ้นราคา 59 บาท คล้ายกับกะหรี่ปั๊บไทยที่ไม่มีแป้งนอก-ในเป็นเกลียวคลื่นสอดไส้ลาบไก่รสเปรี้ยวเผ็ดหอมข้าวคั่ว/พริกป่นและใบสะระแหน่แบบเน้นๆทานเลยก็อร่อยแซ่บโดนใจ หรือจะราดด้วยซอสมะขามเปียกรสหวานอมเปรี้ยวที่เคี่ยวจนมีความข้นหนืดกลมกล่อมก็นัวไปอีกแบบ ทอดใหม่ไม่อมน้ำมันเสิร์ฟมาร้อนๆอัดไส้แน่นชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มคำถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน เมนูต่อไปบอกเลยว่าไก่ทอดแฟรนไชส์อเมริกันต้องชิดซ้ายก็คือ “Signature 65 Frieds Chicken Leg” ราคา 65 บาท เป็นน่องไก่เต็มชิ้นหมักด้วยเครื่องสมุนไพรอินเดียเข้มข้นพิเศษคล้ายกับร้านผู้พันชื่อดังบนห้างแต่เข้มข้นกว่าประมาณ 2-3 เท่าตัวรสเค็มกลมกล่อมเคลือบด้วยแป้งกับเกล็ดขนมปังที่ผสมเครื่องเทศมีสีแดงส้มอีกชั้นเสิร์ฟมาร้อนๆ ก่อนทานเพียงบีบน้ำมะนาวลงไปตัดเปรี้ยว-สดชื่นอีกนิดก็ดีเยี่ยมสุดๆจนอยากจะได้เครื่องดื่มมอลต์สกัดเย็นๆมาทานด้วยกันเป็นการเปิดโลกใหม่แห่งวงการไก่ทอดเลยครับผม
เมนูต่อไปน้องพนักงานแนะนำว่ามาใหม่ล่าสุดจะลองดูมั้ยก็คือ “Grilled Tandoori Chicken” เสิร์ฟเป็นส่วนน่องราคา 95 บาท ปกติสูตรที่ร้านอาหารอินเดียอื่นๆจะดูแห้งเนื้อฉีกแล้วขาวเป็นเส้นๆชวนฝืดคอ แต่สูตรของเจ้านี้มีความชุ่มฉ่ำหอมกลิ่นสมุนไพรย่างถ่านเกรียมนิดๆนุ่มจนเนื้อ-กระดูกอ่อนล่อนเข้าปากได้โดยง่าย รสชาติเค็มหวานอมเปรี้ยวนิดๆเพราะหมักกับโยเกิร์ต โดยรวมแล้วถือว่าอร่อยเหนือกว่าทันดูรีร้านอาหารอินเดียอื่นที่เคยลองทานมาทั้งหมดเลยครับ เมนูสุดท้ายเป็น Chinese – Indian ฟิวชั้นที่ร้านคิดค้นขึ้นมาเองก็คือ “Paneer Butter Warp” แกงบัตเตอร์แบบเดียวกับที่เสิร์ฟในชุด Combo เอามาเคี่ยวจนกลายเป็นซอสเข้มข้น ใส่ Paneer หรือชีสอินเดียชุบแป้งทอดกรอบกับผักกาดหอมม้วนด้วยแป้งสีเขียวบางๆที่ผสมผักโขม ออกมาเป็นฟาสต์ฟู้ดอินเดียแบบใหม่กินง่ายในคำเดียวราคาชิ้นละ 65 บาท ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากเริ่มทานอาหารอินเดียในวันที่เร่งรีบได้ดีสุดๆเลยครับผม
จานนี้ไม่ได้สั่งมาแต่หัวหน้าเชฟแถมให้ฟรีเพราะเราประเดิมสั่งเมนูใหม่ของทางร้านคนแรกสุดนั่นก็คือ “Grilled Tandoori Chicken” แต่เป็นส่วนปีกกลางปกติราคา 95 บาท โดยมีความแตกต่างจากสูตรเดิมก็คือเสิร์ฟคู่กับมายองเนสรสหวานมันอมเปรี้ยวเพื่อที่จะสอบถามความคิดเห็นว่าเข้ากันไหม ซึ่งสูตรปกติของร้านอาหารอินเดียทั่วๆไปมักจะกินกับซอสมิ้นต์หรือใบสะระแหน่ที่คนไม่เคยทานมาก่อนจะรู้สึกเหม็นเขียว เชฟเลยปรับเล็กน้อยให้เข้ากับกลุ่มวัยทำงาน-นักศึกษาย่านนี้ด้วยการจิ้มมายองเนสเลมอนสูตรพิเศษแทน ส่วนตัวก็ให้ความคิดเห็นไปว่าอร่อยเข้ากันดีกับไก่ย่างซึ่งอันที่จริงทานเปล่าๆก็อร่อยแล้วแต่ซอสนี้ทำให้รู้สึกสดชื่นหอมมันลงตัวอีกแบบ สุดท้ายเชฟเชิญชวนเราด้วยว่าอนาคตจะมีเมนูใหม่อร่อยๆเพิ่มภายในร้านต่อเนื่องเอาชื่อเสียงของพ่อครัวตำรับอินเดียใต้เป็นประกันเลยครับ
วันนี้เรามาทานกัน 2 คน จ่ายไปแค่ 1,064 บาท แบบไม่มี Vat. กับ Service Charge มาเพิ่ม เพราะร้านนี้เป็นฟาสต์ฟู้ดอาหารอินเดียจึงใช้ระบบเหมือนๆแบรนด์ฝั่งตะวันตกที่มาเปิดบ้านเรา โดยรวมถือว่ามีการปรับรสชาติให้อร่อย-ทานง่ายแต่ก็คงเอกลักษณ์ของอาหารอินเดียเอาไว้อย่างครบถ้วน แถมราคาเป็นมิตรต่อกระเป๋าเงินกว่าร้านอื่นๆที่เคยไปชิมมาทั้งหมดแบบนี้ “Mr. Jogg’s” ก็ได้รับคะแนนความอร่อยและคุ้มค่าไปเลย 5 ดาวเต็มครับผม 🌟🌟🌟🌟🌟
ทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น. ทางร้านจะเริ่มปิดเครื่องปรับอากาศ-เปิดพัดลมติดเพดานและหน้าต่างให้กลายเป็นลานกว้างไว้นั่งชิลล์ดื่มมอลล์สกัดแช่เย็นจัด ทานคู่กับของชุบแป้งทอดสไตล์อินเดียกรอบๆรับลมธรรมชาติตอนเย็นหลังเลิกงานพร้อมนั่งชิลกับเพื่อนฝูงบอกเลยว่าครบจบในร้านเดียว เพราะได้ทั้งCafe / Working Space และ Bar รวม 3 อารมณ์ที่แตกต่างมาไว้โดยใช้จุดแข็งตรงหัวมุมให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่เล็กๆสร้างสรรค์ดีมากครับ
พิกัด : โครงการ Block 28 ห้อง A119-A120 อาคาร A ชั้น 1 ซ.จุฬา 8 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. 10330
เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น. ปิดร้านทุกวันอาทิตย์ (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)
โทร. 098-449-6994
Facebook : www.facebook.com/misterjoggs
ลิงค์ Google Maps : https://goo.gl/maps/MMZ4ntFSSAZ2u1iY7
ตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
อย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเราด้วยนะ 😘😘😘
11 มีนาคม เวลา 15:46 น.
12 มีนาคม เวลา 04:15 น.
13 มีนาคม เวลา 14:01 น.