10 ผลไม้ ที่โรคไตควรเลี่ยง
🍊 โรคไตทานผลไม้อะไรดี
ผลไม้เป็นอาหารที่มีวิตามินและเกลือแร่สูง จัดว่ามีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่พอเราเป็นโรคไตเจ้าเกลือแร่พวกนี้ก็ดันเป็นปัญหาถ้าเราขับมันไม่ออก โดยเฉพาะโพแทสเซียม
❇️ โพแทสเซียม เป็นเกลือแร่ชนิดหนึ่งทีมีผลต่อการทำงานระบบกล้ามเนื้อ และหัวใจ ถ้าระดับโพแทสเซียมสูงเกินไปส่งผลให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ จนถึงหัวใจหยุดเต้นได้เลย
คนที่เป็นไตเสื่อมระยะต้นๆ 1-3 ยังไม่ต้องกังวลนะคะ ทานได้ปกติค่ะ แต่พอเข้าสู่ไตเส่อมระยะ 4-5 เริ่มต้องให้ความสำคัญมากขึ้น
ถ้าระดับโพแทสเซียมในเลือดยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ 3.5-5 มิลลิโมลต่อลิตร ก็ยังทานได้ปกติค่ะ แต่ถ้าเริ่มสูง >5 มิลลิโมลต่อลิตรแล้ว อาจจะเลือกทานอาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงค่ะ
ผลไม้ก็เป็นแหล่งที่มีโพแทสซียมเยอะเหมือนกัน แต่หลายคนมักจะทานเพื่อเพิ่มความอยากอาหาร บางคนเพิ่มไฟเบอร์ให้ขับถ่ายคล่อง แล้วควรเลือกยังไงดี วันนี้มีคำตอบค่ะ
❇️ 10 ผลไม้ที่โรคไตควรเลี่ยง เพราะมันมีโพแทสเซียมสูงมากค่า
1. ขนุน
2. แคนตาลูป
3. ส้ม
4. มะขามหวาน
5. แก้วมังกร
6. ทุเรียน
7. กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า
8. มะละกอสุก
9. ฝรั่ง
10. ผลไม้อบแห้ง ได้แก่ ลำไย ลูกพลับ ลูกพรุน ลูกเกด
ให้ลองเลือกทานผลไม้อื่นที่มีโพแทสเซียมต่ำ หรือปานกลาง
❇️ ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมต่ำ
เงาะ มังคุด มะม่วง สับปะรด แอปเปิ้ล สาลี่ ส้มเช้ง
❇️ ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมปานกลาง
น้อยหน่า ชมพู่ ส้มโอ ลิ้นจี่ องุ่น ลางสาด ละมุด
***ยังมีอีกวิธีที่ช่วยลดโพแทสเซียม คือ ปอกเปลือก และเอาเมล็ดออกก่อนทานนะคะ
หน้าผลไม้ที่กำลังจะมาถึงนี้ลองเลือกกันดูนะคะว่าอยากทานอะไร ถ้าคนไหนอยากทานผลไม้โพแทสเซียมสูงจริงๆ ก็ทานได้สัก 2-3 ชิ้นพอนะคะ เอาพอหายอยากเนาะ เพื่อสุขภาพที่ดีกันค่ะ
👩⚕️ ดูแลไตกับหมอกิ๊ฟ – Renalcareth
3 มีนาคม เวลา 16:00 น.
3 มีนาคม เวลา 16:59 น.
Is Salt BAD For You? Dr DiNicolantonio, Author of The Salt Fix
ลองดู clip นี้ให้ดีๆแล้วจะเข้าใจว่า แท้จริงมนุษย์ต้องกินเกลือมากขึ้น ผู้ร้ายตัวจริงคือน้ำตาลกับ carbs ต่างหาาก
3 มีนาคม เวลา 20:24 น.
clip นี้ของ Dr. Paul Saladino อธิบาย เกี่ยวกับสาเหตุของ gout บอกว่า fructose ในผลไม้นี่แหละเป็นตัวการทำให้ไตพัง!
เราแปลสรุปไว้ย่อๆ
การกินไก่กินเนื้อสัตว์ไม่ได้ทำให้เป็น gout
2 ใน 3 ของ uric acid ร่างกายเราสร้างขึ้นเอง
1 ใน 3 ของ uric acid กินเข้าไป นั่นก็คือกินอาหารที่ที purine เข้าไปแล้วร่างกาย breaks down (เปลี่ยนแปลง) purine เป็น uric acid
เวลากิน purine rich foods (อาหารที่มี purine สูง) เช่นเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก เครื่องใน พอมันเปลี่ยนเป็น uric acid สูง ไตจะขับ uric acid ส่วนเกินออกไปได้ ตามธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์ทำสิ่งนี้ได้มาหลายหมื่นปีแล้ว ตั้งแต่ยุคล่าสัตว์กินเป็นอาหารหลัก!
แต่อยู่ดีๆไตขับ uric acid ส่วนเกินออกไปไม่ได้ ผู้คนถึงป่วยเป็น gout
สาเหตุที่ไตผิดปกติ ก็เพราะสาเหตุ 3 ประการคือ
1 insulin resistance (ภาวะดื้ออินซูลิน)
2 กินน้ำตาล fructose มากเกินไป
3 ดื่มแอลกอฮอล์มากไป
ข้อ 1 ยิ่งทำให้เรื่องราวซับซ้อน
มันแตกกระจายประเด็นออกไปได้มาก คือ
1 กินน้ำตาลและ carbs เยอะก่อให้เกิด insulin resistance
2 พวกเราโดนผู้ผลิตน้ำมันพืช หลอกมาตั้งแต่ยุค baby boomer generation ว่า กิน saturated fat (ไขมันอิ่มตัว) แล้วจะป่วยเป็นนั่นเป็นนี่ โดนหลอกให้กิน น้ำมันพืช น้ำมันถั่ว น้ำมันงา ซึ่งมี omega 6 น้ำมันพืช น้ำมันถั่ว น้ำมันงา พวกนี้ก่อให้เกิด inflammations (อาการอักเสบ) ซึ่งก่อให้เกิด insulin resistance
เรื่องนี้แตกกระจายไปยาวมากๆเลย น่ากลัวมากๆ! มันเกี่ยวโยงกับอีกเรื่องหนึ่งที่พวกเราโดนหลอกมาตั้งแต่ยุค baby boomer generation แล้วว่า cholesterol อันตราย แท้จริงแล้ว cholesterol มีประโยชน์ แต่มันอันตรายก็เพราะ เราโดนผู้ผลิตอาหารหลอกให้กินอาหาร ที่ก่อให้เกิด inflammations นั่นก็คือ กินน้ำตาล กิน carb กินน้ำมันพืช น้ำมันถั่ว น้ำมันงา พอเกิด inflammations ตรงไหน cholesterol ก็วิ่งไปแปะตรงนั้น กลายเป็น calcium deposits (แคลเซี่ยมเป็นก้อนๆ) อุดตัน ถ้าไปอุดตันหลอดเลือดก็มีสิทธิ์ตายได้ ถ้าไปอุดตันเนื้อเยื่อเส้นประสาทก็ทำให้ปวดเมื่อยระบม
ศึกษาข้อมูลนี้ให้ดีๆ แล้วจะตกใจสุดขีดว่า คำแนะนำยุค baby boomer generation ที่บอกว่า “ให้กินผลไม้และน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ” กลายเป็นฆ่าคน! เพราะผลไม้และน้ำผลไม้มี fructose สูง! 55555
เวลาเกิด inflammations แล้ว cholesterol วิ่งไปแปะตรง inflammations แล้วมี calcium deposits แพร่กระจายไปทั่วร่างก็ป่วยเป็น NCDs เพียบเลย! สรุปแล้วคำสอนยุค baby boomer generation ทีบอกว่ากินอะไรแล้วสุขภาพดี กินอะไรแล้วป่วย มันกลายเป็น myths (ความเชื่อผิดๆ) เพียบเลย! โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน น่ากลัวอะ
หมอฝรั่งยุคใหม่บอกว่า cholesterol เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ เช่น สร้าง sex hormones ทำให้คงไว้ซึ่งความอ่อนวัย และทำปฏิกิริยากับแสงแดดเพื่อสร้าง vitamin d ทำให้เพิ่มภูมิคุ้มกัน และมีประโยชน์อื่นๆอีกตั้งมากมาย
เคล็ดลับที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองโดน cholesterol ทำร้ายเพราะอะไร (ไม่อยู่ใน clip นี้ที่เราแปะ) นั่นก็คือกินน้ำตาลกับ carb เข้าไป และกินน้ำมันพืช น้ำมันถั่ว น้ำมันงา น้ำมันธัญพืช เข้าไป ทำให้เกิด inflammations (อาการอักเสบ)
เมื่อมี inflammations (อาการอักเสบ) cholesterol ก็จะวิ่งไปแปะตรง inflammations ทำให้เกิด calcium deposits (แคลเซี่ยมเป็นก้อนๆ) อุดตันที่กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ ข้อต่อ เส้นประสาท ผนังหลอดเลือด ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆตั้งหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง NCDs (โรคไม่ติดเชื้อ แต่เป็นโรคเรื้อรัง) เช่นโรคอ้วน เบาหวาน อัมพฤกฤษ อัมพาต อัลไซเมอร์ โรคหัวใจ และอื่นๆอีกมากมาย
นั่นก็คือว่าถ้าไม่กินน้ำตาล และกิน carb ให้ต่ำมากๆ และไม่กินน้ำมันพืช น้ำมันถั่ว น้ำมันงา น้ำมันธัญพืช ร่างกายก็จะไม่เกิด inflammations และ cholesterol ก็จะไม่ทำร้ายเรา แต่จะให้คุณแก่เราตั้งมากมาย!
ลองฟัง Dr. Melina Roberts ซึ่งเป็นหมอฝรั่งยุคใหม่อธิบายเรื่อง
FIVE Benefits of Cholesterol
ประโยชน์ 5 ประการของ cholesterol
อีกเรื่องหนึ่งที่คนยุค baby boomer generation โดนหลอก ก็คือ โดนหลอกว่า saturated fat (ไขมันอิ่มตัว) อันตราย
แต่หมอฝรั่งยุคใหม่สลายความเชื่อผิดๆเช่นนี้ ไปแล้ว
ลองไปฟัง Dr. Ken Berry บรรยายเรื่องร่างกายมนุษย์จำเป็นต้องได้รับไขมันอิ่มตัว (จากสัตว์)
“The human body needs good saturated fats” — Dr. Ken Berry
3 มีนาคม เวลา 20:49 น.
4 มีนาคม เวลา 10:15 น.
27 มีนาคม เวลา 15:14 น.