น้ำรากบัว (โหน่ยเก่าจุ้ย)
เห็น “รากบัว” วางเรียงสวยบนน้ำแข็งเย็นเจี๊ยบ ต่อมอยากทานถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที
แม่นันไม่ได้ทานรากบัวมาพักใหญ่แล้วค่ะ รากบัวอร่อยแถมมีสรรพคุณมากมาย
จำได้ว่าตอนเด็กๆ อาอึ้ม (คุณแม่) ต้มให้ทานบ่อยถึงบ่อยมาก เคี้ยวเนื้อตุ้ยๆ ไม่รู้หรอกค่ะว่าดียังไง
รู้แต่ว่าอร่อย **รากบัวแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยเจริญอาหาร บำรุงม้าม เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ฯลฯ
ใครไม่เคยทาน..แนะนำเลยค่ะ
เดินจ่ายตลาดเห็นรากบัวสวยๆ สองสามีภริยาหยุดกึกมองหน้ากันทันที สามีพยักเพยิด..
“ซื้อเลยมามี้ ป่าป๊าอยากกินรากบัวต้มกระดูกหมู” “อื้ม..มามี้ก็อยากเหมือนกัน ซื้อสองแง่งเลย มี้จะไปทำน้ำรากบัวให้แฟนเพจดูด้วย”
แม่นันบอก รากบัวจากเขียงเจ๊หมวยสวยและสดค่ะ มีเจ้าเดียวที่จะรักษาความสดของรากบัวในน้ำแข็ง
ทุกครั้งเดินตลาดจึงตั้งใจเดินไปเขียงนี้ เพราะเจ๊หมวยจะนำของดีๆมาขายให้ตลอด
แถมเวลาถามอะไร..จะไม่ตอบสั้นๆ..แต่จะขยายความรู้ให้ด้วย …. นี่แม่นันว่าจะสั่งขิงอ่อนแกมาทำอาจาดมุนี
เมนูสวยๆที่ให้สูตรไปเมื่อวันก่อนน่ะค่ะ (แต่ปัญหาคือขิงอ่อนหน้านี้หายาก) คงต้องจีบชาวบ้านที่ปลูกเองแถวนั้นขุดให้หน่อยค่ะ
มาดูวิธีต้มน้ำรากบัวกันต่อดีกว่าค่ะ ต้องบอกก่อนว่าทำครั้งนี้ได้เป๊ะเว่อร์ อร่อยมากๆด้วย มาดูกันค่ะว่าเป๊ะยังไง ขี้โม้เน้อะ
– ต้มน้ำประมาณ 4 ลิตร เหยาะเกลือเล็กน้อย รอเดือดค่ะ (แม่นันย่อยสูตรให้เล็กลงค่ะ เพราะวันนี้รากบัวน้อย
– ต้มน้ำประมาณ 4 ลิตร เหยาะเกลือเล็กน้อย รอเดือดค่ะ (แม่นันย่อยสูตรให้เล็กลงค่ะ เพราะวันนี้รากบัวน้อย
กลัวต้มออกมาแล้วรสชาติน้ำจะจางเกินถ้าใช้สูตรเดิม)
– ระหว่างรอน้ำเดือด นำรากบัวมาปอกเปลือก รากบัวใหญ่ดูแข็งแรง แต่ผิว (เปลือกด้านนอก) บอบบางมาก
สะกิดนิดเดียวก็เผยให้เห็นผิวด้านในขาวๆแล้วค่ะ ปอกเปลือกออกหมดแล้ว ล้างให้สะอาด
หั่นเป็นแว่นลงแช่น้ำเกลือกันผิวรากบัวดำ สะเด็ดน้ำพักไว้ค่ะ
– น้ำเดือดพอดี นำรากบัวที่หั่นแว่นไว้ลงหม้อ ปิดฝาต้มเป็นเวลา 20 นาที ที่ให้ต้มรากบัวก่อน เพราะรากบัวนิ่มช้าค่ะ
– ครบ 20 นาทีแล้ว ตวงน้ำตาลทรายแดง (โอวทึ้ง) 200 ก. ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว 140-150 ก.
และเกลือครึ่งช้อนชา คนให้เข้ากัน ลองชิมดูค่ะ ถ้าชอบหวานก็เพิ่มน้ำตาลเอาค่ะ ที่ให้ผสมน้ำตาลทั้งสองอย่าง
เพราะจะได้ความกลมกล่อมกว่าการใส่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ เพราะถ้าใส่ทรายแดงอย่างเดียว
น้ำจะสีเข้มเกิน หากใส่ทรายขาวอย่างเดียว น้ำที่ได้อาจจะสีใสสวย แต่รสจะหวานแหลมค่ะ
**โอวทึ้งเป็นน้ำตาลที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดส่ี มีกลิ่นหอมหวานน้อยธรรมชาติ บางครั้งจึงเห็นโอวทึ้งจับกันเป็นก้อน
**โอวทึ้งเป็นน้ำตาลที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดส่ี มีกลิ่นหอมหวานน้อยธรรมชาติ บางครั้งจึงเห็นโอวทึ้งจับกันเป็นก้อน
เพราะน้ำตาลชนิดนี้มีความชื้นสูงค่ะ ตอนเด็กๆแม่นันชอบหยิบเจ้าก้อนน้ำตาลมาทานเล่น ตอนนี้ก็ยังเป็นค่ะ อร่อย…
– ปิดฝาต้มต่ออีก 20 นาที …โอ้โฮ..รากบัวนิ่มกำลังทานพอดีเป๊ะ ไม่นิ่มเกิน แต่นิ่มกรอบกำลังดี น้ำก็รสชาติกลมกล่อม
หวานน้อยกำลังดี แม่นันชิมน้ำชิมเนื้อชมตัวเอง ทำไมเก่งอย่างนี้ ฮาฮา ไม่ใช่ค่ะ
แม่นันว่า การจะทำอะไรสักอย่าง ถ้าเรานิ่ง อยู่กับสิ่งที่เราทำ ไม่รีบร้อน อะไรก็ออกมาดี และได้ดั่งใจค่ะ
– ปิดเตา ช้อนเฉพาะรากบัวแยกใส่ภาชนะไว้ เพราะถ้าทิ้งไว้ในหม้อ ความร้อนจากน้ำจะทำให้รากบัวนิ่มลงอีกค่ะ
– ปิดเตา ช้อนเฉพาะรากบัวแยกใส่ภาชนะไว้ เพราะถ้าทิ้งไว้ในหม้อ ความร้อนจากน้ำจะทำให้รากบัวนิ่มลงอีกค่ะ
และจะทำให้น้ำขุ่นขึ้นด้วย ไม่น่าทาน
– พักจนน้ำรากบัวเย็น ค่อยเทใส่น้ำแข็งดื่มค่ะ อร่อย..ชื่นใจที่สุด แม่นันบรรจุใส่ขวด เฮลท์บลูบอยได้ 3 ขวด
ว่าพรุ่งนี้จะแบ่งไปให้คุณพ่อคุณแม่สามีด้วยค่ะ ลองทำดูนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เป็นคิวของ “รากบัวต้มกระดูกหมู” ของคุณสามีต่อค่ะ
good moments
16 กุมภาพันธ์ เวลา 02:38 น.
16 กุมภาพันธ์ เวลา 02:38 น.
แหล่งที่มา pantip.com
16 กุมภาพันธ์ เวลา 07:43 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 01:40 น.
หาคำจีนมาฝากตามเคย น้ำรากบัว 莲藕水 [ lián ǒu shuǐ ] เหลียน โอ๋ว ฉุ่ย คิดว่าใช่นะครับ
16 กุมภาพันธ์ เวลา 11:39 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 01:40 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 12:54 น.
18 กุมภาพันธ์ เวลา 01:45 น.
นำรากบัวมาซอยเป็นเส้นฝอย แล้วตำ คั้นน้ำ จากนั้นนำไปต้ม+เติมน้ำเพิ่ม+ใส่น้ำตาล
จะได้น้ำรากบัวสีขาวขุ่น ข้นๆ เหนียวๆ กินตอนอุ่นๆ นุ่มคอมากครับ
17 กุมภาพันธ์ เวลา 14:38 น.
18 กุมภาพันธ์ เวลา 01:46 น.