มะเร็งกับอาหารปิ้งย่าง (กูรูมะเร็งเข้ามากันหน่อยครับ)
โดยกระบวนการคือ ไขมันในเนื้อสัตว์หยดลงไปบนถ่านร้อน>>ทำปฏิกิริยากลายเป็นสารพิษตัวนึง(จำชื่อไม่ได้)>>ปนเปื้อนกับควันแล้วลอยขึ้นไปติดเนื้อสัตว์อีกที (ถ้าใช้เตาไฟฟ้าจะไม่มีปัญหานี้)
คำถามคือ สารมันสะสมถาวร หรือ สะสมชั่วคราว(ร่างกายสามารถกำจัดได้ทัน?)
1. ถ้าสะสมแค่ชั่วคราว จำนวนไม่เยอะ แล้วร่างกายสามารถกำจัดออกได้วันต่อวัน >> อันนี้ค่อยโล่งอก
2. ถ้าสะสมถาวร ฝังลึกรอเป็นระเบิดเวลา ร่างกายกำจัดไม่ได้ >> อันนี้น่ากลัวนะ(และผมพร้อมจะไม่ทานปิ้งย่าง100% ปกติก็ทานน้อยอยู่แล้ว)
search ตามอินเทอร์เน็ตเขามักจะเขียนแค่ประมาณว่า “สารตัวนี้จะสะสมในร่างกายทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็ง ดังนั้นให้ลดอาหารปิ้งย่าง บลาๆๆ” เขียนประมาณนี้แทบทุกเว็บ แต่ไม่บอกให้เคลียร์ว่ามันสะสมแบบไหน ร่างกายกำจัดได้มั้ย
สรุปคือยังไงกันแน่ครับ?
22 มิถุนายน เวลา 09:14 น.
ทุกตัวจะมีเบนซีนริงหลายๆวง (เป็นที่มาของชื่อกลุ่ม
Polycyclic [หลายวง] Aromatic Hydrocarbon [สารที่มีเบนซีนริง])
เท่าที่อ่านดูคร่าวๆ สารพวกนี้ถูกทำลายได้ในตับ ในปอด แต่เมื่อถูกทำลาย
แล้วจะมีพิษมากกว่าเดิม เช่นได้สาร O-quinone
ซึ่งสามารถเปลี่ยน DNA ให้เซลล์กลายเป็นมะเร็ง
ดูเหมือนไม่ได้สะสม เพราะแค่นี้ก็แย่พอแล้ว
22 มิถุนายน เวลา 10:01 น.
22 มิถุนายน เวลา 09:27 น.
แต่ผมถามเรื่องการสะสมของสาร อ่านดีๆครับ
22 มิถุนายน เวลา 09:33 น.
ปริมาณที่ได้ มันน้อยมากๆ
เหล้ายังอันตรายกว่า ทำลายสมองโดยตรง กินวันไหน เยอะๆ ก็มีอาการแพ้แล้ว (การเมานั่นเอง)
เครื่องในแทบทุกอย่าง ได้ผลกระทบหมด กลับไม่กลัวกัน
ดูมันไม่สมเหตุสมผลเสียเลย ฮ่าๆๆๆๆ
ถ้ากินเหล้า ได้ อาหารอย่างอื่น ก็ไม่น่ากลัวแล้วมั้ง ฮ่าๆ
23 มิถุนายน เวลา 12:08 น.
กระป๋องเล็กที่ต้มกินกับมาม่า 1 ซอง
23 มิถุนายน เวลา 18:55 น.
เป็นมะเร็งเหมือนกัน 🤣
เป็นไปได้เหรอครับ กินอาหารแบบเดียวกันทุกวัน ก็ไม่แน่นะครับ
แถวบ้านผมก็กินเหล้าทุกวัน ตับแข็งไปแล้ว
สองปีเอง
กินอาหารไหม้ๆ แล้วเป็นมะเร็ง ไม่เคยได้ยิน
เพราะไม่มีใครกินทุกวัน
23 มิถุนายน เวลา 19:25 น.
ทุกตัวจะมีเบนซีนริงหลายๆวง (เป็นที่มาของชื่อกลุ่ม
Polycyclic [หลายวง] Aromatic Hydrocarbon [สารที่มีเบนซีนริง])
เท่าที่อ่านดูคร่าวๆ สารพวกนี้ถูกทำลายได้ในตับ ในปอด แต่เมื่อถูกทำลาย
แล้วจะมีพิษมากกว่าเดิม เช่นได้สาร O-quinone
ซึ่งสามารถเปลี่ยน DNA ให้เซลล์กลายเป็นมะเร็ง
ดูเหมือนไม่ได้สะสม เพราะแค่นี้ก็แย่พอแล้ว
22 มิถุนายน เวลา 10:01 น.
22 มิถุนายน เวลา 10:02 น.
22 มิถุนายน เวลา 10:09 น.
แต่ก่อนอื่นเลย ท่านต้องเข้าใจให้ดีก่อนว่า ณ.ปัจจุบัน ยังไม่มีการบ่งชี้ถึงสาเหตุที่แท้ทรูของมะเร็ง และเมื่อเป็นมะเร็ง คือเซลล์/ชิ้นเนื้อในร่างกายก่อกบฏ ทรยศร่างกาย โจมตีตัวเอง กลายพันธ์ ฯลฯ ยังไม่มีแนวทางรักษาที่ได้ผล 100% ทุกวันนี้ทำได้มากสุดก็ไปฉายแสงฆ่ามัน ฯลฯ ซึ่งมันก็สามารถปรับตัวหลบได้ตลอดเวลา เป็นแล้วหาย ก็กลับมาเป็นหนักกว่าเดิมได้ ยังไม่มีระบุว่าสาเหตุที่แท้จริงมะเร็งเกิดจากอะไร แนวโน้มจะกระจายและแพร่ขยายวงมะเร็งจะไปทางใด เหมือนกำลังต่อสู้กับสมองกลที่มีความคิดเองได้อะครับ
ย้อนกลับมาคำถาม สารก่อมะเร็ง ต้องสะสมปริมาณใดถึงจะเป็นมะเร็ง? ตอบไม่ได้ครับเพราะมันไม่ได้ work ลักษณะนั้น คนไม่กินของปิ้งย่างใดๆ ไม่เคยสูบบุหรี่ยังเป็นมะเร็งตายก็มีเยอะแยะ และฝรั่งกินของย่างเป็นชีวิตจิตใจอัตราเกิดมะเร็งก็ไม่ได้มากกว่าคนเอเชียมากมาย คืองี้ ผมจะพยายามอธิบายให้ฟัง แต่ก่อนอื่นเลยผมออกตัวก่อนว่าไม่ใช่หมอนะ ไม่ต้องเชื่อมาก! หมอจริงจะไม่ออกความเห็นมากเพราะหากผิดจะเสียชื่อเสียง 5555 ส่วนผมมันใครไม่รู้ ผมอธิบายได้เต็มที่แหละครับ ฟังหูไว้หูได้เลยหากท่านฉลาด มันไม่เสียหายที่จะรับฟังความเห็นคนอื่น จริงปะ?
ทุกครั้งที่ท่านรับสารก่อมะเร็ง ไม่ว่าจะมาจากอาหาร บุหรี่ ความเครียด ฯลฯ จะเป็นการสะสมแต้ม สะสมคะแนนฝั่ง “ลบ” ไว้ครับ
ทุกครั้งที่ท่านได้รับ antioxidant พวกสารต้านอนุมูลอิสระ ทุกครั้งที่หัวเราะ ร่าเริง ออกกำลัง ฯลฯ ก็สะสมแต้มฝั่ง “บวก” ไว้ครับ
คะแนนด้านลบจะเป็น Negatively charge ที่จะหักสมดุลกับคะแนนฝั่งบวกที่เป็น Positively charge
มันจะต่อต้านกันตลอดเวลา จุดที่เราอยู่คือผลลัพธ์ที่มันกำลังดันกันไปมา
Net outcome move ไปทิศทางใด จุดท่านก็เคลื่อนตาม ท่านก็มีโอกาสเป็นมะเร็ง/ไม่เป็นมะเร็ง มากเท่านั้น
เพราะฉะนั้นสำหรับคำถาม ไม่มีการสะสมชั่วคราวหรือถาวรหรอกครับ มันเป็นลักษณะของชาร์จที่เคลื่อนตัวไปทิศทาง + หรือ – ที่กำลังต้านกันอยู่ และขึ้นกับพันธุกรรมของท่านว่า prone/มีแนวโน้ม ต่อมะเร็งมากน้อยแค่ไหน หากติดลบมากๆ ควบคู่กับพันธุกรรมที่มีแนวโน้มเป็นมะเร็ง ท่านก็เป็นง่ายกว่าชาวบ้านครับ หากพันธุกรรมท่านดีหน่อย ท่านก็ติดลบได้ลึกๆๆ ก่อนที่จะเป็นมะเร็ง หรือบางทีอาจไม่เป็นเลยก็ยังได้ ท่านจึงไม่ต้องห่วงว่ากินนู้นนี่แล้วจะสะสมถาวรแก้ไขไม่ได้ เหมือนระเบิดเวลา ฯลฯ ไม่ใช่หรอกครับ ท่านกินสิ่งดีๆ คิดบวกทดแทนเข้าไปช่วยได้เสมอ นิยามคำว่า “สะสม” มะเร็งที่พวกเราคิดคือเรากำลังติดลบในชาร์จไปเรื่อยๆต่างหาก เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตครับหากจะเคลื่อนจุดต้านให้ไปทางฝั่งบวกครับ
22 มิถุนายน เวลา 10:32 น.
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ว่างั้น
โอเคครับ เข้าใจละ เม้นนี้บันเทิงผมมาก5555 ขอบคุณครับ
22 มิถุนายน เวลา 10:41 น.
แต่ลักษณะการก่อมะเร็งที่ผมสารยายไปหักล้างกันได้ครับ มะเร็ง reverse ได้ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม นี่สาระนะท่าน!!!
22 มิถุนายน เวลา 11:05 น.
งั้นผมคงต้องหาอะไรมาหักล้างเยอะๆสินะเพื่อเพิ่มระยะห่าง
เช่น วิตามินต่างๆโดยเฉพาะวิตามิน E / ออกกำลังกาย / พักผ่อนให้เพียงพอ / หรืออะไรก็ว่าไป
22 มิถุนายน เวลา 11:10 น.
…. กูรูทั้งหลาย ที่แท้จริง อยู่ในสถานที่ที่ว่านะครับ ไม่ว่าคนไข้หรือ หมอ นะครับ ….
ขนาดคนรู้จักเป็นหมอรักษาทางมะเร็ง พอเอาเคสคนรู้จักอีกคนไปถามและขอคำแนะนำ หมอ ไม่ตอบอะไร เงียบอย่างเดียว แล้วมองไปทางอื่น พร้อมกับเปลี่ยนเรื่องคุย
สิ่งที่ต้องเตือนใจ ก็คือ มะเร็ง เกิดจากปัจจัยร่วม มันไม่ใช่ปัจจัยเดี่ยว
แล้วจะหลีกเลี่ยง หลายๆอย่างเองครับ ไม่มานั่งเลือกอะไรมากมาย
เมื่อวานก็พึ่งคุยกับ คนรู้จัก ที่เป็นมะเร็งเต้านม อัตราการเป็นโรคมะเร็งนี้ มีมากขึ้นทุกวันๆ
หลายๆคนยังไม่เป็น ก็ว่ากันไป ไม่กลัวอะไร
แต่พอเป็น มีแค่ไม่กี่คนที่สงบใจ รับชะตาได้
ที่เจอมา มีแค่ไม่กี่คนที่เป็นแล้วหายเกิน 10 ปี ทั้งลำไส้ใหญ่ ทั้งปอด
บุญกรรมชักนำไปมังครับ
ใจเป็นบุญ อารมณ์ก็เบิกบาน
เบิกบานแบบโลกียะ ก็แบบนึง
เบิกบานแบบโลกุตระ ก็แบบนึง
แต่ผมว่า เบิกบานแบบโลกียะ มันไม่แน่นอน สู้แบบโลกุตระ ไม่ได้นะ
หรือจะเอาแบบลูกผสม เบิกบานแบบ hybrid โลกกุตระยะ ก็ว่ากันไปครับ
ชีวิตนี้สั้นนัก ทางสายกลาง ถ้าทำแล้วมีความสุข ก็เลือกทางสายกลางกันนะครับ
22 มิถุนายน เวลา 10:59 น.
22 มิถุนายน เวลา 12:41 น.
22 มิถุนายน เวลา 18:47 น.
22 มิถุนายน เวลา 20:36 น.
ตัวเนื้อเองไม่ได้ไหม้ง่าย
เห็นชัดเวลาใช้หม้อทอดไร้น้ำมันอ่ะ ถ้าหมักน้ำตาล รอดยาก ถ้าไม่ใส่น้ำตาล ตั้งไฟพลาดยังไงก็ถึงกับไหม้จนกินไม่ได้
23 มิถุนายน เวลา 20:20 น.
ไม่มีตรงไหนที่ผมกล่าวถึงส่วนไหม้เกรียม ไอ้ที่ไหม้เกรียมนั่นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ความจริงคือ “ควัน” ที่ลอยขึ้นไปกระทบเนื้อต่างหาก นั่นหมายความว่าเนื้อทั้งชิ้นนั่นแหละ
เป็นสารที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า คนส่วนมากชอบเข้าใจว่าแค่ตัดส่วนไหม้เกรียมออกก็ปลอดภัย ซึ่งจริงๆไม่ใช่
23 มิถุนายน เวลา 20:38 น.