[CR] ::::::::::::ไหว้พระ 9 วัดดังเมืองอุบลราชธานี เมืองที่มีแต่ของกินอร่อยๆ:::::::::::: pantip

ยังเช้าอยู่ผู้คนจึงยังไม่มาก

นั่งตรงนี้แล้วกัน ดูใกล้ชิดธรรมชาติดี

ไปสำรวจอาหารกันก่อน

ไข่ดาวมีร่องรอยคนตักไปหลายใบแล้ว

เครื่องดื่มมีแค่น้ำส้มและน้ำเย็นเท่านั้น

ชาและกาแฟ

ผลไม้มีมะละกอกับแคนตาลูป

อาหารร้อนจะอยู่ตรงกลางห้อง เริ่มที่ผัดมะเขือ

คะน้าหมูกรอบ ชอบตรงที่หมูกรอบชิ้นใหญ่มาก

ก๋วยจั๊บญวน อันนี้ก็อร่อย

ยำวุ้นเส้น

ข้าวต้มหมู

ตักรวมๆกันมา แต่หมูกรอบและผัดมะเขืออร่อยมาก

ก๋วยจั๊บญวนก็เด็ด

ข้าวต้มหมูสักหน่อย

ผลไม้มาล้างปาก

มื้อเช้าของฉันวันนี้ รู้สึกเจริญอาหารมากๆ

คงจะเป็นเพราะบรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยกระมัง

ได้เวลากลับขึ้นห้องพัก เพื่อทำภารกิจส่วนตัว

เพิ่งสังเกตเห็นว่า ตึกที่เห็นเรียงรายกันอยู่นั้นคือโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลใหญ่แห่งเมืองอุบลฯ

8.20น. ออกจากโรงแรม ได้เวลาลุยกันแล้ว โดยวางแผนไว้ว่าช่วงเช้านี้เราจะไปไหว้พระ 3 วัด ส่วนอีก 3 วัดจะเอาไว้ในช่วงบ่าย

เช้าๆอากาศยังไม่ร้อน เราจะใช้การเดินไปไหว้พระทั้ง 3 วัด จะได้ชมเมืองไปด้วย

เดินผ่านร้านอาหารหลายร้าน

จริงๆถ้าเดินตรงไปเลย วัดก็จะอยู่ไม่ไกลนัก แต่ฉันอยากชมเมือง เลยเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกอ้อมมายังจวนผู้ว่าราชการจังหวัด

ร้านกิ่ง9 ร้านอาหารเวียดนามราคาย่อมเยา เคยมากิน 2 ครั้งแล้ว แต่ตอนเช้าร้านยังไม่เปิด

ร้านนี้เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก

เนสกาแฟ ร้านอาหารเช้าชื่อดังอีกร้านหนึ่ง

ใกล้จะถึงวัดที่4 ซึ่งเป็นวัดแรกของเช้าวันนี้แล้ว

เดินมาถึงวัดทุ่งศรีเมืองเมื่อเวลา 8.50น.

วัดทุ่งศรีเมืองตั้งอยู่ที่ถนนหลวง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.2385 ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีเนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน 23 ตารางวา

เข้าไปชมด้านในกัน

ภายในหอพระพุทธบาท

พระเจ้าใหญ่องค์เงิน เดิมถูกปูนปิดทับและทาทองทั่วทั้งองค์มานานกว่า 200 ปี จนภายหลังพบว่าทั้งองค์เป็นเนื้อเงิน

มีป้ายระบุชื่อหอพระพุทธบาทชัดเจน

พระพุทธบาทที่จำลองมาจากวัดสระเกศ กรุงเทพฯตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 3  เพื่อให้พุทธบริษัทที่อุบลราชธานีได้กราบไหว้กัน

ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในหอพระพุทธบาท

ทั้งนี้เพื่อเป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก ป้องกันไม่ให้มดปลวกไปกัดทำลาย มีลักษณะเป็นศิลปะผสมระหว่างไทย พม่า ลาว

เราจะเข้าไปชมภายในกัน

ภายในห้องที่เก็บตู้พระธรรมทุกด้านเขียนลงรักปิดทองสวยงาม

เข้ามาทางด้านซ้ายมือจะเป็นหอพระแก้วโกเมนพระพุทธรูปสำคัญของวัดนี้

เราจะเข้าชมด้านในกัน

เข้ามาด้านในแล้ว

เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4 นิ้ว สูงประมาณ 5 นิ้ว เชื่อกันว่าถ้าได้มาไหว้ขอพรแล้ว คิดหวังสิ่งใด จะได้ดังใจสมปรารถนา

เจดีย์ปูชนียาจารย์ ตั้งอยู่ด้านหน้าของหอพระแก้วโกเมน

วัดมณีวนารามตั้งอยู่ที่ถนนหลวงอยู่ระหว่างวัดทุ่งศรีเมืองและวัดมหาวนาราม ผู้สร้างคืออุปฮาดก่ำ โอรสของเจ้าคำผง เมื่อปีพ.ศ.2332

หน้าบันเป็นรูปบุคคลเคลื่อนธรรมจักรและลายกนก

ภายในวิหารพระพุทธอนันตชินะ

พระพุทธรูปภายในพระวิหาร

สถานที่แห่งนี้คือกุฏิแดงหรือกุฏิพระอริยวงศาจารย์

ซึ่งได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์

นับเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดชม เมื่อมาเยือนวัดป่าน้อยแห่งนี้

วัดมหาวนาราม วัดที่ 6 ของเรา

วัดมหาวนารามตั้งอยู่ที่ถนนสรรพสิทธิ์ ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่าวัดป่าใหญ่ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของอุบลอีกวัดหนึ่ง

วิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง สวยงามสะดุดตา

แต่ประตูปิดอยู่ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปสักการะพระประธานด้านในได้

ด้านหน้าวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง กำลังมีการตกแต่งสถานที่กันอยู่ น่าจะมีงานอะไรสักอย่าง

เดี๋ยวเราจะเข้าไปชมและกราบพระด้านในกัน

ส่วนบานประตูก็งดงามไม่แพ้กัน

พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูนพร้อมกับลงรักปิดทอง ลักษณะองค์พระเป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบลาว หน้าตักกว้างประมาณ 3 เมตร สูงจากเรือนแท่นถึงเปลวพระโมลี 5 เมตร

มีประชาชนเข้ามาสักการะขอพรกันตลอดเวลา เพราะเชื่อกันว่าถ้าได้มาไหว้ขอพร จะทำให้มีอำนาจวาสนา ผู้คนนับถือ

แกะสลักเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ

หลังคาลดหลั่นเป็นชั้นๆมองดูสวยงาม

เดินมาหาทางออกทางด้านหลังวัด

ข้ามถนนมารอรถสองแถวฝั่งตรงข้ามกับวัด เพื่อต่อไปยังวัดที่ 7

ขึ้นรถสาย1 สีน้ำเงิน ที่วิ่งระหว่างสถานีขนส่งไปยัง ม.อุบลฯ ค่ารถ 10 บาทเหมือนเดิม

ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็มาถึงวัดเลียบ วัดที่7 ของเราในทริปนี้

วัดเลียบจังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่สร้างเลียบคูคันเมืองจึงเป็นที่มาของชื่อวัด เป็นหนึ่งในห้าวัดที่สังกัดนิกายธรรมยุติของจังหวัดอุบลราชธานี

เราจะเข้าไปกราบพระในพระอุโบสถกัน

ภายในพระอุโบสถงดงามมาก

ภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม

ติดๆกันจะเป็นศาลาการเปรียญ ซึ่งในอดีตมักจะนิยมเรียกกันว่าหอแจก

มีลวดลายและความงดงามไม่แพ้กัน

รูปปั้นพระสีวะลี ด้านหลังจะเห็นเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานของหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล อดีตเจ้าอาวาสวัดเลียบ และเจดีย์อนุสรณ์สถานของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเคยเป็นศิษย์หลวงปู่เสาร์ ตั้งอยู่คู่กัน

เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตสร้างเป็นจัตุรมุข 4 ด้าน ยอดเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานทำเป็นพระธาตุพนม ที่หลวงปู่มั่นเคยไปจำพรรษา สูงจากฐานถึงยอดฉัตร 13 เมตร

เราจะเข้าไปชมด้านในกัน

อัฐิธาตุของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ได้เห็นอัฐิธาตุกันอย่างชัดๆ

สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

พอเข้ามาในบริเวณวัด ถึงกับตลึงในความงดงามและสีสันของสิ่งก่อสร้างต่างๆ

วัดใต้หรือที่ชาวอุบลฯมักเรียกว่าวัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อเป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่ที่ถนนพรหมราช ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลฯ จังหวัดอุบลราชธานี มีเนื้อที่ 9 ไร่  อยู่ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำมูล สร้างเมื่อ พ.ศ.2373 ในสมัยรัชกาลที่ 3 ถือเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง

จากประตูทางเข้า ทางด้านขวามือจะเห็นพระพุทธรูปสีทองขนาดใหญ่

ทั้งสององค์มีขนาดใหญ่ทัดเทียมกัน

ทางเดินไปสู่พระอุโบสถที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ

ด้านหน้าพระอุโบสถจะมีมณฑปเพชรเจ็ดแสงพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ

จะเข้าไปไหว้พระในพระอุโบสถต้องเดินอ้อมไปทางด้านหลัง

เราจะเข้าไปกราบนมัสการพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อกัน

พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อเป็นพระประธานในอุโบสถเป็นทองนาคสำริด หนักเก้าแสนบาท  พุทธลักษณะเป็นปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 51 นิ้ว สูง 85 นิ้ว (มีผู้สันนิษฐานว่า พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งเวียงจันทน์เป็นผู้สร้าง)

จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ

มีหินพระพุทธรูปให้ยกเสี่ยงทายด้วย ค่อนข้างแม่นพอสมควร

เดินไปยังด้านหลังพระอุโบสถ ยังมีการก่อสร้างอยู่

ทางขึ้นไปด้านบน

เดินชมบริเวณโดยรอบ

ถือเป็นวัดที่มีสิ่งก่อสร้างมากมายเต็มไปหมด

วิหารมีขนาดสูงใหญ่ ตั้งอยู่ด้านขวามือของพระอุโบสถ

พระพุทธมงคลรัตนสิริธัญสถิต พระประธานในวิหารเฉลิมพระเกียรติ 200 ปี

เดินมาออกประตูด้านข้างของวัด เดี๋ยวเราจะเดินต่อไปยังวัดที่ 9 วัดสุดท้ายของทริปนี้

วัดหลวงมีความสำคัญตรงที่เป็นวัดแห่งแรกของ จ.อุบลราชธานีตั้งอยู่ที่ถนนพรหมเทพริมฝั่งแม่น้ำมูล สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.2322 โดยพระปทุมวรราชสิริยวงศ์(เจ้าคำผง)ซึ่งเป็นเจ้าเมืองอุบลราชธานีคนแรก

ดูแผนที่กันก่อน ว่าอะไรอยู่ตรงไหน

พระปทุมวรราชสิริยวงศ์(เจ้าคำผง)ผู้สร้างวัดหลวง ขึ้นเป็นวัดแรกของเมืองอุบลราชธานี

เราจะขึ้นไปชมบนวิหารกัน

พระเจ้าใหญ่องค์หลวงเป็นพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งของอุบลราชธานี เชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้ขอพรแล้ว จะมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยแต่มีเรือนแก้วครอบอยู่ สร้างโดยช่างชาวเวียงจันทน์เมื่อปีพ.ศ.2324 ขนาดหน้าตักกว้าง 3 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่สง่างามเป็นเบ็ญจลักษณะ งดงามมาก

เราจะเข้าไปกราบพระด้านในกัน

หลวงพ่อปากดำ พระพุทธรูปโบราณที่เจ้าคำผงนำมาจากอาณาจักรล้านช้าง

ด้านหน้าพระประธานจะมีพระแก้วไพฑูรย์องค์จำลองให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะกัน ส่วนองค์จริงจะอยู่ด้านบนด้านหลังพระประธาน

หอระฆังของวัด

วัดตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล เราจะเดินไปชมกัน

เดินผ่านสวนพุทธชยันตี

บันไดที่เดินลงมาจากตัววัดหลวง

แม่น้ำมูลช่วงปลายเดือนมีนาคม มองดูใส สงบนิ่ง

มองไปทางด้านขวามือจะเห็นสะพานใหญ่ใจกลางเมืองอุบลฯข้ามไปฝั่ง อ.วารินชำราบ

ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็มาถึงร้านอินโดจีน ร้านอาหารเวียดนามชื่อดังของเมืองอุบลฯ

เมืองอุบลฯจะมีร้านอาหารเวียดนามหลายร้าน ร้านนี้ราคาน่าจะแพงที่สุด จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมของชาวบ้านนัก แต่ฉันก็ได้ลองกินมาหมดทุกร้านแล้ว พบว่าร้านนี้แหละที่ดีที่สุด อาหารอร่อยมีคุณภาพ บรรยากาศดี คุ้มกับเงินที่จ่ายไป

ตัวห้องอาหารจริงๆ จะอยู่ลึกเข้าไปด้านใน

เข้ามาภายในร้านแล้ว ผู้คนเยอะพอสมควร

ถึงจะมาคนเดียว ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี พอนั่งปั๊บก็มีน้ำชาเย็นๆมาเสิร์ฟทันที

อุปกรณ์พร้อม

วันนี้อากาศร้อนมากจริงๆ เดินตากแดดมานาน ต้องหาเครื่องดื่มดับร้อนก่อน

มาแล้ว แหนมเนืองชุดเล็กแบบห่อเสร็จเรียบร้อย แต่ใครชอบแบบห่อเองแบบดั้งเดิมก็ยังมีนะ

อร่อยมากเลย แถมยังมีชุดเล็กสำหรับกินคนเดียวอีก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เคยไปกินที่ร้านใกล้ๆโรงเรียนสามัคคีฯ ได้มาแบบจัดเต็ม 5 ไม้ ถามไม่มีชุดเล็กหรือ ได้รับคำตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆว่า ที่นี่มีขนาดเดียวค่ะ ใครจะไปกินหมด

ตามมาด้วยยำหัวปลี เมนูเด็ดของร้านนี้

เสิร์ฟพร้อมข้างเกรียบกรอบๆสำหรับกินคู่กัน

เหมือนจะดูเต็มโต๊ะ แต่จริงๆแล้วมีแค่ 2 อย่างเอง ถือเป็นมื้อที่ประทับใจสุดๆในทริปนี้

ร้านหมูยอดาวทอง อยู่หน้าอำเภอ ใกล้ๆกับร้านปากหม้อหุ่นยนตร์ที่เรามากินเมื่อวานนี้

แถบนี้มีร้านหมูยอติดๆกันหลายร้าน แต่มาทีไรก็ซื้อร้านนี้ทุกที คงจะเป็นเพราะคนขายอัธยาศัยดี

ได้มาแล้ว ซื้อมากไม่ได้เดี๋ยวน้ำหนักจะเกิน

กลับมาถึงโรงแรมเมื่อเวลา 14.50น.จ่ายค่าTaxi ไป60 บาท

ห้องพักได้รับการทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวอาบน้ำแล้วจะได้งีบเสียหน่อย ค่ำๆค่อยออกไปหามื้อเย็นกิน

ซื้อหมูยอและแหนมมาแค่นี้เอง จะได้ใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้

ร้านอยู่ตรงข้ามโรงแรมพอดี

มืดแล้ว แต่มองเข้าไปในร้านยังมีลูกค้าอยู่

เข้ามาภายในร้านแล้ว

บนโต๊ะมีของว่างเรียกน้ำย่อยวางอยู่

วุ้นมะพร้าวน่าสนใจ

เลยจัดการเสียเรียบร้อยก่อนที่อาหารจะมา ขอบอกว่าอร่อยมาก เอ๊ะ หรือว่าหิวกันแน่

ตามมาด้วยตำข้าวโพดกุ้งสด

เป็นคนชอบกินประเภทแหนม หมูยอ ไส้กรอกอยู่แล้ว

อร่อยทั้ง 2 อย่างเลย จริงๆยังมีเมนูที่น่าสนใจอีกเยอะ แต่คงกินไม่ไหวแล้ว

แนะนำเลยร้านนี้ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.30-21.00น.

มีGrabเป็นเครื่องรับประกันความอร่อย เพราะระหว่างที่นั่งทานอยู่ เห็นGrabมาสั่งกันอยู่ตลอดเวลา

ข้ามถนนกลับมายังโรงแรมของเรา พรุ่งนี้หลังอาหารเช้าจะเดินทางกลับแล้ว

ลงมาทานอาหารเช้าตั้งแต่เวลา 6.00 น.

ห้องอาหารเพิ่งเปิด ฉันเป็นลูกค้าคนที่2 เลย

เริ่มกันที่ไส้กรอกไข่ดาว

แต่ที่ไม่พลาดคือก๋วยจั๊บญวน คงจะเป็นเพราะหมูยอนั่นเอง คริ คริ

กาแฟเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า

สรุปว่ามื้อเช้าวันนี้กินน้อยกว่าปกติ น่าจะยังอิ่มมาจากเมื่อวาน

เปิดTVดูข่าวสารบ้านเมืองไปด้วย

เก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

8.45น.ลงมาเช็คเอาท์ เพราะนัดรถไปส่งสนามบินในเวลา 9.00น.

รถตู้ของโรงแรมมาจอดรออยู่แล้ว

ได้เวลาเดินทางไปสนามบิน มีฉันคนเดียวอีกแล้ว

ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็มาถึงสนามบินอุบลราชธานี

เข้ามาด้านในอาคารผู้โดยสาร

เที่ยวบินของฉันFD3371 Gate2

สนามบินอื่นๆ ผู้โดยสารขาออกมักจะอยู่ชั้นบน แต่ที่นี่อยู่ชั้นล่าง

Gate2 ทางออกขึ้นเครื่องของเรา

เครื่องของเราบินมาจากดอนเมืองมาถึงแล้ว

HS-ABZ นั่นเอง เข้ามาเทียบงวงแล้ว

ขึ้นมาบนเครื่องแล้ว นั่ง 25F

Push backตามกำหนดเวลา

กระจกหน้าต่างมีริ้วรอยมากพอสมควร ตามอายุการใช้งาน

มีโอกาสคงจะได้กลับมาเยือนอีก

เที่ยวนี้ผู้โดยสารไม่เต็มลำ น่าจะประมาณ 80% ข้างๆฉันก็ว่างด้วย เลยนั่งสบายไป

ปิดท้ายทริปนี้ด้วยชานมไข่มุกบุกของแอร์เอเชีย กินมา 2 ครั้งแล้วอร่อยมากๆ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาติดตามชม

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นและกด+ กดLikeให้กำลังใจกัน

พบกันใหม่กับรีวิวทริปต่อไปนะคะ

สวัสดีค่ะ