[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ บ้านจรัญฯ pantip

[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ บ้านจรัญฯ

วันเสาร์ที่ 3-4-21 มีนัดกินข้าวที่ร้านอาหารบ้านจรัญฯ ถนนบางแวก

เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสจากสำโรงไปลงที่สถานีบางหว้า
เป็นสถานีเดียวที่ BTS และ MRT ใช้ชื่อสถานีเชื่อมต่อเหมือนกัน
ต่างจากบีทีเอสถานีศาลาแดง แต่ MRT ใช้ชื่อว่าสถานีสีลม
บีทีเอสถานีอโศก MRT ใช้ชื่อว่าสถานีสุขุมวิท และบีทีเอสสถานีหมอชิต MRT ใช้ชื่อว่าสถานีสวนจตุจักร
ส่วนบีทีเอสสถานีห้าแยกลาดพร้าว MRT ใช้ชื่อว่าสถานีพหลโยธินนั้นถูกต้อง เพราะทั้งสองสถานีค่อนข้างห่างกัน
นัดกัน 11 โมงครึ่ง ที่บีทีเอสสถานีบางหว้า 11.19 น.ถึงบีทีเอสสถานีบางหว้า

MRT สถานีบางหว้าตั้งคร่อมอยู่บนสถานีบีทีเอสบางหว้า

ออกทางด้านทางออกที่ 2

ลงลิฟท์มารถเจอแท็กซี่จอดรอผู้โดนสารเป็นแถวยาว
แต่เดินไปเรียกรถจรเลยแถวรถแท็กซี่ที่จอดรอไปประมาณ 50 เมตร
เพราะเห็นใจที่จอดเข้าคิวรอผู้โดยสารนาน แต่ระยะทางไปที่ร้านแค่ 2.7 กม.
ได้ค่าโดยสารไม่คุ้มกับที่จอดรอผู้โดยสารนาน รถวิ่งไปตามถนนราชพฤกษ์
เลี้ยวซ้ายที่แยกบางแวกเข้าถนนบางแวก ซึ่งก่อนการตัดถนนราชพฤกษ์ คือ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13

ผ่านทางเข้าวัดกำแพง จากแยกบางแวกประมาณ 350 เมตร
ถึงที่ตั้งของร้านอาหารบ้านจรัญฯ ร้านอยู่ริมถนนทางฝั่งขวาติดกับซอยบางแวก 40
ค่ารถ 47 บาท

ตัวร้านเป็นอาคารชั้นเดียวบนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ มีที่จอดรถได้มากกว่า 20 คัน
ส่วนอาคารอีกหลังที่อยู่ติดกัน อยู่ระหว่างขอเช่าเพื่อทำเป็นร้านเบเกอรี่และกาแฟแยกจากร้านอาหาร

ทางขึ้นร้านมีทางลาดเพื่อสะดวกกับลูกค้าที่นั่งรถเข็น
ร้านเปิด 11 โมงเช้า ไปถึง 11.25 น.ยังไม่มีลูกค้า ทำให้เดินเลือกโต๊ะที่อยากนั่งได้ตามชอบ

เดินเข้าร้าน วัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล
หลังทางเข้าร้านเป็นแผนกบเกอรี่ซึ่งมีให้เลือกหลายชนิด

ป้ายโฆษณาอาหารชุดจากกุ้งแม่น้ำ ดูน่าสนใจและไม่แพง

เลี้ยวขวาเป็นส่วนที่โต๊ะเก้าอี้ทาสีขาวเน้นโต๊ะสี่เหลี่ยม
สามารถเป็นได้ทั้งส่วนนั่งกินข้าว หรือกินเค้กและเครื่องดื่ม

มีชั้นหนังสือให้เลือกอ่าน ส่วนเคาน์เตอร์ด้านขวาเป็นส่วนทำกาแฟและเครื่องดื่ม

เดินผ่านซุ้มประตูดอกไม้ไปดูโต๊ะนั่งส่วนหลัง
โต๊ะด้านในจะเน้นสีไม้ ทั้งสีอ่อนและสีเข้ม

มุมโซฟา

ปกติชอบนั่งเบาะโซฟา
แต่วันนี้เลือกโต๊ะกลมสีดำ

มุมดนตรีที่มีเฉพาะเย็นวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.00-19.30 น.

มองไปที่หน้าทางเข้าห้องน้ำเห็นมีห้องส่วนตัวจึงขอทางร้านเข้าไปดู
ในห้องมีโตีะกลมหน้าหินอ่อนตรงกลางหมุนได้นั่งได้ 15 คน เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
สอบถามเงื่อนไขการใช้ห้องเผื่อนัดเพื่อนกลุ่มใหญ่ การใช้ห้องแต่ละรอบไม่เกิน 4 ชม.
กินครบ 3,500 บาท ฟรี 2 ชม. กินครบ 4,000 บาท ฟรี 3 ชม. กินครบ 5,000 บาท ฟรี 4 ชม.
ถ้ากินไม่ครบตามยอดที่กำหนด คิดค่าบริการชั่วโมงละ 350 บาท
เงื่อนไขเกือบเหมือนไม่คิดค่าบริการการใช้ห้อง เพราะถ้ามา 6-8 คนขึ้นไป กินยังไงก็เกิน

รายการอาหาร

เครื่องดื่ม ดีใจเห็นเบียร์ชไนเดอร์ไวเซอร์ วีทเบียร์ของชอบ
ถึงกับถามทางร้านว่ามีเบอร์อะไรบ้าง ปรากฏว่าช่วงนี้ไม่ได้สั่งมา

กุ้งแม่น้ำเผา กุ้งและเนื้อปู ว่าจะสั่งกุ้งแม่น้ำมาลองฝีมือการเผาสักตัวดันลืม

อาหารกินเล่นแบบไทย ๆ และอาหารแนะนำ

อาหารประเภทหม้อไฟและผัก
มีใบเหลียงผัดไข่ เสียดายไม่มีต้มกะทิใส่ไข่มดแดง

อาหารประเภทปลา

หมึก ปูนิ่มและยำ

ข้าว เส้น และอื่น ๆ
ลืมถามว่าที่อยู่ในต้มข่าดูเหมือนหมูสามชั้นคือรายการอะไร

ฝรั่งกินเล่น สลัด และกินเส้นอิตาลี

อาหารจานหลัก ซี่โครงหมูอบและเนื้อย่างเซอลอยน์สเต๊กน่าสนใจ
ขนมหวาน อยากลองเค้กไร้แป้ง

จากการคุยกับเฮียตี๋เจ้าของร้าน ร้านเปิดมาได้สามปีกว่า
แต่ไม่ใช่มือใหม่ในวงการอาหาร เพราะก่อนหน้านี้เปิดร้านอาหารชื่อท่าเรือ อยู่ที่ สามโคก ปทุมธานี

น้องสาว คือ คุณนก ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาถึง 15 ปี เป็นคนที่รักการทำขนมเค้กมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น
ถึงแม้จะเรียนการทำขนมเค้กจากสถาบันเล็ก ๆ หลักสูตร 3 ปีในอเมริกา แต่มีโอกาสไปแข่งทำขนมถึงลาสเวกัส
แม้ว่าครั้งแรกจะไม่ได้รางวัล แต่ช่วงวันหยุดชอบตระเวณไปหาร้านที่เขาบอกกันว่าอร่อย
นำข้อดีของแต่ละร้านมาปรับเป็นเทคนิกและสูตรของตัวเอง ได้เป็นเค้กที่มีรสชาติเข้มข้น
ปีต่อมาสมัครแข่งขันอีก ได้รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งในหมวดการทำขนม จึงเป็นแรงบันดาลใจ
ให้เกิดความอยากทำร้านขนมเค้ก ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีให้คนอื่นได้ลิ้มลองกัน

เรื่องปวดหัวเวลานัดเพื่อนกินข้าว คือ การหาร้านที่จะนัดกัน
เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ร้านนี้มีอาหารหลากหลายให้เลือกเยอะ
ทั้งอาหารไทย อาหารทะเล อาหารฝรั่ง ที่มีทั้งอาหารฝรั่งทั่วไปและฝรั่งอิตาลี
โดยเฉพาะพิซซ่าที่มีให้เลือกถีง 8 หน้า เป็นพิซซ่าแบบแป้งบางขนาด 12 นิ้ว
โดยใช้แป้งหมักเป็นโดว์ทำแผ่นพิซซ่าสไตล์โรมัน ที่กินแล้วไม่อืดท้อง
กินอาหารเสร็จไม่ต้องย้ายไปร้านเบเกอรี่ร้านกาแฟ เพราะที่นี่มีครบทุกอย่าง

เครื่องดื่มของแฟนเป็นม็อคค่าปั่น 85 บาท

เครื่องดื่มของตัวเองเป็นฟรุ้ตโมจิโต้ 140 บาท

รสเข้มข้น แม้จะผสมเหล้ารัม แต่ไม่แรงแอลกอฮอล

เริ่มมือเที่ยงด้วยของกินเล่นสองอย่าง

บรูสเชตต้าแซลม่อนรมควัน (Bruschetta with smoke salmon) 170 บาท
อาหารอิตาเลียนเรียกน้ำย่อยแบบขนมปังอบโรยหน้า นำขนมปังฝรั่งเศสหั่นเป็นแผ่น
ทาเนยแล้วนำไปอบจนเหลือง ทาครีมชีส วางเนื้อแซลม่อนรมควันแล่บาง
โรยหน้าด้วยหอมแดงหั่น หยอดแคเปอร์ดองในน้ำส้มสายชู (Capers in brine) 2 เม็ด
Caper เป็นพืชไม้พุ่ม ทุกส่วนของต้นทั้งผล ผล ดอกที่ยังไม่บานและรากใช้เป็นยา มีฤทธิ์ในการลดเบาหวาน
ผลเคเปอร์ใช้กินเป็นทั้งอาหารและตัวชูรส เวลาไปกินบุฟเฟต์มักใส่ถ้วยอยู่ใน Cold station
มีรสเค็มเปรี้ยวคล้ายมะกอกดอง แต่ราคาแพงกว่า ชอบกินกับแซลม่อนรมควันตามด้วยเมล่อน

ขนมปังอบชีส 120 บาท
ใช้ชีสสามชนิดวางบนขนมปังแล้วนำไปย่างไฟ
ให้ชีสแทรกเข้าไปในเนื้อขนมปัง
จิ้มกินกับซอสมะเขือเทศ

laser
5 เมษายน เวลา 13:32 น.

ความคิดเห็นที่ 1

เห็นลูกค้าสั่งกันแทบทุกโต๊ะ
เย็นตาโฟหม้อไฟ 220 บาท เป็นเย็นตาโฟทะเลใส่กุ้งสด หมึกสดและเต้าหู้พวงทอด
กินกับแผ่นเกี๊ยวทอดกรอบ ๆ ที่ใส่จานแยกมาต่างหาก น้ำแกงรสเข้มข้นเผ็ดเปรี้ยวพอเหมาะ

ผัดฉ่าลูกชิ้นปลากราย 180 บาท
เนื้อปลากรายขูด บดและตบตีจนเหนียวหนึบเด้งปั้นเป็นลูกลวกสุก
ผัดกับพริกแกง พริกสับ หอมด้วยกระชานหั่นเส้น

ข้าวอบสับปะรด 140 บาท สั่งเพราะแฟนชอบกิน
ข้าวเป็นเม็ดสวยผัดหอมใส่ผงขมิ้น ใส่สับปะรดหั่น กุนเชียงหั่น ลูกเกตุและถั่วลิสง
โรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด และที่ขาดไม่ได้ คือ หมูหยองหอม ๆ

สลัดไก่ย่างสมุนไพร 180 บาท
อกไก่หมักเครื่องเทศและสมุนไพรพอเข้าเนื้อ นำไปย่างเกรียมนอกฉ่ำนุ่มใน

เคียงด้วยผักสลัด มะเขือเทศเชอรี่ แอ๊ปเปิ้ลเขียวหั่นเต๋า
โรยหน้าด้วยขนมปังกรอบ กินกับสลัดครีมรสเปรี้ยวนวล

เฮาส์สุพรีมพิซซ่า 360 บาท
ความจริงอยากสั่งหน้าแซลม่อนรมควัน 390 บาท
แต่ทางร้านแนะนำเฮาส์สุพรีม พิซซ่าร้านนี้อบด้วยเตาไฟฟ้า
แต่มีความหอมเหมือนอบด้วยเตาไม้ฟืน มีขนาดเดียว คือ 12 นิ้ว หั่น 8 ชิ้น
หน้าพิซซ่าใส่เบคอนรมควัน ไส้กรอกรมควัน เห็ดฟาง หัวหอม และพริกสามสี
โรยหน้าด้วยมอสซาเรลล่าชีส แล้วนำเข้าเตาอบอบจนแป้งสุกพอดี
แป้งบางนุ่มขอบพองกรอบ หอมชีสและซอสมะเขือเทศทาแป้งพิซซ่า
อร่อยโดยไม่ต้องโรยใบออริกาโน่ ไม่ต้องพี่งพริกป่นและซอสเผ็ด

เพิ่มน้ำแตงโมปั่น 80 บาท เน้นว่าไม่ใส่น้ำตาล
แต่แตงโมหน้านี้อร่อย เนื้อกรอบและหวานอยู่แล้ว
บางร้านแตงโมปั่นแล้วน้ำติดเปรี้ยว แต่ที่นี่หวานฉ่ำสดชื่น

มื้อนี้ยังไม่ได้กินอาหารทะเลโดยเฉพาะปลา
ต่อด้วยปลาตาเดียวทอดตะไคร้ 380 บาท ปลาตัวใหญ่มากมีไข่
แล่เนื้อปลาเป็นชิ้นหนา ชุปแป้งบาง ๆ แล้วทอดจนเหลือง
นำเนื้อปลาที่ทอดจนกรอบนอกนุ่มในมาจัดวางบนกระดูกปลา
โรยด้วยตะไคร้ทุบเป็นฝอยนำไปทอด โรยทับด้วยใบมะกรูดทอด
วางด้านบนด้วยกลีบกระเทียมทอด มีน้ำจิ้มให้สองอย่าง คือ ซอสพริกและน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัด
ตักเนื้อปลากินกับตะไคร้ทอดรู้สึกรสอ่อน แต่พอตามด้วยใบมะกรูดทอดกลับอร่อยขึ้น
น่าจะซอยใบมะกรูดเป็นเส้นทอดพร้อมกับตะไคร้ทุบ

อาหารร้านนี้ออกเร็ว เพลินกับเนื้อปลาตาเดียวยังไม่ทันไร
เนื้อปูผัดพริกขี้หนูสวน 390 บาทก็ยกมาวางตรงหน้า

เนื้อกรรเชียงปูก้อนใหญ่และสด ผัดกับพริกขี้หนูซึ่งหอมแต่ไม่เผ็ดมาก

อิ่มกินบางอย่างไม่หมดต้องห่อ แต่กันพื้นที่ในกระเพาะเพื่อลองเค้ก

เค้กครีมส้มยูสุ 120 บาท เนื้อเค้กเนียนเบานุ่ม หอมกลิ่นส้มยูสุ

ลาเต้ร้อน 70 บาท
ถ้วยนี้ตกม้าตายเพราะเทฟองนมรูปใบไม้ไม่อยู่ตัวกลายเป็นลายแอ๊บสแทรก
แต่กาแฟไม่เสีนชื่อเพราะหอมเข้มข้น

เค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง (Flourless Chocolate Cake) 170 บาท
กินกับไอศกรีมนม แต่งจานด้วยกีวี่ องุ่น ครีมสดโรยเกล็ดช็อกโกแลต
แต้มจานด้วยซอสสตรอเบอรี่

ตัดสีสวยด้วยผลสตรอเบอรี่สดแดง มือเบาหั่นเป็นแผ่นไม่ขาดจากกัน
ดูหรูด้วยแผ่นทองคำเปลวแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์กินได้
ตัวเนื้อเค้กไร้แป้งสำหรับคนแพ้แป้ง เข้มข้นด้วยดาร์กช็อกโกแลตกับเนย
เนื้อเค้กฟูด้วยไข่ไก่ ผิวด้านหน้าจะมีลักษณะแตกและยุบตัวเล็กน้อย เนื้อเค้กแน่น ไม่เบาแบบเค้กใส่แป้ง

อยากลองซี่โครงหมูอบบาร์บีคิว และเนื้อย่างเซอร์ลอยน์สเต๊ก
แต่กินไม่ไหวแล้ว บางอย่างต้องห่อกลับ มีโอกาสคงได้กลับมาอีกครั้ง
เพราะเพื่อนแฟนอยู่ซอยบางแวก 120 เสียดายวันนี้ไม่ว่างเพราะไม่ได้บอกล่วงหน้า
มาเพิ่มอีกคนสองคนเปิดห้องใหญ่ล้งเล้งเมาท์มอยกันได้เต็มที่ ยังไงก็กินเกิน 4,000 บาท ฟรีค่าห้อง 3 ชั่วโมง
เพราะมื้อนี้แค่ 3 คนกินไป 2,941 บาท กินกันถึงบ่ายสาม ราคาอาหารรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ไม่มีค่าบริการ
ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.ช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ไม่หยุด

ตั้งแต่ปากคลองตลาดใหม่ย้ายมาแถวนี้ยังไม่เคยไปเดิน
ดูแผนที่แล้วห่างไปแค่ 2.2 กม. บอกลากันแล้วออกมาเรียกรถที่หน้าร้านบ้านจรัญฯ
ถึงแยกบางแวกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชพฤกษ์ ถึงสี่แยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพรานนก-กาญจนาภิเษก
ปากคลองตลาดใหม่อยู่ตรงหัวมุมพอดี ค่ารถ 45 บาท
ตลาดแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหน้าขายดอกไม้ ส่วนหลังขายผลไม้

แค่แผงแรกก็รู้เลยว่าที่นี่ขายดอกไม้ถูกว่าปากคลองตลาดเดิม
เสาร์ที่แล้วซื้อพวงมาลัยดอกมะลิไปไหว้เช็งเม้งพวงละ 20 บาท
ตลาดนี้ถูกกว่าครึ่งหนึ่งขายแค่พวงละ 10 บาท

ดอกบัวถวายพระ

กล้วยไม้กำละ 10-15 บาท

ดอกไม้ย้อมสีจัดเป็นช่อห่อพลาสติก

ส่วนหลังเป็นตลาดผลไม้และศูนย์อาหาร
แผงค้ามีไม่ถึงครึ่งของพิ้นที่ ไม่ได้ซื้ออะไร

เดินย้อนกลับไปส่วนหน้าเพื่อซื้อพวงมาลัยดอกมะลิ

ออกจากตลาดเลี้ยวขวาไปข้ามถนนที่สี่แยก
เลี้ยวขวาเข้าถนนราชพฤกษ์ เรียกรถไปรถไฟฟ้าบีเอสบางหว้าเพื่อกลับบ้าน ค่ารถ 45 บาท

แฟนซื้อเค้กกลับบ้านมาสี่ชิ้นเผื่อที่บ้าน

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่เพจ “เที่ยวไปกินไป by laser”
https://th-th.facebook.com/เที่ยวไปกินไป-by-laser-458383970993701
ที่เอาไว้รวบรวมเรื่องเที่ยวเรื่องกิน ที่สั้นเกินกว่าจะนำมาลงเป็นบทความ
หรือ อยู่ระหว่างรวบรวมเป็นบทความที่สมบูรณ์ ที่อาจใช้เวลาหลายปี
#กินตามอาสาม #อร่อยตามอาสาม #ตามรอยอาสาม #เที่ยวกับอาสาม