ผมมีโรคประจำตัวเป็นไซนัสอักเสบ ควรแก้ไขดูแลตนเองอย่า่งไรดีครับ
มีอาการปวดศรีษะด้านบนสุดทั้งแผ่น และมีอาการปวดตำแหน่งไซนัส
ปัจจุบันอายุ 36 ปีครับ ผมควรดูแลตนเองเบื้องต้นอย่างไร
ปัจจุบันอายุ 36 ปีครับ ผมควรดูแลตนเองเบื้องต้นอย่างไร
ขั้นต้น มีออกกำลังกาย วิ่งสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที
นวดบ้าง เน้นนวดฝ่าเท้าครับ
การบริโภค สิ่งที่ผมสงสัยคือ เมื่อดื่มกาแฟ แล้วรู้สึกดี
ไม่ปวดหัว พร้อมทำงาน แถมไม่ปวดไซนัสด้วยครับ ( เกี่ยวไหมน้อ )
( หรือมโนไปเองครับเนี่ย )
สงสัยไหมว่ากินกาแฟแล้วมันไปกดให้เราทำงานได้หรือเปล่าครับ
แต่พอผมไม่ทานสักสามวัน จะปวดหัว รวมทั้งอาการไซนัส
อาจมีขึ้นมาด้วย
ขอบคุณทุกคำแนะนำนะครับ
EviL_ParAGoN
29 มีนาคม เวลา 09:20 น.
29 มีนาคม เวลา 09:20 น.
แหล่งที่มา pantip.com
29 มีนาคม เวลา 09:23 น.
เมื่อหลายสิบปีก่อน
พบแพทย์ กินยาตามสั่ง หนึ่งปีเต็มๆ ครับ
คุณ จขกท. พบแพทย์ประจำหรือเปล่าครับ
29 มีนาคม เวลา 11:57 น.
ตอนนั้น ผมมีอาการปวดตุ้บๆ ตรงหน้าผาก
และได้กลิ่นหนองจากลมหายใจเป็นช่วงๆ
หมอบอกว่า โพรงจมูกอักเสบ
ถ้ากินยาหาย ก็ไม่ต้องเจาะ
ผมโชคดี กินยา โรคก็หาย
29 มีนาคม เวลา 22:23 น.
เมื่อรูระบายใหญ่ขึ้น น้ำในโพรงจมูกก็ไหลออกได้ง่าย ไม่เกิดการสะสมหมักหมม อันเป็นสาเหตของการอักเสบ
ปล1. ก่อนการผ่าตัด ผมจะเป็นหวัด คออักเสบเป็นประจำ แทบทุก2 สัปดาห์ จนสุดท้ายหมอแนะนำว่าผ่าตัดเถอะ( คชจ สูงเอาการครับ รพ เอกชน)
ปล2. หลังผ่าตัด ไม่เคยเป็นไซนัสอักเสบอีกเลย
29 มีนาคม เวลา 22:05 น.
ปวดศีรษะ เป็นอาการที่พบได้บ่อยเพราะสามารถเป็นได้ทุกเพศทุกวัย การดูแลเพียงสุขภาพกายจึงไม่เพียงพอ เพราะเราต้องหันมาดูแลสุขภาพจิตของตัวเราเองให้แจ่มใส ลดความเครียดลงค่ะ
ถ้าผู้ป่วยดูแลรักษาตนเอง 1-2 วันแล้วอาการปวดยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ แพทย์จะตรวจวินิจฉัยได้ว่าเป็นอาการปวดศีรษะชนิดใด มีสาเหตุจากอะไร และจะพยายามตัดต้นเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป ผู้ป่วยอาจต้องตรวจร่างกายเพิ่มเติมค่ะ
โรคไซนัสอักเสบ เกิดจากเยื่อบุไซนัสติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจ เมื่อเกิดการติดเชื้อเนื้อเยื่อในโพรงไซนัสจะมีอาการบวม และร่างกายจะผลิตสารคัดหลั่งเมือกเหลวขึ้นมามากจนเกิดการอุดตันจนกลายเป็นหนองอักเสบหรือน้ำมูกเขียวข้น มักจะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล และปวดบริเวณไซนัสที่อักเสบ รวมถึงมีอาการป่วยอื่นๆร่วมด้วยค่ะ
-มีน้ำมูกหรือมีเสมหะที่มีลักษณะข้น สีเหลืองหรือเขียวในลำคอ หรือไหลลงคอ
-หายใจติดขัด อึดอัด คัดจมูก ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น หรือคนรอบข้างบอกว่ามีกลิ่น
-ไอ เจ็บคอ ปวดฟัน การรับรู้กลิ่นหรือรสชาติแย่ลง
-ปวดบริเวณหัวตา หน้าผาก โหนกแก้ม จมูกบริเวณระหว่างคิ้ว และรอบๆ กระบอกตา
-อาจปวดหัว มีไข้ อ่อนเพลีย หรือไอเรื้อรังร่วมด้วย
หากผู้ป่วยมีอาการต่างๆ เหล่านี้ ติดต่อกันนานเกิน 10 วัน สันนิษฐานได้ว่าคนไข้อาจเป็นไซนัสอักเสบแบบเฉียบพลัน และหากไม่ได้รับรักษาก็อาจกลายเป็นไซนัสอักเสบแบบเรื้อรัง ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางค่ะ
ข้อมูลความรู้เพิ่มเติมและปรึกษาแพทย์เฉพาะทางค่ะ
https://1th.me/ZwGuB
https://1th.me/dbbJr
30 มีนาคม เวลา 11:18 น.