วิธีทำ “ส้มตำหอยแครง” เมนูอีสานสุดแซ่บ พร้อมเทคนิคลวกหอยไม่ให้คาว!

Home » วิธีทำ “ส้มตำหอยแครง” เมนูอีสานสุดแซ่บ พร้อมเทคนิคลวกหอยไม่ให้คาว!
แซ่บยกถาด เผ็ดแค่ไหนก็ไม่ถอย!! กับเมนูอาหารอีสาน “ส้มตำหอยแครง” พร้อมแจกเทคนิคลวกหอยแครงยังไงไม่ให้น้ำปลาร้าคาว! ถ้าพร้อมแล้วมาดูวิธีทำกันเลย!

เวลาเตรียม
30 นาที
เวลาปรุง
30 นาที
สำหรับ
1 เสิร์ฟ

เรื่องมันมีอยู่ว่าจิ๋วไปกินส้มตำหอยแครงที่ร้านมา คือมันเฟลมากค่ะ รสชาติไม่สุด ลวกหอยมาไม่ดีทำให้น้ำปลาร้ามีกลิ่นคาวเลือด เรียกว่าเสียเงินทิ้งจานละตั้ง 200 บาท และด้วยความคาใจนั้นมันทำให้จิ๋วต้องหยิบครกและสากมาโชว์ฝีมือทำเมนู “ส้มตำหอยแครง” พร้อมแจกเทคนิคลวกหอยแครงยังไง ไม่ให้น้ำปลาร้าคาวด้วยค่ะ บอกเลยว่าซื้อวัตถุดิบไม่เกิน 300 บาท ตำได้เป็นถาดเลยจ้า ถ้าพร้อมแล้วสวมวิญญาณแม่ค้าส้มตำแล้วมาลุยกันเลย!

วัตถุดิบเมนู ส้มตำหอยแครง
วัตถุดิบเมนู ส้มตำหอยแครง

 
วัตถุดิบ

1. หอยแครง 1 กิโลกรัม

2. มะละกอดิบ 1 ลูก

3. มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้น 4 ลูก

4. มะเขือส้มหั่นครึ่ง 7 ลูก

5. มะเขือเปราะหั่นชิ้น 2 ลูก

6. น้ำมะนาว 3 ลูก

7. พริกแดงจินดา 20 เม็ด

8. ผักชีใบเลื่อยซอย 6 ใบ

9. น้ำปลาร้า 3 ทัพพี

10. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา

11. น้ำปลา 1/2 ทัพพี

ลงมือโล้ดดดดดด

STEP 1 : ล้าง+ลวกหอยแครง

– เริ่มกันด้วยขั้นตอนสำคัญก่อนเลย เวลาเราได้หอยแครงมาจากตลาดมักจะมีดินโคลนติดเปลือกมาด้วย ซึ่งเราต้องเอาดินออกก่อน โดยเราจะเอาหอยแครงไปใส่น้ำแล้วใช้สากหินลงไปคนเป็นวงกลม ให้สากหินกระทบกับเปลือกหอยแครงแล้วเทน้ำที่ล้างออกเพื่อเปลี่ยนน้ำใหม่ โดยเราจะทำซ้ำจน 2 – 3 รอบจนกว่าน้ำที่ล้างหอยจะใสและเปลือกหอยไม่มีคราบดินค่ะ

Tip.. ถ้าไม่อยากทานแล้วเจอดินในหอย ให้บุบพริกสดใส่ลงไปแช่กับหอยแครง เป็นเวลา 30 – 60 นาที เพื่อให้หอยแครงคายดินออกมาค่ะ

– ตั้งน้ำให้เดือดจัด ๆ จากนั้นใส่น้ำส้มสายชูลงไปในน้ำเพื่อให้หอยแครงกรอบขึ้นค่ะ แล้วนำหอยแครงที่ลวกเสร็จแล้วใส่ลงไปในน้ำ จับเวลา 40 วินาที เมื่อครบเวลาแล้วตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น เพื่อไม่ให้หอยแครงสุกต่อค่ะ แล้วแกะเปลือกหอยแครงออกให้เหลือแค่เปลือกด้านที่ติดกับตัวหอย แล้วพักเอาไว้ก่อนนำไปตำค่ะ

Tip.. เราลวกหอยแครงเป็นเวลา 40 นาที จะได้หอยแครงที่ไม่สุกจนเกินไป ยังได้ความฉ่ำและไม่มีเลือดที่ทำให้น้ำปลาร้ามีรสคาว แต่ถ้าเพื่อน ๆ จะลวกหอยแครงทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดล่ะก็คลิก 5 เทคนิค เลือกหอยแครงให้ถูกปาก ลวกความสุกให้ถูกใจ! ได้เลยจ้า 

STEP 2 : สับมะละกอ

– นำมะละกอมาปอกเปลือก แล้วนำมาสับโดยใช้มีดนะคะ เพราะเราจะไม่ใช้วิธีการขูด เนื่องจากการสับมะละกอจะทำให้ได้เส้นมะละกอที่บางกว่าการขูด ทำให้เส้นมะละกอซับรสชาติของน้ำส้มตำได้ดีกว่าค่ะ

Tip.. นำเส้นมะละกอที่สับแล้วไปแช่ในตู้เย็นก่อนนำมาตำ จะช่วยให้เส้นมะละกอของเรากรอบมากขึ้นค่ะ


STEP 3 : ตำ

– ใส่พริกแดงจินดาและเส้นมะละกอสับสักหน่อยลงไปในครก จากนั้นตำพริกแค่พอหยาบ

– ใส่มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้นและมะเขือส้มหั่นครึ่งลงไปในครก โดยเราใช้สากบี้มะเขือเทศสัก 2 – 3 ครั้ง จากนั้นมะเขือเปราะหั่นชิ้นและผักชีฝรั่งซอยลงไป

Tip.. บี้มะเขือเทศให้น้ำมะเขือเทศออกมา เพื่อจะได้รสเปรี้ยวจากมะเขือเทศค่ะ

– ถึงขั้นตอนปรุงรสแล้ว เริ่มจากการใส่น้ำปลาร้าลงไป ตามด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บ จากนั้นใช้ทัพพีและสากคนให้เครื่องปรุงนั้นเข้ากัน แล้วให้ชิมรสชาติก่อนใส่เส้นมะละกอและหอยแครงลวกลงไป

Tip.. สามารถเปลี่ยนน้ำตาลปี๊บเป็นน้ำตาลทรายได้นะคะ ซึ่งจะได้รสชาติที่ไม่หวานมากเท่าน้ำตาลปี๊บ แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ

– เมื่อปรุงรสได้ตามที่ชอบแล้ว ก็ใส่เส้นมะละกอขูด และหอยแครงลวกลงไปในครก จากนั้นใช้ทัพพีคนให้ทุกอย่างเข้ากัน อาจจะใช้สากตำอย่างเบามือเพื่อไม่ให้เส้นมะละกอเละเกินไป เท่านี้ก็ยกครกเทลงในถาดได้แล้วจ้า

แค่มีเทคนิคดี ๆ จากจิ๋วหิวโซ เพื่อน ๆ ก็ทำเมนู “ส้มตำหอยแครง” ทานได้ที่บ้านแบบแซ่บ ๆ ไม่ต้องง้อร้านแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าอยากแซ่บขึ้นอีกระดับจิ๋วขอแนะนำสูตรเมนู “ส้มตำเส้นข้าวเปียก” ที่ทำไม่ยากให้ได้ลองทำกันที่บ้าน ถ้าทำแล้วก็อย่าลืมโพสต์รูปมาอวดกันบ้าง หรือใครมีสูตรส้มตำเด็ด ๆ ก็เอามาแชร์กันได้เลยจ้า 

แหล่งที่มา www.wongnai.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง

"เคล็ดไม่ลับคู่ครัว"

หากต้องทำเครื่องดื่มให้เย็นทันใจ สามารถใช้ผ้าขนหนูกระดาษห่อหุ้มกระป๋องจากนั้นก็เอาไปแช่ตู้เย็น

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ