ข้าวมันไก่ อาหารจานเดียวที่ใครหลายคนชอบและอยากลองทำกินเองที่บ้าน สามารถเลือกได้ว่าจะเอาส่วนไหนมาทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหน้าอก น่อง ปีก หรือสะโพก และวันนี้เรามีวิธีทำข้าวมันไก่แบบง่าย ๆ พร้อมวิธีปรุงน้ำจิ้มข้าวมันไก่รสเด็ด ถ้าพร้อมแล้วลงมือทำกันเลย [สูตรจากคุณมันแกวกะแห้วหมู สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม น้ำต้มไก่
• โครงไก่หรือชิ้นส่วนไก่ (เลือกตามชอบ)
• ผักกาดขาว หรือผักหางหงส์สด 1 หัว (เลือกที่สด ๆ เพื่อให้น้ำหวาน)
• กระเทียม 3-4 หัว (หรือประมาณ 30 กลีบ)
• รากผักชี 5–6 ราก
• ขิงแก่หั่นเป็นแว่นบาง 5–6 แว่น
• ขิงทุบ เล็กน้อย
• พริกไทยขาวทุบหยาบ 20–30 เม็ด
• เกลือสมุทร 1-2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าเป็นดอกเกลือจะยิ่งดี ปริมาณเกลือมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ)
• น้ำตาลกรวด 1/2 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 2–3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำสำหรับต้มไก่
1.ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อ (ควรใส่น้ำเผื่อไว้หน่อยกันน้ำแห้งเกินไป) นำขึ้นตั้งไฟแรง (ไม่ต้องปิดฝา) ต้มให้เดือดนานอย่างน้อย 30 นาที
2. พอครบเวลาใส่ไก่ลงไปจนหมด (ถ้าหม้อใบเล็กเกินไปให้เอาผักกาดขาวออกให้หมดก่อนก็ได้) พอใส่ไก่ชิ้นสุดท้ายลงไปให้ลดไฟอ่อนลง จากนั้นต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเดือด หมั่นช้อนฟองอากาศทิ้ง (ควรจับเวลาให้ดี ถ้าต้มนานเกินไปไก่จะสุกเกินไม่อร่อย ถ้าไก่ดิบไปกระดูกมีเลือด เนื้อส่วนที่ติดกระดูกเหนียวเลาะไม่ออก ปกติจะใช้เวลาในการต้มประมาณ 1 ชั่วโมง นับจากใส่ไก่ลงไป หมั่นตักฟองทิ้งไปบ้าง จากนั้นก็ปล่อยให้ไฟรุม ๆ ไปเรื่อย ๆ)
น้ำจิ้มข้าวมันไก่
ส่วนผสม น้ำจิ้มข้าวมันไก่
• เต้าเจี้ยว 6 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• ขิงแก่สับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
• ขิงแก่ตำแหลก 1 ช้อนโต๊ะ (สำคัญนะครับ ตำให้แหลกเลย นำน้ำขิงในครกใส่ไปด้วย เวลาผสมกันเป็นน้ำจิ้มแล้วจะได้มีรสและกลิ่นขิงแทรกอยู่อย่างทั่วถึง)
• พริกขี้หนูสดเขียว-แดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบเผ็ดก็เอาส่วนหนึ่งไปปั่นหรือตำให้แหลกก่อนแล้วค่อยเอามาใส่)
• น้ำส้มพริกดองแบบปั่น 2 ช้อนโต๊ะ (ที่เหลือมาจากการกินข้าวขาหมู เย็นตาโฟ หรือก๋วยเตี๋ยวเรือก็ได้)
• ซีอิ๊วหวานสูตร 1 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่ต้องการให้สีเข้มมากก็ลดเหลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ แนะนำให้ใช้สูตร 1 พวกง่วนเชียงฝาสีครีมก็ดี ไม่ควรใช้น้ำตาลโมลาส หรือสูตร 5 ได้สีเข้มก็จริง แต่เดี๋ยวจะทำให้เสียรส เสียกลิ่น)
• มะนาว 1 ซีก
วิธีทำ น้ำจิ้มข้าวมันไก่
• ใส่เต้าเจี้ยวลงในถ้วย (ควรชิมก่อนด้วยว่า เต้าเจี้ยวที่เราซื้อมามีความเค็มมากน้อยแค่ไหน บางยี่ห้อก็เค็มจัด บางยี่ห้อก็มีติดหวานเล็ก ๆ ปริมาณส่วนผสมมาก-น้อย ลดลงตามส่วนนะครับ) ตามด้วยน้ำตาลทราย ขิงแก่ตำแหลก ขิงแก่สับละเอียด พริกขี้หนูเขียว-แดงซอย น้ำส้มพริกดอง บีบน้ำมะนาวใส่ลงไป (เพื่อเอากลิ่น) และซีอิ๊วหวาน คนผสมให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามชอบ (ไม่ต้องใส่น้ำซุปลงไปให้เจือจาง แต่ถ้าเห็นว่าข้นมากเพราะใส่ขิงมากไปก็เติมน้ำซุปลงไปสัก 1 ช้อนโต๊ะ)
หมายเหตุ : ถ้ารสชาติอ่อนเค็มให้เพิ่มเต้าเจี้ยว ถ้าอ่อนหวานให้เพิ่มน้ำตาลทราย ถ้าอ่อนเปรี้ยวให้เพิ่มน้ำส้มพริกปั่นลงไป (ไม่เพิ่มมะนาวนะครับ) ส่วนชอบเผ็ดมากน้อยก็ปรับสัดส่วนของพริกขี้หนูเสียแต่ทีแรกเลย
ข้าวมัน
ส่วนผสมข้าวมัน
• ข้าวหอมเก่า (ที่ไม่ใช่ข้าวหอมใหม่ต้นฤดู หรือข้าวนาปีเสาไห้)
• น้ำมันพืช
• กระเทียม
• ขิงฝานเป็นแว่น
• เกลือสมุทร 1/2-1 ช้อนชา
• น้ำตาลกรวด 1 ช้อนชา
• น้ำซุป 1 ทัพพี
วิธีหุงข้าวมัน
1. ซาวข้าวให้เรียบร้อย เทน้ำออกให้แห้ง พักไว้ (อย่าซาวข้าวทิ้งไว้ล่วงหน้านาน พอถึงเวลาจะหุงแล้วค่อยซาวข้าว และควรเตรียมการหุงเมื่อไก่ต้มสุกพอดี เพราะต้องใช้น้ำต้มไก่มาหุงข้าว)
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับและขิงฝานแว่นลงไปเจียวพอหอม
3. ใส่ข้าวที่ซาวแล้วลงไปผัด
4. ช้อนน้ำมันไก่จากหม้อต้มไก่ลงไปผัดกับข้าว (เท่าที่จะช้อนออกมาได้)
5. ใส่เกลือสมุทร น้ำตาลกรวด และน้ำซุป แล้วผัดให้เข้ากัน ใช้ไฟกลาง ผัดให้เมล็ดข้าวจากเดิมที่ใส ๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขุ่นเหมือนเมล็ดข้าวเหนียว และข้าวเริ่มแห้งติดกระทะ ปิดไฟ ยกลงจากเตา นำไปใส่หม้อหุงข้าว
6. ตักน้ำต้มไก่ใส่ลงไปในหม้อหุงข้าว ใส่น้ำให้น้อยกว่าปกติที่เคยหุงเล็กน้อย กดปุ่มหุงข้าว เมื่อข้าวสุกแล้ว อุ่นทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 20 นาที
7. เปิดฝาหม้อหุงข้าวแล้วใช้ช้อนคุ้ยข้าวเบา ๆ เพื่อให้น้ำมันที่ตกอยู่ก้นหม้อหุงข้าวขึ้นมาคลุกกับข้าวให้ทั่ว
ก่อนเสิร์ฟ
• ช็อกไก่ด้วยน้ำเย็น โดยใส่น้ำแข็งก้อนลงในภาชนะ แล้วเติมน้ำลงไป จากนั้นใส่ไก่ที่ต้มไว้ลงไปในอ่างน้ำเย็น (เมื่อต้มเสร็จให้เอาขึ้นจากหม้อแล้วแช่ในน้ำเย็นทันที) แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5–10 นาที
• ตักขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วเอาน้ำมันพืชมาทาหนังไก่ไว้ให้ทั่ว ๆ พักทิ้งไว้ประมาณ 3–4 ชั่วโมง จากนั้นสับเป็นชิ้น ๆ จัดเสิร์ฟ
หมายเหตุ : การช็อกไก่ด้วยน้ำเย็น จะทำให้เนื้อไก่นุ่มหนึบ ไม่เละ หนังกรุบ เด้งดึ๋ง และรสสัมผัสเหมือนไก่บ้าน
วิธีทำ น้ำซุปสำหรับรับประทานคู่กับข้าวมันไก่
• น้ำซุปที่ต้มไก่เมื่อครู่นี้จะมีรสจัดเกินไปกว่าที่จะนำมาเป็นน้ำซุปที่กินกับข้าวมันไก่ได้ทันที ต้องเติมน้ำลงไปให้รสอ่อนลงแล้วนำไปต้มให้เดือดอีกครั้ง ถึงเอามารับประทานคู่กับข้าวมันไก่ได้
ถ้าใครเบื่อผัดกะเพราหมู ผัดกะเพราไก่ ผัดกะเพราปลาหมึก ฯลฯ ลองชิมผัดกะเพราหมูย่างกันดีกว่าค่ะ หมูย่างไม่ต้องทำเอง หาซื้อจากร้านส้มตำหรือรถเข็นปากซอย จับมาแปลงร่างทำผัดกะเพรากินง่าย ๆ กลายเป็นอาหารจานเดียวสุดโปรดอิ่มอีกมื้อ ถ้าโปะไข่ดาวเข้าไปหน่อยอร่อยเลิศ ช่วงเวลาผัดกะเพราหมูย่างอาจน้ำหูน้ำตาไหลแต่เมื่อทำเสร็จแล้วหม่ำเข้าปาก ขอบอกว่าคุ้มค่ากับน้ำตาที่เสียไปมากค่ะ [สูตรจาก คุณ jin leng สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม ผัดกะเพราหมูย่าง
วิธีทำผัดกะเพราหมูย่าง
1. โขลกพริกขี้หนู พริกหอม และกระเทียมเข้าด้วยกัน
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไปผัดจนหอม
3. ใส่หมูย่างและถั่วฝักยาวลงไปผัด ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย และซอสปรุงรส เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย
4. สุดท้ายใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและไข่ดาว
3. ผัดกะเพราวุ้นเส้น
ผัดกะเพราหมูสับ อาหารจานเดียวยอดฮิต แต่ถ้ากินซ้ำ ๆ กันทุกวันก็เบื่อเหมือนกันเนอะ มาเพิ่มไอเท็มด้วยวุ้นเส้นใส่ลงไปทำให้ผัดกะเพราหมูสับจานเดิมให้กลายเป็นเมนูใหม่ด้วยดีกว่า จะทำกินเพียว ๆ ก็ได้หรือจะกินกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็ได้ด้วยนะเออ ที่สำคัญคือ ทำง่ายอย่าบอกใครเชียว [สูตรจากคุณ IndyPiggy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม (ปริมาณกะเอาตามชอบ)
• พริกขี้หนูสวนและกระเทียม (ตำรวมกัน)
• น้ำมันพืช
• หมูสับ
• น้ำปลา
• น้ำตาลทราย
• ซอสหอยนางรม
• ซีอิ๊วขาว
• วุ้นเส้นสด
• ใบกะเพรา
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่พริกขี้หนูสวนและกระเทียมที่ตำไว้ลงไปผัดจนหอม
2. เมื่อผัดจนพริกและกระเทียมหอมดีแล้ว ใส่หมูสับลงไปผัด
3. เมื่อหมูสับเริ่มสุกทั่วแล้ว ใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย ซอสหอยนางรม และซีอิ๊วขาวลงไป ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามใจชอบ
4. เมื่อผัดจนหมูสับสุกและเข้ากันดีกับเครื่องปรุงแล้ว ใส่วุ้นเส้นสดลงไป (ถ้าหากส่วนผสมแห้งเกินไป สามารถเติมน้ำต้มสุกลงไปนิดหน่อย เพื่อให้วุ้นเส้นสุกง่ายและนิ่มค่ะ)
5. ผัดผสมจนเข้ากันดี ปิดไฟแล้วใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
เมื่อใบกะเพราและไข่มาผัดรวมกัน เมนูใหม่ก็บังเกิดเป็นผัดกะเพราไข่ เมนูกะเพราแบบคลีน ๆ ไม่ใส่เนื้อสัตว์ เมนูอาหารจานเดียวที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยิน แต่เชื่อเถอะว่าทำง่าย เหมาะมากยามที่หิวโหยแบบเร่งด่วน ซื้อแค่ไข่และใบกะเพรา ลงทุนน้อยแต่อิ่มคุ้ม [สูตรจาก คุณมัสหมั่นแดนใต้ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม (ปริมาณกะเอาตามชอบ)
• ไข่ไก่
• พริกขี้หนูสวน
• กระเทียม
• เกลือป่น
• น้ำตาลทราย
• น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
• น้ำต้มสุก
• ซอสหอยนางรม
• ใบกะเพรา
วิธีทำ
1. ตีไข่ไก่แล้วนำไปกวนในกระทะจนสุก (ทำเหมือนไข่คนค่ะ แต่ใช้เวลานานกว่าไข่คนค่ะ) เตรียมไว้
2. โขลกพริกขี้หนูกับกระเทียม เกลือป่นเล็กน้อย และน้ำตาลทราย ตำให้พอหยาบ
3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป ตามด้วยพริกที่ตำไว้ลงไปผัดให้หอม ตามด้วยไข่คนที่เตรียมไว้ เติมน้ำสุกลงไปเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ สุดท้ายใส่ใบกะเพรา ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
ใครว่าเมนูผัดกะเพราเป็นอาหารสิ้นคิด แค่เพิ่มเครื่องในไก่เข้าไปหน่อยกลายเป็นอาหารจานเดียวไอเดียบรรเจิดแล้ว ผัดกะเพราเครื่องในไก่ เสริมธาตุเหล็ก รสเผ็ดจัดจ้าน ทำง่ายใช้เวลาไม่นาน โปะไข่ดาวลงไปสักฟอง ราดน้ำปลาพริกหน่อย ยกนิ้วให้เลย จานเดียวไม่พอต้องขอเบิ้ล ! [สูตรจาก คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม ผัดกะเพราเครื่องในไก่
วิธีทำผัดกะเพราเครื่องในไก่
1. ล้างเครื่องในให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เตรียมไว้
2. เด็ดใบกะเพรา แยกดอกกะเพราออก แล้วนำไปแช่น้ำให้สะอาด ล้างฝุ่นดินออก เตรียมไว้
3. โขลกพริกขี้หนูสวนกับกระเทียม พริกไทยเม็ด และดอกกะเพรา เข้าด้วยกันพอหยาบ
4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงเจียวให้หอมแล้วใส่เครื่องในไก่ลงไปผัด ตามด้วยน้ำตาลทราย ผงชูรส ผงปรุงรส น้ำปลา ซีอิ๊วขาวเล็กน้อย และซอสหอยนางรม ผัดจนเครื่องในไก่สุก
5. ชิมรสตามชอบ สุดท้ายใส่ใบกะเพราลงไป ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย ไข่ดาว และน้ำปลาพริก
นับจากนี้วิธีทำข้าวหมูแดงกินเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะสูตรข้าวหมูแดงที่เรานำมาฝากในวันนี้เป็นสูตรทำง่าย ๆ ทำครั้งเดียวแล้วสามารถกินกันทั้งครอบครัว แค่เห็นรูปข้าวหมูแดงจานนี้ก็หิวแล้ว อย่ารอช้า มาดูส่วนผสมและวิธีทำข้าวหมูแดงกัน จดส่วนผสมแล้วเตรียมตัวออกไปซื้อข้าวของกันเลยดีกว่าค่ะ [สูตรจาก คุณ shintaro สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม หมูแดง
ส่วนผสม ไข่ต้ม
• ไข่ไก่
• เกลือ
• น้ำส้มสายชู
• สีผสมอาหารสีส้ม 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำเปล่าเล็กน้อย
ส่วนผสม น้ำราดหมูแดงและเครื่องเคียง
• น้ำที่เหลือจากการหมักหมู
• น้ำที่เหลือจากการย่างหมู
• งาขาวคั่ว
• แป้งมันสำปะหลังละลายน้ำ
• ข้าวสวย
• แตงกวาสไลซ์
• ต้นหอม
• ผักชี
วิธีทำ
1. ทำซอสสำหรับหมักหมู ผสมน้ำมันงา น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำผึ้ง ผงพะโล้ สีผสมอาหาร กระเทียมสับ และพริกไทยป่น คนผสมจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นใส่สันคอหมูลงไปหมัก คลุกให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
2. ทำไข่ต้ม โดยต้มไข่ไก่ในน้ำ ใส่เกลือและน้ำส้มสายชูลงไปด้วย ต้มนานประมาณ 10 นาทีหลังจากน้ำเดือด ตักใส่ลงแช่ในน้ำเย็น ปอกเปลือกไข่ต้มออกแล้วนำไปคลุกลงในสีผสมอาหารที่ผสมน้ำไว้จนสีติดไข่ต้ม (ความเข้มของสีตามต้องการ) ตักขึ้น ผ่าครึ่งฟอง เตรียมไว้
3. ทำหมูแดงโดยนำหมูที่หมักไว้เข้าเตาอบ (ถ้าไม่มีสามารถใช้หม้ออบลมร้อน หรือย่างบนเตาถ่านก็ได้) หมั่นกลับด้านหมู อบจนสุกและเริ่มมีน้ำจากหมูหยดออกมา หั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดตามต้องการ
4. ทำน้ำราดหมูแดง โดยผสมน้ำที่เหลือจากการหมักหมูและน้ำที่หยดออกมาจากหมูในขณะย่าง นำขึ้นตั้งไฟ เติมน้ำสะอาดลงไปต้มจนเดือด จากนั้นเติมงาขาวคั่วและแป้งมันละลายน้ำลงไป เคี่ยวจนเหนียวตามต้องการ เติมน้ำมันงาเล็กน้อย (เพื่อเพิ่มความหอมและมันวาว) ยกลงจากเตา เตรียมไว้
5. วางเนื้อหมูลงบนข้าวสวย ตามด้วยไข่ต้ม แตงกวา ต้นหอม และผักชี ราดน้ำหมูแดงลงไป พร้อมเสิร์ฟ
วิธีทำหมูกรอบ
ส่วนผสม หมูกรอบ
• หมูสามชั้น 1 แผ่น หนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม (วิธีเลือกหมูสามชั้น เลือกตรงส่วนพื้นท้องค่ะ เพราะหมูส่วนนี้จะนุ่มดี แล้วก็มีชั้นเนื้อชั้นไขมันที่ทอดออกมาแล้วจะไม่กระด้าง อีกทั้งสีสวยงามมากกว่าสามชั้นส่วนอื่น ควรเลือกส่วนที่มีชั้นไขมันไม่มากนัก อีกทั้งมีชั้นไขมันสม่ำเสมอกัน)
• น้ำเปล่า 10 ถ้วย
• เกลือป่น 85 กรัม
• น้ำมันปาล์มสำหรับทอด (เยอะมาก ๆ)
วิธีทำหมูกรอบ
1.ใช้มีดโกนขูดขนอ่อน ๆ ออกให้หมด (หากมีคราบอะไรติดมาให้ใช้แปรงสีฟันขัดออกให้หมด) นำไปล้างให้สะอาด จากนั้นก็บั้งตามแนวยาวเป็น 3 รอย
2. ตั้งหม้อหรือกระทะบนเตาไฟ ใส่น้ำเปล่าและเกลือป่นลงไปต้ม รอน้ำเดือดแล้วใส่หมูทั้งชิ้นลงไปต้ม (น้ำไม่ต้องท่วมหมูทั้งชิ้นก็ได้นะคะ แต่อย่างน้อยให้ท่วมมากกว่า 3/4 ชิ้น) โดยให้คว่ำด้านหนังลง ต้มประมาณ 40 นาที แล้วค่อย ๆ พลิกเอาด้านเนื้อกลับลงไปต้มต่ออีกประมาณ 5 นาที พอครบเวลาให้ใช้ตะหลิวโปร่ง ๆ ตักชิ้นหมูขึ้นจากกระทะ แล้วก็เอาไปวางพักบนตะแกรง จากนั้นนำไปตากแดดจัดหรืออบด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ1 ชั่วโมง จนหนังหมูแห้ง
3. นำหมูที่แห้งแล้วมาทอดในน้ำมันเยอะ ๆ (ไม่ต้องให้น้ำมันท่วมหมูทั้งชิ้นก็ได้ อย่างน้อยให้ท่วมสักครึ่งหนึ่ง) โดยเอาด้านหนังลงไปทอดก่อน ซึ่งช่วงแรกใช้ไฟกลางค่อนมาทางแรงประมาณ 70% พอด้านหนังเหลืองดีแล้วก็พลิกกลับอีกด้านลงไปทอด และลดไฟลงเหลือประมาณ 60% ทอดต่อไปจนหมูเหลืองทั้งสองด้าน
ส่วนผสม น้ำราดหมูกรอบ
วิธีทำน้ำราดหมูกรอบ
1. คั่วอบเชย โป๊ยกั๊ก ผงพะโล้ รากผักชีทุบพอแตก ให้หอม ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปคนผสมจนละลาย รอจนให้กลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม แล้วก็ใส่น้ำที่เหลือจากการต้มหมูลงไปเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทยป่น ซีอิ๊วขาว รอเดือดแล้วชิมรสชาติตามชอบ
2. นำส่วนผสมไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ประมาณ 5 นาที แล้วก็ค่อยใส่แป้งเท้ายายม่อมที่ละลายน้ำแล้วลงไป พอเดือดอีกครั้งให้ปิดไฟ ใส่เหล้าจีนกับน้ำมันงาไปอย่างละเล็กน้อย คนให้เข้ากัน
3. ยกลงจากเตา ตั้งพักไว้ให้อุ่น ๆ ใส่งาขาวคั่ว กับถั่วลิสงคั่วลงไป คนให้เข้ากัน เสิร์ฟพร้อมข้าวหมูกรอบที่เตรียมไว้
ข้าวขาหมูหอมกลิ่นพะโล้ แต่เวลาซื้อมากินทำไมหมูไม่นุ่ม เหม็นคาว น้ำขาหมูก็จืดไม่อร่อยเลย เลยอยากลองทำข้าวขาหมูกินเองที่บ้าน ซึ่งมีสูตรเด็ด คือใส่น้ำอัดลมลงไปด้วยจะช่วยให้ขาหมูเปื่อยเร็ว ได้เนื้อที่นุ่ม รสชาติหวานกลมกล่อมอีกด้วย เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ อิ่มอร่อยอย่าบอกใครเชียว
ส่วนผสม ข้าวขาหมู
วิธีทำข้าวขาหมู
1. ล้างขาหมูให้สะอาด ขูดเอาขนออกให้หมด
2. ใส่ขาหมูลงในหม้อ เติมน้ำให้ท่วมขาหมู นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ด ผงพะโล้ และน้ำอัดลมกลิ่นโคล่า ต้มจนเดือด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและซีอิ๊วดำ ปิดฝาเคี่ยวจนขาหมูเปื่อย และน้ำเริ่มงวด ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่ไข่เป็ดต้มลงไป ปิดไฟ
3. หั่นขาหมูเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมไข่เป็ดต้ม ผักกาดดอง และผักคะน้าลวก พร้อมรับประทานคู่กับข้าวสวย และน้ำจิ้ม
วิธีทำน้ำจิ้มข้าวขาหมู
• โขลกพริกชี้ฟ้าสีเหลือง หรือสีแดงให้ละเอียด ผสมน้ำส้มสายชู และน้ำตาลทรายให้เข้ากัน เตรียมไว้กินคู่กับข้าวขาหมู
อาหารจานเดียวสีเหลืองขมิ้นกลิ่นหอมรัญจวนใจอย่างข้าวหมกไก่ อาหารสไตล์อินเดียถูกปากคนไทย ข้าวหมกกินคู่กับไก่ และน้ำจิ้มสะระแหน่สีเขียวมรกต ตำรับแท้ดั้งเดิมของชาวมุสลิม รสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ สำหรับคนชื่นชอบกลิ่นเครื่องเทศแล้วละก็คงต้องลองทำแล้วจะกินอิ่มกันทั้งครอบครัว สูตรนี้ใช้ผงข้าวหมกสำเร็จรูป และยังใช้หม้อหุงข้าวมาทำข้าวหมก เห็นไหมคะว่าวิธีทำง่าย ลองทำดูค่ะ [สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม ไก่หมก
วิธีทำไก่หมก
1. ใช้ส้อมจิ้มสะโพกไก่ให้เป็นรูพรุน ใส่ผงข้าวหมกและโยเกิร์ต คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นข้ามคืน เตรียมไว้ (ก่อนนำไก่มาใช้ นำเนื้อไก่ออกมาคลุกเคล้าอีกรอบแล้วทิ้งไว้ให้คลายความเย็น)
2. ตั้งกระทะบนเตา ใส่เนยแขกลงไป ตามด้วยหอมแดง กระเทียม และขิงสับละเอียดลงไป ผัดให้หอมแดงสุกและใส ใส่เนื้อไก่หมักลงไปจี่ในเครื่องแกงเพื่อให้มีกลิ่นหอม พอชิ้นไก่เริ่มเกรียมเล็กน้อยให้กลับด้าน ทอดแบบไม่ต้องสุกมาก ตักใส่ชาม เตรียมไว้
น้ำจิ้มข้าวหมกไก่
ส่วนผสม น้ำจิ้มสะระแหน่
วิธีทำน้ำจิ้มสะระแหน่
1. นำหม้อขึ้นตั้งเตา ใส่น้ำส้มสายชู และน้ำตาลทรายลงไปเคี่ยว จนน้ำตาลทรายละลาย พักไว้จนเย็น
2. ใส่กระเทียม พริก ผักชีไทย และใบสะระแหน่ ลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมให้ละเอียด เทใส่ลงในส่วนผสมน้ำส้มสายชู เติมเกลือป่น ชิมรสให้ออกเปรี้ยว ๆ โดยให้รสหวานนำ (น้ำจิ้มสูตรนี้นำไปกินคู่กับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนได้) อาจเพิ่มพาร์มีซานชีส และไพน์นัท หรือถั่วต่าง ๆ ลงไป
ข้าวหมก
ส่วนผสม ข้าวหมก
• ข้าวหอมมะลิ 2 ถ้วย
• น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย
• ผงข้าวหมกสำเร็จรูป
• น้ำพริกแกงกุรุหม่า
1. ซาวข้าวสารให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ใส่ผงข้าวหมกสำเร็จรูป น้ำพริกแกงกุรุหม่าในกระทะ จากนั้นนำข้าวสารที่ซาวแล้วลงผัดกับเครื่องแกงในกระทะ คลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่ว ยกลงจากเตา
3. ใส่ข้าวหมกลงหม้อหุงข้าว วางชิ้นไก่บนข้าว (หรือวางเรียงสลับกัน) เติมน้ำซุปไก่ลงไป
4. ตั้งโปรแกรมหุงข้าว ก่อนที่ข้าวจะสุกให้ใช้พายไม้หรือพายยางลงไปคนข้าวจากด้านล่างขึ้นมาด้านบน วิธีนี้จะทำให้ข้าวสุกทั่ว มีปัญหาข้าวดิบเนื่องจากน้ำซุปที่ใส่ไปอาจจะไม่ท่วมข้าวด้านบน ทำให้ส่วนบนไม่สุกทั่ว รอจนข้าวสุก (ถ้าข้าวไม่เหลืองให้เติมหญ้าฝรั่นลงไปเพื่อเพิ่มความเหลือง หญ้าฝรั่นไม่ได้ช่วยให้มีสีเหลือง แต่สีเหลืองมาจากผงขมิ้นและผงกะหรี่)
5. ตักข้าวใส่จาน วางทับด้วยชิ้นไก่ โรยหน้าด้วยหอมเจียว จัดวางผักต่าง ๆ แตงกวา ต้นหอม ผักกาดหอม โรยหน้าด้วยผักชีเพิ่มความสวยงาม ใบสะระแหน่สด ตัดความเหลือง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสะระแหน่
ใครชอบกินต้มยำกุ้งบ้างคะ เสิร์ฟร้อน ๆ จนต้องเป่าปาก เหงื่อไหลไคลย้อยกันตลอดเวลาเลยใช่ไหมคะ ลองเปลี่ยนสไตล์มากิน ข้าวผัดต้มยำกุ้ง อาหารจานเดียวที่จำแลงมา กินง่าย ไม่ลวกปาก มีส่วนผสมของเครื่องต้มยำครบถ้วน รสชาติเผ็ดร้อนเข้มข้นเครื่องจัดเต็ม นี่ขนาดว่าเห็นแค่ภาพยังน่ากินขนาดนี้ ถ้าได้ทำเองกินเองจะอร่อยขนาดไหน [สูตรจาก คุณบูตะ กะ กิมจิ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม ข้าวผัดต้มยำกุ้ง
วิธีทำข้าวผัดต้มยำกุ้ง
1. เริ่มจากเจียวพริกขี้หนู และกระเทียมในน้ำมันร้อน ๆ แล้วใส่กุ้งตามลงไป
2. จากนั้นใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง มะเขือเทศ และเห็ดฟางลงไปในกระทะ ผัดให้เข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซุปก้อน ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย น้ำมะนาว และน้ำพริกเผา
4. ใส่ข้าวสวยลงไปผัดให้เข้ากัน
5. โรยด้วยพริกไทย ตามด้วยต้นหอมซอย จัดแต่งจานให้สวยงาม แล้วยกเสิร์ฟได้เลย
ใครอยากกินอาหารเส้นผัดแห้ง ๆ บ้างคะ ลองทำเส้นหมี่ผัดผักกระเฉด รสชาติจัดจ้าน ขั้นตอนง่าย ๆ รับรองว่าเมนูนี้ต้องถูกปากคนที่ชอบเส้นหมี่ขาวแน่นอน แถมยังได้ลิ้มรสอาหารทะเลทั้งกุ้งและปลาหมึก ผสานความกรุบกรอบของผักกระเฉดด้วย แค่นึกก็คันไม้คันมืออยากควงตะหลิวกันแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้น เราไปดูส่วนผสมและขั้นตอนการทำกันเลยดีกว่า [สูตรจาก คุณบูตะ กะ กิมจิ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม หมี่ผัดผักกระเฉด
วิธีทำหมี่ผัดผักกระเฉด
1. นำมันกุ้งมาผสมน้ำเปล่า น้ำปลา และน้ำมะนาวให้ได้รสชาติตามที่ต้องการ
2. ตั้งน้ำเปล่าในกระทะให้เดือดจัด แล้วนำเส้นหมี่ขาวที่แช่น้ำแล้วใส่ลงไปในน้ำเดือด จากนั้นนับ 1-10 แล้วนำกระชอนช้อนเส้นหมี่ขาวออก ราดน้ำเย็นหรือเปิดน้ำเปล่าผ่านเส้น (เพื่อหยุดความสุกของเส้น ไม่ให้เส้นสุกจนเกินไป) สะเด็ดน้ำออกพักไว้
3. ใส่น้ำมันลงในกระทะ รอให้น้ำมันร้อนสักพัก ใส่พริกขี้หนูและกระเทียมลงไปผัดให้เข้ากัน เทส่วนผสมมันกุ้งลงในกระทะแล้วคนให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป เคี่ยวจนน้ำตาลปี๊บละลาย ชิมรสตามชอบ
4. เมื่อได้รสชาติตามที่ต้องการแล้ว ใส่กุ้งกับปลาหมึกลงไปผัดแล้วใส่เส้นตามทันที ในขั้นตอนนี้ อย่าผัดกุ้งกับปลาหมึกนานเกินไปนะคะ ไม่เช่นนั้นเนื้อจะแข็งค่ะ
5. คลุกเคล้ากุ้ง ปลาหมึก และเส้นหมี่ขาวให้เข้ากัน จากนั้นดันเส้นที่ผัดแล้วไว้ข้างกระทะ แล้วใส่ผักกระเฉดลงไป ต่อมาก็กลบผักกระเฉดด้วยเส้นหมี่ขาวที่ผัดแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาทีแล้วปิดไฟทันที (แนะนำว่า ในขั้นตอนนี้ อย่าให้ผักกระเฉดโดนความร้อนนานเกินไป เพราะผักกระเฉดอาจหายกรอบได้ค่ะ เมื่อปิดไฟแล้วให้คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน แค่นี้ก็ได้เมนูเส้นหมี่ผัดผักกระเฉดสมใจแล้วจ้า)
12. วุ้นเส้นผัดผักกระเฉด
สำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ลองเปลี่ยนจากเมนูเส้นหมี่ผัดผักกระเฉด มาทำวุ้นเส้นผัดผักกระเฉดกันบ้างดีกว่าค่ะ ลดปริมาณแป้งลงไปได้เยอะทีเดียว แต่รับรองว่ายังคงคอนเซ็ปต์อาหารจานเดียวรสจัดอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ไม่ต้องการใส่กุ้ง หรือหมู ลงไปผัดก็ใส่พวกเต้าหู้ เนื้อไก่ หรือเห็ดแทนได้นะคะ [สูตรจาก คุณเนินน้ำ]
ส่วนผสม วุ้นเส้นผัดผักกระเฉด
• วุ้นเส้นแช่น้ำจนนุ่ม
• น้ำมันพืช
• กระเทียมสับ
• พริกขี้หนูโขลกหยาบ
• กุ้งสด (ปอกเปลือกเหลือหางไว้ ผ่าหลังเอาเส้นดำออก)
• ผักกระเฉดเด็ดยอดอ่อน
• หมูหมัก
• น้ำตาลทราย
• ซอสหอยนางรม
• ซีอิ๊วขาว
วิธีทำวุ้นเส้นผัดผักกระเฉด
1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ นำขึ้นตั้งบนไฟกลางพอร้อน ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูลงผัดให้เหลืองหอม
2. ใส่หมูหมักลงผัดให้สุก ใส่กุ้งผัดให้สุกทั่ว ตักขึ้นพักไว้ก่อน เพื่อไม่ให้กุ้งสุกเกินไปเพราะเนื้อจะแข็งไม่อร่อย
3. ใส่วุ้นเส้นลงไปผัด เร่งไฟแรง ใส่น้ำสะอาดลงไปผัดให้วุ้นเส้นสุก
4. ใส่ผักกระเฉด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซอสหอยนางรม และซีอิ๊วขาว
5. ใส่กุ้งและหมูที่ผัดไว้ ผัดให้เข้ากันดีด้วยไฟแรง อย่าผัดนาน เพื่อไม่ให้ผักกระเฉดเหนียว ตักใส่จานเสิร์ฟ
ข้าวหน้าไก่ อาหารจานเดียว เมนูทำง่าย ๆ แถมยังกินง่ายอีกด้วย อร่อยถูกปากผู้คนทุกเพศทุกวัย เนื้อไก่นุ่ม ๆ พร้อมกลิ่นหอมของกระเทียมเจียวที่เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ เห็นแล้วยั่วน้ำลายจริง ๆ ว่าแล้วต้องลองเข้าครัวทำตามหน่อยเสียแล้ว เคล็ดลับการทำข้าวหน้าไก่อร่อย ๆ พร้อมจะเฉลย ณ บัดนี้ [สูตรจาก คุณบูตะ กะ กิมจิ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม ข้าวหน้าไก่
วิธีทำข้าวหน้าไก่
1. นำเนื้อไก่อ่อนที่เตรียมไว้ เลาะกระดูกออกให้เรียบร้อย หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าใหญ่ ๆ หมักด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม เหล้าจีน น้ำมันงา และแป้งข้าวโพด หมักไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวให้หอม นำไก่ที่เตรียมไว้ลงไปผัด ไม่ต้องรอให้ไก่สุกมาก ใส่เห็ดฟางตามลงเลย เติมน้ำเปล่าลงไป
3. เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ชิมรสก่อนปรุงเพิ่ม เพราะเนื้อไก่ที่หมักมีรสชาติอยู่แล้ว ถ้าไม่เค็มก็เติมซีอิ๊วขาวได้ ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วดำ และพริกไทยป่น
4. ปรุงรสชาติตามชอบแล้ว หรี่ไฟให้เบาลง เติมแป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป ค่อย ๆ คนพอน้ำข้น ๆ เหนียว ๆ ก็ปิดไฟได้เลย จัดจานข้าวหน้าไก่ พร้อมกุนเชียงทอด ถ้ามีพริกชี้ฟ้าเขียวหั่นท่อนเคียงด้วยก็ได้
ผัดไทย อาหารไทยจานโปรดที่ถูกใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เราจะเห็นแต่ผัดไทยเส้นจันท์ หรือผัดไทยวุ้นเส้น ลองประยุกต์ผัดไทยให้เป็นสไตล์ใหม่ ๆ ดูบ้างดีไหม กับไอเดียที่หยิบเกี๊ยวทอดมาแทนเส้นผัดไทย คลุกเคล้าด้วยส่วนผสมแบบผัดไทยเป๊ะ ๆ ตักเข้าปากชิมสักคำจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่แตกต่างไปจากผัดไทยจานเดิม ๆ แน่นอน [สูตรจาก คุณ swin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม เกี๊ยวปู
• แผ่นเกี๊ยวแบบหนา
• เนื้อปู
• หมูสับ
• แป้งมันสำปะหลัง (หรือแป้งข้าวโพด)
วิธีทำเกี๊ยวปู
1. นำเนื้อปู และหมูสับใส่อ่างผสม โรยแป้งข้าวโพดลงไป
2. นำส่วนผสมไส้ห่อด้วยแผ่นเกี๊ยวแบบหนา (แผ่นเกี๊ยวจะมี 2 แบบ แบบบางและหนา แผ่นเกี๊ยวบางไว้ทำเกี๊ยวทานกับบะหมี่ และเกี๊ยวน้ำ ส่วนแผ่นเกี๊ยวหนาจะไว้ทำเกี๊ยวกรอบ เวลาไปซื้อแผ่นเกี๊ยวก็สอบถามแม่ค้าก่อน)
3. ทอดเกี๊ยวจนสุกกรอบ เตรียมไว้
ส่วนผสม ผัดไทย
• เกี๊ยวปูกรอบ
• กุ้งสด
• กระเทียม
• เต้าหู้ทอด
• มะขามเปียก
• น้ำปลา
• ถั่วงอก
• น้ำผัดไทยสำเร็จรูป
วิธีทำผัดไทย
1. ใส่กระเทียมลงไปผัดพอหอม ใส่กุ้งสดตามลงไป ใส่น้ำผัดไทยลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ใส่เต้าหู้ทอด ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา ใส่ถั่วงอก ผัดพอถั่วงอกสุก ใส่เกี๊ยวทอดไปคลุก ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
เบื่อกับเส้นบะหมี่เหลืองแบบนิ่ม ๆ กันหรือยังคะ หันมาลองกินเส้นบะหมี่เหลืองทอดกรอบกันบ้างดีกว่า กับอาหารจานเดียว หมี่กรอบราดหน้าหมูหมักสูตรเด็ด อร่อยกรุบกรอบไปกับเส้นหมี่เหลืองทอด ราดน้ำเหนียว ๆ ชุ่มฉ่ำ กินกับหมูนุ่ม ๆ และยอดคะน้า บอกได้คำเดียวว่า จานเดียวไม่พอ ถ้าใครอยากประยุกต์นำเส้นหมี่ขาวไปทอดกรอบแทนบะหมี่เหลืองก็ได้นะคะ อร่อยเหมือนกัน [สูตรจาก คุณเนินน้ำ]
ส่วนผสม หมี่กรอบราดหน้าหมูหมัก
วิธีทำหมี่กรอบราดหน้าหมูหมัก
1. ตั้งกระทะใช้ไฟแรงใส่น้ำมันพืชให้ร้อน จากนั้นใส่บะหมี่เหลืองลงไปทอดให้เหลืองกรอบ ระวังไหม้ด้วยค่ะ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
2. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำซุปลงไป ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว น้ำปลา และน้ำตาลทราย เมื่อน้ำเดือดจึงใส่หมูหมักลงไป รอจนหมูสุก จึงละลายแป้งมันฮ่องกงใส่ลงไปให้น้ำข้น ใส่ยอดคะน้าพอผักสลดก็ปิดไฟ ผักจะได้กรอบ ๆ เขียว ๆ นะคะ
3. ตักราดบนบะหมี่เหลืองทอดกรอบที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวและพริกไทยป่น พร้อมเสิร์ฟค่ะ
16. หอยทอด
หอยทอด หอยตัวโตใส่แป้งทอดกรอบ ราดน้ำจิ้มชุ่ม ๆ รสชาติแซ่บเว่อร์ หากใครอยากลองทำหอยทอดทานเองไม่ต้องหากระทะใบใหญ่เหมือนคนขายหรอกค่ะ กระทะเทฟลอนหรือกระทะเหล็กบ้าน ๆ ก็เอาอยู่ หน้าตาออกมาน่ากินเหมือนทานที่ร้านเลย วิธีทำหอยทอดก็ไม่ยุ่งยาก พร้อมแล้วก็ลงมือกันเลย [สูตรจาก คุณ IndyLand สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม หอยทอด
วิธีทำหอยทอด
1. ทำแป้งหอยทอด โดยผสมแป้งข้าวโพด แป้งทอดกรอบ แป้งสาลีอเนกประสงค์ และน้ำเย็นจัด คนให้เข้ากัน หมั่นคนแป้งเรื่อย ๆ ไม่ให้นองก้น
2. เทน้ำมันลงกระทะพอประมาณ ตั้งไฟรอไว้ให้น้ำมันร้อน ระหว่างนั้น ตักแป้งแบ่งมาทีละน้อยใส่หอยแมลงภู่ และต้นหอม คนผสมให้เข้ากัน
3. เตรียมตะหลิวไว้สองอันใช้ตัดแบ่งและช่วยพลิกกลับด้าน รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นเทส่วนผสมลงในกระทะ กระจายให้ทั่ว ๆ ตอกไข่ไก่ใส่ตามไปติด ๆ ยีให้กระจายทั่วทั้งแผ่น
4. ทอดจนเริ่มเซตตัวและเริ่มกรอบ พอใกล้จะไหม้ให้พลิกด้าน (ทำหลาย ๆ แผ่นเข้าจะเริ่มชำนาญ สามารถกำหนดระดับ ความหนา-บาง กรอบมาก-กรอบน้อยได้) เสร็จแล้วตักขึ้นมาพัก ซับน้ำมันเสียหน่อยนะคะ
5. ใส่ถั่วงอกดิบผัดกับน้ำมันพืชที่เหลือติดกระทะ อย่าให้นานจนเกินไป (จะได้กรอบนิด ๆ)
6. ตักหอยทอดวางบนถั่วงอกผัด โรยพริกไทยป่น ตามด้วยต้นหอม และผักชี แต่งหน้าด้วยถั่วงอกดิบ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม
17. ข้าวกะเพรากุนเชียง
กะเพราไม่จำเป็นต้องใส่หมู ใส่ไก่ ใส่กุ้งหรือปลาหมึกเสมอไป เราสามารถนำกะเพรามาใส่กุนเชียงได้ด้วยนะเออ หวาน ๆ เผ็ด ๆ กับเมนูข้าวกะเพรากุนเชียง เวลาทอดกุนเชียงก็ได้กลิ่นหอมยั่วยวนอยู่แล้ว ยิ่งเอาใบกะเพรามาผัดรวมเข้าไปอีกกลิ่นยิ่งหอมหวนเชียวล่ะ แถมยังมีพริกขี้หนูเพิ่มรสเด็ดเผ็ดจัดจ้านสไตล์ผัดกะเพรา อย่ารอช้า มื้อเย็นกำลังใกล้เข้ามาแล้ว รีบเข้าครัวกันเถอะค่ะ [สูตรจาก เว็บไซต์ Ching Can Cook]
ส่วนผสม ข้าวกะเพรากุนเชียง
วิธีทำข้าวกะเพรากุนเชียง
1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟจนน้ำมันร้อน เจียวกระเทียมสับและพริกขี้หนูสวนสับจนหอม
2. ใส่กุนเชียงลงไป ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้ำปลา ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ปิดไฟ ใส่ใบกะเพรา ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
ก๋วยเตี๋ยวหลอด อาหารจานเดียวสุดฮิตที่กินอิ่มแบบเบ็ดเสร็จ เสน่ห์ของก๋วยเตี๋ยวหลอดอยู่ที่น้ำซอสรสเค็มหวานกลมกล่อมกับเครื่องเครานานาชนิด กินคู่กับเส้นก๋วยเตี๋ยวห่อไส้ถั่วงอก หมูสามชั้น เต้าหู้เหลือง ไชโป๊ ซึ่งทุกวันนี้หาอร่อย ๆ ยากเหมือนกัน ทำกินเองยังง่ายเสียกว่า เราเลยนำสูตรก๋วยเตี๋ยวหลอดมาฝากให้ลองทำเป็นเมนูอร่อย ๆ กินกันเองง่าย ๆ ที่บ้าน [สูตรจาก เว็บไซต์ Ching Can Cook]
ส่วนผสม ก๋วยเตี๋ยวหลอด
วิธีทำก๋วยเตี๋ยวหลอด
1. ใส่น้ำสะอาดลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่กระเทียมทุบและรากผักชีทุบลงไป
2. ใส่หมูสามชั้น ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำปลา ซีอิ๊วดำ และน้ำตาลทราย
3. ปิดฝาหม้อ ตุ๋นด้วยไฟอ่อนนานประมาณ 40 นาที จากนั้นใส่เต้าหู้เหลืองลงไป ตุ๋นต่ออีก 15 นาที โรยพริกไทยป่น เป็นอันเสร็จ
4. ระหว่างรอตุ๋น ให้ห่อถั่วงอกด้วยก๋วยเตี๋ยวเส้นแผ่นใหญ่ (ไม่ต้องใส่ถั่วงอกมากไปนะคะ) แล้วนำไปนึ่งประมาณ 10 นาที จัดใส่จาน แล้วใช้กรรไกรตัดเป็นท่อน ๆ เตรียมไว้
5. ตักส่วนผสมน้ำราด ราดลงบนเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ตัดไว้ โรยหน้าด้วยไชโป๊หวาน กุ้งแห้งทอด กระเทียมเจียว พริกไทยป่น ต้นหอมซอย และผักชีซอย พร้อมเสิร์ฟ
เมนูก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ เมนูเส้นอิ่มอร่อยสำหรับมื้อกลางวันที่จะถึงนี้ ถ้าผัดใช้ไฟแรงกลิ่นจะหอมฉุยกระตุ้นต่อมน้ำลายมาก คั่วไก่ อาหารจานเดียว เมนูเส้นสุดฮิตอีกหนึ่งจานที่น่าลองทำกินกันดู เหมาะสำหรับเด็ก ๆ หรือคนที่ไม่กินเผ็ดมาก ทำกินเองง่าย ๆ มาเข้าครัวกันเถอะ [สูตรจาก เฟซบุ๊ก iCook by KuCook]
ส่วนผสม คั่วไก่
วิธีทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตอกไข่ใส่ลงไป ยีจนไข่แดงแตก ใส่ไชโป๊หวานและใส่เนื้อไก่ลงไปคลุกเคล้าจนสุก
2. ใส่เส้นใหญ่ลงไปผัดจนนุ่ม
3. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. ปิดไฟ ใส่ผักกาดหอมลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน โรยด้วยพริกไทยป่น เสิร์ฟพร้อมซอสพริก
ข้าวหมูทอดกระเทียมพริกไทยดำ เหมาะสำหรับคนหิวแบบด่วน ๆ มาก ทำง่ายกินง่าย ราดบนข้าวสวยร้อน ๆ แกล้มกับผักสดและหยอดพริกน้ำปลาหน่อย รสเด็ดสุดยอดเลย ถ้าหากเบื่อหมูแล้วจะเปลี่ยนเป็นไก่แทนก็ได้เหมือนกัน โปะไข่ดาวสักฟองก็เพิ่มโปรตีนดีนะเออ อย่ามัวชักช้ารีบไปทำกินกันเลย [สูตรจาก คุณน้องซาแมนต้า สมาชิกเว็บไซต์พับทิปดอทคอม]
ส่วนผสม ข้าวหมูทอดกระเทียม (เจ้าของสูตรใช้วิธีกะปริมาณ)
วิธีทำข้าวหมูทอดกระเทียม
1. โขลกกระเทียม พริกไทยดำ และเกลือสมุทรเข้าด้วยกันจนละเอียด
2. นำส่วนผสมที่โขลกไว้ลงไปผสมคลุกเคล้ากับเนื้อหมู ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำมันพืชลงไปคลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน หมักทิ้งไว้ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
3. นำกระทะขึ้นตั้งไฟใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย พอน้ำมันร้อนใส่หมูที่หมักไว้ลงไปทอดให้สุกเหลือง ตักราดลงบนข้าวสวยร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมแตงกวาและพริกน้ำปลา
จบไปแล้วสำหรับ 20 สูตรอาหารจานเดียวสุดฮิต ที่คัดสรรมาสำหรับคนที่มีเวลาน้อย แต่ละเมนูเด็ด ๆ ทั้งนั้น ใช้เวลาในการทำไม่นาน จะทำกินในมื้อไหน ๆ ก็อร่อย ทำกินกันเองในครอบครัวก็สนุกสนาน หรือจะทำกินในหอพักก็มีวิธีทำง่าย ๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ แต่ละเมนูสามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้ตามแต่ใจปรารถนาเลยค่า