14 สูตรยำผักสด จานเด็ดรสแซ่บไม่ต้องอดก็ผอมได้ อาหารจานเดียว

Home » 14 สูตรยำผักสด จานเด็ดรสแซ่บไม่ต้องอดก็ผอมได้ อาหารจานเดียว


ยำผักสด

          อยากหุ่นเพรียวกันใช่ไหม ? เชิญมาแซ่บกับเมนูยำผักสด อาหารจานเดียว อร่อยอย่างมีคุณค่า ผอมได้ไม่ต้องอด 

          เมนูยําผักลดความอ้วน หรือเมนูยำผักลดน้ำหนัก เป็นอีกหนึ่งเมนูไดเอตสุดฮิตสำหรับสาว ๆ นอกจากแคลอรีต่ำแล้วยังได้สุขภาพ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 14 เมนูยำผักสด แต่ละจานเป็นเมนูยำผักพื้นบ้าน และใช้ผักเพียงชนิดเดียวเท่านั้น ถ้าหากชอบผักหลายอย่างก็ทำเป็นเมนูยําผักรวมก็ได้ มื้อเย็นนี้ถ้าหากคิดอะไรไม่ออกก็มาทำเมนูยำผักสมุนไพรกันนะคะ กินได้เยอะไม่ต้องกลัวอ้วน

ยำผักสด

1. ยำผักบุ้งกรอบ

          ยำผักบุ้งทั่วไปกินบ่อยก็เบื่อ ลองสลับมาทำเมนูยำผักบุ้งกรอบ สูตรจาก คุณดอกการะเวก นอกจากได้ลิ้มรสผักบุ้งกรอบ ๆ แล้วยังฟินไปกับน้ำยำเครื่องแน่นอีก กินแค่จานเดียวก็อิ่มสบายท้องแล้วจ้า

ส่วนผสม ยำผักบุ้งกรอบ

          • ผักบุ้งจีน 2 กำ (ปริมาณมากน้อยแล้วแต่ความต้องการ แต่ในที่นี้ใช้แบบที่ขายในตลาด กำละ 5 บาท 2 กำ)
          • แป้งทอดกรอบ (ใช้ครั้งละประมาณ 150 กรัม)
          • น้ำเย็นจัด 300 มิลลิลิตร
          • น้ำมันพืช
          • ถั่วลิสงคั่ว
          • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด
          • หอมแดงเจียว
          • กุ้งลวกสุก
          • หมูสับลวกสุก
          • น้ำตาลทราย (ในที่นี้ใช้น้ำตาลทรายป่น) 3 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำมะนาวคั้น 100% 3 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • พริกชี้ฟ้าแดงหั่น
          • หอมแดงซอย
          • ต้นหอมซอย
          • ผักชีซอย

วิธีทำยำผักบุ้งกรอบ

          1. นำผักบุ้งล้างน้ำให้สะอาดแล้วเด็ดเอายอด หรือจะเด็ดเป็นใบ ๆ ก็ได้
          2. ผสมแป้งทอดกรอบ 150 กรัม กับน้ำเย็น 300 มิลลิลิตร จะได้แป้งที่มีลักษณะข้น ๆ เหนียว ๆ ทั้งนี้ ถ้าผสมข้นมากไป แป้งจะเกาะผักหนามากเกินไป เวลาทอดจะอมน้ำมัน และถ้าผสมเจือจางเกินไป แป้งก็จะไม่เกาะติดผัก เวลาทอดก็จะไม่กรอบ
          3. ตั้งกระทะให้ร้อนใส่น้ำมันปริมาณมากหน่อย กะให้ท่วมผักเลยนะคะแล้วใส่ผักบุ้งที่เด็ดแล้วลงไปในชามส่วนผสมแป้ง
          4. นำยอดผักบุ้งที่ชุบแป้งลงไปทอด โดยแป้งที่ผสมต้องเคลือบผักถึงจะทอดออกมาได้สวย เวลาทอดอย่าใส่ผักบุ้งลงไปเยอะ เดี๋ยวจะกรอบไม่ทั่วถึง
          5. แบ่งทอดทีละนิดจนหมด โดยใช้ไฟกลางค่อนข้างแรง หากใช้ไฟอ่อนจะทำให้อมน้ำมัน กินไม่อร่อยแน่ ๆ
          6. เมื่อทอดเสร็จแล้ว โรยหน้าผักบุ้งกรอบด้วยถั่วลิสงคั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด และหอมแดงเจียว
          7. จากนั้นไปทำน้ำยำกันนะคะ เตรียมชาม หรือกะละมังขนาดย่อม แล้วใส่น้ำตาลทราย ตามด้วยน้ำมะนาว เน้นมาก ๆ ว่าต้องเป็นน้ำมะนาวคั้น 100% นะคะ เพราะน้ำยำจะอร่อยก็อยู่ตรงนี้ค่ะ ใส่น้ำปลา เลือกยี่ห้อที่ชอบ จากนั้นก็คนให้เข้ากัน ใส่พริกชี้ฟ้าแดง หอมแดงซอย ต้นหอม และผักชีซอยค่ะ
          8. ใส่หมูสับและกุ้งที่ลวกเอาไว้แล้วลงไป คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้สักครู่ เพื่อให้น้ำยำเข้าเนื้อค่ะ จากนั้นก็ใส่จานพร้อมเสิร์ฟ จะทำแบบราดน้ำยำลงไปบนผักบุ้งกรอบ หรือทานแบบแยกก็ได้

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำผักบุ้งกรอบ เมนูแซ่บ ๆ ที่อยากให้ทุกคนลองชิม

++++++++++++++++++++

ยำผักสด

2. ยำผักหวานใส่กุ้ง

          ต้มจืดผักหวานรสชาติจืดสมชื่อ ลองมาเพิ่มความแซ่บด้วยการจับมาทำเมนูยำผักหวานใส่กุ้ง สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน ผักหวานลวกคลุกเคล้ากับน้ำยำพริกเผาใส่กุ้งกับไก่ พร้อมเครื่องเคราสมุนไพร ข้าวสวยไม่ต้อง แค่เมนูยำผักสดจานนี้ก็อิ่มเว่อร์

ส่วนผสม ยำผักหวานใส่กุ้ง

          • ผักหวานเด็ดท่อนสั้น ๆ 250 กรัม
          • กุ้งสดปอกเปลือก ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ไว้หาง 10-12 ตัว
          • เนื้ออกไก่สับละเอียด 100 กรัม
          • น้ำเปล่า สำหรับลวก
          • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำมะนาว 3/4 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำพริกเผาสูตรเผ็ดกลาง 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • หอมแดงซอย 3 หัว
          • ต้นหอมหั่นท่อน 1 ต้น
          • ผักชีหั่นท่อน 1 ต้น
          • พริกชี้ฟ้าแห้งทอดหั่นท่อนสั้น ๆ 5 เม็ด
          • ข้าวซ้อมมือ

วิธีทำยำผักหวานใส่กุ้ง

          1. ต้มน้ำเปล่าให้เดือด นำผักหวานลงลวกประมาณ 10 วินาที ตักแช่ลงในน้ำเย็นจัดจนคลายร้อน ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
          2. ใส่กุ้งและเนื้ออกไก่สับลงลวกในน้ำเดือดจนสุก ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
          3. เตรียมน้ำยำ โดยผสมน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว และน้ำพริกเผาจนเข้ากันดี ใส่หอมแดงซอย เนื้ออกไก่ลวก กุ้งลวก และผักหวาน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
          4. โรยหน้าด้วยผักชี ต้นหอม และพริกชี้ฟ้าแห้งทอด เสิร์ฟพร้อมข้าวซ้อมมือ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำผักหวานใส่กุ้ง เมนูลดน้ำหนักจากผักพื้นบ้าน

++++++++++++++++++++

ยำผักสด

3. ยำผักบุ้ง

          กินผักบุ้งลวกจิ้มน้ำพริกทุกวันคงไม่ไหว ลองแบ่งมาทำเมนูยำผักบุ้ง สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน สูตรนี้เด็ดตรงที่เอาผักบุ้งกับกุ้งลวกในกะทิเพื่อให้นิ่มและหอมมัน ตบท้ายด้วยราดน้ำยำสีสันจัดจ้าน เพิ่มไข่ต้มสักฟอง ชักช้าอยู่ทำไม เข้าครัวกันเลย

ส่วนผสม ยำผักบุ้ง

          • ผักบุ้งไทย 150 กรัม
          • กุ้งสด (ปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำ) 5 ตัว
          • หางกะทิ (สำหรับลวกผักบุ้งและกุ้ง)
          • หัวกะทิ (สำหรับราด) 2-3 ช้อนโต๊ะ
          • หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
          • ไข่ต้มยางมะตูม 1 ฟอง
          • กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
          • ถั่วลิสงคั่ว (บุบพอแตก) 2 ช้อนโต๊ะ
          • พริกขี้หนูแห้งทอด 5 เม็ด

ส่วนผสม น้ำยำ

          • น้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ
          • หัวกะทิ 2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำปลา 1 ช้อนชา
          • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำยำ

          • ผสมน้ำพริกเผา หัวกะทิ น้ำปลา และน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน เตรียมไว้

วิธีทำยำผักบุ้ง

          1. หั่นผักบุ้งเป็นท่อนขนาด 1 เซนติเมตร เตรียมไว้
          2. ต้มหางกะทิพอเดือด ใส่ผักบุ้งลงลวก พอสุกตักขึ้น ใส่กุ้งลงลวกต่อ พอสุกตักขึ้น
          3. ใส่ผักบุ้งลงในภาชนะ ตามด้วยกุ้งลวก ราดน้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน ราดหัวกะทิ โรยหอมแดงเจียว กระเทียมเจียว ถั่วลิสง และพริกขี้หนูแห้งทอด เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มยางมะตูม

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำผักบุ้ง ไข่ต้มยางมะตูม เมนูยำบำรุงตาให้หวานหยาดเยิ้ม

++++++++++++++++++++

ยำผักสด

4. ยำมะระกุ้งสด

          มะระที่เหลือจากเมนูขนมจีนเมื่อวานอย่าเพิ่งทิ้งนะคะ เอามาทำเมนูยำมะระกุ้งสด สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน มะระกรอบ ๆ เข้ากันดีกับน้ำยำสุดง่าย ใส่กุ้งเพิ่มสีสัน เคี้ยวแต่ละคำหอมกลิ่นสมุนไพรสุด ๆ จัดเลยเย็นนี้

ส่วนผสม ยำมะระกุ้งสด

          • มะระจีนซอยบาง ๆ 1 ถ้วยตวง
          • น้ำเปล่าสำหรับลวก
          • น้ำเย็น
          • น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
          • เนื้ออกไก่สับ 1/2 ถ้วยตวง
          • กุ้งสด 5-7 ตัว (ปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก)
          • กระเทียมสับ 2 ช้อนชา
          • พริกขี้หนูแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
          • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
          • หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
          • ใบสะระแหน่ 10 ใบ
          • ผักชีเด็ดเอาแต่ใบ 10 ใบ

วิธีทำยำมะระกุ้งสด

          1. ต้มน้ำเปล่าให้เดือด ใส่มะระลงลวกพอเปลี่ยนสี ตักขึ้นใส่น้ำเย็น สะเด็ดน้ำพักไว้
          2. นำน้ำเปล่าประมาณ 1 ถ้วยตวง ใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ นำเนื้อไก่สับและกุ้งสดลงไปลวกให้สุก ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น
          3. ทำน้ำยำโดยผสมกระเทียม พริกขี้หนู น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน
          4. ใส่มะระลวก เนื้อไก่ลวก กุ้งลวก และหอมแดง ลงไปในน้ำยำที่เตรียมไว้ ใส่ใบสะระแหน่และผักชี คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำมะระกุ้งสด เมนูอาหารลดน้ำหนัก กินมื้อเย็นไม่อ้วน

++++++++++++++++++++

ยำผักสด


5. ยำหัวปลีกุ้งสด

          เพื่อนข้างบ้านให้หัวปลีมาเยอะแยะ แบ่งเอามาทำเมนูยำหัวปลีกุ้งสด สูตรจาก คุณ maekwansri สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม (#maekwansri) สูตรนี้เอาหัวปลีไปแช่น้ำมะนาวก่อนนำไปยำเพื่อให้สีสวย เพิ่มโปรตีนจากกุ้งกับไก่ ราดน้ำยำรสตามชอบ ใครไม่เคยต้องลอง

ส่วนผสม ยำหัวปลีกุ้งสด

          • หัวปลี
          • น้ำมะนาว (สำหรับแช่หัวปลี)
          • ไก่สับ
          • หัวกะทิ
          • น้ำพริกเผา
          • น้ำมะนาว
          • น้ำตาลปี๊บ
          • น้ำปลา
          • กุ้งลวก
          • พริกซอย
          • หอมแดงซอย
          • ใบสะระแหน่ (ใส่ หรือไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำยำหัวปลีกุ้งสด

          1. ซอยหัวปลี แช่ลงในน้ำมะนาวประมาณ 30 นาที เทน้ำทิ้งให้สะเด็ดน้ำ พักไว้
          2. ผัดไก่สับกับหัวกะทิให้สุก (อย่าให้แตกมัน) ยกลงจากเตา ใส่น้ำพริกเผา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา ปรุงรสตามชอบ
          3. ใส่หัวปลี กุ้งลวก พริกซอย และหอมแดงซอยลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
          4. ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ อร่อยได้เลย

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำหัวปลีกุ้งสด เมนูยำสูตรโบราณอร่อยแซ่บเครื่องแน่นสไตล์เรา

++++++++++++++++++++

ยำผักสด

6. ยำต้นอ่อนทานตะวันแซลมอน

          สลัดต้นอ่อนทานตะวันกินทุกเย็นจนเอียน ลองแปลงร่างมาทำเมนูยำต้นอ่อนทานตะวันแซลมอน สูตรจาก คุณ iammreview สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ส่วนผสมไม่เยอะ จับน้ำยำแซลมอนลงไปคลุกเคล้ากับต้นอ่อนทานตะวัน รับสักจานไหม ?

ส่วนผสม ยำต้นอ่อนทานตะวันแซลมอน

          • แซลมอนดิบ
          • พริกขี้หนูซอย
          • กระเทียมหั่น
          • น้ำปลา
          • ผงปรุงรส เล็กน้อย
          • น้ำตาลทราย
          • มะนาว 1 ลูก
          • ต้นหอมซอย
          • หอมแดงซอย
          • ตะไคร้ซอย
          • ใบมะกรูดซอย
          • ใบสะระแหน่
          • ต้นอ่อนทานตะวัน

วิธีทำยำต้นอ่อนทานตะวันแซลมอน

          1. ใส่พริกขี้หนูกับกระเทียมลงไปก่อน ขั้นตอนนี้ใครอยากได้เผ็ด ๆ ขยี้เลยจ้ะ ขยี้พริกให้เละเลย ถ้าใครไม่ชอบเผ็ดก็ไม่ต้องขยี้เเรง จบ !
          2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผงปรุงรส น้ำตาลทราย บีบมะนาวไปลูกหนึ่งเลยเพื่อความซี้ด ขั้นตอนการปรุงก็ปรุงรสตามใจชอบเลยนะตามฟีลลิ่ง จะให้บอกได้อย่างไร คนเราอร่อยไม่เหมือนกัน คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
          3. ใส่ต้นหอม หอมแดง ตะไคร้ ใบมะกรูด และใบสะระแหน่ลงไปคลุกเคล้าอีกสักรอบ
          4. เตรียมน้องแซลมอนให้พร้อมค่อย ๆ ใส่ลงไป คลุกเคล้าส่วนผสมให้ทั่ว เทใส่บนต้นอ่อนทานตะวันที่เตรียมไว้ได้เลย แต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่
 
          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน เมนูสำหรับวัยจี๊ดต้องยำซี้ดได้สุขภาพ

++++++++++++++++++++

ยำผักสด

7. ยำถั่วพูกุ้งสด

          ถั่วพูจิ้มน้ำพริกกินทุกวันจนคุณแฟนบ่นเบื่อ มื้อเย็นนี้เลยขอจัดอาหารแซ่บ ๆ อย่างเมนูยำถั่วพูกุ้งสด สูตรจาก คุณเนินน้ำ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เมนูยำผักสดเครื่องแน่นทั้งกุ้งสด หมึกทอด และหมูสับ ราดน้ำยำกะทิพริกเผา เสิร์ฟกับไข่ต้มยางมะตูม

ส่วนผสม ยำถั่วพูกุ้งสด

          • หมูสับ
          • กุ้งสด
          • หอมเจียว
          • กระเทียมเจียว
          • พริกแห้งทอด
          • หมึกแห้งทอดกรอบ
          • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด
          • ถั่วพู
          • น้ำมะนาว
          • น้ำปลา
          • น้ำตาลปี๊บ
          • น้ำพริกเผา
          • หัวกะทิ
          • หอมแดงซอย
          • ไข่ต้มยางมะตูม

วิธีทำยำถั่วพูกุ้งสด

          1. ลวกหมูสับและกุ้งสดพอสุก ตักขึ้นพักไว้
          2. เตรียมหอมเจียว กระเทียมเจียว พริกแห้งทอด ปลาหมึกแห้งทอด และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดบุบพอแหลก เตรียมไว้
          3. ล้างถั่วพูให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก นำไปแช่ในน้ำเกลือละลายเจือจาง (เพื่อป้องกันไม่ให้ถั่วพูดำ) จากนั้นตั้งน้ำให้เดือดจัด นำผักลงลวกเร็ว ๆ ตักใส่อ่างน้ำเย็นแล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
          4. ทำน้ำยำ โดยผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำพริกเผา คนผสมให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามชอบ
          5. ใส่กะทิลงไป คนผสมให้เข้ากัน ใส่หมูและกุ้งที่ลวกสุกไว้ลงไปผสมให้เข้ากัน ใส่ถั่วพูที่ลวกไว้ หอมแดงซอย แบ่งหอมเจียว กระเทียมเจียว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และปลาหมึกแห้งทอดลงไปครึ่งหนึ่ง ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันดี
          6. เสร็จเรียบร้อยตักใส่จาน โรยหน้าด้วยหอมเจียว กระเทียมเจียว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ พริกขี้หนูทอด และหมึกแห้งทอดที่เหลือ แนมด้วยไข่ต้มยางมะตูม

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำถั่วพูกุ้งสด อร่อยแซบรสกลมกล่อม

++++++++++++++++++++

ยำผักสด


8. ยำถั่วพูกุ้งสดราดกะทิสด

          ยำถั่วพูกุ้งสด อาหารประจำบ้านของใครหลายคน ถ้าอยากเพิ่มความหอมมันกว่าเดิม ขอแนะนำยำถั่วพูกุ้งสดราดกะทิสด สูตรจาก คุณ bangbuatong60d สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้มีวิธีทำถั่วพูให้กรอบและสีสวย มาพร้อมน้ำยำกะทิพริกเผาสูตรเด็ด ตบท้ายก่อนเสิร์ฟราดกะทิสดลงไป

ส่วนผสม ยำถั่วพูกุ้งสดราดกะทิสด

          • หอมแดงซอย
          • กระเทียมซอย
          • น้ำมัน
          • พริกแห้ง
          • ถั่วพูอ่อนซอย
          • เนื้อไก่
          • เนื้อหมูสับ
          • กุ้งสด
          • กะทิสำเร็จรูป 1 กล่อง
          • น้ำมะนาว
          • น้ำปลา
          • น้ำพริกเผา
          • ถั่วลิสงคั่ว ตำพอหยาบ
          • กะทิสำหรับราด

วิธีทำยำถั่วพูกุ้งสดราดกะทิสด

          1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป นำหอมแดงและกระเทียมลงไปเจียวจนกรอบ เตรียมไว้
          2. คั่วพริกแห้งกับน้ำมันให้พอหอม เตรียมไว้
          3. นำถั่วพูไปลวกในน้ำที่ผสมน้ำมันและเกลือ จากนั้นรีบตักแช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้คงความกรอบและสีสวย
          4. ลวกไก่ หมูสับ และกุ้งพอสุก ตักขึ้นพักไว้ แล้วนำไก่มายีเป็นเส้น ๆ
          5. นำกะทิขึ้นตั้งไฟพอเดือดแต่ไม่แตกมัน จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำพริกเผา ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่หมูสับ ไก่ฉีก และถั่วพู เคล้าผสมให้เข้ากัน ตักใส่จาน โรยถั่วลิสง หอมเจียว กระเทียมเจียว และพริกแห้งคั่ว ราดกะทิด้านบน สุดท้ายวางกุ้งลวกให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำถั่วพูกุ้งสดราดกะทิสด เมนูยำกรุบกรอบ รสกลมกล่อม

++++++++++++++++++++

ยำผักสด

9. ยำยอดฟักแม้ว

          ไปเดินจ่ายตลาดเห็นยอดฟักแม้วรีบซื้อมาเลยนะคะ เพราะเราอยากให้ลองทำเมนูยำยอดฟักแม้ว สูตรจาก คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ฟักแม้วลวกคลุกเคล้ากับน้ำยำรสเปรี้ยวหวาน เพิ่มเนื้อไก่ลวกและโรยกระเทียมเจียว ข้าวสวยไม่ต้อง แค่จานนี้จานเดียวก็อิ่มท้องแล้วจ้า

ส่วนผสม ยำยอดฟักแม้ว

          • ยอดฟักแม้วเด็ดขนาดพอดี
          • เนื้อไก่สับ (เลือกเอาส่วนน่อง เพราะคิดว่าเนื้อเด้ง ๆ ดีพอประมาณ)
          • น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
          • พริกแดงโขลก (หรือพริกขี้หนูโขลก) 1 กำมือ
          • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • กระเทียมเจียว
          • พริกคั่ว

วิธีทำยำยอดฟักแม้ว

          1. คนผสมน้ำพริกเผา พริกขี้หนูโขลก น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บให้เข้ากัน (รสชาติจะออกเปรี้ยว ๆ เค็ม และหวานนิดหน่อย) แบ่งกระเทียมเจียวและพริกคั่วอย่างละครึ่งใส่ลงไปคนผสมให้เข้ากัน (อีกครึ่งหนึ่งไว้โรยหน้า)
          2. ลวกไก่สับและลวกฟักแม้ว จากนั้นนำลงไปคลุกกับน้ำยำ ตักใส่จาน โรยด้วยกระเทียมเจียวและพริกคั่วที่เหลือ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 13 สูตรยำแซ่บแบบไทย อาหารจานเดียวแซ่บขนาดนี้ยอมใจจริง ๆ

++++++++++++++++++++

ยำผักสด

10. ยำคะน้ากุ้งสด

          ผัดคะน้าน้ำมันหอยคงไม่เหมาะสำหรับคนไดเอต ต้องนี่เลยเมนูยำคะน้ากุ้งสด สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับก้านคะน้าคลุกเคล้ากับน้ำยำ เพิ่มกุ้งกับไก่ลงไป ทำง่ายสุด ๆ ขั้นตอนไม่เยอะด้วยนะคะ

ส่วนผสม ยำคะน้ากุ้งสด

          • คะน้า
          • แครอท
          • พริกสด
          • หอมแดง
          • มะเขือเทศ
          • กุ้งสด
          • ไก่สับ
          • น้ำปลา
          • มะนาว
          • น้ำตาลปี๊บ
          • ขึ้นฉ่าย

วิธีทำยำคะน้ากุ้งสด

          1. ขั้นตอนแรกหั่นวัตถุดิบเตรียมไว้ คะน้าเอาเฉพาะส่วนก้านหั่นเป็นแผ่นบาง ๆ และแครอทหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
          2. ซอยพริกกับหอมแดง และหั่นมะเขือเทศ
          3. นำกุ้งสด ไก่สับ ก้านคะน้า และแครอทมาลวกให้พอสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ
          4. เริ่มทำน้ำยำ โดยใส่พริกสดและน้ำปลาลงในอ่างผสม บีบมะนาวลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ คนผสมจนน้ำตาลปี๊บละลาย ใส่กุ้งลวกและไก่สับลวกลงไปคลุกเคล้ากับน้ำยำให้เข้ากัน
          5. ตามด้วยหอมแดง มะเขือเทศ และผักลวก คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน พร้อมชิม เสร็จเรียบร้อยจัดใส่จาน โรยขึ้นฉ่าย พร้อมเสิร์ฟค่ะ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำคะน้ากุ้งสด จานอร่อยเพื่อสุขภาพแซ่บสุดในสามโลก

++++++++++++++++++++

ยำผักสด

11. ยำดอกขจรกุ้งสด

          ดอกขจรที่เหลือจากเมนูต้มจืดเมื่อเช้าเอามาทำเมนูยำดอกขจรกุ้งสดกันเถอะ สูตรจาก คุณเนินน้ำ ก่อนอื่นเอาดอกขจรไปลวกแล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำและเครื่องยำ สุดท้ายเสิร์ฟพร้อมไข่ต้ม ดูน่ากินมาก ๆ เลยค่ะ

ส่วนผสม ยำดอกขจรกุ้งสด

          • ดอกขจร
          • กุ้งสดลวกสุก
          • หมูสับรวนสุก
          • น้ำปลา
          • น้ำมะนาว
          • น้ำตาลปี๊บ
          • พริกขี้หนู
          • น้ำพริกเผา
          • หอมแดงซอย
          • กระเทียมเจียว
          • หอมเจียว
          • หัวกะทิ
          • ไข่ต้มยางมะตูม

วิธีทำยำดอกขจรกุ้งสด

          1. ลวกดอกขจรในน้ำเดือด ตักขึ้นใส่ลงแช่ในน้ำเย็น จากนั้นตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
          2. เตรียมกุ้งสดลวกสุก หมูสับรวน กระเทียมเจียว หอมเจียว และไข่ต้มยางมะตูม
          3. ทำน้ำยำ โดยผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ พริกขี้หนู และน้ำพริกเผา คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่หมูสับรวน กุ้งลวก หอมแดง ดอกขจรลวก กระเทียมเจียว หอมเจียว และหัวกะทิ คนผสมให้เข้ากัน
          4. ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มยางมะตูม

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำดอกขจรกุ้งสด เมนูยำแซ่บสุดอร่อยจากผักพื้นบ้าน

++++++++++++++++++++

ยำผักสด


12. ยำมะเขือยาวเผากุ้งสด

          มะเขือยาวเผาเอามาทำน้ำพริกก็อร่อย แต่ถ้าให้กินบ่อย ๆ คงไม่ไหว อย่างนั้นจับมาดัดแปลงทำเมนูยำมะเขือยาวเผากุ้งสด สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน วิธีการเผามะเขือยาวสามารถใช้กระทะเทฟลอนแทนเตาถ่านได้ น้ำยำอลังเว่อร์มีทั้งกุ้ง กุ้งแห้งเนื้อ และอกไก่ ห้ามพลาดจริงเชียว

ส่วนผสม ยำมะเขือยาวเผากุ้งสด

          • มะเขือยาวขนาดกลาง 2 ลูก
          • กุ้งสด (ปอกเปลือกไว้หางลวกสุก) 10 ตัว
          • เนื้ออกไก่สับรวนสุก 150 กรัม
          • กุ้งแห้งเนื้อ 2 ช้อนโต๊ะ
          • หอมแดงซอย 8 หัว
          • กระเทียมกลีบใหญ่สับ 8 กลีบ
          • น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • ไข่ไก่ 2 ฟอง
          • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา
          • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • พริกขี้หนูสีแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
          • ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
          • ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำเปล่า
          • ไข่ต้มยางมะตูม

วิธีทำยำมะเขือยาวเผากุ้งสด

          1. ต้มไข่ต้มยางมะตูม โดยนำไข่ไก่ใส่ลงในหม้อ เติมน้ำเปล่า ยกขึ้นตั้งไฟกลาง พอน้ำเริ่มเดือดปุด ๆ จับเวลา 4-5 นาที จากนั้นตักไข่ต้มขึ้นใส่ลงในน้ำเย็น เพื่อหยุดความร้อน ปอกเปลือก เตรียมไว้
          2. ย่างมะเขือยาวด้วยเตาถ่าน (ถ้าไม่สะดวกให้ใช้กระทะเทฟลอนตั้งบนเตาให้ร้อน) นำมะเขือยาวลงย่างไฟกลางจนสุกนิ่ม เปลือกมะเขือจะไหม้เล็กน้อย นำขึ้นพักให้เย็น ลอกเปลือกออกหั่นชิ้นหรือฉีกเป็นเส้น เตรียมไว้
          3. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และน้ำกระเทียมดองเข้าด้วยกัน ชิมรสให้เค็มนำเปรี้ยวตาม นำน้ำยำที่ผสมราดลงในเนื้อไก่และกุ้ง เติมกระเทียม กุ้งแห้ง หอมแดง พริกขี้หนู ต้นหอม และผักชี
          4. จัดมะเขือยาวใส่จานให้สวยงาม นำส่วนผสมน้ำยำราดลงบนมะเขือยาวที่เตรียมไว้ เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มยางมะตูม

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำมะเขือยาวเผากุ้งสด เมนูลดน้ำหนักสุดแซ่บแบบคลีน ๆ

++++++++++++++++++++

ยำผักสด

13. ยำหน่อกะลา

          ทอดมันหน่อกะลาที่คุ้นเคยกินเยอะก็ไม่ไหวกลัวน้ำมันระคายหุ่น ลองจับมาทำเมนูยำหน่อกะลา สูตรจาก คุณ bangbuatong60d สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับหน่อกะลาไปลวกคลุกเคล้ากับน้ำยำ สุดท้ายโรยหอมเจียว ดูแปลกตาแต่อร่อยนะคะ

ส่วนผสม ยำหน่อกะลา

          • หน่อกะลา
          • มะนาว
          • น้ำปลา
          • น้ำตาลทราย
          • พริก (ปริมาณตามชอบ)
          • หมูสับลวกสุก (สามารถเพิ่มกุ้งหรือปลาหมึกได้)
          • มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น ๆ
          • หอมเจียว

วิธีทำยำหน่อกะลา

          1. นำหน่อกะลามาปอกเปลือกที่หนา ๆ ออก หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำไปแช่น้ำ จากนั้นนำหน่อกะลาไปลวกน้ำร้อนและตักขึ้นใส่แช่ลงในน้ำเย็น เตรียมไว้ (เนื่องจากยังไม่ชัวร์เรื่องรับประทานดิบ ๆ สด ๆ เลยลวกน้ำร้อนซะหน่อย 555 แล้วตามด้วยแช่น้ำเย็นครับพักเอาไว้)
          2. ทำน้ำยำ โดยผสมมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย และพริก ชิมรสตามชอบ (ปรุงรสแยกน้ำไว้โดยเน้นรสชาติจัดจ้าน ๆ หนักเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด เพราะหน่อกะลาดูแล้วท่าจะจืด ๆ) คลุกเคล้าน้ำยำกับหน่อกะลา หมูสับ และมะเขือเทศ ตักใส่จาน โรยหอมเจียว พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำหน่อกะลา เมนูยำแซ่บจากวัตถุดิบเด็ดที่น่าลอง

++++++++++++++++++++

ยำผักสด

14. ยำมะเขือเทศราชินีกับปลากะพงย่างตะไคร้

          ปิดท้ายกันด้วยเมนูยำมะเขือเทศราชินีกับปลากะพงย่างตะไคร้ สูตรจาก นิตยสาร Health & Cuisine จับเนื้อปลากะพงเสียบตะไคร้ย่างในเตาอบ ราดน้ำยำมะเขือเทศ หอมเครื่องสมุนไพร จานนี้เด็ดจริง

ส่วนผสม ยำมะเขือเทศราชินีกับปลากะพงย่างตะไคร้

          • เนื้อปลากะพงแล่ตามยาว 6 ชิ้น
          • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
          • เกลือเล็กน้อย
          • พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา
          • ก้านตะไคร้ 10 ต้น
          • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา
          • ตะไคร้ซอย
          • น้ำเล็กน้อย
          • มะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
          • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 60 กรัม
          • ใบผักชีสำหรับแต่ง
          • พริกขี้หนูซอยสำหรับแต่ง

ส่วนผสม น้ำยำ

          • พริกขี้หนูซอย 4 – 5 เม็ด
          • น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • ผักชีสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำยำมะเขือเทศราชินีกับปลากะพงย่างตะไคร้

          1. หมักปลากับซีอิ๊วขาว เกลือ และพริกไทย ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นนำปลาที่หมักมาเสียบด้วยก้านตะไคร้ ทาด้วยน้ำมันมะกอก
          2. วางเนื้อปลาลงบนฟอยล์ โรยด้วยตะไคร้ซอยบาง และน้ำเล็กน้อย ห่อให้สนิท จากนั้นนำไปย่างในเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที หรือจนปลาสุก
          3. ผสมส่วนผสมของน้ำยำทั้งหมด คนจนน้ำตาลทรายละลาย นำไปคลุกกับมะเขือเทศราชินีที่เตรียมไว้ ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
          4. ตักส่วนผสมยำมะเขือเทศใส่จาน วางเคียงด้วยปลาย่าง ตกแต่งด้วยใบผักชีและพริกขี้หนูซอยพร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำมะเขือเทศราชินีกับปลากะพงย่างตะไคร้ ต้านอนุมูลอิสระ

          สนใจทำเมนูยำผักสดกินตอนเย็นนี้ด้วยกันไหมคะ ทุกสูตรทำง่าย ส่วนผสมก็หาซื้อได้ทั่วไป ชอบรสแซ่บขนาดไหนก็จัดไป กินได้เยอะไม่ต้องกลัวพุงพลุ้ยจ้า

แท็กที่เกี่ยวข้อง

"เคล็ดไม่ลับคู่ครัว"

กำจัดกลิ่นไมโครเวฟด้วยใบชา ให้นำใบชาใส่น้ำให้พอท่วม แล้วเปิดเครื่องให้ร้อนสัก 3 นาที จากนั้นจึงปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน พอถึงตอนเช้า กลิ่นเหม็นก็จะหายไป แต่หากมีกลิ่นเหม็นสะสมมากก็ต้องทำกันหลายรอบ

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ