อยู่เชียงใหม่ จะซื้อเตาแก๊สแบบฝัง+ที่ดูดควัน ยี่ห้อไหนดีคะ
ตอนแรกอ่านในนี้ มีแนะนำยี่ห้อ Rigitori แต่เราเช็คดูไม่มีสาขาที่เชียงใหม่ค่ะ
Mex ก็ไม่มีสาขาที่นี่ ถ้ามีปัญหาต้องรอช่างจากส่วนกลาง ซึ่งเห็นเซลส์แจ้งว่า เค้าจะมาเดือนละ 2 ครั้ง
ที่เชียงใหม่มีศูนย์ของ Hafele กับ Teka ไม่รู้ว่า 2 ยี่ห้อนี้เป็นยังไงบ้างคะ
เคยอยู่คอนโดแล้วเตาไฟฟ้าเป็นของ Hafele พอเสียก็หาอะไหล่ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเตาแก๊สจะเจอปัญหาเหมือนกันมั้ย
แนะนำของยี่ห้อไหนดีคะ
Mex ก็ไม่มีสาขาที่นี่ ถ้ามีปัญหาต้องรอช่างจากส่วนกลาง ซึ่งเห็นเซลส์แจ้งว่า เค้าจะมาเดือนละ 2 ครั้ง
ที่เชียงใหม่มีศูนย์ของ Hafele กับ Teka ไม่รู้ว่า 2 ยี่ห้อนี้เป็นยังไงบ้างคะ
เคยอยู่คอนโดแล้วเตาไฟฟ้าเป็นของ Hafele พอเสียก็หาอะไหล่ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเตาแก๊สจะเจอปัญหาเหมือนกันมั้ย
แนะนำของยี่ห้อไหนดีคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ 11 เมษายน เวลา 10:01 น.
สมาชิกหมายเลข 6060094
11 เมษายน เวลา 10:00 น.
11 เมษายน เวลา 10:00 น.
แหล่งที่มา pantip.com
นอกจากนี้ ยังมีกระเบื้องเซรามิคปูพื้น ผนัง สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำ รวมทั้งสีเคมีภัณฑ์ ประตู ฯลฯ
หากลูกค้าไม่สะดวกมาที่ร้าน สามารถสอบถามสินค้าและสั่งซื้อออนไลน์ได้ทางช่องทางออนไลน์ ดังนี้
https://www.homesukkapan.com/
Line : @homesukkapan
Facebook : https://www.facebook.com/homesukkapan
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 053 126000-4
เปิดให้บริการทุกวันเวลา 08.30 – 18.30น.
โฮมสุขภัณฑ์ อยู่บนถนนวงแหวนรอบกลาง หลัง ม.พายัพ
12 เมษายน เวลา 09:21 น.
สำหรับหัวข้อนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องการเลือก ‘เตาแก๊ส’ เพื่อเอาใจเหล่าจอมยุทธกระทะเหล็กประจำบ้านที่ชื่นชอบการทำอาหารไทย เพราะเตาแก๊สเนี่ยล่ะเหมาะกับครัวไทยที่สุด เปรียบเสมือนคู่พระ-นางอยู่กันมานานแสนนาน ดังนั้นก่อนจะต้ม ผัด แกง ทอด ให้กลิ่นหอม… ยวนใจ เผยหน้าตาอาหารชวนทานจนน้ำลายสอ ลองมาทำความเข้าใจการเลือกเตาแก๊สให้เหมาะสมกับความต้องการกันสักนิด…
เช็ครายละเอียดขั้นพื้นฐาน
สิ่งแรกเลย คุณต้องชั่งใจก่อนว่าเตาแก๊สประเภทใดเหมาะกับห้องครัวของตัวเอง อาทิเช่น หากต้องการให้ห้องครัวดูเป็นสัดส่วนกลมกลืนสวยงาม การเลือกเตาแก๊สแบบฝังเคาน์เตอร์ ยึดไม่ให้เคลื่อนไปตามความหนักของหม้อแกงใบโตๆ ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะ หรือถ้าชอบความยืดหยุ่น มองถึงการโยกย้ายเปลี่ยนมุมที่สะดวกในอนาคต เตาแก๊สแบบตั้งโต๊ะและเตาแก๊สแบบตั้งพื้นนั้นถือว่าลงตัวทีเดียว แต่แบบหลังสุดมักมีขนาดใหญ่ แถมบางผลิตภัณฑ์ดีไซน์มาพร้อมเตาอบด้วยในตัว ดังนั้นควรคำนวณพื้นที่ให้ดีก่อนจะนำมาจัดวาง (รวมถึงแต่ละแบบอย่าลืม! เตรียมพื้นที่เก็บถึงแก๊สไว้ด้วยเช่นกัน)
ลำดับต่อมาคือการเลือกหัวเตาแก๊สที่สอดคล้องกับการใช้งาน หากเป็นครอบครัวขนาดเล็ก (2-4 คน) หรือครอบครัวที่นานครั้งลุกขึ้นมาประกอบอาหาร การใช้เตาแก๊สที่มีหัวเตา 2 หัวก็น่าจะเพียงพอ แต่ถ้าครอบครัวใหญ่ หรือบ้านที่ทำอาหารเป็นประจำ ชอบงัดเมนูหลากหลายสารพัดมารังสรรค์ในแต่ละวัน ก็ควรเลือกเตาแก๊สที่มี 3 หัวขึ้นไป เพื่อรับกับการใช้งานที่แตกต่างกัน
อัพเดทประสิทธิภาพที่ใช่
ก่อนจะเลือกเตาแก๊สดีดีสักชิ้นควรต้องศึกษาประสิทธิภาพในการใช้งานของมันสักหน่อย เพราะปัจจุบันนอกจากดีไซน์ให้มีปุ่มหมุนเปิด-ปิดแบบอิเล็กทรอนิกที่สะดวกปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน บางรุ่นยังทันสมัยมาก… มีระบบจุดติดอัตโนมัติ (โดยใช้แบตเตอรี่) ซึ่งแค่ตั้งวางภาชนะไว้บนหัวเตา เปลวไฟก็จะลุกขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อยกออก เปลวไฟก็จะดับลงทันที ที่สำคัญเดี๋ยวนี้เตาแก๊สยังออกแบบเปลวไฟที่มีให้เลือกแบบ 2 ชั้น และ 3 ชั้น โดยเผยวงไฟกว้าง และกำลังไฟที่แรง จึงทำความร้อนได้รวดเร็ว ช่วยให้ประหยัดแก๊สและเวลาในการทำอาหาร อีกทั้งยังคงคุณค่าวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารได้ดีกว่าเปลวไฟแบบธรรมดาชั้นเดียวทั่วไป
อย่ามองข้ามความปลอดภัย
สิ่งที่สำคัญกว่าเตาแก๊สที่ถูกใจ ก็คือความปลอดภัยของตัวคุณและครอบครัว ดังนั้นหากมีงบที่เพียงพอ ควรลงทุนกับเตาที่มีระบบตัดแก๊สอัตโนมัติ อาทิเช่น อุปกรณ์ป้องกันไฟไหม้ FFSD (Flame Failure Safety Device) ที่ติดตั้งมาพร้อมหัวเตาของ Hafele ซึ่งจะตัดการจ่ายแก๊สโดยอัตโนมัติทันที เมื่อเปลวไฟบนหัวเตาดับลง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากสาเหตุแก๊สรั่วไหล หรือเลือกซื้อเตาแก๊สที่มีระบบ Safety Vales มาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิตชั้นนำก็ทำให้เราอุ่นใจด้านความปลอดภัยได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่ลืมดูเครื่องหมายรับรองด้านความปลอดภัยบนผลิตภัณฑ์ด้วย และอ่านคำเตือนหรือข้อควรระวังให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนการใช้งาน
รู้เรื่องเครื่องดูดควัน เลือกใช้งานได้เหมาะสม
1. โหมดการทำงานแบบระบบท่อหรือระบบหมุนเวียน
ระบบท่อ (ducting) คือระบบที่บ้านส่วนใหญ่เลือกใช้ เพราะท่อจะติดตั้งกับเพดานเพื่อปล่อยควันออกไปด้านนอกบ้าน โดยยิ่งท่อมีพลังดูดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้อากาศถ่ายเทออกไปภายนอกได้รวดเร็วเท่านั้น แต่ถ้าเป็นระบบหมุนเวียน (recycle) จะเหมาะกับครัวเล็กในคอนโดหรืออพาร์ทเมนท์ โดยจะมีฟิลเตอร์คาร์บอน ที่มีหน้าที่ในการดูดซับกลิ่น ควัน และสารเคมีจากการประกอบอาหาร และฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ก่อนปล่อยควันออกไป แล้วหมุนเวียนอากาศบริสุทธิ์เข้ามาภายในห้อง ระบบหมุนเวียนแบบนี้จะติดตั้งง่าย แต่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์สม่ำเสมอ
2. ชนิดของมอเตอร์ภายในเครื่องดูดควัน
ปัจจุบันมอเตอร์ที่ใช้ในเครื่องดูดควันจะมีอยู่ 3 ชนิด ผู้ใช้สามารถเลือกให้เหมาะสมต่อรูปแบบการใช้งาน คือ
2.1 มอเตอร์ที่ทำจากอัลลอยด์ ซึ่งเป็นมอเตอร์ที่ทนความร้อนได้ดีที่สุด สามารถทำงานอย่างต่อเนื่องได้ยาวนาน
2.2 มอเตอร์ที่ทำจากเหล็กชุบกัลวาไนซ์ ซึ่งจะทำให้เหล็กไม่เป็นสนิมสามารถยืดอายุของมอเตอร์ได้ยาวนานขึ้น แต่ถ้าเน้นเรื่องความคงทนและทำงานได้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ ยังสู้มอเตอร์ที่ทำจากอัลลอยด์ไม่ได้
2.3 มอเตอร์ที่ทำจากพลาสติกกิลล่อน ซึ่งถือเป็นพลาสติกคุณภาพที่สามารถทนความร้อนได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานๆ ได้เพราะจะทำให้มอเตอร์เสื่อมคุณภาพเร็ว
3. กำลังการดูดอากาศที่เหมาะสม
เพื่อให้ประสิทธิภาพในการดูดควันนั้นเป็นไปสูงสุด ผู้ใช้ควรเลือกความเร็วของเครื่องดูดควันให้เหมาะสม โดยสามารถคำนวณได้จากพื้นที่ภายในครัว โดยคิดจาก ความยาว X ความกว้าง X ความสูง X 10 = ความเร็วต่ำสุดของเครื่องดูดควันที่ต้องการ แต่ถ้าหากครัวเป็นรูปแบบครัวเปิดหรือครัวที่มีเกาะกลาง (Island) อยู่ตรงกลาง ควรเลือกความเร็วที่เร็วมากขึ้น
4. ขนาดที่ลงตัวกับครัว
เครื่องดูดควันควรมีขนาดที่เหมาะสม คือ พอดีกับเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าของครัว หรือใหญ่กว่าได้เล็กน้อย ดังนั้นขนาดของเครื่องดูดควันทั่วไปจึงอยู่ที่ 60 ซม. , 90 ซม. และ 120 ซม.เป็นขนาดมาตรฐาน แต่ถ้าหากต้องการขนาดพิเศษผู้ใช้จำเป็นต้องสั่งทำ
5. อย่าลืมเรื่องเสียง
ผู้ใช้สามารถทดสอบเปิดเครื่องดูดควันที่โชว์รูม เพื่อทดสอบระดับความดังของเสียงก่อนตัดสินใจซื้อ โดยทั่วไปแล้วผู้ผลิตเครื่องดูดควันจะควบคุมระดับเสียงของเครื่องเวลาทำงานอยู่ที่ 55 เดซิเบล โดยเครื่องดูดควันที่มีระบบมอเตอร์ติดตั้งด้านนอก และมีขนาดท่อดูดควันกว้าง จะช่วยลดเสียงการทำงานของเครื่องให้เบาลงได้ ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ควรทำให้อากาศภายในห้องครัวหมุนเวียนก่อนการปรุงอาหาร โดยเปิดเครื่องดูดอากาศไว้ก่อนสัก 2-3 นาทีก่อนที่คุณจะตั้งกะทะบนเตา หลังจากนั้นค่อยลดระดับความแรงของการดูดควันลง วิธีนี้จะทำให้เครื่องดูดควันจัดการกับกลิ่นต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีทำความสะอาดเครื่องดูดควันสแตนเลส
1.ปูกระดาษหนังสือพิมพ์หรือเศษผ้าเก่าๆ บนเตา เพื่อป้องกันไม่ให้คราบและสิ่งสกปรกจากเครื่องดูดควันตกลงไป
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเคลือบเงาผิวสแตนเลสโดยเฉพาะ หรือใช้เบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำมะนาวและน้ำสะอาดฉีดพ่นลงไปบริเวณที่สกปรกทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นจึงขัดให้คราบหลุดออก อย่าลืมทดลองผลิตภัณฑ์บนบริเวณที่มองไม่ค่อยเห็นก่อนเริ่มใช้
3. ใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดผลิตภัณฑ์ออกอีกครั้ง
4. ขัดส่วนที่เป็นสแตนเลสให้ขึ้นเงาด้วยผ้าแห้งสะอาด
20 เมษายน เวลา 17:01 น.