สอบถามทุกท่านค่ะ เนื่องจากคุณเป็นลิ่มเลือดอุดตันที่ขาค่ะ สามารถทานอะไรได้บ้าง
เพราะมันมีแต่ข้อห้าม! ห้ามทานนั่น. ห้ามทานนี่. จนไม่สามารถทานอะไรได้เลย
เนื่องจากคุณแม่ต้อง ฉีดยาสลายลิ่มเลือดเองที่บ้าน
เรสก็คอยเสาะหาอาหารที่สามารถทานได้
แต่ก็แต่ ห้ามทาน! 😥❌
⚠️กลุ่มอาหารที่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของยาวอร์ฟาริน มีดังนี้
· อาหารที่มีวิตามิน K เค สูง ❌🥒🌿🥗🥝🍇
ได้แก่ ชาเขียว ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า แตงกวา(พร้อมเปลือก) กุยช่าย กวางตุ้ง ผักชีฝรั่ง โหระพา กะเพรา บร็อคโคลี่ ผักกาดหอม และ ผลไม้ตระกูลเบอรรี่ องุ่น ลูกพรุน กีวี่
· อาหารที่มีวิตามิน E อี สูง ❌🐟
ได้แก่ น้ำมันพืช(อาหารมันๆ) น้ำมันตับปลา (หมอบอกแม้แต่ปลาเนื้อขาวก็ห้ามค่ะ. มันก็คงจะเหลือปลาแซลม่อน แต่แม่ก็ไม่ค่อยทาน อีกอย่างแซลมอนก็มันมากด้วย)
· อาหารเสริมหรือสมุนไพรบางชนิด ได้แก่ โสม ขิง แปะก๊วย กระเทียม
ล่าสุดพี่ชายเขาหาข้อมูล ก็ไปเจอหนักกว่านั้นอีก คือ ห้ามทานผลไม้ แม้แต่ ส้ม กล้วย อะไรง่ายๆ ก็ห้าม
จนน้ำหนักคุณลดลงเยอะมาก เพราะเขากลัวและทานอะไรไม่ได้ นอกจากข้าวต้มกับโจ๊ก
โดยส่วนตัว ก่อนจะเป็นลิ่มเลือด. คุณเป็นคนไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่อยู่แล้ว วัวแกจะไม่กินเลยค่ะ เนื้อหมูแม่บอกว่ามันเกินแม่จะทานน้อยๆ ไก่ก็ทานบ้าง แต่จะเน้นปลา. เน้นผักคู่น้ำพริกแม่ชอบบบบมากกกก
ตั้งแต่เป็นลิ่มเลือด ก็ยิ่งทานอะไรได้ยากไปหมดเลยค่ะ
อยากได้คำแนะนำค่ะ. มีบ้านท่านไหนที่ผู้ใหญ่คนเฒ่าคนแก่เป็นลิ่มเลือดบ้างมั้ยคะ แล้วไม่ทราบว่า อาหารที่ทำให้เขาทานปกติ เป็นแบบไหนบ้าง คุณแม่เป็นมาเกือบ6เดือนแล้วค่ะ
(ช่วงนึง ตอนที่คุณหมองดให้ยาฉีด แม่เขาใกล้หายดีค่ะเพราะพี่ชายทำแกงอ่อมให้แม่ทาน มีผักมีเห็ดบำรุง เลือดแม่ดีขึ้นเยอะเลย
แต่ช่วงนึงเหมือนคุณแม่เครียด ไม่ยอมทานอาหาร ทำให้เลือดไม่ดี จนได้รับยาฉีดมาเพิ่มเลยค่ะ😥)
30 มีนาคม เวลา 20:10 น.
สารอาหาร
โภชนาการที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งในกรณีของการเกิดลิ่มเลือด การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพไม่ได้เป็นเพียงไลฟ์สไตล์สมัยใหม่หรือเท่เท่านั้น แต่ยังจำเป็นหากคุณมีแนวโน้มที่จะเจ็บป่วยหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคในระยะแรก ข่าวดีก็คือ การเกิดลิ่มเลือดอุดตันไม่ได้ต้องการอาหารพิเศษ แค่รับประทานอาหารที่สมดุล
โภชนาการการเกิดลิ่มเลือดอุดตันมีลักษณะอย่างไร? โดยพื้นฐานแล้ว คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ข้าวและมันฝรั่ง รวมทั้งผักและผลไม้ในปริมาณที่สมดุลและจัดประเภทอาหารจากสัตว์เป็นอาหารเสริมสำหรับแผนโภชนาการ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเลิกกินเนื้อสัตว์โดยสิ้นเชิง
สิ่งนี้ได้รับการยืนยันโดยการศึกษาโดยสมาคมวิทยาศาสตร์โภชนาการแห่งเยอรมัน การศึกษาเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยโรคลิ่มเลือดไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารพิเศษ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดไม่มีผลเสียต่อความสมดุลของแร่ธาตุด้วยการรับประทานอาหารที่สมดุลและดีต่อสุขภาพ
รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารและวิตามินที่หลากหลายเป็นหัวใจสำคัญของโภชนาการที่เหมาะสมและสมดุล อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันว่าพวกเขาไม่กินวิตามินและเส้นใยอาหารบางชนิดมากเกินไป ซึ่งรวมถึงตัวอย่างเช่น วิตามินบี 12 หรือที่เรียกว่าไซยาโนโคบาลามิน วิตามินบี 12 มากเกินไปสามารถเพิ่มหรือกระตุ้นแนวโน้มที่จะเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานในรูปของอาหารเสริมวิตามิน ซึ่งมักจะรวมถึงวิตามินบีคอมเพล็กซ์เต็มรูปแบบ โดยหลักการแล้ว ผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันที่ต้องเตรียมเปลี่ยนการแข็งตัวของเลือดควรงดการรับประทานอาหารเสริม
วิตามินเคเกือบจะมีบทบาทสำคัญในร่างกายในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันมากขึ้น ยาจะยับยั้งการทำงานของวิตามินเคในลักษณะที่ทำให้การแข็งตัวของเลือดเปลี่ยนแปลงไป ยาเหล่านี้ซึ่งมีคูมารินเช่น phenprocoumon หรือ warfarin เรียกว่าคู่อริวิตามินเคและอยู่ในกลุ่มของสารต้านการแข็งตัวของเลือด (สารยับยั้งการแข็งตัวของเลือด)
คู่อริของวิตามินเคป้องกันไม่ให้ปัจจัยการแข็งตัวของเลือดถูกเปลี่ยนจากสารตั้งต้นที่ไม่ใช้งานไปเป็นรูปแบบที่ทำงานอยู่ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด อย่างไรก็ตาม อาหารที่อุดมด้วยวิตามินเคสามารถลดผลกระทบของคู่อริวิตามินเคได้
วิตามินเคหรือที่เรียกว่า phylloquinone มีอยู่ในนม ผักใบเขียว และตับหรือเนื้อสัตว์เป็นหลัก ความเข้มข้นของวิตามินเควัดและกำหนดเป็นไมโครกรัม (µg) ความต้องการวิตามินเคเฉลี่ยต่อวันสำหรับผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันไม่ควรเกิน 60-80 ไมโครกรัม ด้านล่างนี้ คุณจะพบภาพรวมของอาหารที่มีรายละเอียดของความเข้มข้นของวิตามินเคในหน่วย µg ต่อ 20 กรัมและ 100 กรัมของส่วนที่รับประทานได้:
30 มีนาคม เวลา 23:33 น.
31 มีนาคม เวลา 19:32 น.