ชวนเข้าครัวทำเมนู “ข้าวต้มปลา” เมนูอาหารเช้าทรงเครื่องสไตล์จีนโบราณ พร้อมเทคนิคการทำข้าวต้มสูตรเด็ด ไม่ให้มีกลิ่นคาวปลา ถ้าพร้อมแล้วมาดูวิธีทำกันเลย!
เวลาเตรียม
25 นาที
เวลาปรุง
25 นาที
แคลอรี่
200 Kcal/เสิร์ฟ
สำหรับ
3 เสิร์ฟ
เมนู “ข้าวต้มปลา” ทรงเครื่องสไตล์จีนโบราณ ที่เน้นข้าวสวยเป็นเมล็ด ปลาทะเลลวกชิ้นโต ทานกับข่าคั่วเพิ่มกลิ่นหอม พร้อมแจกเทคนิคการที่ทำให้การทำข้าวต้มนั้นง่ายขึ้น ถ้าพร้อมแล้วมาเข้าครัวกันดีกว่าครับ!
วัตถุดิบ
- น้ำสต๊อกหมู 2 ถ้วย
- เนื้อปลากะพง 120 กรัม
- ซีอิ๊วขาว 1½ ช้อนโต๊ะ
- ตังฉ่าย 1 ช้อนชา
- ข่าแก่คั่วป่น 2 ช้อนชา
- ขึ้นฉ่ายซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- เต้าเจี้ยวบด สำหรับเสิร์ฟ
- ข้าวสารหอมมะลิเก่า 1 ถ้วย
- น้ำสะอาด 6 ถ้วย
- ใบเตย 5 ใบ
- เกลือ สำหรับปรุงรส
วิธีทำ
Step 1 : เตรียมข้าว
- ซาวข้าวสารจนสะอาดดีแล้วใส่ลงในหม้อ จากนั้นใส่น้ำยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง หมั่นคนจนเดือด แล้วใส่ใบเตย ต้มจนเมล็ดข้าวสุกบานพอดี หมั่นคนเพื่อไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อ กรองเอาน้ำเก็บไว้สำหรับลวกปลา
- ใส่น้ำต้มข้าว 2 ถ้วย และน้ำสต๊อกหมู 2 ถ้วยลงในหม้อ ต้มพอให้เดือดแล้วใส่ข้าวลงต้มอีกครั้งนานประมาณ 10 นาที
Step 2 : เตรียมเนื้อปลา
- แล่ปลาเป็นชิ้นลูกเต๋าใหญ่ขนาด 1 นิ้ว แล้วพักไว้ จากนั้นนำน้ำต้มข้าวที่เก็บไว้มาต้มบนไฟกลาง รอให้เดือด ใส่เนื้อปลาลงลวกจนสุกดี ตักขึ้นพักไว้
Tip : การเตรียมเนื้อปลาไม่ให้มีกลิ่นคาว ให้เลือกซื้อเนื้อปลาที่สดใหม่ กดเนื้อปลาดูแล้วไม่นิ่มเละ หรือถ้าซื้อปลาเป็นตัว ๆ มาแล่เอง เลือกตัวที่เหงือกแดงตาใสไว้ก่อนครับ นำปลามาล้างน้ำผสมเกลือเล็กน้อย หรือล้างด้วยน้ำซาวข้าวก่อนใช้ทำกับข้าว จะลดกลิ่นคาวลงได้ครับ
Step 3 : จัดเสิร์ฟ
- จัดเสิร์ฟโดยตักข้าวต้มใส่ลงในชาม ใส่ซีอิ๊วขาว เนื้อปลาลวก ตังฉ่าย ข่าแก่คั่วป่น และขึ้นฉ่ายซอย โรยพริกไทยป่น เสิร์ฟกับเต้าเจี้ยวบด
รู้เทคนิคการทำ “ข้าวต้มปลา” กันแล้วใช่ไหมครับ มันง่ายกว่าที่เพื่อน ๆ คิดไว้กันแน่นอน หรือถ้ายังไม่จุใจก็ลองทำเมนู “ข้าวผัดปู” ก็ทำง่ายเหมือนกัน ถ้าเพื่อน ๆ ทำแล้วอย่าลืมโพสต์รูปมาอวดกันด้วยนะครับ
วิธีทำ ข้าวต้มปลา
- ต้มข้าวกับน้ำและใบเตยจนข้าวสุก แล้วกรองข้าวออกจากน้ำแยกไว้
- ใส่น้ำต้มข้าวและน้ำสต๊อกหมูลงในหม้อ ต้มพอเดือด แล้วใส่ข้าวลงไปต้มอีกครั้ง
- ลวกเนื้อปลาในน้ำต้มข้าวจนสุก
- ตักข้าวต้มและปลาใส่ชามจัดเสิร์ฟ ปรุงด้วยซีอิ๊วขาว ตังฉ่าย ข่าป่น ขึ้นฉ่าย พร้อมเต้าเจี้ยวบด
แหล่งที่มา www.wongnai.com