รสชาดข้าวกะเพรา 25-30 ปีที่แล้ว กับรสชาดปัจจุบัน มีความแตกต่างกันไหมครับ ?
กำลังสงสัยว่าข้าวกะเพรา 25-30 ปีก่อน
กับปัจจุบัน มีความต่างกันไหม
เช่น ปัจจุบัน อาจเค็มกว่าสมัยก่อนหรือออกหวานกว่าแต่ก่อน
กับปัจจุบัน มีความต่างกันไหม
เช่น ปัจจุบัน อาจเค็มกว่าสมัยก่อนหรือออกหวานกว่าแต่ก่อน

สมาชิกหมายเลข 6221729
1 กรกฎาคม เวลา 21:33 น.
1 กรกฎาคม เวลา 21:33 น.
ความคิดเห็นที่ 7
ลองผัดแบบเมื่อ 30-40 ปี ซิคะ ใช้น้ำมันหมู หมูเนื้อแดงสับหยาบ พริกขี้หนูแดง กระเทียมไทย น้ำปลา ซีอิ๊วดำ ใบกระเพราแดง
ไม่ใส่ผักทุกชนิด ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่น้ำมันหอย ไม่ใส่ผงปรุงรส ไม่ใส่ผงชูรส

ศุกร์ 13
2 กรกฎาคม เวลา 14:20 น.
2 กรกฎาคม เวลา 14:20 น.
แหล่งที่มา pantip.com
ถ้ากินข้างนอก แต่ละร้านแต่ละคนปรุงมันเปลี่ยนไปเรื่อย
หากทำกินเองแตกต่างแน่นอน เพราะฝีมือมันพัฒนาขึ้น
รู้จักวัตถุดิบเครื่องปรุงหรือซอสที่ดีขึ้น มันย่อมอร่อยกว่าเดิม
1 กรกฎาคม เวลา 21:52 น.
3 กรกฎาคม เวลา 18:55 น.
1 กรกฎาคม เวลา 23:55 น.
– ไม่ใส่น้ำมันหอยกันหนักแบบสมัยนี้
– ไม่ใส่ผงชูรสกันเป็นทัพพีแบบสมัยนี้
– ไม่หวานแบบสมัยนี้
2 กรกฎาคม เวลา 02:08 น.
4 กรกฎาคม เวลา 21:49 น.
คนรอคิวยาว (ไม่รู้เจ้านี้ยังอยู่อีกไหม)
สมัยนี้ สั่งกะเพราเหมือนได้ก๋วยเตี๋ยวกะเพรามา น้ำจะเยอะไปไหน
2 กรกฎาคม เวลา 06:38 น.
2 กรกฎาคม เวลา 10:15 น.
2 กรกฎาคม เวลา 12:50 น.
เราไปเอาเมล็ดต้นใบเล็กจากดินที่ไม่ได้รดน้ำใกล้บ้าน แต่พอมาปลูกที่บ้านรดน้ำทุกวัน ดินอุดมสมบูรณ์ มันโตมาก็ใบใหญ่กว่าต้นแม่
มันคงเป็นธรรมดาของพืชที่พอรดน้ำเยอะ กลิ่นมันก็ไม่ฉุนเท่าปลูกที่น้ำน้อย
2 กรกฎาคม เวลา 14:03 น.
ไม่ใส่ผักทุกชนิด ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่น้ำมันหอย ไม่ใส่ผงปรุงรส ไม่ใส่ผงชูรส
2 กรกฎาคม เวลา 14:20 น.
2 กรกฎาคม เวลา 19:41 น.
3 กรกฎาคม เวลา 14:11 น.
3 กรกฎาคม เวลา 14:52 น.
2 กรกฎาคม เวลา 14:32 น.
สมัยก่อน สูตรแบบบ้านๆ ซื่อๆ
สมัยยนี้ เครื่องปรุงหลากหลาย ซีอิ้ว / ซอสถั่วเหลือง / ผงชูรส / น้ำเยอะ ข้าวโพด หอมใหญ่
เหมือนข้าวผัด อะ
ผมอยากกินข้าวผัด สีออกน้ำตาลไหม้ โรยพริกไทย กินกับ ก้านต้นหอม. แตงกวา ไทย เขียวๆกรอบๆ. โอ็ยยยยย ทนไม่ไหวแล้ววว
2 กรกฎาคม เวลา 15:07 น.
สมัยนี้อะไรก็ใส่ได้ หลากหลายมากๆ
2 กรกฎาคม เวลา 23:53 น.
เนื่องจากนำ้ตาลนั้นเหมือนสารเสพติดชนิดหนึ่ง คนกินถ้ามีรสหวานมักจะชอบมากกว่าไม่มี แม่ค้าพ่อค้าเขารู้เลยใส่กันไม่ยั้งในสินค้าอาหารทุกอย่าง
คนไทยปัจจุบันกินหวานมากเกินไป ก๋วยเตี๋ยวในบางจังหวัดถึงกับใส่น้ำตาลและเครื่องปรุงโรยหน้ามาให้เลยโดยไม่ต้องสั่ง
การกินน้ำตาลจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งอินซุลิน ซึ่งจะออกฤทธิ์ให้มีการสะสมไขมันในร่างกาย ทำให้น้ำหนักตัวมากขึ้นและอ้วนขึ้น อีกทั้งเมื่อมีอินซุลินขนาดสูงในร่างกายเป็นเวลานานจะทำให้ตัวจับอินซุลินที่เซลล์ต่างๆในร่างกายลดลง ทำให้ร่างกายดึงน้ำตาลไปใช้ได้น้อยส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก่อให้เกิดโรคเบาหวานตามมา
การลดหวานควรเป็นวาระแห่งชาติได้แล้ว สสส.เอาเงินที่รณรงค์เมาไม่ขับที่ทำกันปีละครั้ง (และไม่ค่อยได้ผล) ก่อนสงกรานต์มารณรงค์เรื่องลดหวานทั้งปีน่าจะช่วยประเทศได้เยอะกว่ามาก
3 กรกฎาคม เวลา 11:04 น.
รสชาติแบบนี้ไม่ใช่หรอครับ
3 กรกฎาคม เวลา 12:00 น.
อนุญาตแบบนี้ไม่ใช่หรอครับ
ขออนุญาตนะครับ
นะแบบนี้ไม่ใช่หรอครับ
ขออนุญาตนะครับ
หรือแบบนี้ไม่ใช่หรือครับ
3 กรกฎาคม เวลา 12:18 น.
แถวถนนตก ผัดกระเพรา ทอดไข่ดาวได้แบบทีกินไม่เบื่อเลย
กะกระเพราะหมูสับ ห่อใบตองที่ปากช่อง ผัดแห้งๆ หอมใบตองด้วย ดูโบราณน่ากิน
3 กรกฎาคม เวลา 12:12 น.
กะเพราเมื่อก่อน ร้านไหนร้านนั้น รสชาติเข้มข้น หนักไปทางรสเผ็ดจัดจ้าน กลิ่นใบกะเพราฉุนขึ้นจมูกเลย
เฉกเช่นเดียวกันกับข้าวแกงข้างทาง เมื่อก่อนทานร้านไหนก็รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องมาก
ยิ่งพวกแกงเขียวหวาน พะแนงฯ ยุคนี้ยิ่งเห็นได้ชัด หวานเจี๊ยบทุกร้าน หน้าตาแตกต่าง แต่รสชาติเหมือนกันหมด
3 กรกฎาคม เวลา 12:17 น.
สมัยนี้ มีวิวัฒนาการ ใส่ เเครอท หอมใหญ่ ข้าวโพดอ่อน ซึ่งเปลี่ยนไปจากเดิม
ว่าเเต่ ผัดกะเพราโบราณ เขาไม่ใส่ ซีอิ๊ว นะครับ ถ้า20 30 ปีก่อนใส่ เเสดงว่าไม่โบราณ เช่นกัน55
อ้างอิง จากรายการอาหารหม่อมป้อม ครับ
3 กรกฎาคม เวลา 12:27 น.
3 กรกฎาคม เวลา 12:27 น.
3 กรกฎาคม เวลา 12:32 น.
3 กรกฎาคม เวลา 12:35 น.
3 กรกฎาคม เวลา 13:05 น.
3 กรกฎาคม เวลา 13:09 น.
3 กรกฎาคม เวลา 13:14 น.
กระเพราสมัยก่อนใบไม่ใหญ่มาก
3 กรกฎาคม เวลา 13:17 น.
เชื่อว่าอยู่ที่ดิน และน้ำค่ะ ( เพราะเจอมากับตัว ปลูกเองกับมือหลายครั้ง ทั้งที่เอาเมล็ดใบเล็กมาปลูกทุกครั้ง )
พืชที่ดินดีชุ่มชื้น ได้รับน้ำสม่ำเสมอ ใบสมบูรณ์ก็จะมีขนาดของใบใหญ่ขึ้น
คือสมัยนี้อาจใส่ใจการปลูกมากไป
ดินดีมีปุ๋ยน้ำพร้อม เลยได้ออกมาใบใหญ่
จริงๆ กะเพราเกิดขึ้นง่ายมากพอๆ กับวัชพืช
ไม่ต้องดูแลเยอะ
ข้อเสียอีกข้อ พอรดน้ำเยอะ กลิ่นมันอาจไม่ฉุนเท่าที่ปลูกแบบแล้งๆ ใบเล็ก
4 กรกฎาคม เวลา 02:43 น.
3 กรกฎาคม เวลา 13:47 น.
โดยเฉพาะไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ
เขาผัดใส่หมูสับมา
4 กรกฎาคม เวลา 02:28 น.
3 กรกฎาคม เวลา 13:52 น.
3 กรกฎาคม เวลา 15:34 น.
3 กรกฎาคม เวลา 15:40 น.
ถ้าไปเจอตามโรงอาหาร ผมก็ยังชอบสั่งรำลึกความหลังอยู่
3 กรกฎาคม เวลา 16:17 น.
ข้าวผัดกะเพราในโรงอาหารสมัยเรียนมหาลัย กับ ข้าวผัดกะเพราที่กินร้านข้างออฟฟิศสมัยนี้รสชาติแทบไม่ต่างกันเลย อยู่ที่สไตล์ของแต่ละร้าน จะผัดน้ำแห้ง น้ำเยอะ เค็มนำ หวานนำ เผ็ดมาก เผ็ดน้อย ใส่ถั่วฝักยาว ใส่ข้าวโพดอ่อน หรือผักอื่นๆ ปนมาก็มีมานานแล้ว
มันไม่ได้เป็นภาพในอุดมคติแบบที่ว่าสมัยก่อนร้านกะเพราทั่วฟ้าเมืองไทยมีแต่กะเพราออริจินัล สมัยนี้ผิดเพี้ยนไปหมดอะไรแบบนั้นเลย ที่เปลี่ยนไปจริงๆ คือราคาที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา
ถ้าให้ยกตัวอย่างที่เปลี่ยนไปคือหมูปิ้งครับ สมัยก่อนนิยมเป็นหมูชิ้นบางๆ สี่เหลี่ยมผืนผ้าเสียบไม้ตามแนวยาว ไม่มีมันแทรก ถ้ามีมันคือเสียบไว้ 1 ก้อนตรงโคนไม้ ต่อมาก็เริ่มเป็นหมูชิ้นๆ เสียบสลับชั้นกับก้อนมัน(สมัยนี้ก็ยังเจออยู่) และเพิ่งมายุคหลังๆ ที่มีหมูปั้นเป็นก้อนๆ แบบหมูปิ้งนมสดอะไรแบบนั้น
3 กรกฎาคม เวลา 19:10 น.
3 กรกฎาคม เวลา 21:17 น.
3 กรกฎาคม เวลา 21:26 น.
3 กรกฎาคม เวลา 21:41 น.
“กะเพราโบราณ”
3 กรกฎาคม เวลา 23:30 น.
แต่ที่บ้านเราจะเรียกกะเพราบ้านนอก ( ของชอบของครอบครัว ) เพราะทางบ้านที่ตจว.จะผัดแห้งๆ รสชาติจัดจ้าน สีเข้ม และไม่ค่อยใส่ผักอื่น หรือจะมีบ้างคือใส่หน่อไม้ดอง
4 กรกฎาคม เวลา 02:26 น.
ไม่ใส่น้ำมันหอย ไม่ใส่ชูรส ไม่ใส่รสดี
ใช้น้ำปลากับซีอิ๊วดำ ผัดรวนคั่วแห้งๆ รสจัดจ้าน
ไม่ใส่ผักอื่น ยกเว้นบางทีผัดใส่หน่อไม้ดอง
โดยเฉพาะเนื้อนะคะ เด็ด! พูดแล้วน้ำลายสอ
4 กรกฎาคม เวลา 02:36 น.
4 กรกฎาคม เวลา 04:13 น.
ที่นั่นตอนนั้นกะเพราไม่ใส่ผักอื่น
ครอบครัวเราต้องเดินทางหลายจังหวัดโดยเฉพาะตาก นครสวรรค์ กำแพงเพชร อ่างทอง ที่มีบ้านญาติ และจ.ทางผ่านต่างๆ ที่เจอโดยมากในวัยนั้นคือไม่ใส่ผักอื่น
จนเมื่อเราเริ่มโตช่วงปี 32 เป็นต้นมา ย้ายมาอยู่นนทบุรีและกทม. ถ้าจำไม่ผิดพึ่งได้เห็นผัดกะเพราในร้านข้าวแกงในรร. มีถั่วฝักยาวฝานขวางบางๆ ใส่ด้วย แต่เราก็ไม่ได้ยี้นะ ก็กิน แต่ก็เข้าใจว่าร้านคงใส่เพื่อเพิ่มปริมาณผัดให้ดูเยอะ เพราะสมัยนั้นผักถูก ข้าวที่รร.ก็ถูก
ที่เราจำได้ว่าน่าจะมีถั่วฝักยาวเพราะ มีการคุยเล่นกับเพื่อนเรื่องตั้งชื่อเมนูกับข้าวว่าหมูตะลุยผัก ( แต่จริงๆ ร้านเขาไม่ได้ให้หมูไก่น้อยหรอก แต่อารมณ์เด็กคุยกันสนุกปากและเพื่อนไม่ค่อยกินผักกัน )
เราไม่ได้กินร้านที่ขายอาหารตามสั่งในรร.เลย ไม่อยากรอนาน เลยกินแต่ข้าวแกง , ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ
จนประมาณปี 36-37 เคยตามเพื่อนไปหอพักแถวรามอินทรา ตอนนั้นยังไม่เคยสั่งอาหารตามสั่งเองเลย เพื่อนสั่งกะเพราไก่ก็เลยสั่งด้วย ก็เป็นไก่ผัดใส่แค่พริกใบกะเพราไม่มีผักอื่น
เราจึงคิดว่ามันน่าจะเป็นเฉพาะร้านนะที่ใส่ผักอื่นด้วยและต่อมาพอหมูแพงขึ้นๆ เลยนิยมใส่ผักอื่นกันแพร่หลายเพื่อเพิ่มปริมาณ
ส่วนตัวเรากินได้ทั้งนั้นแหละถ้าไม่มีให้เลือกเพราะเราชอบกินผัก แต่รสชาติมันจะต่างจากผัดเนื้อสัตว์เพียวๆ กับใบกะเพรา
ราคาเนื้อสัตว์คงเป็นตัวแปรสำคัญด้วยที่ทำให้กะเพราเปลี่ยนไป
แต่ถ้าความชอบส่วนตัวก็ชอบหอมใหญ่หั่นเล็กๆ ใส่เพื่อความหวานตัดรสเค็มแทนน้ำตาล / เห็ดฟาง ( แต่เดี๋ยวนี้ก็แพงพอๆ กับหมู ) /หน่อไม้ หรือหน่อไม้ดองยิ่งผัดกับเนื้อเผ็ดๆ จะเด็ดมากๆ
4 กรกฎาคม เวลา 14:21 น.
4 กรกฎาคม เวลา 07:21 น.
แต่ร้านที่ยึดถือหลักผัดแห้งๆ ไม่ใส่ผักก็ยังมีนะครับ แต่กลุ่มนี้พออายุมากขึ้นรสก็เปลี่ยนเหมือนกัน…อายุมากแล้วการรับรสเพี้ยนน่ะ
ส่วนผมเองชอบกะเพราที่ใส่ผัก จะได้หมดปัญหาเรื่องกินผักไม่พอ ง่ายดี
4 กรกฎาคม เวลา 07:25 น.
ส่วนรสชาดก็แล้วแต่แม่ครัว แต่ละร้านทำไม่เหมือนกัน ความรู้สึกของเราตอนกินเมื่อก่อนกับตอนนี้ก็ไม่เหมือนกัน
ที่ว่าสมัยก่อนรสชาดเผ็ดกว่าตอนนี้ อาจเพราะกินตอนเด็กเลยรู้สึกเผ็ดกว่ากินตอนโตก็ได้
4 กรกฎาคม เวลา 08:27 น.
4 กรกฎาคม เวลา 08:39 น.
เพียงแต่ที่เขาแย้งกันคือ ประมาณ 30+- ปีหลัง ใส่ผักอื่นอย่างแครอท ข้าวโพดอ่อน ถั่วฝักยาว อะไรพวกนี้กันเยอะ ( อาจเพราะหมูและเนื้อแพงขึ้นๆ เขาเลยใส่ไปเพื่อเพิ่มปริมาณ ) และก็มีพวกน้ำมันหอย รสดี มาเพิ่มรสชาติเลยเปลี่ยนไป คนส่วนนึงเลยคิดถึงกะเพราเมื่อก่อนที่เคยกินกัน
4 กรกฎาคม เวลา 14:28 น.
แปลกที่คุณไม่ได้อ่านคำถามของ จขกท ต่างหาก
4 กรกฎาคม เวลา 17:18 น.
เพราะคนมักจะเถียงกันเรื่องใส่ผักอื่น ไม่ได้ตั้งใจมาหาเรื่อง
4 กรกฎาคม เวลา 19:49 น.
4 กรกฎาคม เวลา 19:52 น.
4 กรกฎาคม เวลา 21:40 น.
4 กรกฎาคม เวลา 10:27 น.
4 กรกฎาคม เวลา 10:58 น.
4 กรกฎาคม เวลา 11:02 น.
4 กรกฎาคม เวลา 11:08 น.
4 กรกฎาคม เวลา 13:06 น.
4 กรกฎาคม เวลา 13:57 น.
4 กรกฎาคม เวลา 15:02 น.
9 กรกฎาคม เวลา 01:20 น.