มีคนบอกว่า “การห้ามกินหมู เป็นเรื่องปกติของธรรมชาติ” ครับ pantip

หลายครั้ง คนเรา เอาความเชื่อที่ตัวเองมีมานำหน้า
แล้ว”หา”ข้ออ้าง มาเติมทีหลัง ว่าทำไมความเชื่อของเราถึงดีถึงถูก

ถ้าบอกว่า การไม่กินหมู จะเข้าเค้ากว่า เช่น สิงโตไม่กินหมู เพราะในสะวันนามันไม่มีหมูให้กิน
แต่ถ้า การห้ามกินหมู มันต้องมีคนห้าม มีคนกำหนด เช่น ห้ามสิงโตกินหมู คือ ต่อให้มีหมูอยู่ข้างหน้า ต่อให้สิงโตหิวโหย ด้อมๆ มองๆ จะตะปบเอา ก็ไม่อนุญาตสิงโตให้กิน

ตามธรรมชาติมนุษย์เป็นสัตว์กินทั้งพืชทั้งสัตว์ครับ

และธรรมชาติไม่มี”กฎ”ครับ กฎเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา การ”ห้าม”นั่นนี่ไม่ใช่สิ่งที่กำเนิดโดยธรรมชาติ

เขาที่ว่าหน่ะ… ใครอ่ะ…..  ส่วนห้ามตามหลักศาสนา หรือความเชื่อ อันนี้ก็แล้ว
แต่นะ ความเชื่อเขาเราเอามาวิจารณ์ในสื่อสาธารณะ ดูจะไม่เหมาะสม

ธรรมชาติ สร้างให้มนุษย์มีสติปัญญา และพัฒนาสามารถนี้ได้  การที่คนคิดจะกิน
หรือไม่กินหมู ธรรมชาติไม่ได้ห้ามนะ เพราะแล้วแต่ละคนจะเอาสติปัญญาที่ธรรมชาติ
ให้มาในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ เอาเอง…….

จะว่าไป ธรรมชาติก็เดิมพันกับมนุษย์ไว้สูงอยู่นะ เอาความอยู่รอดของตัวเองวางไว้กับ
การสร้างมนุษย์ในมีสติปัญญาเนี่ย………  ตอนนี้คงได้แต่นั่งแทะเล็บมือแกร๊กๆๆๆๆๆๆ
พรางคิดวนๆ ไปว่า “ตูจะรอดหรือไม่รอดหว่า…. ตูคิดถูกหรือคิดผิดหว่า….” ว่าไปก็น่า
สงสารธรรมชาติอยู่ไม่น้อย….เห๊อ……

กฎของธรรมชาติคือ   จงกินเพื่อมีชีวิตอยู่ครับ

อาจฟังดูแปลกๆ(ในฐานะมนุษย์)
            ธรรมชาติไม่มี ข้อห้าม ใดๆ(หากตัดมนุษย์ของจากโลก จะเห็นความเป็นไปของธรรมชาติ)
            ที่มี กฏ มี ข้อห้าม คือสิ่งที่คนตั้งขึ้นมาด้วยการไตร่ครอง ไม่เป็นตามธรรมชาติ
            เพราะธรรมชาติกำหนดความอยู่รอดของสรรพสัตว์ ไม่มีกฏเกณฑ์ข้อห้ามใดๆ
            สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก ผู้แข็งแกร่งผู้ปรับตัวได้ย่อมอยู่รอด ผู้อ่อนแอก็ตายไป

ข้อห้ามในศาสนาเองก็ไม่ได้บอกเลยครับว่าทำไม เพียงแต่บอกว่าหมูเป็นสัตว์ไม่สะอาด
ตรงนี้เป็นไปได้ว่าอิสลามปรับคตินี้มาจากศาสนายูดาห์อีกทีหนึ่งที่ไม่กินหมูเช่นกัน เพราะเป็นสัตว์เท้ากีบแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง

ห้ามกันได้ไม่ว่า แต่บางทีอย่าชักชวนคนอื่นทำตามด้วย

บางทีมันเดือดร้อนกันเป็นทอดๆ กันมาครับผม

…
..
.