คุณเรื่องมากกับการกิน (สั่ง) อาหารหรือเครื่องดื่มมากแค่ไหนคะ
คุณเรื่องมากกับการกิน (สั่ง) อาหารหรือเครื่องดื่มมากแค่ไหนคะ ลองมาแชร์กันค่ะ
สำหรับเรา เราเรื่องมากกับการกินมากค่ะ
เราชอบกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำไม่ใส่ถั่วลิสง แต่พอสั่งแบบนี้ บางร้านก็จะคะยั้นคะยอให้เราใส่ถั่วด้วยเพราะเค้าโฆษณาว่า คั่วถั่วเองนะ อร่อย
กินบะหมี่หมูแดงพิเศษหมูแดง
กินผัดฉ่าไม่ใส่พริกไทยเม็ดกับกระชาย (ใส่มาเขี่ยออกค่ะ แต่เดี๋ยวนี้พัฒนา เริ่มกินกระชายได้😂😂)
กินชานมไข่มุก ไม่ใส่ไข่มุกค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ 5 มีนาคม เวลา 22:23 น.
Gerbera Daisy
16 กุมภาพันธ์ เวลา 18:58 น.
16 กุมภาพันธ์ เวลา 18:58 น.
แหล่งที่มา pantip.com
อยากกินแบบไหนก็ทำเอง แต่ก็ยังทัวร์กินร้านทั่วไปอยู่ เพื่อชิมรสชาติไว้ไปทำกินเอง
16 กุมภาพันธ์ เวลา 19:38 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 05:59 น.
ถ้ากินอาหารนอกบ้านส่วนใหญ่จะบุฟเฟ่ต์เลือกเองได้จะกินหรือไม่กินอะไร
ถ้าจำเป็นต้องพึ่งอาหารนอกบ้านจริงๆ
จะสั่งเมนูเบสิคสุดๆ ข้าวไก่กระเทียมพริกไทย เพราะเป็นเมนูเดียวไม่ว่าแม่ค้าทำแบบไหนก็กินได้
ไม่อยากเรื่องเยอะกับคนอื่น เกรงใจแม่ค้าค่ะ
– ผัดกะเพราเรากินแบบร่วนและแห้งมาก ถ้าผัดกะเพราแบบน้ำท่วมนี่ไม่กินเลยจ้า
– ไข่ดาวต้องกรอบทั้งไข่แดงและไข่ขาวไม่กินไข่แดงเยิ้มๆ ยกเว้น egg benedict
ถ้าต้องไปพักโรงแรมเลือกกินคอนเฟลกใส่นมมากกว่า ไข่ดาวกับไส้กรอก
– ไม่กินของคาวที่มีรสหวาน เช่น กุนเชียง หมูหยอง หมูหวานในข้าวคลุกกะปิ
– ก๋วยเตี๋ยวกินแบบไม่ปรุง คือถ้าร้านทำไม่อร่อยก็ไม่กิน
– ไม่กิน มะเขือเทศ แตงกวา มะระ
– ไม่กินทุเรียน ขนุน ลำไย
– ไม่กินหวานจัด ชานมไข่มุกกินได้อยู่ 2 ร้าน The Alley กับ Koi The เพราะถ้าสั่งหวานน้อยได้หวานน้อยจริง
นอกนั้น หวานน้อยแล้วก็ยังหวานสำหรับเราอยู่ดีค่ะ
พอแล้วดีกว่าค่ะ รู้สึกเหมือนเป็นคนที่ไม่น่าดำรงชีวิตอยู่ได้ถ้าเรื่องเยอะขนาดนี้
16 กุมภาพันธ์ เวลา 19:55 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 06:05 น.
16 กุมภาพันธ์ เวลา 23:42 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 06:23 น.
แต่เรื่องมากเรื่อง ราคา ถ้าราคาต่อจานเกิน 50 คิดหนักเลย ถ้าบุฟเกิน 500 ก็เมิน
และที่เป็นหนักสุดคือ คิวต่อแถว เห็นคิวบุป เดินเลี้ยวกลับปั๊บ อร่อยแค่ไหนก็ไม่รอ(เพราะลิ้นจระเข้ด้วย กินร้านไม่ต้องอร่อยมากก็ฟินแล้ว)
17 กุมภาพันธ์ เวลา 04:36 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 06:26 น.
ไม่รับประทานหน่อไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่อไม้ดองหน่อไม้ปิ๊บ
เครื่องดื่มไม่ใส่น้ำเชื่อมหรือน้ำตาล ไอศกรีมไม่ต้องท็อปปิ้งนม
ร้านขายเครื่องดื่มชงข้างทาง จะหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ใส่นม
17 กุมภาพันธ์ เวลา 05:14 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 06:29 น.
อ๋อแล้วก็เนื้อวัวค่ะ เลิกกินมา10กว่าปีแล้ว แต่สามารถนั่งร่วมกับคนทานเนื้อได้ ไม่มีปัญหาใดๆค่ะ
17 กุมภาพันธ์ เวลา 10:42 น.
เราก็เลิกกินเนื้อมา 10 กว่าปีแล้วค่ะ สงสารเค้า เคยคิดที่จะเลิกกินหมูด้วยนะคะ แต่เลิกไม่ได้จริงๆ😢😢
17 กุมภาพันธ์ เวลา 19:48 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 19:51 น.
– เกลียดอาหารเผ็ด ห้ามใส่พริก ยกเว้นปาปริกากับพริกหวาน
– ไม่ชอบอาหารรสจัดเกินไป
– เปลี่ยนเป็นเครื่องปรุงที่ชอบ เช่น ใช้โชยุแทนซีอิ๊วทุกเมนู ใช้หอมใหญ่แทนหอมแดง
– ไม่กินข้าวหอมมะลิ เนื้อข้าวนุ่มเกินไป
– ไม่กินข้าวทุกมื้อติดกัน เบื่อ
– ไม่กินไข่ขาวดิบ/ไข่ลวก
เราว่าเป็นคนกินง่ายนะ
17 กุมภาพันธ์ เวลา 12:12 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 19:50 น.
ร้านอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว สั่งว่าไม่ใส่ผงชูรส แค่นั้นละ
ส้มตำ สั่งไม่ชูรสกับไม่ถั่วฝักยาว ลาบ น้ำตก ต้มแแซบ ไม่ใส่ชูรส
ถ้าพวกต้มเครื่องใน ทุกอย่างสั่งว่าไม่เอาปอด
17 กุมภาพันธ์ เวลา 14:10 น.
17 กุมภาพันธ์ เวลา 19:51 น.
แต่แฟนนี่เรื่องมากสุดๆ
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ไม่ใส่ถั่วป่น กลัวเชื้อรา
บะหมี่แห้ง ไม่ใส่น้ำมันกระเทียมเจียว กลัวอ้วน แต่เบิ้ลตลอด
กะเพราไก่ไม่ใส่หนัง กลัวมัน
ส้มตำไทยเผ็ดน้อยไม่ใส่ถั่ว บางร้านเลยไม่ใส่ทั้งถั่วลิสง ถั่วฝักยาว ก็บ่นอีก
กระเทียมเจียวไม่เอาเปลือก ก็ทำกินเองแล้วกันแม่ตุณ
ไม่อยากไปสั่งให้เธอเลย กลัวโดนแม่ค้าด่า
17 กุมภาพันธ์ เวลา 14:46 น.
18 กุมภาพันธ์ เวลา 10:08 น.
พอไปกินข้างนอกก็วิจารณ์แหลกเหมือนกัน
ผมก็เฉยๆกินไป ไม่อยากเถียง
หลายๆอย่างทำเองก็ไม่ไหว เครื่องเยอะ ขั้นตอนเยอะ ก็ต้องซื้อกิน
18 กุมภาพันธ์ เวลา 11:07 น.
ดังนั้นเวลาเวลาสั่งส้มตำก็แค่บอกว่าไม่ใส่พริกหรือกำกับแค่ว่าใส่พริกหนึ่งเม็ด
หรือเวลาสั่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก็จะแค่กำกับว่าต้มยำแบบไม่เผ็ด
17 กุมภาพันธ์ เวลา 22:22 น.
18 กุมภาพันธ์ เวลา 10:10 น.
ถึงได้อ้วนอยู่อย่างนี้ 😰😌
18 กุมภาพันธ์ เวลา 05:41 น.
ถ้ากินแล้วออกกำลังกาย ไม่อ้วนนะคะ ลองดูค่ะ ฮึบๆ
18 กุมภาพันธ์ เวลา 11:01 น.
จะมีเยอะแค่แต่ สั่งเครื่องดื่มไม่หวาน สั่งกะเพราเผ็ดน้อย แค่นี้ค่ะ ซึ่งคงไม่ถือว่าเยอะเท่าไร
3 มีนาคม เวลา 21:09 น.
4 มีนาคม เวลา 09:32 น.
3 มีนาคม เวลา 21:15 น.
4 มีนาคม เวลา 09:33 น.
3 มีนาคม เวลา 21:20 น.
4 มีนาคม เวลา 09:34 น.
ที่เหลือ คือ ทดลองสั่งกินแล้วรสไม่ถูกปาก ก็ไม่กินร้านนั้นอีก
หรือไม่กินเมนูนั้น ที่ใส่พริกไทยสด หรือกระชาย อะไรที่ไม่ชอบ
3 มีนาคม เวลา 21:24 น.
3 มีนาคม เวลา 21:27 น.
แต่น้ำเปล่า กินยี่ห้อเดียวค่ะ ไม่มีไม่กิน ยอมอดหรือกินน้ำสีๆแทน ไม่รวมพวกน้ำแร่นะคะ อันนั้นกินได้ แต่แพงเลยไม่กิน 555
3 มีนาคม เวลา 21:38 น.
อารมณ์แบบมันต้องอร่อยเวลาที่เราหิว ถ้าสั่งมาไม่อร่อยหิวแค่ไหนเราก็ไม่กิน เราจะไม่กินของที่ไม่อร่อย
– ไม่ชอบกินปลาเพราะรู้สึกว่าคาว
– ไม่กินน้ำปลาเพราะไม่ชอบกลิ่น
– ไม่กินเมนูเนื้ออะไรที่น่ากลัวๆ
– ไม่ชอบเมนูอาหารที่ไม่เคยรู้จัก
– ไม่ชอบลองกินอะไรที่แปลกๆ
3 มีนาคม เวลา 21:40 น.
3 มีนาคม เวลา 21:44 น.
แต่นอกนั้นคือ ถือว่ากินง่ายพอควรค่ะ กินซ้ำๆก็กินได้ มีของที่ไม่ชอบ ก็เขี่ยออกไปแค่นั้นเลยค่ะ
3 มีนาคม เวลา 22:27 น.
3 มีนาคม เวลา 23:00 น.
เราทานไม่ได้เพราะกลิ่นเหม็นและแพ้นะคะ ไม่ได้ดัดจริต เป็นมาตั้งแต่เกิดจำความได้เลย แต่เราไม่เรื่องมากนะคะคือ ถ้าทานเป็นต่อให้รสชาดห่วยแตก เราก็ทานได้นะคะ เอาล่ะมาดูกันว่าเราทานอะไรไม่ได้ตั้งแต่เกิดบ้าง
1. เนื้อสัตว์แปรรูปทุกชนิด พวกไส้กรอก แฮม เบคอน แหนม หมูยอ ทานไม่ได้เลย ที่พอทานได้คือ ลูกชิ้นที่แป้งเยอะ ๆ อ่ะค่ะจะทานได้ไม่เหม็นมาก
2. หนังของสัตว์ทุกชนิด พวกหนังไก่ หนังหมู อะไรพวกนี้อ่ะค่ะ ทานไม่ได้เลย ที่พอทานได้ ชิ้นสองชิ้น คือหนังปลาค่ะ ดังนั้นพวกขาหมูที่มีหนัง หรือหมูกรอบนี่ เกิดมาไม่เคยทานเลยค่ะ ถ้าทานไก่ก็ต้องลอกหนังทิ้งหมดค่ะ เวลาเห็นคนกินบอนชอนกัน เราก็อยากกินนะ แต่กินไม่ได้อ่ะ มันต้องแกะไอ้ตรงหนังที่มีซอสทิ้งหมด แล้วก็ทานพวกปีกไก่เท้าไก่ไม่ได้เลย เพราะมันมีแต่หนังอ่ะค่ะ
3. ปลาน้ำจืด เกือบทุกชนิด มันจะเหม็นกลิ่นดินอ่ะค่ะ ที่คิดว่าเป็นปลาน้ำจืดแล้วกินได้จะมี ปลาช่อนกะปลาสลิดค่ะ นอกนั้นทานไม่ได้ค่ะมันเหม็น
4. ปลาทะเลที่เป็นเนื้อแดง จำได้ว่าสมัยเด็กๆ พอทานปลาแซลม่อนได้บ้าง แต่พอโตมาปลาแซลม่อนมันก็เริ่มเหม็นขึ้นจนสุดท้ายทานไม่ได้ไปด้วยค่ะ อันนี้รวมถึงปลาทะเลที่เลี้ยงในกระชังอ่ะค่ะ คือเอาจริงเราไม่รู้หรอกว่าเค้าเลี้ยงที่ไหน แต่พอเอามาทานบ้างตัวมันเป็นปลาทะเลแต่เราจะเหม็นเหมือนตอนกินปลาน้ำจืด ก็เลยพาลทานไม่ได้ไปด้วย แต่ถ้าเอาเซฟ ๆ ก็กินปลาทะเลทอด ก็จะพอกลบกลิ่นเหม็น ๆ ไปได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นปลาน้ำจืดทอดมันก็ยังเหม็นอยู่ก็ทานไม่ได้อยู่ดีค่ะ
5. พวกมันของสัตว์ อันนี้นอกเหนือจากหนังในข้อ 2 นะคะ เช่นพวกมันกุ้ง มันปู เวลาเค้าโพสท์รูปกุ้งเผาหัวโต ๆ มีมันหรือไข่ก็ไม่รู้สีส้ม ๆ อ่ะค่ะพวกนั้นทานไม่ได้เลย ส่วนเนื้อกุ้งที่เป็นน้ำจืดกินได้นิดหน่อยค่ะ ทานเยอะไม่ได้มันจะเลียน แน่นหน้าอก อาเจียนค่ะ เวลาไปกินกุ้งเผากะเพื่อนหรือครอบครัว ก็จะเนียน ๆจิ้มกินคำสองคำพอเป็นพิธีค่ะ
6. ผลไม้เกือบทุกชนิด ทานได้แค่กล้วย ฝรั่ง สับปะรด แอปเปิ้ล สตอเบอรี่ ละมุด (อันนี้ภูมิใจ เพราะเห็นบางคนทานไม่ได้แต่เราทานได้) มังคุด เงาะ ชมพู่ และมะม่วงสุก (มะม่วงดิบทานไม่ได้) นอกเหนือจากนี้ทานไม่ได้เลยค่ะ แต่พวกที่แพ้มาก ชนิดได้กลิ่นใกล้ ๆ ถึงกะอ้วกแตกอ้วกแตน ก็จะเป็นลิ้นจี่ แตงโม มะละกอ ทุเรียน ขนุน สละ ระกำ กระท้อน ลำไย แต่แปลกที่เรากินน้ำลำไยกะน้ำส้มได้นะ แต่กินตัวมันไม่ได้ แล้วหลัง ๆ ก็หัดกินส้มตำได้แล้วด้วย (พัฒนาขึ้น)
7. ซอสทุกชนิด ที่เหม็นสุดยอดแบบทนไม่ได้ คือ แม๊กกี้ และซอสถั่วเหลือง คือถ้าร้านใส่ลงมาในอาหารนี่ถึงขั้นถ้าเข้าปากไปแล้ว ก็คายออกมาเลย ตัวซอสถั่วเหลืองอันที่ฝาสีเขียว ๆ นี่ถ้าใส่มานิดนุงก็บีบจมูกทานได้บ้าง แต่ถ้าใส่เยอะๆนี่ ขอวางช้อนเลย อันนี้รวมถึงซอสมะเขือเทศ ซอสพริก จิ้กโชว น้ำจิ้มไก่ ก็ทานไม่ได้เลยค่ะ ทานได้แค่น้ำปลากะซีอิ้วขาวแล้วก็น้ำจิ้มสุกี้ อันนี้เราว่าเป็นข้อดีนะ เรากินอาหารแบบจืด ๆ ไม่ต้องปรุงได้เลย
หลัก ๆ เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน พวกอื่นๆ เช่น เนื้อวัว (ไม่ทานเพราะนับถือเจ้าแม่กวนอิม) ไม่ทานของมัน ที่มีน้ำมันเยิ้ม (ขนาดที่ว่าผัดกระเพรา ถ้ามีน้ำมันติดช้อน เราต้องเช็ดช้อนแล้วก็ซับน้ำมันในจานก่อนกินแต่ละคำ อย่างพวกไข่เจียว ทอดมัน ก็เหมือนคนทั่วไปที่เค้าเอาทิชชู่ซับน้ำมันอ่ะค่ะ) พวกของหมักดองรวมถึงน้ำส้มสายชู พวกของหวาน พวกของเปรี้ยว ก็ทานไม่ได้มากทานได้คำสองคำเท่านั้น แล้วที่อันตรายคือพวกแมงดา (แพ้) กะไข่ขาวที่ไม่สุก (ไม่ย่อย)
ถ้าใครอ่านถึงตรงนี้ คงนึกภาพว่าเราคงเป็นพวกผอมแห้งแรงน้อยอยู่ในสังคมลำบาก แต่ในความเป็นจริงเราตัวอ้วนกลม แข็งแรงมาก ใครชวนทานอะไรเราก็ไปกะเค้า แล้วก็หาทานของที่กินเป็นหรือถ้ามีของกินไม่เป็นอยู่ในจานเราก็เขี่ย ๆ ออกไป แฟนเรา เพื่อน ๆ และครอบครัวเค้าเข้าใจดี ว่าเราไม่ได้แกล้ง แต่แพ้จริง ๆ เราก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เราเป็นอย่างงี้ตั้งแต่จำความได้แล้ว ก็เลยไม่รู้สึกลำบากอะไรนักอ่ะค่ะ
3 มีนาคม เวลา 23:45 น.
4 มีนาคม เวลา 00:30 น.
4 มีนาคม เวลา 01:18 น.
4 มีนาคม เวลา 05:11 น.
สั่งชานม 25% ถ้าได้หวาน 50% กลับไปผสมนมที่บ้าน
ถ้าได้หวาน 100% คือกินไม่ได้เลย ทิ้งทั้งแก้ว
อาจจะดูเรื่องมาก แต่สำหรับคนกินจืดจนลิ้นมันชินแล้ว หวาน 50 ของแม่ค้านี่เท่ากับหวาน 100 ของเราเลยนะ
4 มีนาคม เวลา 09:17 น.
4 มีนาคม เวลา 09:28 น.
แต่พออายุมากขึ้นจะเน้นไปที่เรื่องความสะอาด ปรุงแบบถูกหลักอนามัย แล้วถ้าเลือกได้ก็จะเลือกวัตถุดิบที่เกรดดีๆ
ถ้าจะมีเรื่องให้หงุดหงิดจะเป็นเรื่องปริมาณ โดยเฉพาะพวกอาหารจานเดียว คือคนกินอาหารจานเดียว ก็ต้องคาดหวังว่าจะกินจานเดียวจบ ลองคิดง่ายๆถ้าว่าคนทำอาหารต้องทำให้ลูก หรือคนในครอบครัวกิน แค่ 1 จานต่อ 1 มื้อ ปริมาณที่ทำมันโอเคจริงๆหรือ
ทำปริมาณให้พอเหมาะแล้วจะคิดราคาเท่าไหร่ก็คิดไป
4 มีนาคม เวลา 09:47 น.
แต่มีอย่างนึงที่ไม่ชอบ และรู้สึกว่าใช้ชีวิตยาก คือน้ำหวาน เราไม่ชอบกินน้ำหวานทุกชนิด แต่ชอบมีคนซื้อมาให้กินโดยไม่ถามก่อน ไอ้เราก็เกรงใจ ไม่กล้าพูดว่าไม่ชอบ เลยแก้ปัญหาโดยการถือแก้วเข้าห้องน้ำ แล้วเทน้ำทิ้งให้เหลือติดแก้วแค่นิดเดียวค่ะ เค้าจะได้คิดว่าเรากินไปแล้ว จะได้ไม่เสียใจ TT
4 มีนาคม เวลา 12:27 น.
4 มีนาคม เวลา 12:57 น.
กินง่ายๆ กินเพื่ออยู่
เครื่องดื่มเย็นก็แล้วแต่อารมณ์ ถ้าดื่มคนเดียวก็หวานปกติ แต่ถ้าเอามาแบ่งกับภรรยาก็หวานน้อย กาแฟเย็นหวานน้อย
แต่ถ้ากดจากร้านสะดวกซื้อแบบไหนก็แบบนั้น
4 มีนาคม เวลา 13:15 น.
แต่ถ้าทำกับข้าวกินเอง เรื่องเยอะสุดๆ
4 มีนาคม เวลา 16:20 น.
แม่ทำอะไรให้ก็กิน
จนญาติออกปาก เลี้ยงง่ายจริงๆ
จนเป็นนิสัย นึกไม่ออกจริงๆ ว่าไม่กินอะไร
จริงๆ ก็มีที่ไม่ชอบ แต่ไม่เคยเอ่ยปากกับใครให้เขาลำบากใจ
4 มีนาคม เวลา 19:18 น.
5 มีนาคม เวลา 01:57 น.
5 มีนาคม เวลา 08:58 น.
6 มีนาคม เวลา 13:27 น.
6 มีนาคม เวลา 14:02 น.
7 มีนาคม เวลา 06:52 น.
5 มีนาคม เวลา 15:11 น.
6 มีนาคม เวลา 14:04 น.
ทุกวันนี้กินอยู่ไม่กี่ร้าน แล้วแต่ละร้านก็สั่งแต่เมนูเดิมๆ
5 มีนาคม เวลา 21:14 น.
6 มีนาคม เวลา 14:06 น.
-ไม่กินเนื้อวัว และสัตว์แปลกอื่นๆ (กินแต่หมู ไก่ อาหารทะเล)
-ไม่กินเครื่องในทุกชนิด รวมถึงเท้าไก่ ขาหมู หัวหมู อะไรพวกนี้ด้วย
-ไม่กินกาแฟที่มีคาเฟอีน (ต้องกินแบบสกัดคาเฟอีนออก)
-ไม่กินรสหวานจัด (ต้องหวานไม่เกิน 50%)
-ไม่กินมะเขือเทศ ถั่วงอกดิบ (อ้วก)
-ไม่กินนมที่มีแลคโตส (แพ้)
-ไม่กินพริกเกิน 2 เม็ดเวลากินส้มตำ
-ไม่กินหนัง ในข้าวมันไก่หรือขาหมู
-ไม่กินปลาร้า
-ไม่กินปลาที่มีก้าง (กินแบบแซะก้างออกแล้ว หรือพวกแซลม่อนได้)
-ไม่กินน้ำพริกแมงดา (ไม่ไหวจริงๆ แค่ได้กลิ่นคือแทบอ้วก)
7 มีนาคม เวลา 14:00 น.