กระทู้นี้ฝากถึงคนที่จะไป MasterChef Thailand ซีซั่นต่อไป pantip

เราว่า ss 3-4 ไม่เน้นคาแรกเตอร์นะ
ผู้เข้าแข่งขันดูจืดมากจริงๆ

อยากให้ดูคลิปนี้ หลายคนน่าจะจำคุณกอล์ฟได้ ที่ล่าสุดตกรอบออดิชั่นซีซั่น4 ที่จริงเขาไปมาทุกซีซั่นเลยนะ ลองฟังเบื้องลึกเบื้องหลังดูครับว่า เขาผ่านอะไรบ้างแต่ละรอบ

ไม่เห็นด้วยตรงที่ซีซั่น 1-2 เก่งกว่านะ
มีทำเค้กไม่เป็น ไม่เคยทำขนม ตำพริกแกงไม่เป็น แกะหอยไม่เป็น
แยกปลาดุกปลาช่อนไม่ออก ไม่รู้จักปลาแห้ง ไม่รู้จักล็อบสเตอร์

ซีซั่น 2 น่าจะคัดคาแรกเตอร์มากสุดละมั้ง

ต้องแต่งตัวแบบให้คนจำได้ เช่นโพกหัว มีผ้าพาดบ่า

ไม่จริงนะ คุณให้ความเห็นแบบนี้ เพราะคุณไม่ผ่านไง

เริ่มจากเรามาหาคำนิยามคำว่า “Home cook” กันก่อนดีกว่าครับ

คุณมีมุมมองของคุณ

ส่วนผมมองว่า คุณแค่องุ่นเปรี้ยว

คิดเหมือนกันเลยว่ารอบออดิชั้นให้น้ำหนักกับ คาแรคเตอร์ ค่อนข้างสูง
เพราะเป็นการคัดคนเข้าสู้รายการอีกยาว เพราะงั้นทีมงานต้องทำการบ้านเลือกคนที่สามารถเรียกเรตติ้งได้มาก่อนอยู่แล้ว
ขึ้นชื่อว่าเป็นรายการโทรทัศน์ เค้าเน้นทำเพื่อแสวงหากำไรอยู่แล้ว

เราว่าคาแรกเตอร์ก็เกี่ยว แต่เค้าก็คัดคนที่ฝีมือดีกว่าเข้าด้วย มันมีคะแนนหลายส่วน ส่วนที่คุณบอกว่ารอบรู้มากจะไม่เข้า งั้นทำไมเซฟเข้ารอบได้ นั่นรู้สารพัดเลย

เราคิดว่าคุณไม่ได้เข้าก็เลยเอาเหตุผลมาสนับสนุนความคิดตัวเองมากกว่านะ ลองเปิดใจกว้างๆ แล้ว รับผิดชอบผลที่เกิดขึ้นด้วยตนเองแบบ 100% ดู แล้วพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น มาสู้ใหม่ดีกว่า แล้วสักวันจะเป็นของคุณ ถ้าคุณไปฝึกมากขึ้น เกิดปีหน้าเข้ารอบ คุณจะได้ไม่เสียใจที่คิดและพิมพ์แบบนี้😊

สู้ๆนะคะ😊✌

จีน่าคิดคล้ายๆกันค่ะ

มันรายการทีวีนี่คะ ที่คุณพูดมาก็ไม่ผิดซะทีเดียว คนที่ถูกเลือกมาออกทีวีก็ต้องพร้อมดึงดูดคนดูได้ประมาณนึง ต้องมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน แต่ละคนที่เลือกมามีความต่างกันมากพอให้คนดูจดจำได้ เพราะคนหน้าตาธรรมดา พื้นๆ คนดูจะไม่จำ ดูแล้วลืม เลยต้องให้ใส่ชุดเดิม แบบๆเดิมๆ แต่งตัวแปลกๆ
เช่นแก้ว ตัวจริงคือสวยน่ารักเลยนะ แต่งตัวก็ดี มารายการคืออิหยัง นางเอก the sound of music เหรอ ใส่ชุดรุ่มร่าม โพกผ้าสามเหลี่ยมอีก พ่วงดราม่าที่บ้านไม่สนับสนุน ไม่มั่นใจ แต่แต่ชีวิตจริงแก้วเรียนการแสดงค่ะ

เผลอๆแต่ละตอนที่ออกมา บทก็อาจจะมีด้วยซ้ำ เช่นการวิจารณ์คนอื่นทะเลาะกันใส่กล้องที่ปกติคนทั่วไปมักไม่เป็น แต่ในรายการมีครบ บางคู่แทบจะตบกัน จีบปากเม้งใส่กันยิ่งกว่าละคร เรื่องคาแรกเตอร์ สไตล์หน้าตา คงจัดกันมาประมาณนึง

ส่วนฝีมือ อย่างน้อยตัองมีพื้นฐานการทำอาการที่ดีได้ อุปกรณ์ครัวมาตราฐานคือรู้จัก อาหารพื้นฐานต้องทำได้ … คนที่ลงรอบลึกๆ มันก็ต้องเก่งจริงนะ การทำอาหารคืองานฝีมือแบบนึง มันหลอกไม่ได้หรอก ยกเว้นคุณไม่เชื่อคำตัดสิน ไม่เชื่อกรรมการ เพราะอาหารคือต้องชิมนี่นะ

ส่วนตัวเคยไปส่งไปรอเพื่อนไปออดิชั่นรอบคัดเลือก ss1 เห็นคนใส่ชุดไทยทำอาหารเหอะ 555+ จัดเต็มเรื่องชุดยิ่งกว่าอาหารที่เอามาอีก

คนที่แข่ง reality show แบบนี้ ก็ต่างอยากเป็นคนดังทั้งนั้น มันต่อยอดธุรกิจได้

เจอกับตัวแล้วรู้ทันทีตั้งแต่ซีซั่นแรกแล้วครับ

ออดิชั่นรอบแรกสุดคนมาให้คะแบบคือครีเอทีฟ + เชฟ แล้วน้ำหนักน่าจะเทไปทางครีเอทีฟเยอะกว่าด้วยซ้ำ เพราะครีเอทีฟเป็นคนถามประมาณ 90% แล้วคำถามมีแต่ชี้นำให้ตอบแรงๆได้
ส่วนเชฟชิมอาหารแล้วไม่พูดไม่ถามอะไรสักอย่าง

วงการบันเทิงอ่ะเนอะ
“ครับ/ค่ะ เชฟ”

รายการทีวีเขาก็ต้องเรียกเรตติ้งให้สูงๆเนอะ​ ก็ต้องหาคนที่ดึงดูดผู้ชมสร้างกระแสได้มากที่สุด​ ถ้าเอาแต่คนเก่งจริงๆมาอย่างที่บอกแต่คนเเข่งดูธรรมดาไม่ดึงดูด​ผู้ชม​ รายการไม่ดัง​มันจะมีประโยชน์​อะไร​ สุดท้ายพอแข่งรอบลึกๆมันก็เหลือแต่คนเก่งเอง​ เพราะมันก็ต้องมีคนเก่งไม่เก่งคนดวงดีคนดวงแย่ปะปนไป​ เอาเป็นว่าทุกวันนี้ราย
การมาตเตอร์​เชพถือว่าประสบ​ความ​สำเร็จมากในฐานะสร้างความสนุกให้ผู้ชมทางบ้าน​สำหรับเรา🎉👏👏👏

เดี๋ยวนี้เรตติ้งทีวีมันยังใช้วัดกันได้เหรอครับ ไอ้กล่องเรตติ้งที่มีอยู่แค่ไม่กี่กล่อง แล้วไปวางอยู่บ้านใครก็ไม่รู้เนี่ย
ในยูทูปรายการลงคลิปไม่ถึงวันยอดวิวแตะล้านแล้ว อันนี้มันน่าจะวัดได้มากกว่ามั้ยครับ

ซีซั่นล่าสุด จืดมากๆๆๆๆ
ซีซั่นก่อนๆ ดูตลอดเวลา ซีซั่นนี้ เปิดเสียงฟัง แล้วไปนั่งทำอย่างอื่น บาง ep เลื่อนผ่านๆแบบรวดเร็ว ให้มันจบๆไป

นี่รายการทีวีไง เค้าเลือกคนที่มีคาแรคเตอร์ก็ถูกแล้ว
SS1 รอบออดิชั่นก็เห็นชัดเจนนะเพราะหลายคนผ่านแบบขอโอกาส คิดว่าตอน ss แรกรายการยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหนก็เน้นขายดราม่าเอาไว้ก่อน และมีคนพื้นๆบ้านๆหลุดเข้ามาเยอะ ทำให้ระดับการแข่งขันมันไม่เข้มข้นอย่างที่ควร ss2 และ ss3 กลับหนักไปที่การชูปมขัดแย้งระหว่างผู้แข่งขันหรือระหว่างผู้แข่งขันกับกรรมการ สังเกตว่าการวิจารณ์ของกรรมการจะใช้คำพูดค่อนข้างรุนแรง สังเกตว่าในเกณฑ์การตัดสินแต่ล่ะรอบ คนที่ฝีมือกลางๆไปถึงแย่จะมีโอกาสไปถึงรอบลึกๆได้ เช่น
รอบมิสเทอรี่บ๊อกซ์ เอาแค่จานที่ดีที่สุด แย่แค่ไหนก็ยังอยู่
รอบการแข่งแบบทีม สามารถล๊อคผลการแข่งได้
รอบเพลสเชอร์เทสก์ อันนี้แหละที่คัดคนไม่เก่งออกไป แต่คนที่ทำอาหารเก่งจริงๆยังอยู่ได้
แต่หลังจากการมาของ ss จูเนียร์และออลสตาร์ทำให้ทิศทางของรายการเปลี่ยนไปอีก ใน ss4 กรรมการเป็นกันเองมากขึ้น คุณภาพของผู้แข่งขันดีขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าผู้แข่งขันโดยรวมจะเป็นคนมีฐานะดี มีความรู้เรื่องอาหารที่ผ่านการเรียนจากสถาบันต่างๆ มีทัศนคติที่ดี (เพราะถ้าเป็นคนปกติเค้าไม่สามารถเข้าถึงวัตถุดิบหรืออาหารหรูๆในชีวิตประจำวันได้ ทำให้ความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้เข้าแข่งมีมากคือตัวเต็งนี่นอนมาเลย อย่างจำลองเองดูเป็นคนบ้านๆแต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะ คนที่เปิดร้านอาหารกลางเมืองระยองได้แสดงว่าต้นทุนชีวิตดีพอสมควร) ไม่เน้นดราม่าแล้วแต่ขายความสนุกแทน เมนูต่างๆก็ทำออกมาได้ว๊าวมาก ผมว่า ss4 เนี่ยดีสุดแล้วสำหรับการดูเพื่อคลายเครียด  บรรยากาศการแข่งแบบโบ๊ะเบ๊ะมาก สุดท้ายการจะทำให้คนที่เข้ามาแข่งทึ่ไม่มีชื่อเสียง (ยกเว้น ss ซีรีเบรตี้) กลายเป็นคนที่มีคนติดตามเชียร์ จึงจำเป็นต้องสร้างคาแรคเตอร์ให้เป็นที่จดจำ ยังไงผมว่ารายการสนุกกว่าทีวีโชว์ของเหล่าดารากันหรือการประกวดร้องเพลงต่างๆนะครับ

เพราะมันคือวงการบันเทิงครับ ไม่ใช่งานวิชาการด้านอาหาร ที่จะต้องคัดเอาแต่คนเก่งๆ หรือมืออาชีพเข้ารอบทุกคน

รายการโทรทัศน์ก็ต้องหาคนที่มีจุดเด่นในด้านต่างๆ ที่หลากหลายมาเข้าร่วมเพื่อทำให้คนสนใจติดตามชม

ไม่งั้นรายการจะอยู่ได้อย่างไรต้องอย่าลืมคิดข้อนี้ไปครับ เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกที่คนที่ไม่มีคาแรคเตอร์อะไรโดดเด่น

จะไม่ผ่านเพราะเค้ามองว่าผู้สมัครยังนำเสนอตัวเองและอาหารที่ตัวเองทำออกมาได้ไม่โดดเด่นพอที่จะผ่านเข้ารอบ

ผมว่าถ้าทำใจให้เป็นกลางแล้วมองว่าวงการบันเทิงก็คือการประกอบธุรกิจอย่างหนึ่ง วัตถุประสงค์หลักคือการทำกำไรสูงสุด

เค้าก็ต้องหาคนที่จะสามารถทำเงินให้เค้าได้มากที่สุดเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ ถ้าเค้ามองว่าน่าสนใจถึงจะยอมให้โอกาส

คุณผ่านไปต่อ เรื่องอร่อยหรือไม่นั้นปล่อยให้คนดูและตัวเชฟไปตัดสินกันเอง ไม่อย่างนั้นรายการคงแตกไลน์เปิดร้านอาหารขาย

ไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เชฟเอาชื่อเสียงที่ได้จากการผ่านเข้ารอบไปอ้างเพื่อหารายได้แบบที่เป็นอยู่หรอกครับ

ผมว่าซีซั่นนี้คือมีแต่คนรุ่นหนุ่มสาวมากที่สุด หมอบีมแก่สุดก็แค่ 30 และรู้สึกว่าโดยภาพรวมมีความแตกต่างด้านฝีมือน้อยกว่าซีซั่นอื่น คือดูเก่งเกือบทุกคน คนที่พลาดก็พลาดในระดับที่ยังพอกินได้ แค่ไม่ตรงโจทย์