สวัสดีครับ กลับมาอีกแล้วตามคำเรียกร้องกับซี่รี่ย์เกี่ยวกับห้องครัวในนิวยอร์กยอดนิยม คือ มีอยู่ซีรีส์เดียวเลยขึ้นยอดนิยมได้ 555 ซีรีส์เอ็น.วาย.กู. New York Kitchen University เรื่องราวของพวกเราพี่น้องคนไทย มนุษย์ห้องครัวที่ #ย้ายสำมะโนครัว #ย้ายประเทศกันเถอะ มาอยู่ที่นิวยอร์ก กล้าที่จะบอกได้เลยว่า นี่คือเรื่องราวอินไซด์สุด ๆ ของชีวิตพี่น้องคนไทย ที่กว่าร้อยละ 90 เดินทางมาพร้อมกับการฝังตัวเองลงรากที่ร้านอาหาร บ้างก็เติบใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขาจนเป็นไม้ใหญ่ได้ดิบได้ดี บ้างก็จนเรียนจบได้ใบปริญญา เงินค่าเรียนก็มาจากห้องครัวนั่นแหละ
เกริ่นเป็นครั้งที่ 38 ว่าเรื่องสั้นเอ็น.วาย.กู. นั้นเป็นเสมือนกับตำราเรียนวิชาการเอาตัวรอดแบบฉบับมนุษย์ห้องครัวในมหานครนิวยอร์ก กับการต้องทำงานในร้านอาหารที่ทำตัวเป็นโรงงานอุตสาหกรรม! โหดสลัสบอกเลย ด้วยความตั้งใจจะเล่าเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตที่เจอมาจากร้านอาหาร บวกกับผงชูรสเกร็ดความรู้จากการเวลากว่า 15 ปี หวังว่าจะช่วยพี่น้องคนอ่านในการเอาชีวิตรอดในนิวยอร์ก หนึ่งในเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก! เผื่อใครหนีตายจากไทยมา จะมาทำงานขุดทอง ตั้งต้นชีวิตใหม่ก็ว่ากันไป อย่างน้อยก็ได้รู้ก่อนว่า ไอ้บ้านเมืองต่างประเทศที่เขาเจริญแล้วนั้น มันมีด้านดี ไม่ดีอย่างไร
วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังถึงตอนที่ 4 ของหน่วยงาน FOH หรือหน่วยบัญชาการต่อสู้หน้าบ้าน Front Of House โดยสามตอนก่อนก็เป็นเรื่องของ Server, Bus boy และก็ Host ตอนนี้เป็นตอนที่สี่แล้ว ก็จะมาเล่าให้ฟังถึงหน่วยจู่โจม เข้าประชิด ตีเข่าเข้าคลุกวงใน หน่วยที่ได้ชื่อว่า เป็นหน่วยประจัญบาน ไม่อึดไม่ถึกจริงนี่ไม่มีทางเข้ามาสังกัดหน่วยนี้ได้ คุณต้องมีความอดทนขนาดที่ว่าควายเรียกพี่ แต่อึดแค่ไหนก็ไม่น่าจะเท่านายก เพราะอันนั้น ควายเรียกพ่อ! ว่าก็ว่าไปนะ ไม่อยากเปรียบกับควายเลย กรูสงสารควาย! หน่วยนี้ชื่อว่า Food Runner หรือเรียกกันว่า รันเนอร์ เฮ้ย! นี่มันคนทำงานร้านอาหาร หรือว่าเป็นนักกีฬาสี? ขนาดต้องวิ่งทำงานอย่างนั้นเลยเหรอ มา ๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังครับ
ลองจินตนาการร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีที่นั่งเยอะกว่าสามร้อยที่นั่ง มี Food Runner คอยเสิร์ฟอาหารอยู่ทั้งหมด 4 คนดูนะครับ อัตราส่วน 300: 4 ต้องบู๊ขนาดไหนนะ สงสัยจะยิ่งกว่าพี่จาพนมเสียอีกนะเนี่ย แถมในรันเนอร์ 4 คนเนี่ยก็จะมีหนึ่งคนที่เป็นคนจัดอาหาร เรียกว่าตัวจัด ส่วน 3 คนจะเรียกว่าตัววิ่ง ก็วิ่งกันออกไปเสิร์ฟอาหารไปกลับแบบวิ่งผลัด ออกอาหารเสร็จวิ่งกลับมาแตะมือสลับกันไปมา ๆ ตลอดทั้งคืน เริ่มจะมองเห็นภาพของอภิมหาความอึด ถึก ทนทาน กันไหมครับ แถมจานชามอาหารที่นิวยอร์ก โดยเฉพาะร้านที่ผมเคยทำงานอย่างร้านทะเลนั้น มันหนาและหนักมากกก… นี่พ่วงน้ำหนักของกับข้าวนะ ออกอาหารแต่ล่ะทีก็มี 3-4 จาน แถมบางอย่างเป็นน้ำร้อน ๆ เสียอีก เรียกว่า นอกจากแขนขาต้องทนเกร็งเวลาแบกจานแล้ว ก็ต้องทนความร้อนได้ด้วย ทั้งชีวิตการทำงานตั้งแต่สถาปนาตัวเข้าเป็นนักศึกษามหาลัยห้องครัว ผมเจอรันเนอร์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้หญิง นอกนั้นนี่คือ กล้ามใหญ่เป็นปู ตัวโต ๆ กันทั้งนั้น ไว้ว่าง ๆ จะมาเล่าให้ฟัง
รันเนอร์ส่วนมากจึงเป็นพวกสาย Str-Agi-Vit คือ แรง เร็วและถึก ส่วนมากอัพตาม อัตราส่วน 2:1:1 คือ Str 2: Agi 1: Vit 1 แต่บางคนอาจชอบพริ้วหน่อย ก็จะอัพ Agi เยอะกว่า Vit
อีกสายนึงที่เป็นที่นิยม คือ เน้นไว แม่นด้วย ก็จะอัพ Dex เสริมไปด้วย พวกนี้จะเดินเร็ว ลงแม่น แต่แบกได้ไม่หนักเท่าสายมาตรฐาน ประมาณว่าใช้เดินมากรอบหน่อย แต่ไม่แบกเยอะ ไม่อึดอย่างสายมาตรฐาน แต่คล่องตัวกว่า ซึ่งมีประโยชน์กว่าตอนทำงานร้านเล็กกว่า เรียกว่าไปลุยได้ทุก Map
อย่างที่บอกกันไปแทบทุกตอนว่า ร้านอาหารที่นิวยอร์กนั้นมันเป็นระบบอุตสาหกรรม ทุกอย่างมีการเซ็ทค่า, ลงตาราง, วิธีการทำงานเอาไว้แทบจะหมดแล้ว อย่างเช่น เวลาเว๊ทรับออเด้อร์อาหาร ก็จะมีการระบุที่นั่งของคนสั่งอาหารแต่ละจาน ก็เพราะเพื่อให้ง่ายในการลงอาหารของรันเนอร์นั่นเอง อย่างที่บอก ลูกค้ามากิน 300 คน แต่รันเนอร์มีอยู่ 4 ชีวิต นี่มัน 100:1 เลยนะเว๊ย แต่รันเนอร์ก็ยังอ่อนนักเมื่อเทียบกับ สว.บ้านเรา สว. คนเดียวเท่ากับประชาชน 75,000 คนเลยนะโว้ย! 555
ยิ่งอาหารเอเชีย โดยเฉพาะอหารไทยนั้น ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของความยากของชื่อเรียกอยู่แล้ว ฝรั่งคนที่สั่งน่ะ จำไม่ได้หรอกนะว่าสั่งอะไรไป เอาอะไรไปลงตรงหน้า ก็กินหมดเพราะนึกว่าตัวเองสั่ง ถ้าเกิดเหตุการณ์กินอาหารผิดขึ้นมา คนที่โดนกินเขาโวยวาย ว่าทำไมเสิร์ฟอาหารผิดคนแบบนี้ ต้องทำใหม่ออกมาให้ ขณะที่ครัวก็สาดอาหารกันออกมาแบบไม่มีหยุด ถ้าต้องมาแก้อาหารหรือทำใหม่ ฟันเฟืองของร้านอาหารก็อาจจะสะดุดได้ คือ เราทำงานกันแบบมืออาชีพอ่ะนะ เวลามีคนทำผิด หรือบกพร่องในหน้าที่ ก็มักจะถูกโวยวาย เผลอ ๆ โดนด่าสาดเสียเทเสียกันเลยเชียวว่าทำไมไม่ทำงานให้มัน Complete เขาจ้างมาทำงาน ทำงานให้มันสมกับที่ได้เงินค่าตัวเท่ากันหน่อย ไม่ใช่ว่า ทำงานก็ไม่ได้เรื่อง วัน ๆ ก็เอาแต่นั่งกินนอนกิน ไล่ไงก็ไม่ไป ว่าง ๆ ก็ออกนโยบายโง่ ๆ ไม่ทำประโยชน์ จ้างไปก็เสียค่าภาษี หายใจไปยังเปลืองอากาศ เฮ้ย! เข้าการเมืองอีกจนได้ 555
เกิดมาเป็นรันเนอร์นั้นไม่ต้องคุยกับฝรั่งมาก ขอแค่รู้ว่าอาหารแต่ละจานชื่ออะไร ต้องไปกับอะไรเป็นพิเศษไหม คุยกับฝรั่งนั้นไม่ต้องพูด เวลาลงอาหารก็บอกชื่ออาหารให้ฝรั่งเสียงดัง ๆ เข้าไว้ เพราะฝรั่งจะได้หันมาสนใจเรา เกิดมันสั่งอะไรผิดไป จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
จุดอ่อนของรันเนอร์ก็คือ ‘ภาษาอังกฤษ’ ครับ แหม่ วัน ๆ นี่อยู่แต่ในครัว คือ คุยกับตั๋วอาหาร ไม่ก็ด่ากับพี่โก้ พ่นภาษาสแปนิชกันแบบไฟแล็บ บางคนพูดชัดกว่าอังกฤษเสียอีก จิกี๊โต๊ มาริงกง! 555 ยิ่งถ้าเจอลูกค้าฝรั่งเรียกตอนกำลังถืออาหารออกมานะครับ แหม่ ไม่อยากจะพูด คือ เห็นไหมว่ากรูถือมา 4 จาน หนักสัส ๆ แบบนี้ ยังจะเรียกกรูไปเพื่อขอให้เติมน้ำเปล่าเนี่ยนะ เอาน้ำลายกรูไปก่อนม่ะ ไอ้สาดดด
สกิลของรันเนอร์เป็นสกิลเน้นเข้าทำ จู่โจม สร้างดามเมจให้กับร้านมากที่สุด ถ้าเปรียบเว๊ท เป็นเหมือนกับสายบุ๋น พริ้วไหว รันเนอร์ก็เป็น สายบู๊ เข้าคลุกวงใน ถึงลูกถึงคน ตรงไหนมีรูให้วางจานได้ กรูเสียบไว้ก่อนล่ะ เอาจานดัน ๆ ไปเดี๋ยวลูกค้าก็ช่วยขยับให้เอง
สกิลที่ต้องมีอย่างแรกเลยก็คือ Double Serve หรือถืออาหารได้สองจานในมือเดียว ถ้าไม่มีสกิลนี้ ก็อย่าเป็นมันเลยรันเนอร์ ไปเป็นนักการเมือง ไปเป็นรัฐมนตรีดีกว่า สบายกว่าเยอะ ยืนชี้นิ้ว ๆ ทำเป็นเหมือนทำงานเป็นก็พอ เฮ้ยยยย! พอเต็มแล้วค่อยอัพ Right Hand Carry กับ Left Hand Carry ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแบกของแต่ละมือ เลเวลล่ะ 2% ครับ
Multitask สำหรับรันเนอร์ที่ไม่อยากวิ่งมาก อยากเป็นคนจัดอาหารที่สาดออกมาจากในครัว ก็อัพอันนี้ไป เพื่อช่วยลดความงงในการที่ต้องจัดอาหารครับ เพราะการจัดอาหารในครัวนี่โคตรจะงงครับ ส่วนสายวิ่งก็ต้องอัพ Improve Dodge เอาไว้ช่วยเพิ่มค่า Flee หลบหลีกลูกค้าได้ และ Lion Roar หรือสกิลสิงโตคำราม ช่วยเพิ่มความดังของเสียงเรา เวลาที่ลงอาหารให้ลูกค้า *สกิลนี้สามารถทำให้ลูกค้าช่วยขยับจานชามหลบให้เราลงได้อีกด้วย*
เมื่อเลเวลเริ่มสูง เริ่มแบกจานชามได้เยอะแล้ว ก็อัพ Walk Whole Day เดินทั้งวัน กับ Golden Bladder หรือกระเพาะปัสสาวะทองคำ ช่วยเพิ่มความอึดในการเดินกับอั้นฉี่ได้ เลเวลล่ะ 2% จะได้ไม่เป็นนิ่วหลังจากทำงานไปหลายปี เพราะตำแหน่งรันเนอร์นั้นเหงื่อแตกันเป็นท่อประปาเลย เพราะต้องวิ่งตลอดทั้งวัน บางร้านวิ่งขึ้นลงสองชั้นด้วยนะ เข่าพัง หลังเบี้ยว เจี๊ยวเป็นนิ่วมานักต่อนักแล้ว
ต่อมาเมื่อจ็อปเริ่มเยอะ ก็อัพสกิล Heat Resistance ที่ช่วยเพิ่มความต้านทานความร้อนจากในครัว จากเตาว็อกที่ผัดกันไม่หยุด แบบเรียกได้ว่านรกเบา ๆ เลยล่ะ ก็เป็นอะไรที่รันเนอร์มืออาชีพเขาชอบอัพกันเอาไว้ เหมาะมากสำหรับร้านขายก๋วยเตี่ยว หรือร้านขายแกงที่พี่ไบ๋ (คำเรียกมุสลิมหรือแขกของคนนิวยอร์ก) ชอบเข้า พี่แกชอบกินพวกแกงไทยอยู่แล้วด้วย แกงแดง แกงเขียว มัสมั่นนี่ตัวดีเลย แล้วจานแกง ชามก๋วยเตี๋ยวมันเย็นซะที่ไหนล่ะ ร้อนสลัด! บางทีมาสี่คน กินสี่แกงเลย ไม่คิดจะกินอย่างอื่นกันเลยเหรอค้าบบ ใจคอจะแกงกันให้ตายกันไปข้างนึงเลยเหรอ 555
ข้อดีของตำแหน่งรันเนอร์ก็คือ มีของ-ตลอด หิว ๆ ก็เปิดตู้ ว่าง ๆ ก็ไปขออาหารฝั่งแอฟ แต่อย่าขอเยอะ เดี๋ยวเจ้าของร้านรู้จะงานเข้า สกิล Kin-Jub-Jeeb จึงเป็นอะไรที่ควรอัพไว้ด้วย แถมอัพแค่หนึ่งเองไม่เปลืองแต้ม
และต่อมาจะเป็นเรื่องของสายดาร์กครับ เพราะรันเนอร์นั้นเป็นผู้ควบคุมของกิน ควบคุมอาหาร ทั้งที่เสิร์ฟลูกค้า และก็ที่ให้ทีมงาน คนในร้านกินในเวลาพักด้วย เพราะฉะนั้นรันเนอร์จึงไม่ค่อยมีใครกวนทีน เพราะเขารู้ว่า รันเนอร์นั้นมีสกิล ๆ เยอะ ตั้งแต่สกิล Saliva หรือสกิลน้ำลาย อันเป็นสกิลตั้งต้นของสารแห่งความอร่อย 555 ยามเจอลูกค้ากวนทีน เรียกรันเนอร์แบบดีดนิ้วเรียก เหมือนกับที่เอาไว้เรียกหมาอ่ะ นั่นล่ะครับ พวกเรามนุษย์ห้องครัวโคตรจะเกลียดเลย เจอแบบนี้ปุ๊บทางรันเนอร์หลาย ๆ คนก็จะเพิ่มของเหลว ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการรับรู้รสอาหารให้กับลูกค้าฟรี ๆ ตามรายงานว่า น้ำลายช่วยเพิ่มความสามารถในการรับรู้รสชาติอาหารได้มากขึ้น ฉะนั้นรันเนอร์หลาย ๆ คน จึงนิยมอัพสกิลนี้ไว้ แถมพวกรุ่นเดอะ ที่เป็นพวกเลเวล 70+ แต่ละคนเนี่ย มีสกิล Sticky Saliva, Juicy Nose Wax, Dandruff Shower มาแบบ 5G ครบองค์ประชุมเลย เหนียว ข้น มัน และเป็นผง และสกิลที่สุดของสายทำลาย นั่นคือ สกิล Eat This Shit อันนี้ไม่ขอแปลเป็นไทยนะ 555 เปรี้ยวปาก!
ส่วนมากนั้นตำแหน่งรันเนอร์ก็จะก้าวขึ้นมาจากการเป็น Bus Boy ก่อน เพราะตอนเป็นบัสนั้นจะมีโอกาสเห็นการทำงานของรันเนอร์ และช่วยรันเนอร์เคลียร์ Runway หรือเคลียร์โต๊ะกินข้าว รันเนอร์จะได้ลงอาหารแล้วรีบกลับไปออกจานอื่น ๆ ต่อ และช่วยฝึกความอึด ความถึกไปด้วยในตัว เมื่อบัส Str- Agi- Vit เลเวลบัสตันแล้วก็มักจะเปลี่ยนตำแหน่งเป็นรันเนอร์
จบตอนที่สี่เรื่องราวของ Food Runner หรือพ่อหนุ่มนักวิ่งเสิร์ฟอาหาร เจ้าของสมญานาม อึด ถึก ทน กันเท่านี้นะครับ ตอนหน้ามาที่ตำแหน่งสุดท้ายของฝ่ายหน้าบ้านแล้ว นั่นคือ Manager หรือผู้จัดการครับ
*** ขอบคุณภาพต้นแบบจาก Ragnarok เกมส์ในตำนานในดวงใจผมด้วยนะครับ
*** 8bit character น่ารัก ๆ จาก http://www.avatarsinpixels.com/
หากชอบใจ สามารถกดติดตาม เรื่องสั้น เอ็น.วาย.กู. New York Kitchen University เรื่องราวของพวกเราเหล่ามนุษย์ห้องครัวในเมืองนิวยอร์กได้ที่
https://www.instagram.com/ny.kitchen.university/
https://www.facebook.com/ny.kitchen.university/
เรื่องสั้น เอ็นวายกู NYKU: New York Kitchen University ตอนที่ 35.4 ตอนพิเศษ อาชีพที่ 4 Food Runner/ รันเนอร์
สวัสดีครับ กลับมาอีกแล้วตามคำเรียกร้องกับซี่รี่ย์เกี่ยวกับห้องครัวในนิวยอร์กยอดนิยม คือ มีอยู่ซีรีส์เดียวเลยขึ้นยอดนิยมได้ 555 ซีรีส์เอ็น.วาย.กู. New York Kitchen University เรื่องราวของพวกเราพี่น้องคนไทย มนุษย์ห้องครัวที่ #ย้ายสำมะโนครัว #ย้ายประเทศกันเถอะ มาอยู่ที่นิวยอร์ก กล้าที่จะบอกได้เลยว่า นี่คือเรื่องราวอินไซด์สุด ๆ ของชีวิตพี่น้องคนไทย ที่กว่าร้อยละ 90 เดินทางมาพร้อมกับการฝังตัวเองลงรากที่ร้านอาหาร บ้างก็เติบใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขาจนเป็นไม้ใหญ่ได้ดิบได้ดี บ้างก็จนเรียนจบได้ใบปริญญา เงินค่าเรียนก็มาจากห้องครัวนั่นแหละ
เกริ่นเป็นครั้งที่ 38 ว่าเรื่องสั้นเอ็น.วาย.กู. นั้นเป็นเสมือนกับตำราเรียนวิชาการเอาตัวรอดแบบฉบับมนุษย์ห้องครัวในมหานครนิวยอร์ก กับการต้องทำงานในร้านอาหารที่ทำตัวเป็นโรงงานอุตสาหกรรม! โหดสลัสบอกเลย ด้วยความตั้งใจจะเล่าเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตที่เจอมาจากร้านอาหาร บวกกับผงชูรสเกร็ดความรู้จากการเวลากว่า 15 ปี หวังว่าจะช่วยพี่น้องคนอ่านในการเอาชีวิตรอดในนิวยอร์ก หนึ่งในเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก! เผื่อใครหนีตายจากไทยมา จะมาทำงานขุดทอง ตั้งต้นชีวิตใหม่ก็ว่ากันไป อย่างน้อยก็ได้รู้ก่อนว่า ไอ้บ้านเมืองต่างประเทศที่เขาเจริญแล้วนั้น มันมีด้านดี ไม่ดีอย่างไร
วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังถึงตอนที่ 4 ของหน่วยงาน FOH หรือหน่วยบัญชาการต่อสู้หน้าบ้าน Front Of House โดยสามตอนก่อนก็เป็นเรื่องของ Server, Bus boy และก็ Host ตอนนี้เป็นตอนที่สี่แล้ว ก็จะมาเล่าให้ฟังถึงหน่วยจู่โจม เข้าประชิด ตีเข่าเข้าคลุกวงใน หน่วยที่ได้ชื่อว่า เป็นหน่วยประจัญบาน ไม่อึดไม่ถึกจริงนี่ไม่มีทางเข้ามาสังกัดหน่วยนี้ได้ คุณต้องมีความอดทนขนาดที่ว่าควายเรียกพี่ แต่อึดแค่ไหนก็ไม่น่าจะเท่านายก เพราะอันนั้น ควายเรียกพ่อ! ว่าก็ว่าไปนะ ไม่อยากเปรียบกับควายเลย กรูสงสารควาย! หน่วยนี้ชื่อว่า Food Runner หรือเรียกกันว่า รันเนอร์ เฮ้ย! นี่มันคนทำงานร้านอาหาร หรือว่าเป็นนักกีฬาสี? ขนาดต้องวิ่งทำงานอย่างนั้นเลยเหรอ มา ๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังครับ
ลองจินตนาการร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีที่นั่งเยอะกว่าสามร้อยที่นั่ง มี Food Runner คอยเสิร์ฟอาหารอยู่ทั้งหมด 4 คนดูนะครับ อัตราส่วน 300: 4 ต้องบู๊ขนาดไหนนะ สงสัยจะยิ่งกว่าพี่จาพนมเสียอีกนะเนี่ย แถมในรันเนอร์ 4 คนเนี่ยก็จะมีหนึ่งคนที่เป็นคนจัดอาหาร เรียกว่าตัวจัด ส่วน 3 คนจะเรียกว่าตัววิ่ง ก็วิ่งกันออกไปเสิร์ฟอาหารไปกลับแบบวิ่งผลัด ออกอาหารเสร็จวิ่งกลับมาแตะมือสลับกันไปมา ๆ ตลอดทั้งคืน เริ่มจะมองเห็นภาพของอภิมหาความอึด ถึก ทนทาน กันไหมครับ แถมจานชามอาหารที่นิวยอร์ก โดยเฉพาะร้านที่ผมเคยทำงานอย่างร้านทะเลนั้น มันหนาและหนักมากกก… นี่พ่วงน้ำหนักของกับข้าวนะ ออกอาหารแต่ล่ะทีก็มี 3-4 จาน แถมบางอย่างเป็นน้ำร้อน ๆ เสียอีก เรียกว่า นอกจากแขนขาต้องทนเกร็งเวลาแบกจานแล้ว ก็ต้องทนความร้อนได้ด้วย ทั้งชีวิตการทำงานตั้งแต่สถาปนาตัวเข้าเป็นนักศึกษามหาลัยห้องครัว ผมเจอรันเนอร์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้หญิง นอกนั้นนี่คือ กล้ามใหญ่เป็นปู ตัวโต ๆ กันทั้งนั้น ไว้ว่าง ๆ จะมาเล่าให้ฟัง
รันเนอร์ส่วนมากจึงเป็นพวกสาย Str-Agi-Vit คือ แรง เร็วและถึก ส่วนมากอัพตาม อัตราส่วน 2:1:1 คือ Str 2: Agi 1: Vit 1 แต่บางคนอาจชอบพริ้วหน่อย ก็จะอัพ Agi เยอะกว่า Vit
อีกสายนึงที่เป็นที่นิยม คือ เน้นไว แม่นด้วย ก็จะอัพ Dex เสริมไปด้วย พวกนี้จะเดินเร็ว ลงแม่น แต่แบกได้ไม่หนักเท่าสายมาตรฐาน ประมาณว่าใช้เดินมากรอบหน่อย แต่ไม่แบกเยอะ ไม่อึดอย่างสายมาตรฐาน แต่คล่องตัวกว่า ซึ่งมีประโยชน์กว่าตอนทำงานร้านเล็กกว่า เรียกว่าไปลุยได้ทุก Map
อย่างที่บอกกันไปแทบทุกตอนว่า ร้านอาหารที่นิวยอร์กนั้นมันเป็นระบบอุตสาหกรรม ทุกอย่างมีการเซ็ทค่า, ลงตาราง, วิธีการทำงานเอาไว้แทบจะหมดแล้ว อย่างเช่น เวลาเว๊ทรับออเด้อร์อาหาร ก็จะมีการระบุที่นั่งของคนสั่งอาหารแต่ละจาน ก็เพราะเพื่อให้ง่ายในการลงอาหารของรันเนอร์นั่นเอง อย่างที่บอก ลูกค้ามากิน 300 คน แต่รันเนอร์มีอยู่ 4 ชีวิต นี่มัน 100:1 เลยนะเว๊ย แต่รันเนอร์ก็ยังอ่อนนักเมื่อเทียบกับ สว.บ้านเรา สว. คนเดียวเท่ากับประชาชน 75,000 คนเลยนะโว้ย! 555
ยิ่งอาหารเอเชีย โดยเฉพาะอหารไทยนั้น ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของความยากของชื่อเรียกอยู่แล้ว ฝรั่งคนที่สั่งน่ะ จำไม่ได้หรอกนะว่าสั่งอะไรไป เอาอะไรไปลงตรงหน้า ก็กินหมดเพราะนึกว่าตัวเองสั่ง ถ้าเกิดเหตุการณ์กินอาหารผิดขึ้นมา คนที่โดนกินเขาโวยวาย ว่าทำไมเสิร์ฟอาหารผิดคนแบบนี้ ต้องทำใหม่ออกมาให้ ขณะที่ครัวก็สาดอาหารกันออกมาแบบไม่มีหยุด ถ้าต้องมาแก้อาหารหรือทำใหม่ ฟันเฟืองของร้านอาหารก็อาจจะสะดุดได้ คือ เราทำงานกันแบบมืออาชีพอ่ะนะ เวลามีคนทำผิด หรือบกพร่องในหน้าที่ ก็มักจะถูกโวยวาย เผลอ ๆ โดนด่าสาดเสียเทเสียกันเลยเชียวว่าทำไมไม่ทำงานให้มัน Complete เขาจ้างมาทำงาน ทำงานให้มันสมกับที่ได้เงินค่าตัวเท่ากันหน่อย ไม่ใช่ว่า ทำงานก็ไม่ได้เรื่อง วัน ๆ ก็เอาแต่นั่งกินนอนกิน ไล่ไงก็ไม่ไป ว่าง ๆ ก็ออกนโยบายโง่ ๆ ไม่ทำประโยชน์ จ้างไปก็เสียค่าภาษี หายใจไปยังเปลืองอากาศ เฮ้ย! เข้าการเมืองอีกจนได้ 555
เกิดมาเป็นรันเนอร์นั้นไม่ต้องคุยกับฝรั่งมาก ขอแค่รู้ว่าอาหารแต่ละจานชื่ออะไร ต้องไปกับอะไรเป็นพิเศษไหม คุยกับฝรั่งนั้นไม่ต้องพูด เวลาลงอาหารก็บอกชื่ออาหารให้ฝรั่งเสียงดัง ๆ เข้าไว้ เพราะฝรั่งจะได้หันมาสนใจเรา เกิดมันสั่งอะไรผิดไป จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
จุดอ่อนของรันเนอร์ก็คือ ‘ภาษาอังกฤษ’ ครับ แหม่ วัน ๆ นี่อยู่แต่ในครัว คือ คุยกับตั๋วอาหาร ไม่ก็ด่ากับพี่โก้ พ่นภาษาสแปนิชกันแบบไฟแล็บ บางคนพูดชัดกว่าอังกฤษเสียอีก จิกี๊โต๊ มาริงกง! 555 ยิ่งถ้าเจอลูกค้าฝรั่งเรียกตอนกำลังถืออาหารออกมานะครับ แหม่ ไม่อยากจะพูด คือ เห็นไหมว่ากรูถือมา 4 จาน หนักสัส ๆ แบบนี้ ยังจะเรียกกรูไปเพื่อขอให้เติมน้ำเปล่าเนี่ยนะ เอาน้ำลายกรูไปก่อนม่ะ ไอ้สาดดด
สกิลของรันเนอร์เป็นสกิลเน้นเข้าทำ จู่โจม สร้างดามเมจให้กับร้านมากที่สุด ถ้าเปรียบเว๊ท เป็นเหมือนกับสายบุ๋น พริ้วไหว รันเนอร์ก็เป็น สายบู๊ เข้าคลุกวงใน ถึงลูกถึงคน ตรงไหนมีรูให้วางจานได้ กรูเสียบไว้ก่อนล่ะ เอาจานดัน ๆ ไปเดี๋ยวลูกค้าก็ช่วยขยับให้เอง
สกิลที่ต้องมีอย่างแรกเลยก็คือ Double Serve หรือถืออาหารได้สองจานในมือเดียว ถ้าไม่มีสกิลนี้ ก็อย่าเป็นมันเลยรันเนอร์ ไปเป็นนักการเมือง ไปเป็นรัฐมนตรีดีกว่า สบายกว่าเยอะ ยืนชี้นิ้ว ๆ ทำเป็นเหมือนทำงานเป็นก็พอ เฮ้ยยยย! พอเต็มแล้วค่อยอัพ Right Hand Carry กับ Left Hand Carry ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแบกของแต่ละมือ เลเวลล่ะ 2% ครับ
Multitask สำหรับรันเนอร์ที่ไม่อยากวิ่งมาก อยากเป็นคนจัดอาหารที่สาดออกมาจากในครัว ก็อัพอันนี้ไป เพื่อช่วยลดความงงในการที่ต้องจัดอาหารครับ เพราะการจัดอาหารในครัวนี่โคตรจะงงครับ ส่วนสายวิ่งก็ต้องอัพ Improve Dodge เอาไว้ช่วยเพิ่มค่า Flee หลบหลีกลูกค้าได้ และ Lion Roar หรือสกิลสิงโตคำราม ช่วยเพิ่มความดังของเสียงเรา เวลาที่ลงอาหารให้ลูกค้า *สกิลนี้สามารถทำให้ลูกค้าช่วยขยับจานชามหลบให้เราลงได้อีกด้วย*
เมื่อเลเวลเริ่มสูง เริ่มแบกจานชามได้เยอะแล้ว ก็อัพ Walk Whole Day เดินทั้งวัน กับ Golden Bladder หรือกระเพาะปัสสาวะทองคำ ช่วยเพิ่มความอึดในการเดินกับอั้นฉี่ได้ เลเวลล่ะ 2% จะได้ไม่เป็นนิ่วหลังจากทำงานไปหลายปี เพราะตำแหน่งรันเนอร์นั้นเหงื่อแตกันเป็นท่อประปาเลย เพราะต้องวิ่งตลอดทั้งวัน บางร้านวิ่งขึ้นลงสองชั้นด้วยนะ เข่าพัง หลังเบี้ยว เจี๊ยวเป็นนิ่วมานักต่อนักแล้ว
ต่อมาเมื่อจ็อปเริ่มเยอะ ก็อัพสกิล Heat Resistance ที่ช่วยเพิ่มความต้านทานความร้อนจากในครัว จากเตาว็อกที่ผัดกันไม่หยุด แบบเรียกได้ว่านรกเบา ๆ เลยล่ะ ก็เป็นอะไรที่รันเนอร์มืออาชีพเขาชอบอัพกันเอาไว้ เหมาะมากสำหรับร้านขายก๋วยเตี่ยว หรือร้านขายแกงที่พี่ไบ๋ (คำเรียกมุสลิมหรือแขกของคนนิวยอร์ก) ชอบเข้า พี่แกชอบกินพวกแกงไทยอยู่แล้วด้วย แกงแดง แกงเขียว มัสมั่นนี่ตัวดีเลย แล้วจานแกง ชามก๋วยเตี๋ยวมันเย็นซะที่ไหนล่ะ ร้อนสลัด! บางทีมาสี่คน กินสี่แกงเลย ไม่คิดจะกินอย่างอื่นกันเลยเหรอค้าบบ ใจคอจะแกงกันให้ตายกันไปข้างนึงเลยเหรอ 555
ข้อดีของตำแหน่งรันเนอร์ก็คือ มีของ-ตลอด หิว ๆ ก็เปิดตู้ ว่าง ๆ ก็ไปขออาหารฝั่งแอฟ แต่อย่าขอเยอะ เดี๋ยวเจ้าของร้านรู้จะงานเข้า สกิล Kin-Jub-Jeeb จึงเป็นอะไรที่ควรอัพไว้ด้วย แถมอัพแค่หนึ่งเองไม่เปลืองแต้ม
และต่อมาจะเป็นเรื่องของสายดาร์กครับ เพราะรันเนอร์นั้นเป็นผู้ควบคุมของกิน ควบคุมอาหาร ทั้งที่เสิร์ฟลูกค้า และก็ที่ให้ทีมงาน คนในร้านกินในเวลาพักด้วย เพราะฉะนั้นรันเนอร์จึงไม่ค่อยมีใครกวนทีน เพราะเขารู้ว่า รันเนอร์นั้นมีสกิล ๆ เยอะ ตั้งแต่สกิล Saliva หรือสกิลน้ำลาย อันเป็นสกิลตั้งต้นของสารแห่งความอร่อย 555 ยามเจอลูกค้ากวนทีน เรียกรันเนอร์แบบดีดนิ้วเรียก เหมือนกับที่เอาไว้เรียกหมาอ่ะ นั่นล่ะครับ พวกเรามนุษย์ห้องครัวโคตรจะเกลียดเลย เจอแบบนี้ปุ๊บทางรันเนอร์หลาย ๆ คนก็จะเพิ่มของเหลว ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการรับรู้รสอาหารให้กับลูกค้าฟรี ๆ ตามรายงานว่า น้ำลายช่วยเพิ่มความสามารถในการรับรู้รสชาติอาหารได้มากขึ้น ฉะนั้นรันเนอร์หลาย ๆ คน จึงนิยมอัพสกิลนี้ไว้ แถมพวกรุ่นเดอะ ที่เป็นพวกเลเวล 70+ แต่ละคนเนี่ย มีสกิล Sticky Saliva, Juicy Nose Wax, Dandruff Shower มาแบบ 5G ครบองค์ประชุมเลย เหนียว ข้น มัน และเป็นผง และสกิลที่สุดของสายทำลาย นั่นคือ สกิล Eat This Shit อันนี้ไม่ขอแปลเป็นไทยนะ 555 เปรี้ยวปาก!
ส่วนมากนั้นตำแหน่งรันเนอร์ก็จะก้าวขึ้นมาจากการเป็น Bus Boy ก่อน เพราะตอนเป็นบัสนั้นจะมีโอกาสเห็นการทำงานของรันเนอร์ และช่วยรันเนอร์เคลียร์ Runway หรือเคลียร์โต๊ะกินข้าว รันเนอร์จะได้ลงอาหารแล้วรีบกลับไปออกจานอื่น ๆ ต่อ และช่วยฝึกความอึด ความถึกไปด้วยในตัว เมื่อบัส Str- Agi- Vit เลเวลบัสตันแล้วก็มักจะเปลี่ยนตำแหน่งเป็นรันเนอร์
จบตอนที่สี่เรื่องราวของ Food Runner หรือพ่อหนุ่มนักวิ่งเสิร์ฟอาหาร เจ้าของสมญานาม อึด ถึก ทน กันเท่านี้นะครับ ตอนหน้ามาที่ตำแหน่งสุดท้ายของฝ่ายหน้าบ้านแล้ว นั่นคือ Manager หรือผู้จัดการครับ
*** ขอบคุณภาพต้นแบบจาก Ragnarok เกมส์ในตำนานในดวงใจผมด้วยนะครับ
*** 8bit character น่ารัก ๆ จาก http://www.avatarsinpixels.com/
หากชอบใจ สามารถกดติดตาม เรื่องสั้น เอ็น.วาย.กู. New York Kitchen University เรื่องราวของพวกเราเหล่ามนุษย์ห้องครัวในเมืองนิวยอร์กได้ที่
https://www.instagram.com/ny.kitchen.university/
https://www.facebook.com/ny.kitchen.university/
16 กรกฎาคม เวลา 23:57 น.