คนละครึ่ง คิดว่าใช้ซื้ออะไรคุ้มค่าที่สุดครับ pantip

ซื้อของที่ต้องซื้อประจำอยู่แล้ว ของใช้ในบ้าน ของกิน ถ้าซื้อของไม่จำเป็นจนหมด เราก็ต้องเอาเงินสดมาซื้อของจำเป็นอยู่ดี แต่ถ้าเราไปซื้อของจำเป็น แล้วของไม่จำเป็น เช่นของกินเล่น เสื้อผ้าใหม่ ๆ ใช้เงินสดซื้อเราก็จะคิดแล้วคิดอีกว่าจะซื้อดีไหม

บ้านผมทำกับข้าวทานเอง
ก็ไปร้านขายของชำครับ จัดที่ใช้ประจำๆ นี่แหละครับ

ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ผงซักฟอก ยาสีฟัน ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำมัน น้ำปลา น้ำตาล ไก่ ไข่ ผัก ผลไม้  ประหยัดรายจ่ายได้ 50% ต่อครั้ง

เขาให้แค่พันกว่าบาทยังต้องคิดเยอะอีกเหรอครับ คนทั่วไปกินข้าวเขาก็ใช้ ใครไม่ซื้อข้าวกินเจอร้านไหนใช้ได้ก็ใช้ไปเหอะ นี่มันเฟส 4 จนเฟส 5 จะมาอยู่แล้วยังหาความคุ้มไม่เจออีกเหรอ

มันต้องคิดขนาดนั้น เหรอ

จะซื้ออะไรเค้ารับ ก็ใช้ๆ ไป

ผมยังเหลืออีก ตั้ง 600 กว่า

ความคุ้มค่าอยู่ที่เราต้องการซื้ออะไรมากกว่า สินค้าทุกอย่างย่อมมีประโยชน์ของมันอยู่แล้ว
เพราะความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขอให้สินค้านั้นมีประโยชน์ต่อเรา ครับ

ใช้ซื้อของที่ซื้อด้วยบัตรเครดิตไม่ได้ครับ อันไหนซื้อด้วยบัตรเครดิตได้ก็ใช้บัตรเครดิตซื้อ จะได้แต้ม

แต่ที่สำคัญคือต้องใช้ให้หมดก่อนหมดเขตครับ จะคุ้มที่สุด

ซื้อของที่ปกติเราคิดว่ามันแพงจนเราไม่คิดจะซื้อ จะได้มีโอกาสลองของแปลกๆ ใหม่ๆ บ้าง
อย่าล่าสุดผมซื้อหนังปลาแซลมอลทอดกรอบ กล่องละ 60 ปกติไม่เคยคิดจะซื้อเพราะเห็นว่าเป็นแค่ของกินเล่นแต่ดันแพงกว่าข้าวมื้อนึง
แต่พอใช้คนละครึ่งซื้อมาลองกินแล้วพบว่าอร่อยดี แถมกินได้หลายมื้ออีกตะหาก คือถ้าไม่มีคนละครึ่งคงไม่มีโอกาสได้ลองเพราะความงกของเรา ทั้งๆ ที่มันแค่ 60 บาทเอง

ปกติ ใช้ซื้อข้าว ซื้อกาแฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้ ต้องกิน ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

ซื้อแต่ของกินค่ะ

ส่วนตัวคิดว่าลองกินค่ะ ช่วยได้เยอะประมาณนึง

ซื้อของจำเป็นกับร้านที่ขายราคาปกติ (ไม่ขึ้นราคาถ้าใช้คนละครึ่ง)

ซึ่งเราใช้ซื้อตั๋วบีทีเอสขากลับทุกวัน (ตอนเข้าไม่สะดวกรอคิว)

ซื้อของจำเป็นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน อันนี้คุ้มสุด
แต่ถ้าซื้อเพราะเห็นว่าร้านนี้รับสิทธิคนละครึ่ง โดยที่ของนั้นไม่ได้คิดจะซื้ออยู่แล้ว แบบนี้ไม่คุ้ม

ซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันครับ คุ้มค่าที่สุดแล้วสำหรับผม
เพราะของพวกนี้จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เงินคนละครึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นได้จริงๆ

รอบนี้ผมเน้นโดยสารรถไฟฟ้าครับ เส้นทางเดียวกันขึ้นรถไฟฟ้าใช้สิทธิครึ่งราคา ค่าโดยสารถูกกว่ารถเมล์อีก

ของกินแพง ๆ

ปกติผมซื้ออาหารถุงละ 30บาท เช่น แกงขนุน 1ถุง, นำพริกอ่อง 1ถุง ,ข้าวเหนียวอีก 10บาท รวม 70บาท ก็จ่ายแค่ 35
ถือว่าคุ้มอยู่นะ

ข้าวสาร เครื่องปรุง อาหารการกิน

ซื้อของที่ปกติก็ต้องซื้ออยู่แล้วถึงแม้จะไม่มีคนละครึ่ง แบบนี้ผมคิดว่าคุ้มสุดครับ เพราะเหมือนได้ลดครึ่งนึง

แต่ถ้าเป็นกรณี เดินไปเจอของกินที่น่ากิน แต่ราคาแพงไป ตามปกติเราคงไม่ซื้อ แต่พอมีคนละครึ่ง ก็เอาวะ ลองสักหน่อย แบบนี้ คือ ดีต่อใจ แต่ผมไม่คิดว่าจะคุ้มเท่ากรณีบนครับ เพราะมันทำให้เราเสียเงินเพิ่มจากปกติมากกว่า แต่คำว่า “ดีต่อใจ” มันก็ทำให้เรามีความสุขจากการได้กินของที่ถ้าเป็นราคาจ่ายเต็มเราคงไม่ซื้อมากิน แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องของการหาความสุขล้วนๆ ครับ ก็ต้องไม่มาคิดเรื่องคุ้มไม่คุ้ม

วัตถุดิบอาหารสดในตลาดสด อย่าง กุ้ง จะสดและตัวใหญ่กว่า ซุปเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้าน

แล้วก็ร้านกาแฟซะส่วนมาก  ส่วนของใช้/ซุปเปอร์มาร์เก็ตจัดโปรแล้วราคาถูกลง  ไม่จำเป็นต้แงผ่านคนละครึ่ง

ซื้อของกินของใช้ในการดำรงชีวิต ในแต่ละวันสำคัญสุด

ส่วนตัวเอาไปซื้อเสื้อ​ กางเกง​ ที่ร้านที่รับอ่ะครับ​ มันใส่ได้นานๆ

ข้าวสาร กาแฟซอง ของใช้ในครัว

ซื้อของกินที่รู้สึกว่าถ้าจ่ายราคาปกติมันแพงอย่างอาหารทะเล แซลม่อน

ซื้อของกินครับ

เราซื้อ กุ้ง ปลาหมึก หมู ไข่ไก่ ไช่เป็ด และของใช้ในครัวค่ะ

ซื้ออาหารในไลน์แมนที่ร่วมคนละครึ่งค่ะ

ทุกอย่างที่จำเป็นต้องกินใช้ในช่วงเวลานี้เลย    ส่วนตัวได้อาหารแมว ++

จำเป็น เหมาะสม

เราใช้ซื้อข้าวสาร กับอาหารแมว แค่สองอย่าง

ส่วนมาก ผมใช้ซื้อ เนื้อหมู กับ ไข่ไก่ ครับ
บ้านผมกินไข่ สัปดาห์ละ 1 แผงได้ เลยได้ซื้อประจำ

ปล. ร้านรับคนละครึ่งเริ่มน้อยละ แถวที่ผมอยู่ ต้องรีบหาทางใช้

หมดไปกับค่าอาหาร ของกิน ทั้งนั้นเลย

จริง ๆ ซื้ออะไรก็คุ้มเท่ากันนะ

แต่ในแง่ความรู้สึก ก็จะซื้อของที่ปกติรู้สึกว่าแพง พอคิดว่าได้มาในราคาครึ่งเดียวจะได้รู้สึกดี

อาหารแห้งค่ะ

ไปใช้ร้านเนื้อย่างหมูกระทะชาบูค่ะ ดีต่อใจ

ไข่ไก่ครับ

ไก่ย่างห้าดาว กับอาหารในครัวไซ่ง่อนครับ

เคยใช้กินร้านบุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลีครับ ราคาบุฟเฟ่ต์ต่อหัว 200 กว่าบาท ใช้คนละครึ่งเหลือ 100 กว่าบาท กินอิ่มแบบคุ้มค่ามากครับ