ซุปมิโซะ (Homemade Miso Soup)

Home » ซุปมิโซะ (Homemade Miso Soup)
ซุปมิโซะ (Homemade Miso Soup)

มันง่ายมากที่จะทำซุปมิโซะญี่ปุ่นของแท้ทานเองที่บ้าน มันเปรียบเสมือนอาหารอายุวัฒนะของชาวญี่ปุ่น ซุปมิโซะไม่เพียงแค่อร่อยเท่านั้น มันยังดีต่อสุขภาพหลายๆด้านอีกด้วย

ส่วนผสม

สำหรับ 2 เสิร์ฟ
  • สำหรับน้ำซุปดาชิ
  • น้ำ4 ถ้วย (960 มิลลิลิตร)
  • สาหร่ายคมบุ ขนาด 4 × 4 นิ้ว หรือ 10 × 10 เซนติเมตร⅓ ออนซ์ (10 กรัม )
  • ปลาโอแห้ง (Katsuobushi) (ถ้าต้องการน้ำซุปดาชิรสจัดให้ใช้ 3 ถ้วยแทน)⅓ ออนซ์ (10 กรัม หรือ 1 ถ้วย)
  • สำหรับซุปมิโซะ (2 – 3 ถ้วย)
  • น้ำซุปดาชิ2 ถ้วย (480 มิลลิลิตร)
  • วัตถุดิบตามความชอบ ยกตัวอย่างด้านล่างนี้
  • วัตถุดิบที่ต้องใส่ก่อนน้ำซุปดาชิเดือด เช่น แครอท, หอย หรือ หอมหัวใหญ่
  • วัตถุดิบที่ต้องใส่หลังน้ำซุปดาชิเดือด เช่น เห็ดต่างๆ, เต้าหู้ (เต้าหู้สดแบบนิ่ม หรือ เต้าหู้นิ่ม) หรือ สาหร่ายวากาเมะ
  • มิโซะ2 – 3 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมสับละเอียด1 ต้น

วิธีทำ

เวลาเตรียมส่วนผสม: 10 นาที
เวลาปรุงอาหาร: 15 นาที
    1
  1. การทำน้ำซุปดาชิ :
    ทำความสะอาดสาหร่ายคมบุด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดสิ่งสกปรกออก ห้ามล้างน้ำ และ เอาสารสีขาวออก – มันคือรสชาติอูมามิ แช่สาหร่ายคมบุในน้ำเป็นเวลา 30 นาที หรือ ข้ามคืน (แนะนำ)

  2. 2
  3. หลังจากนั้น 30 นาที สาหร่ายคมบุจะคืนน้ำ ของเหลวที่ได้นี้จะเรียกว่า น้ำซุปคมบุดาชิ (Kombu Dashi) สกัดเย็น

  4. 3
  5. เทน้ำซุปคมบุดาชิลงในหม้อ และ ต้มให้เดือดด้วยไฟอ่อน เพื่อสกัดรสชาติอูมามิจากสาหร่ายคมบุให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เอาสาหร่ายคมบุออกก่อนที่จะเดือด (สาหร่ายคมบุที่เหลือสามารถนำไปทำผงโรยข้าว Furikake ได้) ถ้าคุณปล่อยสาหร่ายคมบุไว้ในน้ำซุป มันจะเป็นเมือก และ ทิ้งรสชาติขมเอาไว้ ดังนั้นเราจะเอาออกเสมอ

  6. 4
  7. ใส่ปลาโอแห้ง และ ปล่อยให้มันเคี่ยวเอง 30 – 60 วินาที ปิดไฟ และ ปล่อยปลาโอจมอยู่ใต้น้ำซุปเป็นเวลา 10 นาที

  8. 5
  9. กรองผ่านกระชอนตาถี่ และ น้ำสต๊อกก็พร้อมใช้งานแล้ว นี่เรียกว่า อะวาเสะดาชิ (Awase Dashi)
  10. คุณสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 3 – 5 วันและ เก็บไว้ในตู้แช่แข็งได้นานถึง 2 สัปดาห์

    6
  11. ตอนนี้คุณมีน้ำซุปดาชิคร่าวๆ 4 ถ้วย ตามสูตรซุปมิโซะต้องใช้ดาชิ 2 ถ้วยต่อ 2 เสิร์ฟ เก็บครึ่งหนึ่งไว้ใช้ครั้งต่อไป หรือ ปรับสูตรเป็นสองเท่าเพื่อจะได้ใช้ดาชิให้หมด ใส่น้ำซุปดาชิลงในหม้อ

  12. 7
  13. คุณรีบหรอ? ใช้ถุงดาชิ หรือ ผงดาชิ ในการทำน้ำซุปดาชิสิ

  14. 8
  15. การทำซุปมิโซะ :
    ขั้นแรก – ใส่วัตถุดิบที่แบบหนาแน่นก่อนน้ำซุปดาชิจะเดือด
    ถ้าซุปมิโซะของคุณไม่มีวัตถุดิบแข็ง หรือ หอย ให้ไปขั้นตอนต่อไป ใส่น้ำซุปดาชิ และ วัตถุดิบแข็งๆ เช่น ผักที่เป็นราก ลงในหม้อ เมื่อเดือดหรี่ไฟลง และ เคี่ยวจนกระทั่งอ่อนนุ่ม ถ้าคุณทำซุปหอยมิโซะ ให้ใส่หอยก่อนต้มน้ำซุปคมบุดาชิ เมื่อฝาหอยเปิดออก ให้ปิดไฟ (อย่าให้หอยสุกมากเกินไป)

  16. 9
  17. ขั้นที่สอง – ใส่วัตถุดิบที่สุกง่ายหลังจากน้ำซุปดาชิเดือด
    ถ้าซุปมิโซะของคุณไม่มีวัตถุดิบพวกนี้ ต้มน้ำซุปดาชิให้เดือด แล้วไปขั้นตอนต่อไป หลังจากที่น้ำซุปดาชิเดือด ใส่ผักนิ่มๆ เช่น ผักใบเขียว, เห็ด หรือ เต้าหู้ญี่ปุ่นทอด (Abura Age) เพราะว่าพวกมันใช้เวลาต้มน้อย พอมาถึงจุดนี้ เคี่ยวซุป และ ทำให้แน่ใจว่ามันยังคงอุ่น (อย่าให้เดือดมาก)

  18. 10
  19. ขั้นที่สาม – ใส่มิโซะ
    ใส่มิโซะปริมาณเล็กน้อยต่อครั้ง (คุณสามารถเริ่มต้นด้วยมิโซะ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำซุปดาชิ 2 ถ้วย) วางมิโซะลงในกระบวย และ ค่อยๆคนให้มิโซะละลายจนหมด คุณสามารถซื้อ Miso Muddler หรือ กระชอนตาถี่ ซึ่งจะช่วยให้ละลายมิโซะเร็วขึ้น ถ้าคุณเผลอใส่มิโซะมากเกินไป ให้เจือจางซุปมิโซะด้วยน้ำซุปดาชิ หรือ น้ำ ห้ามต้มซุปมิโซะจนเดือดมาก เพราะจะสูญเสียคุณค่าสารอาหาร, รสชาติ และ กลิ่นหอม

  20. 11
  21. ขั้นที่สี่ – ใส่เต้าหู้
    ใส่เต้าหู้หลังจากที่มิโซะละลายหมดแล้ว เพราะว่าคุณอาจจะทำเต้าหู้เละเมื่อคนมิโซะ ถ้าคุณใส่เต้าหู้เย็นที่พึ่งเอาออกมาจากตู้เย็น; ซุปมิโซะจะเย็นลง อุ่นซุปมิโซะจนร้อน แต่ห้ามต้มจนเดือดมาก

  22. 12
  23. ขั้นที่ห้า – ใส่สาหร่ายวากาเมะ และ ต้นหอม
    ใส่สาหร่ายวากาเมะที่ผ่านกาารคืนน้ำแล้ว ผมแนะนำให้ใช้สาหร่ายวากาเมะแห้งคืนน้ำโดยแช่ในน้ำเพื่อกำจัดความเค็มออก แทนการคืนน้ำโดยใช้ซุปมิโซะ ใส่วัตถุดิบที่ไม่ต้องต้มลงไป เช่น ต้นหอมสับ, ผักชีญี่ปุ่น (Mitsuba), ส้มยูซุ และ ผักโขมลวก ก่อนเสิร์ฟเพื่อให้มีกลิ่นหอม และ มีสีสัน

  24. 13
  25. ขั้นที่หก – การเสิร์ฟ
    เสิร์ฟทันที โดยจัดวางตามรูปนี้
  26. วิธีทำ ซุปมิโซะ (Homemade Miso Soup)

    14
  27. การเก็บรักษา
    โดยปกติ ทางที่ดีที่สุดคือกินให้หมด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปกลิ่นหอมและรสชาติจะลดลง ปล่อยให้ซุปมิโซะเย็นที่อุณหภูมิห้อง (มากสุด 4 ชั่วโมง – มิฉะนั้นซุปจะบูด) และ เก็บไว้ในตู้เย็น สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 2 วัน ถ้าคุณต้องทำเป็นปริมาณมาก ทางที่ดีที่สุดคือเก็บน้ำซุปไว้ก่อนใส่มิโซะ เวลาจะกินก็ค่อยใส่มิโซะ คุณสามารถแช่แข็งซุปมิโซะได้นานถึง 2 สัปดาห์ ถ้าซุปมิโซะของคุณมีมันฝรั่ง หรือ เต้าหู้ เอาออกให้หมดก่อนที่จะแช่แข็ง

  28. 15
  29. วิธีอุ่นซุปมิโซะ
    ต้มซุปมิโซะให้มีอุณหภูมิอุ่นๆ แต่ระวังอย่าให้เดือดมาก มิโซะจะสูญเสียคุณค่าสารอาหารที่อุณหภูมิสูง

photo
Rainy Kung
แหล่งที่มา www.wongnai.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง

"เคล็ดไม่ลับคู่ครัว"

วิธีแก้กลิ่นคาวในน้ำมันทอดปลา หลังทอดปลาเสร็จ ให้เอามันฝรั้งฝานบางๆ หรือหอมใหญ่ฝาน หรือหอมแดงบุบ ก็ได้ค่ะ แล้วแต่จะมี ใส่ลงไปทอดสักครู่ จะช่วยลดกลิ่นคาวปลาในน้ำมันลงได้ค่ะ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดนะคะ ถ้าเรารู้ว่า ปลาชนิดนั้นๆ ทอดแล้วจะมีกลิ่นคาว หรือน้ำมันจะเสีย ก็ให้ใช้น้ำมันที่เคยผ่าน การใช้มาแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ใช้ครั้งแรก ทำกุ้งชุบแป้งทอด น้ำมันที่เหลือยังใช้ได้อยู่ เอามาใช้ทอดปลา พอใช้ทอดปลาเสร็จ ก็จะได้ทิ้งไป ไม่เสียดายมากค่ะ (อย่าเอามาทอดซ้ำๆกันมากเกินไป จนน้ำมันดำ ไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ)

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ